วงเวียนแห่งรัก
8.9
เขียนโดย toey
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 18.51 น.
76 chapter
3776 วิจารณ์
172.68K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 21.02 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
76) The end
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ้านแก้ว
“อ้าวแก้ว กลับมาบ้านทำไมไม่โทรมาบอกแม่? แล้วนี่ขับรถมาเองหรอลูก? โทโมะล่ะไปไหนทำไมไม่มาด้วยกัน? อ้าวแก้ว! เดี๋ยวสิลูก”
“ฮึก..ฮืออ” ใช่แล้ว ฉันขับรถกลับมาที่บ้าน ฉันเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าใบเล็กหนึ่งใบ พอเหยียบพื้นบ้านได้เท่านั้น ฉันก็รีบเดินขึ้นห้องทันทีโดยไม่คิดจะหันไปตอบคำถามของแม่ ฉันรู้ว่าท่านเป็นห่วง แต่ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมจะพูดอะไรจริงๆ ยิ่งพอได้ยินชื่อของเขาฉันยิ่งไม่อย่างฟัง
เหอะ! ฉันขับรถกลับมาถึงที่บ้านแล้ว โทรศัพท์มือถือฉันยังไม่ดังเลยสักแอะ เขาคงจะไม่สนใจฉันแล้วสินะว่าฉันจะขับรถไปไหน เขาคงไม่อยากจะสนใจฉัน เขาคง..หมดรักฉันจริงแล้วสินะ
กริ๊งงงง กริ๊งง~~
(“ฮัลโหล คุณแม่ใช่มั้ยครับ แก้วอยู่ที่นั้นรึเปล่าครับ?”) เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นพร้อมกับผู้เป็นแม่ของแก้วยกหูโทรศัพท์ขึ้น
“โทโมะหรอลูก? แก้วพึ่งมาถึงบ้านเอง นี่ทะเลาะอะไรกันรึเปล่าลูก? แม่ถามอะไรแก้วก็ไม่ตอบเลย”
(“พอดีว่าทะเลาะกันนิดหน่อยครับ ยังไงรบกวนคุณแม่ช่วยดูแลแก้วหน่อยนะครับ ขอเวลาผมคิดวิธีง้อแก้วก่อนนะครับ”)
“ได้จ๊ะๆ แม่จะดูแลแก้วเป็นอย่างดี ไม่ต้องห่วงนะลูก แล้วก็รีบๆมาง้อล่ะ อย่าทิ้งลูกสาวแม่เชียวนะ”
(“ครับผม รบกวนหน่อยนะครับ”) แล้วโทโมะก็วางโทรศัพท์ไป
----------------------------------------------------------------------------------
3 เดือนผ่านไป
เวลาผ่านไปเป็นเดือน ฉันก็ยังไม่เคยได้ยินเสียงของเขา โทโมะไม่เคยโทรมาหาฉันเลยตลอดระยะเวลาที่ฉันออกจากบ้านไร่ เขาไม่ห่วงฉันเลยสินะ ฉันคิดฉันก็ยิ่งเสียใจ ทั้งๆที่ฉันคิดถึงเขาอยู่ตลอด แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันจะใส่ใจลูกออกฉันอย่างเดียวเท่านั้น ตอนนี้อายุครรภ์ของฉันใกล้ครบกำหนดคลอดแล้วอีกเพียงแค่1อาทิตย์เท่านั้น หมอบอกว่าฉันสามารถที่จะเข้าไปนอนที่โรงพยาบาลได้ถ้ากลัวจะเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือไม่อย่างนั้นค่อยไปโรงพยาบาลตอนที่รู้สึกว่าจะคลอด
กริ๊งง~ กริ้ง~
เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้น ฉันหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็พบว่าเป็นเบอร์ของ...องอาจ
(“นายหญิงใช่มั้ยครับ ตอนนี้นายหัว..”)
“ถ้าจะพูดถึงเขาฉันจะวางสาย!” ฉันลดโทรศัพท์ลงแล้วเตรียมจะกดวาง
(“อย่าวางนะครับนายหญิง! เรื่องสำคัญจริงๆนะครับ นายหัวเขาไม่ค่อยสบาย เอ่อ..คือ..ผมจะพูดยังไงดีล่ะ”) ฉันได้ยินเสียงองอาจตะโกนขึ้นมาเพื่อไม่ให้ฉันวางสาย พอฉันได้ยิ่งว่าโทโมะไม่สบายฉันก็รีบยกโทรศัพท์แนบหูทันที
“เขาเป็นอะไรองอาจ!” ฉันถามอย่างร้อนใจ
(“แผลที่ถูกยิงของนายหัวติดเชื่อนะครับ”)
“ว่าไงนะ! นี่มันก็นานแล้วนะแผลยังไม่หายอีกหรอ? แล้วทำไมถึงติดเชื่อ ติดเชื่อได้ยังไง!?”
(“หลังจากที่นายหญิงออกจากบ้านไป นายหัวก็ไม่ค่อยดูแลแผล แผลโดนน้ำ แถมยังไม่ยอมทำแผลอีก ทำให้แผลเน่าแล้วติดเชื้อในกระแสเลือดครับ”)
“แล้วเขาเป็นอะไรมากรึเปล่า?” ฉันถามอย่างร้อนใจ ขอให้องอาจบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรทีเถอะ
(“ตอนนี้นายหัวอยู่ที่โรงพยาบาลครับ ส่วนอาการ เอ่อ..ผมอยากให้นายหญิงมาดูเองจะดีกว่านะครับ”)
“ทำไม ฮึก..ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฝากดูแลเขาด้วยนะ ฉันจะรีบไป” พอวางสายจากองอาจเสร็จ ฉันก็รีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งลงไปที่โรงรถทันที
“แก้วจะขับรถไปไหนลูก”
“โทโมะไม่สบายค่ะแม่ หนูต้องไปดูเขา” ฉันพูดแล้วรีบเข้าไปนั่งที่คนขับทันที
“หยุดเลยๆ เราท้องอยู่ แถมใกล้จะคลอดแล้วด้วย แม่จะให้ขับรถได้ยังไงฮะ ถ้าเกิดว่าไปประสบอุบัติเหตุจะทำยังไงฮะ? ท้องจะใหญ่ขับสะดวกรึยังไงกัน?” แม่ฉันพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนทำให้ฉันคิดได้ ฉันถึงกับเงียบไปสักพัก
“แต่แม่ค่ะ หนูต้องไปจริงๆ หนูต้องไปดูเขา”
“ให้คนขับรถขับไปส่ง” แม่พูดเสียงอย่างเด็ดขาดแล้วเรียกคนขับรถให้พาฉันไป
----------------------------------------------------------------------------------
โรงพยาบาล
“องอาจ นายหัวล่ะ” ฉันมาถึงที่โรงพยาบาล องอาจมายืนรอรับฉันที่หน้าโรงพยาบาล
“ทางนี้ครับ” องอาจว่า แล้วเดินนำฉันไปยังห้องพักที่โทโมะอยู่
ห้องพักคนไข้
“คุณ...” ภาพที่ฉันเห็นหลังจากที่เปิดประตูเข้าไป เป็นภาพที่เขานอนแน่นิ่ง สายระโยงรยางค์เต็มตัวเขาไปหมด ที่จมูกมีเครื่องช่วยหายใจครอบอยู่
“ฮึก..ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ” ฉันวิ่งเข้าไปกอดเขาไว้ ภาพวันที่เขาถูกยิงมันย้อนกลับเข้ามา ฉันรู้สึกเหมือนว่าจะต้องเสียเขาไปอีกครั้งทั้งๆที่เขารอดมาแล้ว
“....” ร่างของเข้าแน่นิ่งมีเพื่อลมหายใยเข้าออกที่สม่ำเสมอ
“ฟื้นสิ ตื่นขึ้นมาคุยกับฉันนะ ฮือ..” ฉันเขย่าตัวเขา กอดเข่า และร้องไห้ซบหน้าอกเขา ทำไมกันนะ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงชอบทำให้ฉันร้องไห้ ทำไมฉันต้องร้องไห้เพราะเขาไม่รู้จักจบจักสิ้น
“....”
“ฉันขอโทษ ฮึก..ต่อไปฉันจะฟังคุณ ฉันจะไม่ดื้ออีกแล้ว ฮืออ..ฉันขอโทษ ฟื้นเถอะฮึก..นะ ฉันไม่โกรธคุณแล้ว ฉันยกโทษให้คุณก็ได้ ฮืออ ฟื้นสิ!! ฮือ..” ฉันพ่นคำพูดยาวเหยียดออกไป หวังว่าเขาจะได้ยินแล้วฟื้นขึ้นมา ถ้าฉันยกโทษให้แล้วเขาฟื้น ฉันก็จะทำ
“พูดแล้วนะ”
“ฟื้นสิ ฟะ..นี่คุณ!!” ฉันได้ยินเสียงเขาก่อนที่ฉันจะพูดจบ ฉันเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะเห็นเค้ากำลังถอดเครื่องช่วยหายใจแล้วทำหน้ายิ้ม
“เธอยกโทษให้ฉันแล้วนะ ขอบคุณครับ” เขาพูดแล้วลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับดึงสายตรงมือออก ในขณะที่ฉันค่อยๆก้าวถอยหลังแล้วทบทวนเรื่องตรงหน้าว่าคืออะไร
“คุณ..หลอกฉันอีกแล้วสินะ” หลังจากที่คิดทบทวนทำให้ฉันรู้ว่า..ฉันโง่อีกแล้ว ฉันโดนเขาหลอกอีกแล้ว ฉันหันหลังเตรียมจะเดินออกมาห้องไป แต่มือเขากลับมารั้งฉันไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิ ขอโทษนะ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอนะ แต่ถ้าไม่ใช่วิธีนี้เธอจะยอมออกมาเจอฉันหรอ แล้วที่หลอกว่าฉันเดินไม่ได้ ฉันแค่..เอ่ออ”
“แค่อะไร! พูดมาสิ! ทำแบบนี้กับฉันอีกแล้วนะ! ฉันโกรธคุณแล้วนะ ปล่อย!!” ฉันพูดพร้อมสะบัดมือเขา แล้วพยายามวิ่งไปที่ประตูแต่ไม่สำเร็จ เขาจับมือฉันแน่นมาก
“ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอรักฉะ..เฮ้ยแก้วเป็นอะไรอ่ะ?” โทโมะพูดแต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นคนที่เขารักกลุ้มท้องแล้วค่อยๆลงไปนั่งกลับพื้น
“ปล่อยมือฉันเลยนะ! โอ๊ยยฮือ..” ฉันพยายามปัดมือของโทโมะออกแต่ก็ต้องหยุดเพราะตัวเองเกิดปวดท้องซะก่อน
“ปวดท้องหรอ? จะคลอดแล้วรึเปล่า?” โทโมะค่อยๆพยุงตัวแก้วให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง
“จะคลอด..ได้ยังไง อีกตั้ง1อาทิตย์นะ โอ๊ยย!”
“องอาจ ตามหมอที!!”
----------------------------------------------------------------------------------
Tomo’Part
ตอนนี้คนที่อยู่ในชุดคนไข้แทนผมก็คือแก้วแหละครับ ถึงแม้ว่าจะเหลือเวลาคลอดอีก1อาทิตย์ แต่หมอบอกว่าร่างกายของแก้วพร้อมจะคลอดแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อเด็กในท้อง แค่คลอดเร็วหน่อยนิดนึง แต่ตอนนี้รอปากมดลูกเปิดอีกนิดหน่อยก็เตรียมคลอดได้แล้ว
“ปวดท้องจัง โอ๊ยย” แก้วบ่นแล้วนอนบิดตัวไปมาบนเตียงรอคลอด
“อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็คลอดแล้ว”
“เพราะคุณเลย! ทำฉันตกใจ ลูกจะคลอดเลยเห็นมั้ย!” ดูแก้วพูดสิ เขาหาว่าเพราะผมแกล้งป่วย ลูกเลยจะคลอด แต่ก็ดีแล้วแหละ เห็นแก้วร่าเริงขึ้นก็ดีแล้ว คงจะดีใจที่อีกแปปเดียวก็จะเจอกับลูกแล้ว
“ฮ่าๆ พักเรื่องที่ทะเลาะกันก่อนได้มั้ยล่ะครับ หืมม รอคลอดเจ้าตัวเล็กก่อนแล้วค่อยทะเลาะกันต่อนะครับ” ผมลูบหัวแก้วเบาๆ
“ฉันไม่ยกโทษให้คุยง่ายๆแน่ คอยดู! อืออ..ปวดท้องงง!!”
เวลาผ่านไปไม่นานตอนนี้แก้วก็อยู่ในห้องคลอดแล้ว ที่ผมไม่เข้าไปด้วยไม่ใช่เพราะผมทิ้งเธอหรอกนะ แต่ผมไม่อยากเห็นแก้วเจ็บ
“โอ๊ยยยย! ฮึก..” เสียงร้องไห้ของแก้วดังลั่นห้องคลอด พร้อมกับน้ำตาของผมที่ไหลออกมา
“เชิญคุณพ่อเข้ามาอุ้มลูกได้ค่ะ” ผมเดินเข้าไปในห้องคลอด ก็เห็นแก้วนอนอยู่พร้อมกับลูกชายของผม เราได้ลูกชายครับ ตัวใหญ่และแข็งแรงมากด้วย เหมาะสำหรับเป็นนายหัวของไร่คนต่อไปเลยทีเดียว
ผมเดินเข้าไปหาแก้วที่กำลังอุ้มลูกอยู่ ก่อนจะ
“ขอบคุณนะ จุ๊บ~” ผมกระซิบข้างๆหูแก้วแล้วเลื่อนหน้ามาจุ๊บที่ริมฝีปากของแก้วเบาๆ
“ฉันรักคุณนะ รักลูกด้วย” แก้วพูดพร้อมยิ้ม ช่างเป็นภาพที่น่าจดจำจริงๆ
----------------------------------------------------------------------------------
ห้องพักฟื้น
ตอนนี้แก้วหลับไปแล้วหลังจากที่ให้นมลูกเสร็จ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆแก้วแล้วนั่งลงบนเตียง
“ที่ฉันหลอกเธอว่าฉันเดินไม่ได้ เพราะฉันสงสัยว่าเธอรักฉันขนาดไหน แต่ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องสงสัยอะไรแล้วล่ะ ฉันรู้ว่าเธอรักฉันมาก จุ๊บ~” ผมพูดแล้วจุ๊บเบาๆที่หน้าผากของแก้ว
“แล้วฉันก็รักเธอมากไม่แพ้กัน” ผมพูดแล้วจุ๊บลงบนริมฝีปากของแก้ว
หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมไม่บอกสาเหตุที่หลอกแก้วตอนที่แก้วตื่น ตอนนี้เรื่องที่ทะเลาะกันมันไม่สำคัญแล้วล่ะ ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุด คือ ความรักของเราสามคน พ่อ แม่ ลูก
END
----------------------------------------------------------------------------------
18 พ.ค. 59
TOEY
“อ้าวแก้ว กลับมาบ้านทำไมไม่โทรมาบอกแม่? แล้วนี่ขับรถมาเองหรอลูก? โทโมะล่ะไปไหนทำไมไม่มาด้วยกัน? อ้าวแก้ว! เดี๋ยวสิลูก”
“ฮึก..ฮืออ” ใช่แล้ว ฉันขับรถกลับมาที่บ้าน ฉันเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าใบเล็กหนึ่งใบ พอเหยียบพื้นบ้านได้เท่านั้น ฉันก็รีบเดินขึ้นห้องทันทีโดยไม่คิดจะหันไปตอบคำถามของแม่ ฉันรู้ว่าท่านเป็นห่วง แต่ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมจะพูดอะไรจริงๆ ยิ่งพอได้ยินชื่อของเขาฉันยิ่งไม่อย่างฟัง
เหอะ! ฉันขับรถกลับมาถึงที่บ้านแล้ว โทรศัพท์มือถือฉันยังไม่ดังเลยสักแอะ เขาคงจะไม่สนใจฉันแล้วสินะว่าฉันจะขับรถไปไหน เขาคงไม่อยากจะสนใจฉัน เขาคง..หมดรักฉันจริงแล้วสินะ
กริ๊งงงง กริ๊งง~~
(“ฮัลโหล คุณแม่ใช่มั้ยครับ แก้วอยู่ที่นั้นรึเปล่าครับ?”) เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นพร้อมกับผู้เป็นแม่ของแก้วยกหูโทรศัพท์ขึ้น
“โทโมะหรอลูก? แก้วพึ่งมาถึงบ้านเอง นี่ทะเลาะอะไรกันรึเปล่าลูก? แม่ถามอะไรแก้วก็ไม่ตอบเลย”
(“พอดีว่าทะเลาะกันนิดหน่อยครับ ยังไงรบกวนคุณแม่ช่วยดูแลแก้วหน่อยนะครับ ขอเวลาผมคิดวิธีง้อแก้วก่อนนะครับ”)
“ได้จ๊ะๆ แม่จะดูแลแก้วเป็นอย่างดี ไม่ต้องห่วงนะลูก แล้วก็รีบๆมาง้อล่ะ อย่าทิ้งลูกสาวแม่เชียวนะ”
(“ครับผม รบกวนหน่อยนะครับ”) แล้วโทโมะก็วางโทรศัพท์ไป
----------------------------------------------------------------------------------
3 เดือนผ่านไป
เวลาผ่านไปเป็นเดือน ฉันก็ยังไม่เคยได้ยินเสียงของเขา โทโมะไม่เคยโทรมาหาฉันเลยตลอดระยะเวลาที่ฉันออกจากบ้านไร่ เขาไม่ห่วงฉันเลยสินะ ฉันคิดฉันก็ยิ่งเสียใจ ทั้งๆที่ฉันคิดถึงเขาอยู่ตลอด แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันจะใส่ใจลูกออกฉันอย่างเดียวเท่านั้น ตอนนี้อายุครรภ์ของฉันใกล้ครบกำหนดคลอดแล้วอีกเพียงแค่1อาทิตย์เท่านั้น หมอบอกว่าฉันสามารถที่จะเข้าไปนอนที่โรงพยาบาลได้ถ้ากลัวจะเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือไม่อย่างนั้นค่อยไปโรงพยาบาลตอนที่รู้สึกว่าจะคลอด
กริ๊งง~ กริ้ง~
เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้น ฉันหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็พบว่าเป็นเบอร์ของ...องอาจ
(“นายหญิงใช่มั้ยครับ ตอนนี้นายหัว..”)
“ถ้าจะพูดถึงเขาฉันจะวางสาย!” ฉันลดโทรศัพท์ลงแล้วเตรียมจะกดวาง
(“อย่าวางนะครับนายหญิง! เรื่องสำคัญจริงๆนะครับ นายหัวเขาไม่ค่อยสบาย เอ่อ..คือ..ผมจะพูดยังไงดีล่ะ”) ฉันได้ยินเสียงองอาจตะโกนขึ้นมาเพื่อไม่ให้ฉันวางสาย พอฉันได้ยิ่งว่าโทโมะไม่สบายฉันก็รีบยกโทรศัพท์แนบหูทันที
“เขาเป็นอะไรองอาจ!” ฉันถามอย่างร้อนใจ
(“แผลที่ถูกยิงของนายหัวติดเชื่อนะครับ”)
“ว่าไงนะ! นี่มันก็นานแล้วนะแผลยังไม่หายอีกหรอ? แล้วทำไมถึงติดเชื่อ ติดเชื่อได้ยังไง!?”
(“หลังจากที่นายหญิงออกจากบ้านไป นายหัวก็ไม่ค่อยดูแลแผล แผลโดนน้ำ แถมยังไม่ยอมทำแผลอีก ทำให้แผลเน่าแล้วติดเชื้อในกระแสเลือดครับ”)
“แล้วเขาเป็นอะไรมากรึเปล่า?” ฉันถามอย่างร้อนใจ ขอให้องอาจบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรทีเถอะ
(“ตอนนี้นายหัวอยู่ที่โรงพยาบาลครับ ส่วนอาการ เอ่อ..ผมอยากให้นายหญิงมาดูเองจะดีกว่านะครับ”)
“ทำไม ฮึก..ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฝากดูแลเขาด้วยนะ ฉันจะรีบไป” พอวางสายจากองอาจเสร็จ ฉันก็รีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งลงไปที่โรงรถทันที
“แก้วจะขับรถไปไหนลูก”
“โทโมะไม่สบายค่ะแม่ หนูต้องไปดูเขา” ฉันพูดแล้วรีบเข้าไปนั่งที่คนขับทันที
“หยุดเลยๆ เราท้องอยู่ แถมใกล้จะคลอดแล้วด้วย แม่จะให้ขับรถได้ยังไงฮะ ถ้าเกิดว่าไปประสบอุบัติเหตุจะทำยังไงฮะ? ท้องจะใหญ่ขับสะดวกรึยังไงกัน?” แม่ฉันพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนทำให้ฉันคิดได้ ฉันถึงกับเงียบไปสักพัก
“แต่แม่ค่ะ หนูต้องไปจริงๆ หนูต้องไปดูเขา”
“ให้คนขับรถขับไปส่ง” แม่พูดเสียงอย่างเด็ดขาดแล้วเรียกคนขับรถให้พาฉันไป
----------------------------------------------------------------------------------
โรงพยาบาล
“องอาจ นายหัวล่ะ” ฉันมาถึงที่โรงพยาบาล องอาจมายืนรอรับฉันที่หน้าโรงพยาบาล
“ทางนี้ครับ” องอาจว่า แล้วเดินนำฉันไปยังห้องพักที่โทโมะอยู่
ห้องพักคนไข้
“คุณ...” ภาพที่ฉันเห็นหลังจากที่เปิดประตูเข้าไป เป็นภาพที่เขานอนแน่นิ่ง สายระโยงรยางค์เต็มตัวเขาไปหมด ที่จมูกมีเครื่องช่วยหายใจครอบอยู่
“ฮึก..ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ” ฉันวิ่งเข้าไปกอดเขาไว้ ภาพวันที่เขาถูกยิงมันย้อนกลับเข้ามา ฉันรู้สึกเหมือนว่าจะต้องเสียเขาไปอีกครั้งทั้งๆที่เขารอดมาแล้ว
“....” ร่างของเข้าแน่นิ่งมีเพื่อลมหายใยเข้าออกที่สม่ำเสมอ
“ฟื้นสิ ตื่นขึ้นมาคุยกับฉันนะ ฮือ..” ฉันเขย่าตัวเขา กอดเข่า และร้องไห้ซบหน้าอกเขา ทำไมกันนะ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงชอบทำให้ฉันร้องไห้ ทำไมฉันต้องร้องไห้เพราะเขาไม่รู้จักจบจักสิ้น
“....”
“ฉันขอโทษ ฮึก..ต่อไปฉันจะฟังคุณ ฉันจะไม่ดื้ออีกแล้ว ฮืออ..ฉันขอโทษ ฟื้นเถอะฮึก..นะ ฉันไม่โกรธคุณแล้ว ฉันยกโทษให้คุณก็ได้ ฮืออ ฟื้นสิ!! ฮือ..” ฉันพ่นคำพูดยาวเหยียดออกไป หวังว่าเขาจะได้ยินแล้วฟื้นขึ้นมา ถ้าฉันยกโทษให้แล้วเขาฟื้น ฉันก็จะทำ
“พูดแล้วนะ”
“ฟื้นสิ ฟะ..นี่คุณ!!” ฉันได้ยินเสียงเขาก่อนที่ฉันจะพูดจบ ฉันเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะเห็นเค้ากำลังถอดเครื่องช่วยหายใจแล้วทำหน้ายิ้ม
“เธอยกโทษให้ฉันแล้วนะ ขอบคุณครับ” เขาพูดแล้วลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับดึงสายตรงมือออก ในขณะที่ฉันค่อยๆก้าวถอยหลังแล้วทบทวนเรื่องตรงหน้าว่าคืออะไร
“คุณ..หลอกฉันอีกแล้วสินะ” หลังจากที่คิดทบทวนทำให้ฉันรู้ว่า..ฉันโง่อีกแล้ว ฉันโดนเขาหลอกอีกแล้ว ฉันหันหลังเตรียมจะเดินออกมาห้องไป แต่มือเขากลับมารั้งฉันไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิ ขอโทษนะ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอนะ แต่ถ้าไม่ใช่วิธีนี้เธอจะยอมออกมาเจอฉันหรอ แล้วที่หลอกว่าฉันเดินไม่ได้ ฉันแค่..เอ่ออ”
“แค่อะไร! พูดมาสิ! ทำแบบนี้กับฉันอีกแล้วนะ! ฉันโกรธคุณแล้วนะ ปล่อย!!” ฉันพูดพร้อมสะบัดมือเขา แล้วพยายามวิ่งไปที่ประตูแต่ไม่สำเร็จ เขาจับมือฉันแน่นมาก
“ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอรักฉะ..เฮ้ยแก้วเป็นอะไรอ่ะ?” โทโมะพูดแต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นคนที่เขารักกลุ้มท้องแล้วค่อยๆลงไปนั่งกลับพื้น
“ปล่อยมือฉันเลยนะ! โอ๊ยยฮือ..” ฉันพยายามปัดมือของโทโมะออกแต่ก็ต้องหยุดเพราะตัวเองเกิดปวดท้องซะก่อน
“ปวดท้องหรอ? จะคลอดแล้วรึเปล่า?” โทโมะค่อยๆพยุงตัวแก้วให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง
“จะคลอด..ได้ยังไง อีกตั้ง1อาทิตย์นะ โอ๊ยย!”
“องอาจ ตามหมอที!!”
----------------------------------------------------------------------------------
Tomo’Part
ตอนนี้คนที่อยู่ในชุดคนไข้แทนผมก็คือแก้วแหละครับ ถึงแม้ว่าจะเหลือเวลาคลอดอีก1อาทิตย์ แต่หมอบอกว่าร่างกายของแก้วพร้อมจะคลอดแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อเด็กในท้อง แค่คลอดเร็วหน่อยนิดนึง แต่ตอนนี้รอปากมดลูกเปิดอีกนิดหน่อยก็เตรียมคลอดได้แล้ว
“ปวดท้องจัง โอ๊ยย” แก้วบ่นแล้วนอนบิดตัวไปมาบนเตียงรอคลอด
“อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็คลอดแล้ว”
“เพราะคุณเลย! ทำฉันตกใจ ลูกจะคลอดเลยเห็นมั้ย!” ดูแก้วพูดสิ เขาหาว่าเพราะผมแกล้งป่วย ลูกเลยจะคลอด แต่ก็ดีแล้วแหละ เห็นแก้วร่าเริงขึ้นก็ดีแล้ว คงจะดีใจที่อีกแปปเดียวก็จะเจอกับลูกแล้ว
“ฮ่าๆ พักเรื่องที่ทะเลาะกันก่อนได้มั้ยล่ะครับ หืมม รอคลอดเจ้าตัวเล็กก่อนแล้วค่อยทะเลาะกันต่อนะครับ” ผมลูบหัวแก้วเบาๆ
“ฉันไม่ยกโทษให้คุยง่ายๆแน่ คอยดู! อืออ..ปวดท้องงง!!”
เวลาผ่านไปไม่นานตอนนี้แก้วก็อยู่ในห้องคลอดแล้ว ที่ผมไม่เข้าไปด้วยไม่ใช่เพราะผมทิ้งเธอหรอกนะ แต่ผมไม่อยากเห็นแก้วเจ็บ
“โอ๊ยยยย! ฮึก..” เสียงร้องไห้ของแก้วดังลั่นห้องคลอด พร้อมกับน้ำตาของผมที่ไหลออกมา
“เชิญคุณพ่อเข้ามาอุ้มลูกได้ค่ะ” ผมเดินเข้าไปในห้องคลอด ก็เห็นแก้วนอนอยู่พร้อมกับลูกชายของผม เราได้ลูกชายครับ ตัวใหญ่และแข็งแรงมากด้วย เหมาะสำหรับเป็นนายหัวของไร่คนต่อไปเลยทีเดียว
ผมเดินเข้าไปหาแก้วที่กำลังอุ้มลูกอยู่ ก่อนจะ
“ขอบคุณนะ จุ๊บ~” ผมกระซิบข้างๆหูแก้วแล้วเลื่อนหน้ามาจุ๊บที่ริมฝีปากของแก้วเบาๆ
“ฉันรักคุณนะ รักลูกด้วย” แก้วพูดพร้อมยิ้ม ช่างเป็นภาพที่น่าจดจำจริงๆ
----------------------------------------------------------------------------------
ห้องพักฟื้น
ตอนนี้แก้วหลับไปแล้วหลังจากที่ให้นมลูกเสร็จ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆแก้วแล้วนั่งลงบนเตียง
“ที่ฉันหลอกเธอว่าฉันเดินไม่ได้ เพราะฉันสงสัยว่าเธอรักฉันขนาดไหน แต่ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องสงสัยอะไรแล้วล่ะ ฉันรู้ว่าเธอรักฉันมาก จุ๊บ~” ผมพูดแล้วจุ๊บเบาๆที่หน้าผากของแก้ว
“แล้วฉันก็รักเธอมากไม่แพ้กัน” ผมพูดแล้วจุ๊บลงบนริมฝีปากของแก้ว
หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมไม่บอกสาเหตุที่หลอกแก้วตอนที่แก้วตื่น ตอนนี้เรื่องที่ทะเลาะกันมันไม่สำคัญแล้วล่ะ ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุด คือ ความรักของเราสามคน พ่อ แม่ ลูก
END
----------------------------------------------------------------------------------
18 พ.ค. 59
TOEY
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ