จ้างให้มา..รักกัน(แม่ของลูก)

9.1

เขียนโดย toey

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18.36 น.

  48 chapter
  2734 วิจารณ์
  162.57K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

26) เข็มฉีดยาเจ้าปัญหา...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“เจ้าโมะยินดีด้วยนะ ภรรยาแกกำลังตั้งครรภ์ 2 เดือนแล้ว เราก็ดูแลหนูแก้วดีๆล่ะ” อาหมอพูดทำเอาโทโมะอึ้งไป

 

สักแปป แต่ฉันกลับเฉยๆ

 

“ยะ..เย้ ท้องแล้วโว้ยยย” คุณโทโมะตะโกนออกมา

 

“ไม่ดีใจรึไง?” เขาหันมาถามฉัน

 

“ท้องหรอ? ฉันท้อง...เย้!” ฉันที่กำลังอึนในช่วงแรกพอรู้ว่าตัวเองท้องก็พึ่งคิดได้ว่าต้องดีใจ ฮ่าๆ

 

“งั้นเดี๋ยวอาขอตรวจร่างกายสักหน่อย จะได้ฝากท้องไว้เลย” อาหมอพูดจากนั้นก็เข้ามาตรวจร่างกายฉัน ถาม

 

ประวัติของฉัน การแฟ้ยา การฉีดวัคซีน โรคประจำตัวแล้วก็อีกต่างๆอีกมากมาย เกือบหนึ่งชั่วโมงอาหมอถึงจะตรวจ

 

ร่างกายฉันเสร็จ ตอนนี้ฉันก็ฝากครรภ์เสร็จเรียบร้อยโดยมีอาหมอเป็นหมอประจำตัว

 

“ไหนๆก็มาแล้ว เดี๋ยวอาจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักไปหนึ่งเข็มแล้วกัน” อาหมอพูดแล้วหันไปบอกพยาบาล

 

ให้เตรียมวัคซีน แต่ฉีดยาหรอ? ฉันไม่ฉีด!!

 

“คุณ ฉันไม่ฉีดยา” ฉันหันไปเขย่ามือคุณโทโมะที่ยืนอยู่ข้างๆ

 

“ต้องฉีด อาหมอเตรียมไว้แล้ว ไม่เจ็บหรอกน่ะ” เขาพูดแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวฉัน

 

“แต่คุณสัญญาแล้วว่าจะไม่ให้ฉันฉีดยาอ่ะ!” ฉันรีบท้วง เพราะก่อนจะลงจากรถ เขาก็สัญญาเกี่ยวก้อยกับฉันแล้ว

 

ด้วยย (สัญญาอย่างเดียว เกี่ยวก้อยไม่เกี่ยว)

 

“อะไรแค่ฉีดยาจะอะไรนักหนา” เขาพูดแล้วส่ายหน้าอย่างหงุดหงิง ใช่สิ! ฉันเป็นคนโดนฉีดไม่ใช่เขา

 

ซะหน่อย ฮึก..

 

“วัคซีนได้แล้วค่ะ” เสียงพยาบาลดังมาทำให้ฉันหันไปมอง พยาบาลสาวสวยถือถาดที่มีเข็มฉีดยา ฉันหันไปจ้อง

กับเข็มฉีดยาพอดิบพอดี ทำไมเข็มฉีดยามันใหญ่จัง (ไม่ใหญ่หรอก มันก็เข็มฉีดยาปกติ แก้วคิดไปเอง)

 

“เฮ้ยแก้ว!” ผมเรียกเสียงดังเมื่ออยู่ๆเจ้าตัวก็ลงจากเตียงแล้ววิ่งไปไหนก็ไม่รู้ ผมรีบวิ่งตามไปติดๆ ยัยบ้านั้นต้องผี

 

เข้าแน่ๆ

 

 

 

ปั๊ก~ ตุ๊บ~

 

           ยัยแก้วแตกวิ่งไปพร้อมเหลียวหลังมามองผม  จนไม่ทันได้มองทาง แก้ววิ่งชนเข้ากับนางพยาบาลที่เดิน

 

มาเข้าจังๆ ถาดที่นางพยาบาลถือมาตกลงพื้น ยาเม็ดและเข็มฉีดยาตกหล่นอยู่ที่พื้น คาดว่านางพยาบาลน่าจะพึ่ง

 

ฉีดยาให้กับผู้ป่วยที่พักอยู่ในห้องพักฟื้น ดีที่ผมวิ่งเข้ามารับแก้วไว้ได้ทันก่อนที่แก้วจะล้มไป  แต่ก็ไม่ทันแล้ว แก้ว

 

ล้มมาทับตัวผมจนได้ แต่ก็ไม่ได้ล้มแรงมากเท่าไร

 

“นี่โรงพยาบาลนะค่ะ กรุณาอยู่ในความสงบค่ะ!!” เราสองคนโดนนางพยาบาลเอ็ดไปคนละดอก เล่นเอาผมหัวหด

 

เลย นางพยาบาลคนนั้นก้มเก็บของที่ตกหล่นแล้วเดินออกไปทันที

 

“เป็นไงล่ะ ซ่าดีนัก!” เขาหันมาพูดใส่หน้าฉันซึ่งตอนนี้กำลังนิ่งไปแล้ว

 

“....” แก้วเงียบ

 

“เป็นอะไรรึเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย?”  โทโมะพูดกับแก้ว

 

“ฉันไม่อยากฉีดยา” แก้วทำหน้าบึ้งใส่

 

“ไม่ได้ ต้องฉีด” คุณโทโมะช้อนฉันขึ้นมาแนบอกแล้วเดินพาไปที่ห้องตรวจห้องเดิม

 

--------------

 

“อาหมอฉีดเลยครับ” คุณโทโมะพูดแล้วมองหน้าฉัน

 

“ไม่เจ็บหรอกหนูแก้ว อามือเบาจะตาย” อาหมอพูดจากนั้นอาหมอก็ค่อยๆเอาเข็มแทงมาที่ต้นแขนข้างซ้าย

 

ของฉัน ฮึก..เจ็บ

 

“ถ้ากลัวก็ไม่ต้องมอง มองหน้าฉันแทน” คุณโทโมะเอาเอามือมาจับหน้าฉันแล้วหันมาทางที่เขายืนอยู่ ถึงจะมอง

 

ไปทางอื่นแต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี ทั้งกลัวทั้งเจ็บเลย

 

“เสร็จแล้วๆ” อาหมอพูดแล้วเอานิ้วมาคลึงตรงที่โดนฉีดยา

 

“เดี๋ยวอาให้ยาบำรุงครรภ์ไปด้วยแล้วกันนะ” อาหมอพูดแล้วหันไปสั่งพยาบาล

 

 

“ป่ะ กลับบ้านกัน” คุณโทโมะพูดเมื่อได้รับถุงยามาเรียบร้อย

 

“...”

 

“เป็นอะไร?” คุณโทโมะเดินเข้ามายืนข้างๆฉัน

 

“ดะ..เดินไม่ไหว” ฉันบอกออกไป เวลาฉันกลัวอะไรมากๆ ขามันจะไม่มีแรงเลย TT

 

“ก่อนโดนฉีดยายังมีแรงวิ่งอยู่เลย แค่โดนฉีดยาแค่นี้ไม่มีแรงเลยหรอ? ฮ่าๆ” เขาพูดแล้วหัวเราะใส่หน้าฉัน ฉันเลย

 

ค่อยๆลงจากเตียง แต่ฉันกลับยืนไม่ไหวจริงๆ

 

“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวล้มไปจะแย่” เขาพูดแล้วรีบมาประคองฉันไหว

 

“เดินไหวมั้ยเนี่ย?”

 

“....” ฉันส่ายหน้าไปมา อยู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาเฉยเลย

 

“ร้องไห้ทำไมกัน? กลัวขนาดนั้นเลยหรอ?” เขาพูดแล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่แก้มขวาของฉัน

 

“ฉันไม่ชอบ ฮึก..เข็มฉีดยา ฮืออออ” ฉันร้องไห้ออกมา ก่อนที่เขาจะดึงฉันเข้าไปกอด

 

“ไม่ต้องร้องนะ ฉันก็ยืนอยู่ข้างๆจะกลัวอะไรล่ะ” เขาลูบผมปลอบฉันอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนที่เขาจะผละฉันออก

 

จากกอด

 

“กลับบ้านกันเถอะ” เขาพูดแล้วประคองฉัน โดยการเอามือจับที่เอวของฉันไว้

 

“ฉันอุ้มน่าจะสะดวกกว่าแฮะ” คุณโทโมะพูด แล้วเอาถุงยามาให้ฉันถือ จากนั้นเขาก็อุ้มฉันแล้วเดินออกมาจาก

 

แผนกสูตินารี เหมือนครั้งแรก ทุกคนมองเราเป็นตาเดียวเช่นเคย เขาอุ้มฉันมาที่รถก่อนจะเปิดประตูและวางฉันลง

 

บนเบาะ เขาปิดประตูแล้วตัวเองก็ขึ้นมานั่งบนรถแล้วก็ขับกลับไปที่คอนโด

 

---------------------

 

        เขาขับรถไปเรื่อยๆ ขับออกมาจากโรงพยาบาลได้ ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมากๆ ฉันจะไม่เหยียบเข้าไปอีกเด็ดขาด

 

ฮึก..เจ็บชะมัด

 

“หายกลัวรึยัง?” เขาพูดขึ้นมาทั้งๆที่ตาก็มองถนน

 

“ดีขึ้นแล้ว แต่ปวดแขน” ฉันหันไปตอบเขาแล้วยิ้มบางๆให้หนึ่งที

 

“นอนก่อนก็ได้ วันนี้รถติด จะกลับถึงคอนโดก็คงจะบ่ายๆเลย” เขาพูด เมื่อพูดมาแบบนี้ ฉันจะนั่งทำไมล่ะ

 

ก็หลับสิ Zzz

 

------------------------------------------------------------------------------------------------

อัพแล้วค่าช่วยเม้น+โหวตหน่อยค่า

ช่วงสาระน่ารู้ >O<

วันนี้เราจะมารู้เกี่ยวกับ วัคซีนของคนท้องงงงง มาเริ่มกันเลย!

ก่อนตั้งครรภ์
วัคซีนที่ฉีดก่อนคิดจะตั้งครรภ์มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่

1. วัคซีนหัดเยอรมัน
หัดเยอรมันเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งค่ะ ลักษณะอาการจะคล้ายกับเป็นไข้หวัด คือมีไข้ และมีผื่นทั่วตัว หากคุณแม่เกิดเป็นโรคนี้เมื่อตั้งครรภ์โดยเฉพาะในระยะ 1-3 เดือนแรก เชื้อไวรัสจะไปทำให้ทารกในครรภ์เกิดความพิการในอวัยวะต่างๆ อาทิ หู ตา หัวใจ แขน ขา และสมอง

ดังนั้น คุณแม่ที่คิดจะตั้งครรภ์จึงควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันก่อน โดยฉีดแล้วควรเว้นระยะการตั้งครรภ์ออกไป 3 เดือน เพื่อให้วัคซีนสร้างภูมิขึ้น แต่หากจู่ๆ คุณแม่เกิดตั้งครรภ์ในช่วงนี้ขึ้นมาก็อย่ากังวลใจไป เพราะยังไม่มีข้อบ่งชี้ใดที่ฟันธงว่าหากฉีดวัคซีนหัดเยอรมันแล้วทิ้งระยะก่อนตั้งครรภ์ไม่ถึง 3 เดือน จะส่งผลให้เด็กเกิดมาผิดปกติ จนคุณหมอต้องยุติการตั้งครรภ์ค่ะ เพราะมีคุณแม่บางท่านที่ฉีดวัคซีนหัดเยอรมันแล้วเกิดตั้งครรภ์ภายใน 3 เดือน ก็สามารถให้กำเนิดลูกที่แข็งแรงได้ไม่แตกต่างจากคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนในช่วงดังกล่าว

ท้องแล้วไม่ได้ฉีด!!

หากคุณแม่ไม่ได้ฉีดก็อย่ากังวลใจไป แต่ช่วงตั้งครรภ์ 1-3 เดือนแรก ซึ่งถือเป็นช่วงอันตรายหากติดเชื้อขึ้นมา ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงคนที่มีอาการหวัด เป็นไข้ ไอจาม เพราะนั่นอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคหัดเยอรมันได้เช่นกัน

ช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้ายหากเกิดติดหัดเยอรมันขึ้นมา โรคนี้จะไม่สามารถทำให้เกิดความผิดปกติในลูกน้อยได้ เพราะร่างกายของลูกเจริญเติบโตเต็มที่แล้วค่ะ

2. วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบชนิดบี (Hepatitis B)
โรคไวรัสตับอักเสบบีพบบ่อยในประเทศไทย ลักษณะอาการก็จะแตกต่างกันไป หากเป็นน้อยอาการก็เหมือนเป็นไข้ เหนื่อยๆอ่อนเพลีย แต่ถ้าเป็นมากก็จะตาเหลือง ตัวเหลือง อ่อนเพลียมาก ตับถูกทำลายและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีเชื้ออยู่ในร่างกายอยู่แล้ว หรือเกิดติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีขึ้นมา โรคนี้ก็อาจติดต่อไปยังลูกขณะคลอดทำให้เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีได้ค่ะ

ดังนั้น หากคุณแม่ไม่แน่ใจว่าตนเองมีภูมิต้านทานโรคอยู่หรือเปล่า หรือเกิดติดเชื้อนี้แล้วหรือยัง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาภูมิ หากยังไม่มีภูมิ แพทย์จะฉีดวัคซีนให้ โดยแนะนำให้ฉีดก่อนตั้งครรภ์เป็นเวลา 6 เดือน

ส่วนคุณแม่คนไหนที่พบว่าติดเชื้อแล้ว หลังคลอดภายใน 24 ชั่วโมง แพทย์จะฉีดสารภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบบีให้กับทารก เพื่อเป็นการเร่งภูมิให้ต่อต้านโรค ขณะเดียวกันทารกแรกเกิดก็จะได้วัคซีนป้องกันด้วยค่ะ

ท้องแล้วไม่ได้ฉีด!!
ปัจจุบัน ประชาชนทุกคนที่เกิดในประเทศไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบบีทันทีที่คลอดอยู่แล้ว เพื่อป้องกันโรคตับอักเสบบีตั้งแต่แรกเกิด ดังนั้น คุณแม่จะฉีดหรือไม่ฉีดจึงมีความสำคัญน้อยลง แต่ถ้าขณะตั้งครรภ์พบว่าคุณแม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรค แพทย์ก็สามารถฉีดให้ได้ เนื่องจากวัคซีนชนิดนี้ไม่มีผลอันตรายต่อลูกในครรภ์

 

ระหว่างตั้งครรภ์
เมื่อตั้งครรภ์วัคซีนพื้นฐานที่คุณหมอแนะนำให้ฉีดไม่ได้มีมากมายวุ่นวาย เหมือนที่คุณแม่หลายๆ ท่านคิดกันนะคะ จะมีก็เพียง…

1. วัคซีนป้องกันบาดทะยัก
บาดทะยัก เป็นโรคที่เกิดจากการมีบาดแผลซึ่งสกปรกและเมื่อเชื้อบาดทะยักแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล ผู้ที่เป็นบาดทะยักจะมีอาการชักเกร็ง หน้าเขียว มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต และเมื่อเป็นโรคนี้แล้วโอกาสรอด 50:50 ค่ะ

วัคซีนป้องกันบาดทะยัก แพทย์แนะนำให้ฉีดในหญิงตั้งครรภ์ และคนที่ไม่มีภูมิต่อโรคนี้ รวมถึงคนที่ไม่ได้รับการฉีดกระตุ้นภายในระยะเวลา 10 ปีขึ้นไปด้วย

โดยระหว่างตั้งครรภ์จะฉีด 2 เข็ม ห่างกันประมาณ 1 เดือน โดยเข็มที่ 2 ถ้าเป็นไปได้ให้ฉีดก่อนคลอดประมาณ 3 เดือน จากนั้นหลังคลอดจึงฉีดเข็มที่ 3 อีกครั้งค่ะ

ท้องแล้วไม่ได้ฉีด!!
สมัยก่อนจะแนะนำให้ฉีดกันมาก เนื่องจากการทำคลอดเครื่องไม้เครื่องมือยังไม่มีความสะอาดเท่าที่ควรเหมือนปัจจุบันซึ่งมีความปลอดภัย สะอาด และปลอดเชื้อ หากคุณแม่มีภูมิอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีด หรือถ้าพบว่าไม่มีภูมิก็สามารถฉีดได้เลยไม่เป็นอันตรายกับทารกแน่นอน

วัคซีนพื้นฐานที่เล่ามาทั้งหมดนี้ช่วยเสริมสร้างให้คุณแม่แข็งแรง คุณลูกปลอดภัย แต่ถ้าลืมฉีดตัวใดตัวหนึ่งไปก็อย่ากังวลให้มากค่ะ เพราะหากดูแลสุขภาพดี ป้องกันตัวเองไม่ให้ตกอยู่ในความเสี่ยงทั้งจากไข้หวัด ตับอักเสบ หรือบาดทะยัก ก็เบาใจได้ว่าลูกต้องมีสุขภาพดีแน่นอน และถ้ายังไม่หายกังวลก็ขอคำแนะนำจากคุณหมอที่ฝากครรภ์ด้วยก็ดีค่ะ

 

ที่มา : http://www.tinyzone.tv/HealthDetail.aspx?ctpostid=1911

ป.ล. หวังว่าความรู้นี้น่าจะเป็นประโยชน์บางนะค่ะ

28 ธันวาคม 2555

14:29  TOEY

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา