Love Forever ชาติไหนก็รักเธอ
9.4
1) ความรู้สึก.....ที่สงสัย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1
@บ้านหลังหนึ่งใน จ.ชลบุรี (12.30 น.)
“5555 แน่จริงก็ตามมาให้ทันสิ”เด็กสาววัย 6 ขวบ นามว่า ‘ปลายฟ้า’กำลังวิ่งเล่นไล่จับกับน้องสาวของตน
“แฮกๆ พี่ฟ้าอ่ะ รอม่านแก้วด้วย ”น้องสาวนามว่า ‘ม่านแก้ว’บอกพี่สาวที่มีอายุห่างกันแค่ 1 ปี ด้วยท่าทางเหนื่อยล้า
“โอ๋ๆ หัวหอมของพี่ เหนื่อยแล้วหรอ? งั้นไปหาอะไรกินไหม?”ปลายฟ้าวิ่งมาหาน้องสาวที่มีทรงผมคล้ายหัวหอมน่ารัก ก่อนจะชวนไปหาอะไรทาน ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบตกลงทันที
“ไปสิ! กำลังหิวเลย ^^”พูดแล้วยิ้มกว้างอย่างดีใจ ก่อนจะเดินตามพี่สาวไปที่ห้องครัว
“คุณยายขาาาา มีอะไรกินบ้างค่ะ หนูหิ๊ววว หิว! :3”เมื่อมาถึงที่หมายก็เจอกับคุณยายผู้เป็นที่รักของหลานๆวัย 52 ปีกำลังนั่งเช็ดใบตองอย่างตั้งใจ
“อ้าว! หลานยาย เล่นกันเสร็จแล้วหรอลูก? คงหิวน่าดูเลย”ลูบหัวอย่างเอ็นดูในความเป็นเด็กของทั้งสอง
“ใช่ค่ะคุณยาย พี่ฟ้าให้แต่ม่านแก้ววิ่งไล่อย่างเดียว ตัวเองเอาแต่วิ่งหนี -3-”
“ก็หัวหอมเป่ายิ้งฉุบแพ้เองนิ”ได้ทีคนน้องก็ฟ้อง แต่คราวพี่กลับพูดฉายาแทนชื่อน้องซะงั้น
“เอ้าๆพอแล้ว เรานี่ก็จริงๆเลยนะ น้องมีชื่อเรียกก็ไม่เรียก ไปเรียกน้องว่าหัวหอมได้ไง”
“ทรงผมน้องไงค่ะ ฟ้าว่าชื่อหัวหอมเพราะกว่าชื่อม่านแก้วซะอีก คิคิ ><”คนเป็นพี่หัวเราะชอบใจใหญ่ผิดกับคนเป็นน้องที่ตอนนี้หน้าบูดยิ่งกว่าอะไร
“มันก็เพราะเหมือนกันนั้นแหละ ไหนบอกว่าหิวไง? จะกินอะไรล่ะเดี๋ยวยายทำให้”พูดขัดก่อนที่พี่น้องจะทะเลาะกัน พอได้ยินเรื่องของกินเท่านั้นแหละ ม่านแก้วก็รีบหันหน้าไปทางคุณยายด้วยความสนอกสนใจ
“อะไรก็ได้ค่ะคุณยาย เพราะคุณยายทำอะไรก็อร่อย”พูดพร้อมใส่น้ำเสียงที่ดูโอเวอร์จนคนเป็นยายหัวเราะน้อยๆ
“แหม ปากหวานจริงนะเรา งั้นไปกินขนมชั้นที่โต๊ะรอก่อนแล้วกัน เดี๋ยวยายจะทำแกงเขียวหวานไก่ให้กิน”
“แกงเขียวหวานไก่ *0* ”พอพูดถึงชื่ออาหารโปรดของสองพี่น้องเท่านั้นแหละ ดวงตาเปล่งประกายเชียว
“อยากกินล่ะสิ งั้นรอแปปนึงนะ”ลุกเดินไปเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหาร หันมาอีกทีสองพี่คนก็กำลังแย่งขนมชั้นกันเสียแล้ว
เมื่ออาหารพร้อม แน่นอนว่าคนต้องพร้อมตาม แกงเขียวหวานไก่ฝีมือคุณยายภาพร ถ้าได้ยินชื่อนี่ รับรองว่าไม่มีเหลือ รวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน...
“นับวันยิ่งกินเก่งนะเราสองคนเนี่ย ดูสิ ข้าวไม่เหลือสักเม็ดเลย”
“เราก็ต้องกินให้หมดสิค่ะคุณยาย คุณพ่อสอนไว้ว่าถ้าเรากินข้าวไม่หมดเท่ากับเป็นการสร้างบาปเลยนะค่ะ”นอกจากจะกินเก่งแล้วก็ยังพูดเก่งด้วย ภาพรยิ้มภูมิใจกับหลานสาวทั้งสองคน ซึ้งทั้งสองจะมาอยู่กับภาพรเฉพาะตอนปิดเทอม แต่อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว ทำไมลูกของเธอจึงไม่มารับหลานกลับสักทีนะ....ไม่ใช่เพราะเธอรำคาญ แต่เธอกลัวหลานไปเรียนไม่ทันต่างหาก
แบรรรรรร!ๆ
“สงสัยพ่อเรามารับแล้ว”
“โธ่! แต่ฟ้ายังอยากอยู่กับคุณยายต่อ”คนพี่ส่งสายตาอ้อนวอนมาพอหันไปดูคนน้องก็เจอสายตาที่เหมือนกัน
“เทอมหน้าค่อยมาก็ได้ลูก”
“สวัสดีครับแม่ ว่าไงยัยตัวแสบทั้งสอง”เมื่อลูกชายมาหลานทั้งสองก็รีบวิ่งไปหาด้วยความคิดถึง
“คุณพ่อค่ะ ทำไมคุณพ่อมาเร็วจังเลย?”
“เร็วอะไรกันม่านแก้ว พ่อมาช้ากว่าปกติตั้ง 2 วันนะ......สงสัยจะติดคุณยายเข้าแล้วล่ะสิ เป็นยังไงบ้างครับแม่ ดูแลยัยตัวแสบเหนื่อยไหมครับ?”
“ก็ตามประสาเด็กแหละลูก ว่าแต่จะกินข้าวก่อนไหม?”
“ไม่ล่ะครับแม่ บ่าย 3 ผมมีประชุม ผมกลัวไปไม่ทัน”
“อืมๆไม่เป็นไร กลับไปนี้ตั้งใจเรียนด้วยนะลูก”เข้าใจลูกชายว่ามีงานเยอะ เลยหันไปสนใจหลานสาวทั้งสอง
“ค่ะคุณยาย”วิ่งเข้ามากอดก่อนจะวิ่งขึ้นไปเอาของต่างๆแล้วกลับบ้านที่กรุงเทพพร้อมกับผู้เป็นพ่อ ภาพรรักหลานสองคนนี้มาก และรู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับเคยรู้จักจนเธอเองก็ยังเอะใจ
'มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ...’
-18 ปีผ่านไป -
“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับ งั้นผมขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ”ภายในห้องประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยคนระดับสูงฝีมือดี บรรยายกาศที่ดูดึงเครียด บัดนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว คนในห้องประชุมต่างพากันเดินออกทีละคนสองคนจนเหลือเพียงผู้บริหารและช่างภาพอย่างเธอ...
“ผมต้องขอบคุณ คุณปลายฟ้ามากเลยนะครับ ที่ยอมมาร่วมงานกับเรา”ผู้บริหารกล่าวขอบคุณช่างภาพฝีมือดีอย่างเธอ ที่ยอมถ่ายภาพนิ่งโฆษณาให้กับบริษัท พร้อมกับยื่นมือออกไป
“ไม่เป็นไรค่ะ งานแบบนี้ฟ้าอยากทำมานานแล้ว ฟ้าจะทำให้ดีที่สุดค่ะ!”ยื่นมือจับตอบ เป็นเสมือนสัญญาว่าเธอจะทำให้ได้ตามที่พูดและยินดีเช่นกันที่ได้ร่วมงาน
“งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ”ไหว้ลาผู้บริหารก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมยืมแฟ้มประวัติของตนไปด้วย........เป้าหมายของเธอต่อไปคือโรงพยาบาล เธอไม่ได้ป่วยหอะไรหรอก แค่จะไปหาน้องสาวเฉยๆ
@โรงพยาบาล
“พี่ฟ้า!!!”เมื่อคนเป็นน้องเห็นคนเป็นพี่เดินเข้ามาในห้องพักของพยาบาลและแพทย์ก็ดีใจ คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากขนมที่อยู่ในมือพี่สาว - -
“ม่านแก้ว! เบาๆหน่อย เดี๋ยวคนไข้ก็แตกตื่นกันพอดี.....อ่อ สวัสดีค่ะคุณปลายฟ้า ^^”ติเตือนพยาบาลผู้ช่วยก่อนจะหันไปสวัสดีเธออย่างสุภาพ เธอมาหาน้องสาวเป็นประจำ ทำให้หมอริสารู้จักเธอ
“สวัสดีค่ะหมอริสา ฟ้าต้องขอโทษแทนยัยหัวหอมด้วยนะค่ะ แหะๆ”กล่าวขอโทษแทนน้องสาวก่อนจะส่งสายตาไปให้น้องสาวที่เดินมาหยิบขนมอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“พี่ฟ้า ครั้งนี้พี่ซื้อขนมมาน้อยนะ -0-”
“ซื้อน้อยอ่ะดีแล้ว แกจะได้ไม่กินจนลืมหน้าที่ = =”
“เฟย์กับฟาง...…..”
“อะไรนะค่ะหมอ?!”รีบหันไปหาคุณหมอทันทีที่พูด เพราะมัวแต่กินขนมและคุยกับพี่สาวอยู่เลยได้ยินไม่ชัด
“เอ่อ.....หมอบอกว่าอยากดูประวัติคนไข้ที่เป็นโรคโลหิตจางนะจ๊ะ”พูดพร้อมกับหาแฟ้มประวัติคนไข้
“แต่ม่านแก้วได้ยินหมอพูดสั้นกว่านี้นะ - -+”
“แหม ก็เธอคุยอยู่กับคุณฟ้า อาจจะได้ยินไม่หมดก็ได้”
“ตะ.......”
“พอเถอะม่านแก้ว ไปเซ้าซี้คุณหมอริสาอยู่ได้”เห็นน้องสาวจะพูดต่อก็ขัดไว้ ไม่งั้นคงจะไม่จบแน่
“งั้นหมอขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะค่ะ เชิญคุยกันตามสบายเลยค่ะ :) ”เธอพูดแล้วเดินออกไป
“นี่พี่ฟ้า เป็นยังไงบ้างอ่ะ งานที่เค้าติดต่อพี่เมื่อวาน?”เมื่อคุณหมอไป คนเป็นน้องก็เริ่มเปิดประเด็น
“ก็ดีนะ แค่ถ่ายภาพนิ่งโฆษณาให้ดูอาร์ตๆหน่อย เงินดีด้วย”
“โห! งั้นพรุ่งนี้ไปฉลองหน่อยมั้ยพี่ฟ้า เอาร้านที่พ่อเคยพาเราไปกินบ่อยๆอ่ะ”
“อยากไปหรอ? งั้นก็ได้........แต่มันคงจะดีถ้ามีพ่อไปด้วย”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนเด็กๆเธอก็ได้เสียแม่เพราะอุบัติเหตุ พอโตขึ้นก็ต้องเสียพ่อจากสาเหตุเดียวกัน แต่ดีที่ว่าม่านแก้วใกล้จะเรียนจบแล้ว
“ไม่เป็นไรน่าพี่ฟ้า”พูดปลอบพี่สาวทั้งที่ตัวเองก็คิดเหมือนกัน
“แล้วพรุ่งนี้เราว่างรึไง ไม่อยู่ช่วยหมอริสาหรอ?”
“พรุ่งนี้หมอริสาหยุดค่ะ ซึ่งมันก็ส่งผลถึงม่านแก้วด้วย อิอิ >< แต่ที่จริงต้องถามพี่มากกว่านะ ว่าพี่อ่ะว่างรึเปล่า”คำพูดของน้องสาวทำให้เธอนึกได้
“เออ! พรุ่งนี้พี่มีถ่ายภาพให้กับนิตยสาร KAZZ นี่ ตายแล้ว! พี่ลืมไปได้ไง”
“สงสัยพี่แก่แล้วมั้ง”
“ยัยหัวหอม!”อารมณ์ขึ้นทันทีที่ได้ยินคำว่าแก่ เธอยังไม่ได้มีแฟนเลย จะแก่ได้ไง
‘พี่ยังไม่ได้แก่สักหน่อย แค่ขี้หลงขี้ลืมแค่นั้นเอง -..-’
“555 ล้อเล่นนิดเดียวเอง อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ -3- ”
“เหอะๆ งั้นพี่กลับล่ะ ตอนเย็นกลับบ้านเร็วๆด้วย โอเค๊!?!”
“รับทราบค่ะคุณแม่!”รับปากพร้อมกับทำท่าทำความเคารพแบบทหารจนพี่สาวหมั่นไส้
“งั้นพี่ไปล่ะ”กลับหลังหันกำลังจะเดินออกไปเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอสาวเข้ามา
“อ้าวคุณฟ้า จะกลับแล้วหรอค่ะ?”
“ค่ะ พอดีฟ้ามีงานต่อ งั้นฟ้าไปนะค่ะ”
“เดี๋ยวค่ะ!”เมื่อเธอกำลังจะเดินผ่านแต่คุณหมอสาวกลับคว้ามือไว้จนสองพี่น้องสงสัย
“ฟาง! เที่ยงแล้วไปกินข้าวเถอะ”
“ไปก่อนเถอะเฟย์ ฉันยังไม่หิวเลย แล้วอีกอย่างฉันขอทำงานตรงนี้ให้เสร็จก่อนนะ”เธอบอกก่อนที่จะก้มหน้าทำงานต่อ
“งานน่ะจะทำเมื่อไรก็ได้ แค่ฟางมาช่วยฉันก็ดีใจแล้ว”
“แต่ว่า.........”
“นะๆๆๆๆ *0*”
“ก็ได้ๆ”แล้วทั้งสองก็พากันไปร้านอาหารใกล้ๆบริษัท
“กินอะไรดี?”
“อืม............อะไรก็ได้”
“พี่ค่ะเอา $^%*ND%H(%_+ ” แล้วไม่นานอาหารก็มา……
“อี๋! ทำไมกลิ่นเหม็นจัง”เธอเริ่มทำหน้าพะอืดพะอม
“เหม็นหรอ? ฉันว่าหอมออกนะ”พูดแล้ว ทำท่าดม สีหน้าบ่งบอกถึงความอร่อยแต่คนตรงข้ามกลับหน้าซีดเอามือปิดปาก
“แต่ฉะ.......อุ๊บ !”เมื่อทนไม่ไหวก็รีบวิ่งไปห้องน้ำทันที
“เฮ้ย!ฟาง”วิ่งตามเพื่อนสาวไป
“หมอริสามีอะไรหรอค่ะ?”เมื่อเธอเห็นคุณหมอจับมือและจ้องหน้าเธอก็เกิดอาการงง
“คะ คือ......หมอแค่จะบอกว่าระวังด้วยนะค่ะ ช่วงนี้แดดร้อน เดี๋ยวจะเป็นลม”
“อ๋อๆค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่เป็นห่วง ^^”เธอกล่าวขอบคุณแล้วเดินออกไป
“ม่านแก้วจ๊ะ เอาประวัติคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็งมาให้หมอหน่อยได้มั้ย?”
“ได้ค่ะหมอ รอแป๊ปนึงนะค่ะ”เมื่อม่านแก้วเดินออกไป คุณหมอก็นึกถึงภาพที่ตัวเองเห็นทันที ภาพเพื่อนสาวสองคนที่หน้าคล้ายปลายฟ้าและม่านแก้ว ไม่สิ......ใช่เลยต่างหาก เธอเห็นภาพพวกนี้โผล่ขึ้นมาทุกครั้งที่สัมผัสตัวปลายฟ้าและม่านแก้ว และไม่ใช่แค่ภาพนะ มันมาทั้งภาพและเสียง....
‘เฟย์....ฟาง คือ ม่านแก้ว กับ ปลายฟ้า แสดงว่าชาติก่อนสองคนนี้เป็นเพื่อนกัน แล้ว......โอ๊ย! มันเป็นยังไงกันแน่’
- คะ คือ......หมอแค่จะบอกว่าระวังด้วยนะค่ะ ช่วงนี้แดดร้อน เดี๋ยวจะเป็นลม -
-Risa-
----------------------------------------------------------------------------------------------
ช่วง : . . . บ่น บ่น บ่น! (- -')
เตล่ง เตล้ง เตล๊งงงงงงงงงงงงง!~ มาแย้วๆ กิ้วๆ~ >-< (ลีดเดอร์ : ไรเตอร์โรคจิตเปล่าว่ะ? - -)
เก๊ามาอัพแล้วนะตะเอง . . . ที่จริงคะแนนวิชาภาษาอังกฤษยังไม่ออกหรอ -3- แต่ถ้าให้รอ โน่นนนนนนนนนนน~
สัปดาห์หน้าคะแนนก็ยังไม่ออก เลยมาอัพให้ก่อน ดีเปล่าๆ ^^
กลัวมันไม่สนุกจัง TT^TT เฮ้ออออ~ ไปแล้วนะค่ะ บ๊าย บายยยยย จุ๊บบๆๆ~ >.<
@บ้านหลังหนึ่งใน จ.ชลบุรี (12.30 น.)
“5555 แน่จริงก็ตามมาให้ทันสิ”เด็กสาววัย 6 ขวบ นามว่า ‘ปลายฟ้า’กำลังวิ่งเล่นไล่จับกับน้องสาวของตน
“แฮกๆ พี่ฟ้าอ่ะ รอม่านแก้วด้วย ”น้องสาวนามว่า ‘ม่านแก้ว’บอกพี่สาวที่มีอายุห่างกันแค่ 1 ปี ด้วยท่าทางเหนื่อยล้า
“โอ๋ๆ หัวหอมของพี่ เหนื่อยแล้วหรอ? งั้นไปหาอะไรกินไหม?”ปลายฟ้าวิ่งมาหาน้องสาวที่มีทรงผมคล้ายหัวหอมน่ารัก ก่อนจะชวนไปหาอะไรทาน ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบตกลงทันที
“ไปสิ! กำลังหิวเลย ^^”พูดแล้วยิ้มกว้างอย่างดีใจ ก่อนจะเดินตามพี่สาวไปที่ห้องครัว
“คุณยายขาาาา มีอะไรกินบ้างค่ะ หนูหิ๊ววว หิว! :3”เมื่อมาถึงที่หมายก็เจอกับคุณยายผู้เป็นที่รักของหลานๆวัย 52 ปีกำลังนั่งเช็ดใบตองอย่างตั้งใจ
“อ้าว! หลานยาย เล่นกันเสร็จแล้วหรอลูก? คงหิวน่าดูเลย”ลูบหัวอย่างเอ็นดูในความเป็นเด็กของทั้งสอง
“ใช่ค่ะคุณยาย พี่ฟ้าให้แต่ม่านแก้ววิ่งไล่อย่างเดียว ตัวเองเอาแต่วิ่งหนี -3-”
“ก็หัวหอมเป่ายิ้งฉุบแพ้เองนิ”ได้ทีคนน้องก็ฟ้อง แต่คราวพี่กลับพูดฉายาแทนชื่อน้องซะงั้น
“เอ้าๆพอแล้ว เรานี่ก็จริงๆเลยนะ น้องมีชื่อเรียกก็ไม่เรียก ไปเรียกน้องว่าหัวหอมได้ไง”
“ทรงผมน้องไงค่ะ ฟ้าว่าชื่อหัวหอมเพราะกว่าชื่อม่านแก้วซะอีก คิคิ ><”คนเป็นพี่หัวเราะชอบใจใหญ่ผิดกับคนเป็นน้องที่ตอนนี้หน้าบูดยิ่งกว่าอะไร
“มันก็เพราะเหมือนกันนั้นแหละ ไหนบอกว่าหิวไง? จะกินอะไรล่ะเดี๋ยวยายทำให้”พูดขัดก่อนที่พี่น้องจะทะเลาะกัน พอได้ยินเรื่องของกินเท่านั้นแหละ ม่านแก้วก็รีบหันหน้าไปทางคุณยายด้วยความสนอกสนใจ
“อะไรก็ได้ค่ะคุณยาย เพราะคุณยายทำอะไรก็อร่อย”พูดพร้อมใส่น้ำเสียงที่ดูโอเวอร์จนคนเป็นยายหัวเราะน้อยๆ
“แหม ปากหวานจริงนะเรา งั้นไปกินขนมชั้นที่โต๊ะรอก่อนแล้วกัน เดี๋ยวยายจะทำแกงเขียวหวานไก่ให้กิน”
“แกงเขียวหวานไก่ *0* ”พอพูดถึงชื่ออาหารโปรดของสองพี่น้องเท่านั้นแหละ ดวงตาเปล่งประกายเชียว
“อยากกินล่ะสิ งั้นรอแปปนึงนะ”ลุกเดินไปเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหาร หันมาอีกทีสองพี่คนก็กำลังแย่งขนมชั้นกันเสียแล้ว
เมื่ออาหารพร้อม แน่นอนว่าคนต้องพร้อมตาม แกงเขียวหวานไก่ฝีมือคุณยายภาพร ถ้าได้ยินชื่อนี่ รับรองว่าไม่มีเหลือ รวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน...
“นับวันยิ่งกินเก่งนะเราสองคนเนี่ย ดูสิ ข้าวไม่เหลือสักเม็ดเลย”
“เราก็ต้องกินให้หมดสิค่ะคุณยาย คุณพ่อสอนไว้ว่าถ้าเรากินข้าวไม่หมดเท่ากับเป็นการสร้างบาปเลยนะค่ะ”นอกจากจะกินเก่งแล้วก็ยังพูดเก่งด้วย ภาพรยิ้มภูมิใจกับหลานสาวทั้งสองคน ซึ้งทั้งสองจะมาอยู่กับภาพรเฉพาะตอนปิดเทอม แต่อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว ทำไมลูกของเธอจึงไม่มารับหลานกลับสักทีนะ....ไม่ใช่เพราะเธอรำคาญ แต่เธอกลัวหลานไปเรียนไม่ทันต่างหาก
แบรรรรรร!ๆ
“สงสัยพ่อเรามารับแล้ว”
“โธ่! แต่ฟ้ายังอยากอยู่กับคุณยายต่อ”คนพี่ส่งสายตาอ้อนวอนมาพอหันไปดูคนน้องก็เจอสายตาที่เหมือนกัน
“เทอมหน้าค่อยมาก็ได้ลูก”
“สวัสดีครับแม่ ว่าไงยัยตัวแสบทั้งสอง”เมื่อลูกชายมาหลานทั้งสองก็รีบวิ่งไปหาด้วยความคิดถึง
“คุณพ่อค่ะ ทำไมคุณพ่อมาเร็วจังเลย?”
“เร็วอะไรกันม่านแก้ว พ่อมาช้ากว่าปกติตั้ง 2 วันนะ......สงสัยจะติดคุณยายเข้าแล้วล่ะสิ เป็นยังไงบ้างครับแม่ ดูแลยัยตัวแสบเหนื่อยไหมครับ?”
“ก็ตามประสาเด็กแหละลูก ว่าแต่จะกินข้าวก่อนไหม?”
“ไม่ล่ะครับแม่ บ่าย 3 ผมมีประชุม ผมกลัวไปไม่ทัน”
“อืมๆไม่เป็นไร กลับไปนี้ตั้งใจเรียนด้วยนะลูก”เข้าใจลูกชายว่ามีงานเยอะ เลยหันไปสนใจหลานสาวทั้งสอง
“ค่ะคุณยาย”วิ่งเข้ามากอดก่อนจะวิ่งขึ้นไปเอาของต่างๆแล้วกลับบ้านที่กรุงเทพพร้อมกับผู้เป็นพ่อ ภาพรรักหลานสองคนนี้มาก และรู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับเคยรู้จักจนเธอเองก็ยังเอะใจ
'มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ...’
-18 ปีผ่านไป -
“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับ งั้นผมขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ”ภายในห้องประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยคนระดับสูงฝีมือดี บรรยายกาศที่ดูดึงเครียด บัดนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว คนในห้องประชุมต่างพากันเดินออกทีละคนสองคนจนเหลือเพียงผู้บริหารและช่างภาพอย่างเธอ...
“ผมต้องขอบคุณ คุณปลายฟ้ามากเลยนะครับ ที่ยอมมาร่วมงานกับเรา”ผู้บริหารกล่าวขอบคุณช่างภาพฝีมือดีอย่างเธอ ที่ยอมถ่ายภาพนิ่งโฆษณาให้กับบริษัท พร้อมกับยื่นมือออกไป
“ไม่เป็นไรค่ะ งานแบบนี้ฟ้าอยากทำมานานแล้ว ฟ้าจะทำให้ดีที่สุดค่ะ!”ยื่นมือจับตอบ เป็นเสมือนสัญญาว่าเธอจะทำให้ได้ตามที่พูดและยินดีเช่นกันที่ได้ร่วมงาน
“งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ”ไหว้ลาผู้บริหารก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมยืมแฟ้มประวัติของตนไปด้วย........เป้าหมายของเธอต่อไปคือโรงพยาบาล เธอไม่ได้ป่วยหอะไรหรอก แค่จะไปหาน้องสาวเฉยๆ
@โรงพยาบาล
“พี่ฟ้า!!!”เมื่อคนเป็นน้องเห็นคนเป็นพี่เดินเข้ามาในห้องพักของพยาบาลและแพทย์ก็ดีใจ คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากขนมที่อยู่ในมือพี่สาว - -
“ม่านแก้ว! เบาๆหน่อย เดี๋ยวคนไข้ก็แตกตื่นกันพอดี.....อ่อ สวัสดีค่ะคุณปลายฟ้า ^^”ติเตือนพยาบาลผู้ช่วยก่อนจะหันไปสวัสดีเธออย่างสุภาพ เธอมาหาน้องสาวเป็นประจำ ทำให้หมอริสารู้จักเธอ
“สวัสดีค่ะหมอริสา ฟ้าต้องขอโทษแทนยัยหัวหอมด้วยนะค่ะ แหะๆ”กล่าวขอโทษแทนน้องสาวก่อนจะส่งสายตาไปให้น้องสาวที่เดินมาหยิบขนมอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“พี่ฟ้า ครั้งนี้พี่ซื้อขนมมาน้อยนะ -0-”
“ซื้อน้อยอ่ะดีแล้ว แกจะได้ไม่กินจนลืมหน้าที่ = =”
“เฟย์กับฟาง...…..”
“อะไรนะค่ะหมอ?!”รีบหันไปหาคุณหมอทันทีที่พูด เพราะมัวแต่กินขนมและคุยกับพี่สาวอยู่เลยได้ยินไม่ชัด
“เอ่อ.....หมอบอกว่าอยากดูประวัติคนไข้ที่เป็นโรคโลหิตจางนะจ๊ะ”พูดพร้อมกับหาแฟ้มประวัติคนไข้
“แต่ม่านแก้วได้ยินหมอพูดสั้นกว่านี้นะ - -+”
“แหม ก็เธอคุยอยู่กับคุณฟ้า อาจจะได้ยินไม่หมดก็ได้”
“ตะ.......”
“พอเถอะม่านแก้ว ไปเซ้าซี้คุณหมอริสาอยู่ได้”เห็นน้องสาวจะพูดต่อก็ขัดไว้ ไม่งั้นคงจะไม่จบแน่
“งั้นหมอขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะค่ะ เชิญคุยกันตามสบายเลยค่ะ :) ”เธอพูดแล้วเดินออกไป
“นี่พี่ฟ้า เป็นยังไงบ้างอ่ะ งานที่เค้าติดต่อพี่เมื่อวาน?”เมื่อคุณหมอไป คนเป็นน้องก็เริ่มเปิดประเด็น
“ก็ดีนะ แค่ถ่ายภาพนิ่งโฆษณาให้ดูอาร์ตๆหน่อย เงินดีด้วย”
“โห! งั้นพรุ่งนี้ไปฉลองหน่อยมั้ยพี่ฟ้า เอาร้านที่พ่อเคยพาเราไปกินบ่อยๆอ่ะ”
“อยากไปหรอ? งั้นก็ได้........แต่มันคงจะดีถ้ามีพ่อไปด้วย”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนเด็กๆเธอก็ได้เสียแม่เพราะอุบัติเหตุ พอโตขึ้นก็ต้องเสียพ่อจากสาเหตุเดียวกัน แต่ดีที่ว่าม่านแก้วใกล้จะเรียนจบแล้ว
“ไม่เป็นไรน่าพี่ฟ้า”พูดปลอบพี่สาวทั้งที่ตัวเองก็คิดเหมือนกัน
“แล้วพรุ่งนี้เราว่างรึไง ไม่อยู่ช่วยหมอริสาหรอ?”
“พรุ่งนี้หมอริสาหยุดค่ะ ซึ่งมันก็ส่งผลถึงม่านแก้วด้วย อิอิ >< แต่ที่จริงต้องถามพี่มากกว่านะ ว่าพี่อ่ะว่างรึเปล่า”คำพูดของน้องสาวทำให้เธอนึกได้
“เออ! พรุ่งนี้พี่มีถ่ายภาพให้กับนิตยสาร KAZZ นี่ ตายแล้ว! พี่ลืมไปได้ไง”
“สงสัยพี่แก่แล้วมั้ง”
“ยัยหัวหอม!”อารมณ์ขึ้นทันทีที่ได้ยินคำว่าแก่ เธอยังไม่ได้มีแฟนเลย จะแก่ได้ไง
‘พี่ยังไม่ได้แก่สักหน่อย แค่ขี้หลงขี้ลืมแค่นั้นเอง -..-’
“555 ล้อเล่นนิดเดียวเอง อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ -3- ”
“เหอะๆ งั้นพี่กลับล่ะ ตอนเย็นกลับบ้านเร็วๆด้วย โอเค๊!?!”
“รับทราบค่ะคุณแม่!”รับปากพร้อมกับทำท่าทำความเคารพแบบทหารจนพี่สาวหมั่นไส้
“งั้นพี่ไปล่ะ”กลับหลังหันกำลังจะเดินออกไปเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอสาวเข้ามา
“อ้าวคุณฟ้า จะกลับแล้วหรอค่ะ?”
“ค่ะ พอดีฟ้ามีงานต่อ งั้นฟ้าไปนะค่ะ”
“เดี๋ยวค่ะ!”เมื่อเธอกำลังจะเดินผ่านแต่คุณหมอสาวกลับคว้ามือไว้จนสองพี่น้องสงสัย
“ฟาง! เที่ยงแล้วไปกินข้าวเถอะ”
“ไปก่อนเถอะเฟย์ ฉันยังไม่หิวเลย แล้วอีกอย่างฉันขอทำงานตรงนี้ให้เสร็จก่อนนะ”เธอบอกก่อนที่จะก้มหน้าทำงานต่อ
“งานน่ะจะทำเมื่อไรก็ได้ แค่ฟางมาช่วยฉันก็ดีใจแล้ว”
“แต่ว่า.........”
“นะๆๆๆๆ *0*”
“ก็ได้ๆ”แล้วทั้งสองก็พากันไปร้านอาหารใกล้ๆบริษัท
“กินอะไรดี?”
“อืม............อะไรก็ได้”
“พี่ค่ะเอา $^%*ND%H(%_+ ” แล้วไม่นานอาหารก็มา……
“อี๋! ทำไมกลิ่นเหม็นจัง”เธอเริ่มทำหน้าพะอืดพะอม
“เหม็นหรอ? ฉันว่าหอมออกนะ”พูดแล้ว ทำท่าดม สีหน้าบ่งบอกถึงความอร่อยแต่คนตรงข้ามกลับหน้าซีดเอามือปิดปาก
“แต่ฉะ.......อุ๊บ !”เมื่อทนไม่ไหวก็รีบวิ่งไปห้องน้ำทันที
“เฮ้ย!ฟาง”วิ่งตามเพื่อนสาวไป
“หมอริสามีอะไรหรอค่ะ?”เมื่อเธอเห็นคุณหมอจับมือและจ้องหน้าเธอก็เกิดอาการงง
“คะ คือ......หมอแค่จะบอกว่าระวังด้วยนะค่ะ ช่วงนี้แดดร้อน เดี๋ยวจะเป็นลม”
“อ๋อๆค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่เป็นห่วง ^^”เธอกล่าวขอบคุณแล้วเดินออกไป
“ม่านแก้วจ๊ะ เอาประวัติคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็งมาให้หมอหน่อยได้มั้ย?”
“ได้ค่ะหมอ รอแป๊ปนึงนะค่ะ”เมื่อม่านแก้วเดินออกไป คุณหมอก็นึกถึงภาพที่ตัวเองเห็นทันที ภาพเพื่อนสาวสองคนที่หน้าคล้ายปลายฟ้าและม่านแก้ว ไม่สิ......ใช่เลยต่างหาก เธอเห็นภาพพวกนี้โผล่ขึ้นมาทุกครั้งที่สัมผัสตัวปลายฟ้าและม่านแก้ว และไม่ใช่แค่ภาพนะ มันมาทั้งภาพและเสียง....
‘เฟย์....ฟาง คือ ม่านแก้ว กับ ปลายฟ้า แสดงว่าชาติก่อนสองคนนี้เป็นเพื่อนกัน แล้ว......โอ๊ย! มันเป็นยังไงกันแน่’
- คะ คือ......หมอแค่จะบอกว่าระวังด้วยนะค่ะ ช่วงนี้แดดร้อน เดี๋ยวจะเป็นลม -
-Risa-
----------------------------------------------------------------------------------------------
ช่วง : . . . บ่น บ่น บ่น! (- -')
เตล่ง เตล้ง เตล๊งงงงงงงงงงงงง!~ มาแย้วๆ กิ้วๆ~ >-< (ลีดเดอร์ : ไรเตอร์โรคจิตเปล่าว่ะ? - -)
เก๊ามาอัพแล้วนะตะเอง . . . ที่จริงคะแนนวิชาภาษาอังกฤษยังไม่ออกหรอ -3- แต่ถ้าให้รอ โน่นนนนนนนนนนน~
สัปดาห์หน้าคะแนนก็ยังไม่ออก เลยมาอัพให้ก่อน ดีเปล่าๆ ^^
กลัวมันไม่สนุกจัง TT^TT เฮ้ออออ~ ไปแล้วนะค่ะ บ๊าย บายยยยย จุ๊บบๆๆ~ >.<
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ