Jealous...หึงนะคร๊าบบบ

9.4

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เวลา 19.21 น.

  42 ตอน
  1562 วิจารณ์
  115.70K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

41) สิ่งเดียวคือความรัก....THE END

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                                              Special the end

 

 

    ภาพในวันวานที่เคยหวานชื่นตีย้อนเขามาอีกครั้ง ความทรงจำที่เคยมีแก้วเคียงข้างตลอดเวลาที่เขาไม่เคยลืม ร่างสูงนั่งทรุดลงกับพื้นกอบกุมมือน้อยที่ไร้การบังคับของแก้วไม่ยอมปล่อย เหมือนกับน้ำตาที่ยังคงไม่ยอมหยุดไหล มันเจ็บจวนเจียนจะขาดใจ  การสูญเสียคนรักในครานี้มันคือความฝันอันโหดร้าย น่าแปลกนะความฝันของเขา....มันเป็นความฝันที่เขาไม่อาจตื่นขึ้นมาได้เลย 

 

ราวกับว่ามีมือลึกลับผลักเขาลงไปในหุบเหวลึก กว้างใหญ่ มืดสนิท ที่ไม่ว่าจะตะเกียกตะกายสักเพียงไหน? ก็ไม่มีวันที่จะขึ้นมาพบแสงสว่างของดวงตะวันได้อีก

 

ยังมีอีกหลากหลายเรื่องราวที่เขายังไม่ได้พูดกับแก้ว เขาวาดฝันเอาไว้แล้วว่า หากแต่งงานมีครอบครัวเขาจะพาเธอไปที่ที่หนึ่ง ที่ที่มีแต่เรา พ่อ แม่ และลูก  แล้ววันนี้เขาจะพาเธอไปได้อีกหรือ? เธออยู่ไกลสุดปลายฟ้าที่เขาไม่สามารถอาจเอื้อมและไขว่คว้าเธอกลับมาได้...เขารอเธอมาทั้งชีวิต ครั้งแรกที่ได้พบเจอ เธอคือคนที่ใช่เสมอมา

 

บ่อยครั้งที่แก้วมักอารมณ์เสียกับความหึงหวงเกินหน้าเกินตาของเขา แต่เธอจะรู้ไหม? เป็นเพราะว่าเขารักเธอมากเกินไปนะสิ  รักมากก็ยิ่งหวงมาก เขาเคยมีความรักที่ไม่สบผลสำเร็จมาแล้วครั้งนึงกับพลอย ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียใจที่ต้องเสียเธอไปอีกครั้ง  การดูแลเอาใจใส่ของเขาที่มีต่อแก้ว เรียกได้ว่า...ถ้าตายแทนได้ พี่จะตายแทนแก้ว

 

“ยังคิดถึงเธอเหลือเกิน...ได้ยินไหม?”

 

“.....”

 

“เธอยังอยู่ในหัวใจของฉัน”

 

“....”

 

“ข่มตานอนทุกคืน ยังฝัน ยังเห็นว่าเรา...รักกัน” เขากลั่นกรองเนื้อร้องให้ออกมาเป็นเพลงด้วยความยากลำบาก เสียงสะอื้นและร่ำไห้ของตัวเองยังเป็นอุปสรรคในการขับกล่อมร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เพลงนี้เป็นเพลงโปรดของแก้วที่เธอมักขอให้เขาร้องให้ฟังบ่อยๆ แต่เขาก็ไม่ค่อยอยากจะร้องเท่าไหร่ เหตุเพราะ...

 

พี่ว่าเพลงมันเศร้าไปนะ พี่จะร้องไห้?!!”

 

แต่แก้วชอบฟังนี่นา ร้องให้ฟังหน่อยนะ^^”

 

 

“เธออยู่ที่ไหน...คิดถึงเธอ”

 

“.....”

 

“จากนี้ไม่มีสิทธิ์เจอ จบแล้ว ก็เข้าใจ.....”

 

“.....”

 

“แต่จะให้ทำยังไง?...เมื่อในหัวใจยัง....จด.....จำ     แก้วจ๋า….. อย่าทิ้งพี่ไป ฮึก....อย่าไป ฮืออออ~  กลับมาอยู่กับพี่ ได้โปรด ฮือออ~” พยายามแล้วที่จะกลั้น...พยายามแล้วที่จะฝืน  เสียใจด้วยนะโทโมะ! ความพยายามของนายล้มเหลว  เขาร้องไห้โฮก่อนจะลุกขึ้นไปเขย่าร่างแก้วเบาๆ ในโลกนี้....เขารับรู้แต่เพียงว่า มีแค่แก้วกับเขาเท่านั้น ไม่ได้สนใจใครภายนอกเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะรู้ตัวว่าใครมองดูอยู่ข้างนอก

 

“คุณ.....ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฮึก...จริงๆ”มารดาของเขาตามมา เมื่อเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างคนเป็นแม่ก็อดที่จะสังเวชไม่ได้ นี่เขาฆ่าหลานกับลูกสะใภ้ตัวเองได้ลงคอเชียวหรือ? เขาโหดร้ายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

 

“ทำใจให้สบายนะคุณ....ทุกอย่างไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น”

 

“แก้ว....ยัยแก้ว...ฮึก...แกอยู่ไหน?ฉันมีนไง ฉันมาหาแก”มีนวิ่งเข้ามาพร้อมเขื่อนก่อนจะเสมองเข้าไปในห้อง เห็นโทโมะร่ำไห้ปานจะขาดใจกอดร่างเพื่อนรักที่แน่นนิ่งไม่ไหวติง  มือเล็กยกขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ จนแทบอยากจะกรีดร้องออกมา

 

“มีน”

 

“ยัยแก้ว...ฮึก...ไม่จริง.....เกิดอะไรขึ้น?? ฮืออออ~......ทำไม?  ยัยแก้วววว!!!!” มีนไขว่คว้าพยายามที่จะเข้าไปหาเพื่อนรักแต่ถูกเขื่อนรั้งตัวเอาไว้และพาออกไปสงบสติอารมณ์ ไม่ใช่ว่าเขื่อนไม่เสียใจ แต่การที่ต้องทนเห็นมีนในสภาพที่ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะแบบนี้...เขาเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน!

 

.

.

.

.

 

“พี่เขื่อน! ปล่อยมีนนะ...ฮึก...มีนจะเข้าไปหาแก้ว..ได้ยินไหม?มีน........พี่เขื่อน”เมื่อน้ำตายังคงหลั่งไหลกับการจากไปไม่มีวันหวนกลับของเพื่อนที่เธอรักที่สุด ที่พึ่งเดียวที่พอจะพยุงไม่ให้เธอล้มไปกองกับพื้นก็คือเขื่อน มีนโผเข้ากอดเขาพลางร้องไห้ไม่หยุดหย่อน จนเขื่อนน้ำตาซึมไป กับแก้วที่เขาเคยเห็นอยู่ทุกวี่วัน มันก็ยากจะทำใจบอกตัวเองว่า...เธอแค่หลับเดี๋ยวก็ฟื้น!

 

“ใจเย็นๆนะมีน....พี่เองก็เสียใจไม่ต่างกัน  เพื่อนของพี่ก็ไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น แก้วไปสบายแล้ว...แต่คนเป็นนี่สิที่ยังต้องอยู่ชดใช้กรรมต่อไป....อย่าร้องไห้เลย แก้วจะไปไม่สงบนะมีน”

 

“ไม่จริง....แก้วยังไม่ตาย พี่เขื่อน....บอกมีน บอกมีนอีกครั้งว่าแก้ว ฮึก ยังไม่ตาย แก้วกับหลานของมีนยังอยู่!”ไม่ว่าเขื่อนจะพูดอย่างไร ในสายตาของมีนก็ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่ลมที่พัดผ่าน ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เธอปิดกั้นไม่รับฟังสิ่งใดทั้งนั้น ภายใต้จิตใจที่เข้มแข็งของมีนเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา  จะให้เขื่อนบอกเธอไหม?....ว่าเธอกำลังหลอกตัวเองอยู่!

 

เขื่อนจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ ปล่อยให้มีนจมอยู่กับความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง อย่างน้อยๆก็เพื่อความสุขของมีนเอง!

.

.

.

.

.

 

นึกยังไงถึงอยากอยู่กับพี่ ฮึ?

 

ไม่รู้สิ....วันนี้รู้สึกรักพี่เป็นพิเศษ

 

อ้าว?หมายความว่าวันอื่นๆไม่รักเหรอ?ร่างสูงตอบกลับพร้อมก้มหน้าถามอย่างเอาเรื่อง แก้วส่ายหัวน้อยๆกับท่าทีของเขา 

 

เปล่าซะหน่อย! รักแบบนี้ไม่ดีหรือไง?

 

โอเคๆดีจ๊ะ ดีมากๆเลย^^”ร่างสูงก้มจูบขมับคนในอ้อมกอดก่อนจะกระชับวงแขนแน่น 

 

 

 

     เห็นไหมเล่า? ทุกการกระทำ ทุกคำพูด ทุกเสียงหัวเราะ รอยยิ้มที่เขาเคยหยอกเหย้ากับเธอยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ ไม่ว่าเวลานั้นจะผ่านไปนานแสนนานเพียงใด  นึกแล้วก็อดคำกับท่าทีน่ารักของแก้วไม่ได้จริงๆ เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับแก้ว แต่ความสุขในวันนี้มันกลับกลายเป็นความสุขที่แสนสาหัสปางตาย...

 

 

       ร่างบางลุกขึ้นไปยืนขวางหน้าเขา  ก่อนจะมองด้วยความหมั่นไส้ อีกฝ่ายหันหน้าหนีเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกนักอึ้งที่ตัก!!!!!

     

     ร่างบางลงไปนั่งคร่อมตักของเขาไว้ มือบางดันตัวเขาติดกับผนังโซฟา อีกฝ่ายมองนิ่งๆราวกับว่าอยากจะดูฉากต่อไป!!!  ของผู้หญิงบนตัก

 

 

                   ชักสนุกแล้วสิ!

 

 

ก็บอกแล้วไง ว่าขอโทษ!!!!!!”ร่างบางตวาดใส่หน้าเขาดังลั่น อีกฝ่ายยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย มือหนารั้งเอวแก้วไว้ ก่อนจะตอบกลับ!

 

แล้ว....ไงต่อ!”

 

พูดได้แล้วเหรอ?...สนใจกันบ้างเถอะ ดูอยู่ได้โทรทัศน์นะ!”

 

ยังไง?

 

โอ๊ย!!! เออ! แก้วผิด ขอโทษค่ะ!”

 

ถ้าไม่หายล่ะ!”

 

 

 

                       ไอ้บ้า!!!!  ไม่หายแล้วจะให้................

 

 

            ความคิดหยุดวูบไปชั่วขณะ  ก่อนที่ร่างบางจะกดจมูกโด่งลงบนแก้มของเขาทันที

พี่หายโกรธยัง?

 

 

.

.

.

     เหตุการณ์วันนั้นที่เขาไม่เคยลืม วันที่แก้วลงทุนงอนง้อเขาด้วยตัวเองเพียงเพราะว่าขางอนที่เธอไปเต้นรำกับคู่กับพิชชี่  ผู้หญิงอย่างแก้วที่หลายคนมองว่า...เธอไม่ค่อยจะเหมือนผู้หญิงเท่าไหร่ ด้วยความที่อยู่ไม่นิ่งของเธอ เธอไม่ได้ห้าวหาญหรือทโมนแต่อย่างใดเพียงแต่เธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งจนเขาทึ่งเท่านั้นเอง  ผู้หญิงแบบนี้แหละ...แม่ของลูก

 

“จะให้พี่บอกไหม?...ว่าไม่เคยคิดโกรธแม้เซี้ยววินาที”

 

มันรวดเร็วเกินไปเหมือนความฝัน เขาไม่ทันได้ตั้งตัวเตรียมใจเลยแม้แต่น้อย  ไม่คิดเลยว่าความตายมันจะพรากหัวใจของเขาไปได้อย่างเลือดเย็นถึงเพียงนี้  ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายบางๆที่พร้อมจะขาดทุกเมื่อหากเขาก้าวพลาดไป....

 

อย่างน้อย ขอเพียงได้เอ่ยคำลากับแก้วเสียหน่อย ก็ยังดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขายังกอดเธออยู่เลย เขายังคงกุมมือ  เขาดีใจที่เธอบอกว่ากำลังจะมีลูกกับเขา มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษที่สุดในโลกกับการที่ได้รู้ว่า...กำลังจะได้เป็นพ่อคน ภาระยิ่งใหญ่ที่เขาเต็มใจจะทำเพื่อคนที่รักและอีกหนึ่งชีวิตที่เกิดจากเขาและเธอ....แต่บัดนี้ มันไม่มีอีกแล้ว

 

“ตอบพี่ที...พี่จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่อใครกัน?  ฮึก...ก่อนหน้านี้ที่ไม่มีแก้ว....พี่อยู่ได้...แต่ตอนนี้....พี่อยู่ไม่ได้อีกต่อไป ถ้าไม่มีเรา...ตัวเล็ก เธอหลับพอแล้วหรือยัง? ฮะๆ....ขี้เซาอีกแล้วนะ ตื่นขึ้นมา ดะ...เดี๋ยวนี้!” เขาคงบ้าไปแล้วจริงๆ หัวเราะทั้งน้ำตา? แล้วก็ต้องกลับมาเสียน้ำตาพร้อมทั้งเสียงหัวเราะ...ที่เลือนหาย  มือน้อยของแก้วที่เขายังคงไม่ปล่อยวาง สั่นน้อยๆ พร้อมกับร่างที่แน่นิ่งเริ่มกระตุกถี่ๆจนเขาประหลาดใจ

 

ดวงตาเรียวเบิกกว้างก่อนจะเขย่าร่างของแก้วอีกครั้ง ด้วยความตื่นเต้นระคนตกใจ

 

“แก้ว!!.... ตื่นสิ กลับมาตามเสียงเรียกของพี่...กลับมาได้ยินไหม??” ทุกคนที่อยู่ภายนอกมองหน้ากันเลิ่กลั่กพร้อมๆกับที่เขื่อนพามีนมาอีกครั้ง หวังจะมาดูใจเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายถึงกับทำอะไรไม่ถูก มีนจึงบอกเสียงละล่ำละลั่กด้วยความตกใจ

 

“มะ...หมอ ตามหมอเร็วๆค่ะ”

 

“......”

 

“แก้ว!....ฟังพี่ ฟังพี่สิ ลืมตา...ได้โปรดลืมตา คนดี...หมอ? จริงสิ หมอ หมอ! เมียผม....เมียผมฟื้นแล้ว หมอ  ช่วยด้วย ช่วยแก้วที” เขาตบใบหน้าของแก้วเบาๆเพื่อเรียกสติก่อนจะวิ่งไปตามหมอผ่านหน้าคนทั้ง 4 ไปราวกับว่า พวกเขาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น  คราบน้ำตาที่ยังไม่ละไปจากใบหน้าหล่อสร้างความรู้สึกผิดระคนเสียใจให้กับคนเป็นแม่อย่างยิ่ง นอกจากจะทำร้าย 2 ชีวิตในห้องแล้ว เขายังทำลายลูกชายของตนเองให้เป็นไปได้ถึงเพียงนี้

 

“คุณ...ฮึก...ฉันมันเลวมากใช่ไหม? ฮึก...ลูกคงเกลียดฉันไปจนวันตาย”ภรรยาซบหน้าร้องไห้ด้วยความเสียใจกับไหล่กว้างของสามี อีกฝ่ายได้แต่พรรณนาปลอบใจ  ทุกสิ่งอย่างในโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน....สักวันพระเจ้าคงเห็นใจสักครา

 

สักพักโทโมะก็วิ่งเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับหมอและพยาบาลจำนวนหนึ่ง เขาดึงดันที่จะเข้าไปภายในห้องที่เรียกว่า ห้องยื้อชีวิต นั่นให้ได้!  สติที่กำลังเปิดเปิงของโทโมะไม่อาจทำให้คนเป็นแม่นิ่งเฉยวางใจได้อีกต่อไป มารดาเอื้อมมือไปสัมผัสแขนลูกชายแผ่วเบา  เขาหันกลับมามองด้วยแววตาเย็นชาจนผู้คนรอบข้างสะเทือนใจ!

 

“โทโมะ...แม่ขอโทษ...ฮึก...แม่ไม่ได้ตั้งใจ”

 

“.....”

 

.

.

.

“อะไรกัน?? คุณจริญญาหัวใจหยุดเต้นไปแล้วนี่?...แต่ช่างเถอะ เตรียมเครื่องปั๊มหัวใจเร็วๆ ชีพจรคนไข้เต้นอ่อนลงอีกแล้ว!” ทุกคนในห้องกระวีกระวาดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ยื้อชีวิตกันด้วยความงงงวย 

 

แม้ในใจจะรับรู้แล้วว่าแก้วยังคงมีลมหายใจ ที่แม้จะเหลือน้อยนิดแต่นั่นก็เป็นความหวังของใครอีกคนที่เฝ้ารอการกลับมาของเธอ  นี่อาจจะเป็นนิยายน้ำเน่าที่เกิดขึ้นกับชีวิตจริงของโทโมะ เขาไม่เคยเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย ตายแล้วฟื้น มันคงมีแต่ในนิยาย แต่วันนี้...ใครกัน??ใครกันที่พร่ำเรียกปาฏิหาริย์ ใครกัน?ที่ร่ำร้องโทษโชคชะตาฟ้าลิขิต ใครกัน? ถ้าไม่ใช่เขาเอง....

 

“200 จูล!!!.....เคลียร์!!!!” โทโมะมองลอดกระจกฝ้าเลือนลางเพื่อมองดูคนรักที่กำลังถูกช่วยชีวิตด้วยเครื่องไฟฟ้าอานุภาพรุนแรง  เจ็บไหม? เธอจะเจ็บบ้างไหมคนดี?

 

“โทโมะ....แกต้องตั้งสติ แกจะเป็นแบบนี้ไม่ได้!”เขื่อนเดินเข้ามาตบบ่าให้กำลังใจ เขาหันมามองทั้งน้ำตาสภาพของเขาตอนนี้ย่ำแย่ถึงขนาดที่เรียกได้ว่า ‘ดูไม่ได้’ รู้ดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน....แต่เวลาแบบนี้ไม่ใช่เวลาที่โทโมะจะมาคร่ำครวญ เขาต้องเข้มแข็งเพื่อรอต้อนรับการกลับมาของคนที่รักสุดหัวใจ

 

“ฉันรู้ว่ามันยากแค่ไหน  ตอนแม่ฉันเสีย ฉันเสียใจแทบเป็นแทบตายแต่คุณแม่ก็ไม่ฟื้น..แต่นี่ แก้วกำลังรอให้แกไปหาเขาอยู่นะ แกจะทำตัวอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้!!!” จริงอย่างที่เขื่อนพูด เขายังถือว่าโชคดีอยู่มากที่แก้วไม่ได้จากไปอย่างถาวร ดีใจได้ไม่เท่าไหร่ดูเหมือนอาการของเธอจะทรุดฮวบไปอีกครั้ง ดูจากสีหน้าของคุณหมอแล้ว เขามีความหวังได้ถึงเพียงไหนกัน???

 

“แก้ว!!! ฉันจะเข้าไปหาแก้ว...ฮึก...แก้ว!!!!” จะห้ามก็คงไม่ทันเสียแล้วโทโมะดึงดันจาการรัดกุมของเขื่อนโพล่งเข้าไปภายในห้องจนได้ เวลานี้ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่า กำลังใจ เสียแล้ว 

 

“เอาล่ะ...400 จูล!!!!” เครื่องปั๊มหัวใจไฟฟ้าแรงสูงถูกจูนเข้าหากันก่อนจะทาบลงตรงบริเวณหน้าอกของร่างที่นอนนิ่ง  ร่างบอบบางเด้งขึ้นตามแรงไฟฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ดูทีท่าว่าเธอจะยังไม่ฟื้น..

 

“.....”

 

ความเงียบสงัดเริ่มเข้าปกคลุมอีกครั้ง คุณหมอและเหล่านางพยาบาลส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ ก่อนที่นายแพทย์ใหญ่จะหันมาบอกเขาอีกครั้ง ได้โปรด...อย่าพูดคำว่าเสียใจออกมา  ได้โปรดเถิด....

 

“คุณจริญญาคงไม่ฟื้นแล้วล่ะครับ หมอเสียใจจริงๆ  เธอกลับมาไม่ได้แล้วล่ะครับ”

 

“ไม่จริง!”

 

“จริงครับ อัตราการเต้นของหัวใจแผ่วปลายลงเรื่อยๆแล้ว....คงไม่เกิน 3 นาทีต่อแต่นี้....คุณ! คุณจะทำอะไรครับ??!!”ดวงตาของคุณหมอเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าเขาคว้าเครื่องปั๊มหัวใจ 400 จูล นั่นขึ้นมาอีกครั้ง แววตาบ้าระห่ำปนหยาดน้ำตาที่ร่วงรินทำให้คุณหมออดเวทนาไม่ได้  ร้องห้าม..ก็ไม่ทันเสียแล้ว

 

“แก้ว....ครั้งสุดท้าย ถ้าเราไม่กลับมา พี่จะไปอยู่กับเรา!”

 

เขาพูดกับแก้วก่อนจะทาบเครื่องปั๊มหัวใจลงบนหน้าอกของเธอ .....  ไม่มีแล้ว ไม่มีปาฏิหาริย์จริงๆ โลกใบนี้มันหลอกลวง และโหดร้ายเกินไป  เครื่องปั๊มหัวใจหล่นจากมือของเขาเมื่อเขาไม่มีแม้แต่แรงจะกำมันไว้  แก้วไม่ฟื้น เขาต้องยอมรับ เธอตายไปแล้ว.....

 

“ทำไม ทำไม?ถึงเป็นแบบนี้! ฮึก..ทำไม????!!!!!”

 

ต่อให้ร้องไห้จนหมดตัว คิดหรือ?ว่าเธอจะฟื้น คิดหรือ?ว่าทุกอย่างจะดีขึ้น....คิดสิ เขายังคงคิด ยังคงหวังที่แก้วจะฟื้นขึ้นมา ยังคงหวังอะไรที่ลมๆแล้งอยู่ทุกวินาทีต่อจากนี้

 

“......”

 

ตึ้ด~

 

ราวกับเสียงจากแดนสวรรค์ที่ปลุกให้เขาคืนชีพจากนิทราอันเลวร้าย อ้อมกอดที่ตระกองกอดแก้วเอาไว้คลายออกเล็กน้อย ก่อนจะหันไปตามเสียงจากเครื่องวัดชีพจร  ดวงตาของโทโมะฉายแววดีใจจนล้นอก ก่อนที่คุณหมอจะทำหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง

.

.

.

.

.

.

.

 

“ถ้านี่เรียกว่าปาฏิหาริย์  ขอบคุณจริงๆ ที่พระเจ้ายังเห็นใจคืนของขวัญล้ำค่ากลับมาให้พี่”

 

 

 

 

     ตอนนี้เขายืนมองภาพที่หมอกำลังช่วยชีวิตแก้วอีกครั้ง แก้วปลอดภัยแต่ก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย...แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามการที่เธอยังมีลมหายใจ นั่นหมายถึงช่วยต่อลมหายใจของเขาไปด้วย แต่ลมหายใจของเขาต้องขาดห้วงอีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่า....ลูกน้อยจากเขาไปแล้ว แม้จะเป็นเพียงแค่ก้อนเลือดก้อนนึงที่ยังไม่เจริญเติบโต แต่ภาพที่เห็นมันทำให้เขาหดหู่ใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

 

“ลูกจ๋า.....หลับให้สบาย พ่อเชื่อว่าสักวัน เราจะได้พบกัน...อีกครั้ง”

 

.

.

.

.

.

.

    หลายวันแล้วแก้วยังไม่ยอมตื่นจากห้วงนิทราที่แสนยาวนานเสียที โทโมะเพียรพยายามทำทุกอย่าง เขาเล่านิทานให้เธอฟังทุกวัน พูดเรื่องราวต่างๆมากมาย บ่อยครั้งที่นางพยาบาลมองว่าเขาเป็นไอ้บ้าที่นั่งยิ้มนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว แต่เขากลับไม่เคยใส่ใจ 

 

“โทโมะ พักบ้างเถอะลูก”มารดาบอกเสียงอ่อย เขาไม่ได้นึกโกรธเคืองคนเป็นแม่แต่อย่างใด วันนั้นที่พลั้งไปบอกว่า เกลียด ไปก็แค่อารมณ์ชั่ววูบแต่เพียงเท่านั้น  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า...เขาจะไม่จดจำ

 

“ไม่เป็นไร ผมอยากดูแลแก้ว”เขาตอบกลับเสียงเรียบจนคนเป็นแม่รู้สึกได้และไม่ได้พูดคุยกับเขาอีก ไม่นานนักก็ขอตัวกลับไป สมควรแล้วที่ลูกจะโกรธเกลียด สมควรแล้ว เขาเป็นแม่และยายใจร้ายเอง!

 

รอต่อไปอีกประมาณสัก 3 วันเห็นจะได้ เขายังคงอยู่กับแก้วตลอดเวลาไม่ยอมไปไหนจนบัดนี้ร่างกายสูบผอมลงไปมาก เขื่อนและมีนที่มาเยี่ยมก่อนหน้ายังอดเป็นห่วงเขาไม่ได้จริงๆ คนป่วยที่ว่าน่าเป็นห่วงแล้ว แต่พอกลับมาเจอคนเป็นอย่างโทโมะ อาการยิ่งแย่ไปเสียกว่า...

 

“อือ”เสียงครางแผ่วเบาของอีกคนที่ไม่ใช่โทโมะร้องขึ้นเบาๆ แม้จะแทบไม่ได้ยินแต่ทำไมโทโมะที่หลับใหลกลับตื่นขึ้นได้ ราวกับว่าเขาสั่งตัวเองให้ตื่นเพื่อรอเสียงตอบรับจากคนบนเตียงก็ไม่ปาน

 

“แก้ว...แก้ว!”

 

 

เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆ ชีวิตใหม่ก่อเกิดขึ้นอีกครั้ง ใครจะเชื่อ?ว่าแก้วตายไปแล้ว...ใช่! แก้วตายไปแล้วจริง...หากแต่เพียงว่ายังคงมีอีกหลายคนที่ไม่อาจทราบว่า ยังมีโลกหลังความตาย โลกที่ไม่มีใครล่วงรู้หากไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ

 

“พี่โทโมะ”เสียงแหบแห้งของแก้วเอ่ยเรียกชื่อคนรักอย่างยากลำบาก เขารีบเข้ามาดูอาการเธอด้วยความเป็นห่วงจับหัวใจ  น้ำตาร้อนร่วงเผาะอีกครั้ง ดีใจ ดีใจเหลือเกินที่แก้วกลับมา ไม่มีของขวัญใดล้ำค่าไปมากกว่านี้อีกแล้ว

 

“แก้ว  แก้วจริงๆใช่ไหม? แก้วกลับมาหาพี่อีกครั้งใช่ไหม?”

 

“แก้ว....นี่แก้วเอง.....ฮึก...แก้วนึกว่าจะไม่ได้เจอพี่อีกแล้ว”แก้วรีบลุกขึ้นจากเตียงโผเข้าหาอ้อมกอดของโทโมะทันที   เกือบไปแล้วที่เธอจะไม่ได้กลับมา เกือบไปแล้วที่เธอกำลังจะก้าวข้ามอีกโลกนึงไป ถ้าไม่ติดที่ว่า เธอไม่ได้ยินเสียง...

 

แก้ว!!.... ตื่นสิ กลับมาตามเสียงเรียกของพี่...กลับมาได้ยินไหม??

 

โลกกว้างสุดลูกหูลุกตาเต็มไปด้วยสีขาวโพลน แก้วไม่สามรถมองเห็นปลายทางได้เลย รอบตัวมีเพียงหมอกควันจางๆ ทุกอย่างเงียบสงัด เธอได้ยินเพียงเสียงเรียกแผ่วเบาระคนร้องไห้ของใครบางคน ดังแว่วมาแต่ไกลก่อนจะชัดเจนขึ้นอีกครั้ง  ตอนนั้นเธอรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกเหมือนมีไฟฟ้าช๊อตไปทั่วร่าง ก่อนความเจ็บปวดจะเลือนหายไปพร้อมเสียงเรียกของใครคนนั้น  เพียงก้าวเดียวเท่านั้นที่แก้วกำลังจะข้ามไป  แต่เสียงคร่ำครวญนั้นฉุดเธออีกครั้ง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบ....

 

“จริงสิ? ลูก...ลูกล่ะ เขายังอยู่ใช่ไหม?”แก้วผละออกจากอ้อมกอดของเขาพลางเอ่ยถามด้วยน้ำตาคลอหน่วยเมื่อเห็นว่าโทโมะนิ่งงัน ไม่ชอบเลยจริงๆเวลาแบบนี้ เธอใจหายรู้ไหม? มือบางลูบหน้าท้องตัวเอง หวังเหลือเกินที่จะได้ยินคำพูดจากปากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี บอกว่า ลูกของเรายังปลอดภัย

 

“.....”

 

“ลูกจ๋า....ยังอยู่กับแม่ใช่ไหม?”เธอหันไปพูดกับลูกในท้องที่ยังคิดว่าเขากำลังรับฟัง โทโมะนิ่งเงียบไปพูดไม่ออก และน้ำตาก็ยังคงไม่หยุดไหล เขาคว้าแก้วเข้าไปกอดแน่น แค่นี้เธอก็รู้แล้ว.....

 

“ฟังพี่นะคนดี.....ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะอยู่กับเรา ฮึก....แค่พี่ได้แก้วกลับคืนมา นั่นก็วิเศษแล้ว อย่าร้อง....”ปากก็พร่ำปลอบโยนแก้วไม่ให้เธอร้องไห้ แต่ตัวเขาเองล่ะ ทั้งอ่อนแอ  ทั้งหมดแรง  เขาจะแสดงความอ่อนแอให้แก้วเห็นอีกไม่ได้ 

 

แม้จะรับรู้กลายๆว่าลูกน้อยจากไปแล้ว แต่สำนึกของคนเป็นแม่ไม่มีวันที่จะทำใจได้ แก้วร้องหลั่งน้ำตาพลางกกรีดร้องด้วยความเสียใจสุดแสน  สภาพจิตใจของเธอตอนนี้ย่ำแย่เต็มประดา ไม่มีคำปลอบโยนใดๆที่ดูดีอีกแล้ว...

 

“กรี๊ดดด.....ไม่จริง...ฮึก...ไม่ ลูกยังอยู่ ฮือออ~ พี่โกหกแก้ว.....ลูกของแก้วยังอยู่...ฮึก...ปล่อยนะ แก้วจะไปหาลูก!”แก้วดีดดิ้นออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะดึงสายน้ำเกลือที่ข้อมือออกจนเลือดทะลักเปรอะเปื้อน แดงฉานเต็มผ้าปูที่นอน  มือใหญ่ฉวยคว้าแก้วเอาไว้ พลางดึงเข้ามากอดแนบแน่น  เห็นแก้วเป็นแบบนี้เขากลับยิ่งรู้สึกว่า....เหวนรกดึงเขาสู่ความทรมานอีกครั้ง

 

“แก้ว.....ฮืออ~....อย่าทำแบ  บนี้..... อย่าทรมานพี่ด้วยกะ....การเป็นแบบนี้อีกเลย”

 

“ฮือออ~....ฮึกๆ....ไม่!!.....ปล่อย...ปล่อยแก้ว!!!!....บอกให้ปล่อยไง!!!”

 

“แก้ว!!!”

 

เธอสะบัดตัวหนีจนเขาล้มลงจะลุกวิ่งตามไปก็ไม่ทันเสียแล้ว  มันเจ็บเสียยิ่งกว่าตอนที่เห็นแก้วนอนนิ่งไร้ลมหายใจเป็นพันเท่า ถ้าการที่แก้วต้องตื่นมาแล้วไร้ซึ่งสติและวิญญาณแบบนี้ เขาจะขอให้แก้วกลับไปนอนนิ่งแบบนั้นเสียยังดีกว่า....อย่างน้อยแก้วก็ไม่ต้องมารับรู้ความเจ็บปวดแบบไม่รู้จบอย่างนี้

 

เขาเดินตามหาเธอจนทั่วทั้งโรงพยาบาล แจ้งหมอ พยาบาลก็แล้ว ทุกคนก็ยังตามหาไม่พบ  เขากลับมาเป็นไอ้บ้าคนเดิมอีกครั้ง พอกันที....เขาเดินขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาลหวังปลิดชีพตัวเองไปให้พ้นๆเสีย  เขาขึ้นเหยียบกำแพงเตี้ยๆบนชั้นดาดฟ้า หลับตา.....

 

“หากชาติหน้ามีจริง...ขอให้เราได้ครองรักกัน...อย่าได้ต้องทรมานแบบนี้ทุกชาติไป”

 

ขณะที่เท้าซ้ายกำลังจะเยื้องย่างลงสู่อากาศ เสียงสะอื้นแผ่วเบาก็ลอยมากระทบโสตประสาทของโทโมะเข้าอย่างจัง  สติของเขากลับมาอีกครั้ง!  ใช่สิ...เขายังเหลือแก้วที่ต้องดูแล  ไอ้โง่เอ๋ย! เขาได้แต่พร่ำต่อว่าตัวเองในใจที่คิดจะทำอะไรแบบนั้น การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย  มันเลวร้ายเกินไปด้วยซ้ำ

 

“แก้ว”

 

ร่างบางนั่งขดตัวพลางสะอื้นฮักอยู่หลังแท็งก์น้ำใหญ่ของดาดฟ้า สายตาเหม่อมองเบื้องหน้าราวกับคนไร้วิญญาณ เขาอดที่จะเวทนาไม่ได้จริงๆ  เขาทนไม่ไหวแล้ว ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นแก้วเป็นแบบนี้ ทนไม่ได้อีกต่อไป!

 

“แก้ว..... ไปกับพี่...ไปหาลูก” โทโมะพุ่งตรงเข้าไปกอดพลางเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลเปรอะใบหน้าสวย ไม่มีอีกแล้ว แก้วคนเดิม คนที่เคยร่าเริง สดใส  ไม่มีอีกแล้ว  อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นถึงกับรีบพยักหน้ารับ ตอนนี้เปรียบได้กับแก้วเป็นเพียงเด็กทารกที่ต้องคอยได้รับการดูแลจากคนเป็นพ่อ และแม่  เขาช้อนอุ้มแก้วก่อนจะพาออกทางหลังโรงพยาบาลแล้วขึ้นรถขับออกไป

 

ไปในที่ที่ไม่มีใคร นอกจากเธอกับเขา...

 

เขาจะดูแลเธอตราบจนลมหายใจสุดท้าย...

 

.

.

.

.

.

.

 

3  ปีกว่าๆแล้วที่ไม่มีใครรู้ว่าทั้งโทโมะและแก้วหายไปไหน  ไม่มีแม้แต่ข่าวสารให้รับรู้ว่าคนทั้งคู่ปลอดภัย พ่อแม่ญาติพี่น้องของคนทั้งคู่ได้แต่ยอมรับชะตากรรม และคิดว่าคนทั้งคู่คงตัดสินใจดีแล้วจึงทำได้เพียงร่วมอวยพรให้พวกเขาปลอดภัยแต่เพียงเท่านั้น

 

 

 

 

 

 

                เสียงคลื่นของท้องทะเลราวกับบทเพลงที่กำลังขับกล่อมร่างเล็กที่นอนในเปลที่ผูกกับต้นไม้ทั้ง 2 ต้นไว้ริมชายหาด  เธอมีแพขนตางอนยาวรับกับใบหน้าหวานละมุนได้เป็นอย่างดี ความอ่อนโยน ไร้เดียงสาปรากฎให้เห็นในตัวเองได้อย่างเด่นชัดแม้เธอกำลังอยู่ในห้วงนิทรา ... สายลมที่พัดผ่านจากทะเลกว้างมันช่างอบอุ่นและหนาวเหน็บได้ในคราเดียวกัน คนในเปลยกมือกอดตัวเองเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่าลมหอบใหญ่พัดกระทบผิวกายเนียน น่าแปลก....ทั้งที่อยู่กับทะเลแต่ทำไมผิวพรรณของเธอถึงได้เกลี้ยงเกลาและขาวราวกับใยไหม  ราวกับไม่เคยต้องแดดต้องลมเลยแม้แต่น้อย...

 

“หนาวแล้ว...ตื่นเลยเด็กขี้เซา” ร่างบางขยับตัวเมื่อรู้สึกว่าใครบางคนบีบจมูกเธอเล่นๆด้วยความหมั่นเขี้ยว

 

“......”

 

“อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิแก้ว....เขาอยู่กับเราแล้วไง เขาเป็นลูกคนเดิมของเรา” แก้วเอนกายขึ้นนั่งราเท้ากับพื้นทรายละเอียด พลางส่งยิ้มอ่อนๆให้ชายที่รัก  โทโมะนั่งยองๆก่อนจะก้มจูบลงบนหน้าท้องของเธอ...ใช่!  เธอกำลังท้อง เขากำลังจะมีลูกด้วยกันอีกครั้ง....

 

“แก้วกลัว...กลัวว่าเขาจะจากเราไปอีก”

 

“ไม่มีใครพรากเราจากกันได้อีกแล้วนะเด็กน้อย...พี่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่มีอะไรที่แก้วต้องกลัวอีกต่อไป ฟังพี่นะ....ลืมทุกอย่างในอดีตให้หมด เราจะอยู่กับปัจจุบัน...ถ้าแก้วไม่สบายใจเดี๋ยวเราจะไปทำบุญให้ลูกกัน โอเคไหมคะ?^^”

 

แก้วส่งยิ้มเจือจาง พยายามลืมเรื่องราวที่โหดร้ายแม้จะเจ็บปวดแค่ไหน? เพราะบางที...การจมปลักอยู่กับอดีตที่ไม่มีวันหวนคืน นอกจากจะทำให้มีแต่ทุกข์ใจแล้ว ยังพลอยทำให้คนอื่นเป็นห่วงเสียอีกด้วย

 

“ค่ะ....ว่าแต่ นานแค่ไหนแล้วที่เรา อยู่ที่นี่?”

 

.

.

.

.

.

.

 

         หลังจากวันที่โทโมะพาแก้วหนีออกมาจากโรงพยาบาล เขาพาเธอมายังภูเก็ต สถานที่ที่เขาใฝ่ฝันมานมนานว่าจะพาคนรักมาที่นี่ให้ได้ ก่อนหน้านี่ก็มีแต่เรื่องราววุ่นวายต่างๆถาโถมเข้ามา เขาเลยยังไม่ได้พาแก้วมาเสียที  นี่ถือเป็นโอกาสดีของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขาและเธอ..

 

“เฮ้ย...โทโมะ แกหายไปเลยนะ เงินปันผลปีนี้แกได้รับแล้วใช่ไหมว่ะ?” ชายร่างสูงผมยาวเคลียไหล่เดินเข้ามาทักด้วยความดีใจ ‘พายุ’ เพื่อนชายคนสนิทนอกเหนือจากเขื่อน ของโทโมะ ทั้งพายุและโทโมะลงทุนทำธุรกิจรีสอร์ทที่นี่ด้วยกัน เนื่องจากพายุเองก็คิดจะปักหลักอยู่ที่นี่อยู่แล้ว และจำได้ว่าโทโมะเคยพูดเอาไว้ว่าอยากมาอยู่ที่นี่ เขาเลยลงทุนร่วมกันมาประมาณ 2 ปี นับจากวันที่โทโมะจบจากวิทยาลัย....

 

“ได้รับแล้ว...ขอบใจแกมาก ขอโทษด้วยที่ไม่ค่อยได้มาช่วยเลย”

 

“อะไรกัน? ไม่เป็นไรหรอกน่า...เรื่องเล็กน้อย ฉันก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย...อ้าว?แล้วนี่???”พายุหันมาสบสายตากับแก้วที่ยืนซ่อนตัวอยู่ด้านหลังโทโมะพอดี เป็นเชิงถามว่า นี่ใคร?

 

“นี่แก้ว...แฟนฉัน  เราจะมาอยู่ที่นี่”

 

“พูดจริง? ดีเลยๆ...ว่าแต่ โทโมะ...เกิดอะไรขึ้นที่ฉันไม่รู้?” พายุดูท่าจะสนอกสนใจเรื่องราวของเพื่อนรักมากเป็นพิเศษ  เขาสงสัยอาการแปลกๆของแก้วที่ดูเหมือนจะหวาดกลัวอะไรสักอย่าง นัยน์ตาเศร้าโศกพร้อมที่จะหลั่งน้ำตาได้ทุกเมื่อ 

 

“ไว้เล่าให้ฟังวันหลัง....ตอนนี้ฉันขอพาแก้วไปพักก่อน”

 

“โอเคๆ...เอ้อ...นี่ กุญแจบ้านพักส่วนตัวของแกแม่บ้านเพิ่งเอามาคืน เพิ่งทำความสะอาดเสร็จเมื่อกี๊เชียวล่ะ^^...พักผ่อนเยอะๆนะครับคุณแก้ว” เขายื่นกุญแจบ้านให้เพื่อนรักก่อนจะหันไปพูดกับแก้ว ที่อีกฝ่ายเอาแต่เหม่อลอยจนพายุเงียบไป พอจะรู้แล้วล่ะ...ว่าโทโมะกำลังไม่สบายใจเรื่องอะไร? เขาจึงไม่เซ้าซี้ที่จะถามต่อ

 

“ขอบใจมาก..เดี๋ยวฉันไปก่อนล่ะ”

 

“เดี๋ยวเจอกันๆ”

 

เขาพาเธอมาพักยังบ้านพักส่วนตัวของเขาที่นี่ แรกๆแก้วก็เอาแต่นั่งเหม่อไม่ยอมพูดยอมจา ข้าวปลาไม่กิน จนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้ บ่อยครั้งที่ผู้ชายที่ว่าเข้มแข็งอย่างเขายังต้องร้องไห้  นาทีนั้นมีเพียงพายุที่ช่วยให้คำปรึกษา

 

ใช้เวลาอยู่เกือบปีเหมือนกันกว่าที่เขาจะฟื้นฟูสภาพจิตใจของแก้วได้ จนตอนนี้เริ่มหายเป็นปกติ ตอนที่แก้วรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูกอีกครั้ง  เธออดหวั่นใจไม่ได้ กลัวทุกสิ่งอย่าง เธอคงอยู่ไม่ได้แน่ๆหากว่าต้องสูญเสียลูกไปอีก…

 

แต่ถึงกระนั้น  สิ่งที่ทำให้แก้วยิ้มได้อีกครั้งก็คือเขา..โทโมะ! คนที่คอยดูแลเธอทุกอย่าง สิ่งเดียวที่เธอจะตอบแทนให้เขาได้ก็คือ...การกลับไปเป็นคนเดิม คนที่เคยมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะคนเก่า และนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดในตอนนี้!

 

.

.

.

.

.

 

“เกือบจะ 4 ปี แล้วล่ะ....คิดถึงบ้านเหรอ?”

 

“คิดถึงสิ... บ้าน พ่อ แม่ แล้วก็พี่ฟาง...ยัยมีน  ยัยแบม แก้วคิดถึงทุกคน”

 

“พี่พาแก้วกลับไปแน่ๆ...แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ รอเจ้าตัวเล็กคลอดก่อนสิ พี่ไม่อยากให้เราเดินทางไกลๆ” เขาเดินกุมมือแก้วไปตามแนวชายหาดที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ขอบฟ้าสีส้มอ่อนๆยามเย็นตัดกับสีน้ำทะเลเขียวมรกต ที่นี่คือถิ่นสวรรค์ย่อมๆเลยก็ไม่ปาน

 

อุ้งมือที่อบอุ่นของโทโมะทำให้แก้วรู้สึกปลอดภัย มันยากเกินจะอธิบายกับความรู้สึกต่างๆจริงๆ จะมีใครอีกไหม?ที่ใส่ใจอีกคนโดยไม่นึกถึงตัวเอง จะมีใครอีกไหม?ที่ทุ่มเททุกอย่างด้วยการละทิ้งทุกสิ่งเอาไว้เบื้องหลังเพียงเพื่อที่จะได้ดูแลเธอ จะมีใครอีกไหม? ถ้าไม่ใช่เขา..

 

“พี่รักเรามากรู้ไหม? วันที่แก้วหมดลมหายใจไป...พี่ทรมานเหมือนคนตายทั้งเป็น เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่จะเยียวยาพี่ได้ก็คือ....รอยยิ้มของแก้วให้พี่ได้ไหม?”เขาเอ่ยขอด้วยน้ำเสียงเว้าวอนพลางสวมกอดจากทางด้านหลังของแก้ว พร้อมก้มจูบกลุ่มผมหอมของคนในอ้อมกอด

 

“ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ชีวิตแก้วอีกครั้ง และขอบคุณที่ทำให้แก้วได้เจอกับพี่ แก้วรักพี่นะ พี่โทโมะ”แก้วพลิกตัวกลับมาทางเขาก่อนจะส่งยิ้ม รอยยิ้มที่เปลี่ยนวันที่หมองหม่นให้กลายเป็นวันที่สดใสได้ในพริบตา เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นแตะจูบเขาอย่างอ่อนโยน

 

เพียงแค่รอยจูบแผ่วเบา...แต่ทำไมมันถึงได้ตราตรึงในหัวใจได้ถึงขนาดนี้....

 

รักเป็นเพียงนามสั้นๆ ที่ผู้คนหลากหลายให้ความหมายเป็นร้อยล้านคำ แต่สำหรับโทโมะและแก้วแล้วไม่ว่าจะกี่หมื่นล้านความหมายก็ไม่อาจลึกซึ้งเท่าการกระทำและความเข้าใจ 

 

ความรักที่อัดแน่นจนล้นอกต่อให้พูดระบายให้ใครอีกคนฟังทั้งวี่วันก็ไม่สามารถถ่ายเทมันออกไปจนหมดได้ จากนี้ก็รอเวลาที่ลูกน้อยจะลืมตาขึ้นมาเท่านั้นโทโมะจะพาแก้วและลูกกลับไป กลับไปในที่ที่เคยจากมา กลับไปพร้อมกับชีวิตที่สดใส ไม่มีอดีตที่เลวร้ายเจือปน.....

 

“แต่งงานกับพี่นะ”

 

จริงสิ...ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้แต่งงานกับเขาเลยนี่นา แก้วพยักหน้าน้อยๆก่อนจะซุกใบหน้าหวานลงกับแผงอกอุ่นของเขา  .......  พิธีการไม่ได้ถูกจัดอย่างใหญ่โตอะไรเพียงแค่ซุ้มดอกไม้และแขกเหรื่อก็ล้วนแต่เป็นพนักงานที่รีสอร์ทและพายุก็เท่านั้น

 

เขาบรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างทะนุถนอมก่อนจะก้มจุมพิตแผ่วเบา ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดี และคลื่นทะเลพลิ้วไหว ดูงดงาม...จะหาความสุขแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก? ไม่มีอีกแล้ว....

 

“I love how she makes me feel.”

 

“^^”

 

.

.

.

.

.

.

 ตอนนี้รวมๆก็ 5 ปีเต็มที่ไม่มีใครพบเจอโทโมะและแก้วอีกเลย

 

“เมื่อไหร่?...เมื่อไหร่ที่ตาโทโมะจะกลับมา...ฮึก....แม่คิดถึง”คนเป็นแม่รำพึงรำพรรณกับสามี  ที่ตอนนี้มีทั้งเขื่อน มีน และพอแม่ของแก้วอยู่ด้วย ทุกคนมารวมตัวกันที่บ้านของโทโมะเพื่อที่จะติดตามหาคนทั้งคู่ อย่างน้อยๆแค่ได้รู้ว่าปลอดภัยก็ยังดีไม่ใช่เงียบหายไปแบบนี้

 

แม้พ่อกับแม่ของแก้วยังคงไม่พอใจแม่ของโทโมะอยู่บ้างที่เป็นสาเหตุให้ทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ โกรธแค้นกันไปก็รังแต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ทางเดียวตอนนี้คือ...ช่วยกันเท่านั้น

 

“แม่....ฟางเป็นห่วงยัยแก้ว”

 

“ใจเย็นๆก่อนยัยฟาง เราต้องช่วยกันคิดว่ามีที่ไหนบ้างที่เขาน่าจะไป?”

 

ทุกคนต่างง่วนกับการคิดหาสถานที่ต่างๆ จนไม่ได้สนใจอะไรภายนอกมากนัก สิ่งแรกที่เขื่อนคิดออกก็คือ....

 

“ภูเก็ตหรือเปล่าครับ? โทโมะมันบอกว่าจะพาแก้วไปให้ได้???”

 

“ตอนนี้  ที่ไหนก็ต้องลองดูทั้งนั้น ไปกันเถอะ!”ทุกคนกระวีกระวาดเก็บข้าวของและสัมพาระเล็กน้อยก่อนจะพากันออกเดินทาง และยังไม่ทันที่จะพ้นประตูบ้าน...

 

 

.

.

.

.

.

.

.

 

 

“จะไปไหนกันเหรอครับ?”

 

“โทโมะ  แก้ว!!!!”

 

 

 

                                                    THE END

 

 

............................................................................................................................

                                              ในที่สุด>O<

แท่น แทน แท๊นนนน~~~  ก็จบได้ซะที (ฟู่ววว โล่ง>3<) หลังจากงี่เง่ามานานพอสมควร-*-

ก่อนอื่นขอเเนะนำตัวหน่้อย เค้าชื่อนุก (ไม่มีใครอยากรู้!) อายุ 16 (ไม่มีใครอยากทราบอีกนั้นแหละ-*-)

กับเรื่องนี้ขอสารภาพแว่...กะจะแต่งแค่ตอนเดียวจบ*O* แต่งตอน 2 เล่นๆ มันก็เลยมาถึง 41 ตอน( _ _ )

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามฟิคงี่เง่าเรื่องนี้ -*- ขอบคุณจริงๆจ้าาา^O^ 

คำถามแรกและคำถามสุดท้าย??

คุณคิดยังไงกับฟิค(งี่เง่า)เรื่องนี้ : ...(บ้าบอ ไร้สาระ ค้าง อึนๆ อะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้เรื่อง(เหมือนจะด่าตัวเอง--*)

555+ วื่อวึงมาเยอะล่ะ งั้นฝากเรื่องข่าวลือ(ที่ไม่รู้จะอัพเมื่อไหร่ด้วยแล้วกัน><) วันนี้ราตรีสวัสดิ์ ซารางแฮโยยยย

      ปล.กะจะให้จบตั้งแต่ตอนที่แล้วT^T เนื่องจากไม่มีใครเอา! และไรเตอร์โดนด่า(เพื่อนเค้าด่าเองTToTT)มึงจะแต่งให้นางเอกตายทำบ้าอะไร?? นั้นแหละT___T ไปละจุ้บๆ                       

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา