สายลม ...... แห่งรัก

9.8

เขียนโดย กวนมึนตึบ

วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 01.06 น.

  4 ตอน
  12 วิจารณ์
  7,684 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 20.39 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) สายลมผู้หวังดี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

สายลมผู้หวังดี

 

 

 

 

 

 

 

 

หากเปรียบเธอเป็นเหมือนความอบอุ่นของพระอาทิตย์ยามเช้า เช้าแรกผมก็อยากตื่นมาเจอความอบอุ่นของมัน ให้หัวใจที่หนาวเย็นกลับอุ่นลง และ ผมก็ขอเปรียบตัวเองเป็นลมหนาวที่พัดพาเสี้ยวความอบอุ่นที่เธอมีให้ไปด้วยทุกที่ ทั้งที่มองเห็น แต่สัมผัสได้แค่ไอจางๆ ทั้งที่พยายามเข้าใกล้ แต่ผมกลับโดนสายลมที่เหน็บหนาวพัดพาให้ห่างไกล 

 

ความหวังดีที่มีให้ไปแต่เค้ากลับไม่เคยมองเห็น มันก็เหมือนกลับสายลมที่รู้สึกได้ แต่จับต้องไม่ได้เอามาเป็นของตัวเองไม่ได้ แต่แค่ได้ทำอะไรดีๆให้เค้าเราก็สุขใจแล้วไม่ใช่หรอ แต่จะมีใครคิดแบบนั้นกันใช่ไหม ทุกคนก็อยากที่จะมีความสุขและสมหวัง ดีกว่าการ 'รักเค้าข้างเดียว' ดังเช่นผมในตอนนี้

" ตะวัน " หญิงสาวที่เป็นรักแรก และรักเดียวที่เกิดขึ้นในใจของนายลมหนาว

"ลมหนาว "ผู้ชายที่แอบรักเพื่อนสนิท ขอแค่อยู่ใกล้เธอก็สุขใจ แค่คอยหวังดี อยู่ข้างๆตรงนั้น ที่ๆตะวันให้ยืน รออยู่ตรงนั้นเสมอ แต่ใครจะไปรู้ว่าสายลมก็เจ็บปวดเป็น ถึงจะมองไม่เห็น แต่ทุกสิ่งมันสัมผัสได้ว่าสายลมกำลังอ่อนกำลังลงไปทุกที

 

"ลมหนาว วันนี้บอกอาจารย์ให้ด้วย เราป่วยนะ แต่จะไปเที่ยวกับพี่ หนึ่ง อ่ะ  " สายโทรศัพท์เรียกเข้าทำให้เค้ารู้ได้ในทันใดว่าใครโทรเข้ามา พอรับสายเสียงใสๆก็กรอกเข้ามา 

' ตะวัน ' ชื่อผู้หญิงคนแรกที่เข้ามาทักทายหัวใจผม และเพื่อนสนิทตอนเด็ก และรักแรกที่เค้าทำได้เพียงเฝ้ามอง ไม่ว่าเธอจะผิดสักแค่ไหน ผมก็พร้อมจะอยู่ข้างเธอ ในวันที่เธอไม่เหลือใคร ผมอาจเป็นคนสุดท้ายที่เธอคิดถึง แต่อย่างน้อยขอให้เธอคิดถึงผม และผมก็จะรอเธอที่เดิมตรงนั้นที่เธอให้รอต่อไป ถึงผมต้องทนเจ็บปวดใจมากก็ตาม

 

"อือ เดี๋ยวลมเลคเชอร์ไว้ให้ เที่ยวให้สนุกนะ " แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ผมชอบเวลาที่เธอมีความสุขมากกว่าทำหน้าเศร้าและมีน้ำตา หากความสุขของเธอมีมากมาย แต่ขอสักเรื่องหนึ่งที่ผมพอจะทำให้เธอมีความสุขได้ ผมก็พร้อมที่จะทำ ถึงใครอาจจะมองว่าผมบ้า หลอกตัวเอง แต่ผมก็ยังทำมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะนั้นมันคือความสุขเล็กๆที่เธอมีให้ผม

" ขอบใจมากจ้าาา นายพ่อพระ น่าร๊ากกก ที่สุด " เสียงใส ที่บ่งบอกว่ากำลังมีความสุขความรักของเธอกับรุ่นพี่คนใหม่ หลังจากที่เลิกลากับรุ่นพี่อีกคนไปเมื่อเดือนที่แล้ว คงกำลังไปได้ดี แล้วเธอก็ตัดสายผมไป 

 

ผมลุกจากเตียง หันตัวไปมองตัวเองในกระจก ยิ้มน้อยๆให้ตัวเอง จะคิดอะไรมาก

"นายมันก็แค่สายลมที่อยู่รอบตัวเค้า หวังดีแต่เค้าไม่เห็น ตลกเป็นบ้า " บอกตัวเองทุกเช้า ก่อนที่จะทำอะไร หน้าของตะวันจะลอยมาทุกเช้าที่ผมตื่นและมาในความฝันตอนผมหลับตา

 

วันนี้ผมมีเรียนตอนเช้า และตอนบ่าย ผมทำธุระส่วนตัว แล้วเดินออกมาปากซอยทางเข้าบ้าน เพื่อมารอรถประจำทาง ใจก็พาลนึกไปถึงอีกคน ที่วันนี้ไม่ได้ไปเรียนจะรู้เรื่องรึเปล่านะหากมีสอบ

 

ปริ๊น ปริ๊นนนนนน 

 

รถคันสวยเข้ามาจอดเทียบทางเท้า แล้วสักพักกระจกอีกด้านของคนขับก็ค่อยๆเลื่อนลง 

"ลมหนาว จะไปเรียนหรอ ไปด้วยกันไหม " เสียงใสดังร้องทักออกมาจากรถคันสวย ทำให้ผมจำได้ในทันที 'ตะวัน' แต่พอเงยหน้าขึ้นมองสายตาผมก็ไปอยู่ในระดับที่เห็นสายตาอีกคู่มองมาอย่างมีคำถาม ใจผมกระตุกวาบ

'ผมจะกลายเป็นตัวซวยทำให้เค้าคิดมากกันไหมนะ'

 

"คือ หวัดดี'ครับพี่ " ผมยกมือไหว้คนที่มองมาอย่างสงสัย เค้าคนนั้นเพียงแค่พยักหน้าส่งๆ แล้วหันลูบหัว คนที่อยู่ข้างอย่างเอ็นดู แล้วเค้าทั้งสองก็หันไปยิ้มและส่งสายตาให้กันอย่างมีความหมาย

'อย่างนั้นเค้าเรียกเหมาะสม แต่มึงอ่ะลมหนาวเค้าเรียกไม่มีสิทธิ์' คิดแล้วมันก็หน่วงๆแบบมีความสุขดีนะครับ ได้แค่มองเค้าคอยสนับสนุนเค้า กลัวพูดออกไปจะเสียเค้า กลัวที่มันใกล้แค่ตัว จะกลายเป็นไกลออกไป และไม่มีทางใกล้อะไรได้อีกเลย 

 

" ขึ้นรถสิน้อง เพื่อนตะวันหรอ เดี๋ยวพี่แวะส่ง " เค้าถามผมแต่กลับไม่ชายตามามองผม ทำเหมือนผมไร้ตัวตนงั้นแหล่ะ แต่ยังดีที่เค้าดูเหมือนจะใส่ใจตะวันดี เพราะเธอยิ้ม อย่างที่ไม่เคยยิ้มให้ผม แต่พอเห็นอย่างนี้ ผมก็อยากสารภาพออกไป แต่มันก็หมดหวังสะแล้วล่ะ ถ้าผมสารภาพนั้นมันคงเป็นการตัดขาดความสัมพันธ์

 

ตอนนั้น ผมกับเธอดูหนังเรื่องหนึ่ง  เรื่อง 'เพื่อนสนิท' นะครับ

 

 "ตะวัน ถ้าเป็นแบบในหนังเธอจะทำไงหรอ " ผมพยายามทำตัวให้ปกติ ถามเสียงเรียบๆเหมือนไม่ใส่ใจ ตะวันเธอก็หันมาทำหน้ามุ่ย

"ทำไมหรอ หรือว่า ลมหนาวเป็นแบบนั้น กับเรา " เสียงเธอ ถามเสียงใส ในดวงตากำลังมั่นใจว่ามันเป้นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้นกับผมและเธอแน่นอน 

'ตะวันจะรู้ไหมนะ ว่าลมหนาวมันเริ่มเปลี่ยนทิศทางซะแล้ว มันเริ่มจะทรยศตะวันที่ให้แสงอบอุ่นซะแล้ว '

 

" ก็แค่อยากรู้ " เสียงเรียบที่พยายามกลบเกลื่อนมันออกไป และดูเหมือนมันจะได้ผล หน้าที่ดูไม่สบอารมณ์ของเธอกลับยิ้มสดใส 

"เราก็แค่คิดว่า เราไม่ชอบเลย มันอึดอัด เรารับไม่ได้กับคนที่เรามองว่านั้นคือเพื่อน เสมอมา แต่ลมหนาวนายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เราไว้ใจนาย " ก็เพราะคำว่าไว้ใจ ถึงผมอยากจะทำอะไรเท่าไหร่ คำว่าไว้ใจมันเหมือนกำแพงสูงที่ผมไม่สามมารถก้าวผ่านไปได้ทุกที อีกสีหน้าที่เธอพูดกับผม ผมไม่อยากเสียการมองเห็นเธอไป ผมอยากเป็นคนที่ถึงเธอมองไม่เห็นแต่ก็ไม่ลืมว่าผมมีอยู่

" แน่นอน " ผมตอบแค่สั้นๆ ท่าทางเธอก็ดูโล่งใจมาก แต่ในใจผมสิ แน่นอน ว่าผมทำไม่ได้หรอก 

 

"ลมหนาว ลมหนาวววววว ตาบ้าลมหนาวววววว " เพี้ย ฝ่ามือเล็กๆ ฟาดลงต้นแขนไม่ไม่เบานัก ก่อนที่สติที่เลื่อนลอยจะกลับมา

"อือ เออะ ว่าไงตะวัน " ผมหันไปมองคนที่นั่งคู่กันด้านหน้า ไม่เข้าใจผมขึ้นมาบนรถคันนี้เมื่อไหร่ แต่สังเกตุสายตาหนึ่งคู่มองผมแบบห่วงใย แต่สายตาอีกคู่ของคนที่ผมรู้สึกอิจฉาและอยากอยู่ที่ตรงนั้นกลับมองผมด้วยความไม่พอใจ

"ถีงแล้วล่ะ ช่วยหน่อยนะ เราจะซื้อหนมมาฝากแหล่ะ " ผมเงียบไปสักพัก ในหัวผมมันโล่งไปหมด ผมต้องทำอะไรก่อน ตอนนี้ ผมต้องมีสติ ผมต้องทำตัวปกติ แต่ผมกลับรู้สึกรนรานกับสายตาอีกคู่ที่แสดงความไม่พอใจที่ผมมีอยู่ ผมอยู่ข้างๆเหมือนเงาที่เค้าไม่ไว้ใจ

 

"ถึงแล้วครับน้อง ลงไปเรียนได้แล้วมั้ง " สุดท้ายเค้าก็คงไม่ชอบขี้หน้าผมจริงๆ ดูน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าไม่ชอบใจ ผมไม่รอช้าก้าวลงจากลงทันที

"ไปแล้วนะตะวันเที่ยวให้สนุกนะ " ผมยิ้มซึมให้เธอ เธอก็เลื่อนกระจกรถขึ้นแล้วรถก็ขับออกไป มันไกลออกเป็นเรื่อยๆ ขาผมมันไม่รักดีอยากจะวิ่งไปให้ใกล้เค้า แล้วตะโกนดังๆ ว่าอย่าไป อย่าบอกว่า เราเป็นห่วง อยากบอกว่าอยู่กับเรานะ เราพร้อมจะดูแลเธอ แต่

"โถ่เว้ย เป็นเราไม่ได้หรอ ตะวันเราไม่อยากให้เธอเสียใจถ้าเป็นเรา เราคงไม่มีวันทำให้เธอเจ็บปวด " ผมรู้ดีกฎของเพื่อนและการแอบรัก คือแสดงออก ว่า 'รัก' ไม่ได้ ผมยิ้มให้กับความโง่ และความกลัวของตัวเอง กำแพงที่ผมก่อนับวันยิ่งจะสูงเสียดฟ้า 

 

พักกลางวัน 

 

"ไง ไอ้ลม ยัยตะวันแรง แสงแทงตา ไปไหนล่ะ " กิจเพื่อนที่รู้ดี และสมเพชผม มันจะคอยด่าผมแรงๆ ให้สำนึก แต่ผมกลับเอาคำมันไปคิดเสมอ แต่สมองมันไม่สั่งการ หัวใจผมมันดันเป็นใหญ่แทนซะได้

" ไปกับพี่หนึ่ง วันนี้ลาป่วย ไปกินข้าวกันมึง " กิจทำหน้าเอื้อม แล้วส่ายหัว

"ไอ้ลมกูขอโทษล่ะ มึงจะรีบโง่ไปแทนควายไปไหน มึงดูไม่ออกหรอว่ายัยนั้น ไม่มีมึงในสายตา คนชอบมึงก็เยอะ มึงทำไมปิดตายตัวเองว่ะ มึงทำอะไรให้มันตั้งหลายอย่าง ยัยนั้นไม่โง่หรอก แต่สักวันที่มึงทำมันจะเป็นปัญหา  " ผมรู้ดีว่าตะวันมองผมเป็นแค่เด็กข้างบ้าน ที่เอาไว้ใช้งาน

 

ย้อนไปตอนปีหนึ่ง เธอเดินออกมาหน้าห้องน้ำ ผมเห้นเธอลืมหยิบทิชชูผมเลยเดินจะเอาไปให้ แต่เธอก็ได้จากเพื่อนต่างสาขาแล้ว ผมก็กำลังจะเดินกลับไปยังห้องเรียน ที่อาจารย์ยังไม่เข้าสอน ก็ต้องชะงัก

 

"ตะวัน ผู้ชายที่นั่งข้างเธอ แฟนเธอหรอ " เสียงหญิงสาวคนหนึ่งถามขึ้น ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แต่ในนั้นมันมีชื่อผม และผมก็อยากรู้ว่าตะวันรู้สึกว่าผมเป็นอะไรสำหรับเธอ

"จะบ้าหรอ เด็กข้างบ้าน เล่นด้วยกันสมัยเด็ก " เธอตอบเสียงเรียบ ผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บแปลบอะไร แต่แค่น้อยใจในสิ่งที่เธอมองผม เพื่อน ยังไม่ให้เป็นเลยหรอ

 

"ยัยตะวัน ไม่ใช่ฉันขอนะ ฉันแอบมองตั้งแต่รับน้อง " เสียงหญิงสาวในนั้นหัวเราะแจ่มใส 

"เชอะยัยนี่ ใครดีใครได้ ฉันเล็งไว้ก่อนเธอ " ผมมันตัวอะไรกันนะ 

"ก็เอาไปเถอะ ลมหนาวเค้าก็แค่ช่วยฉันเลคเชอร์ ก็แค่คนที่มีไว้ เวลาฉันไม่มีข้ออ้างกับพ่อแม่ อยากได้ก็จีบเอาเองแล้วกัน " นั่นไง สิ่งที่ไอ้กิจมันบอกผม ผมรู้มาเสมอ แต่ผมก็เลือกที่จะหลับตา หากความรักเกิดจากความใกล้ชิดจริงๆ ความรักของผมคงเกิดจากความเข้าใจผิดเป็นแน่แท้ เพราะคิดว่าเราอยู่ด้วยกันเสมอ คิดว่ายังไงตะวันก็มีแค่เค้า และคิดเข้าข้างตัวเองว่าตะวันคงรู้สึกเหมือนกัน

 

"ไอ้ลม ไอ้ลม ไอ้หอกเว้ย โทรศัพท์มึงแหกปากจะขาดใจตายแล้ว " ผมหลุดจากภวังค์ด้วยเสียงที่มีน้ำโหของคนใจร้อนอย่างไอ้กิจ 

"เอออ รู้แล้วๆ " มันมองหน้าผมอย่างไม่พอใจ เพราะมันไม่ชอบที่ผมเป็นทุกข์ ทั้งที่คนที่มีความสุขไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย 

"ครับ ลมหนาวครับ " ผมรับโทรศัพท์ ทั้งที่ตายังจ้องไอ้คนโมโหข้างๆ มันแทบจะกัดผมแล้ว 

"ฮึก ฮือ ลมหนาว นายมัน ฮือ ทำไมหรอ มันไม่จริงใช่ไหม " ปลายสายสะอื้น สติผมที่เลื่อนลอยกลับมา

 

"ตะวัน เป็นอะไร ใครทำอะไร " ผมควบคุมตัวเองแทบจะไม่อยู่ อยากให้เค้ารู้ผมห่วงเค้าขนาดไหน 

"ฮืออออ พี่หนึ่งบอกว่า ฮึก ลมหนาวคิดไม่ซื่อกับเรา เราไม่ชอบเลย พี่หนึ่งบอกให้ลมหนาวเลิกยุ่งกับเรา ฮือ ฮึก " เสียงเธอร้องไห้อย่างหนัก และผมก็รู้ว่าไม่ใช่เพราะผม 

"แต่ลมไม่ได้คิดเกินเลยกับ ตะวันนะ คุยกับพี่หนึ่งได้ไหม " ผมพยายามตั้งสติ ทั้งที่ทรมาน ทำไมผมถึงกลายเป็นคนที่ทำร้ายตะวันไปได้ 

"ว่าไง เลิกยุ่งกับแฟนกูซะนะ หรืออยากให้กูเลิกกันแทน " นาทีนั้นผมจุก ไอ้กิจตบโต๊ะดังปังแล้วแย่งโทรศัพท์ไปตะคอกใส่ทันที

 

"ว่าไง มึงจะหวงก้างไร เค้าเพื่อนกัน มีปัญหาหรอ มาดิ กูจะรอกล้าไหมมึง " ไอ้กิจมองหน้าผมที่ซีดยิ่งกว่ากระดาษ ผมทำอะไรผิดหรอ ผมแค่อยู่ในที่ของผม มันทำให้เค้าทั้งสองรำคาญรึเปล่า

"เอ้า ยัยนั่นจะคุยด้วย " กิจเอาโทรศัพท์วางใส่มือผม ผมยกมันขึ้นด้วยมือสั่นเทา

"ลมหนาว เลิกยุ่งกับเราเถอะนะ เราไม่อยากเลิก ฮือ ฮึก กับพี่ หนึ่ง ฮือ  " ผมเงียบ ใจมันหล่นวูบ สมองผมตอกย้ำแต่คำว่าเลิกยุ่งซ้ำๆ หัวใจผมกดลึกลงไปมีแต่เสียงสะอื้น ผมทรมาน ผมควรทำไงดี ผมยังมีทางเลือกไหม ผมยังจะเห็นเค้ารึเปล่า ผมต้องสูญเสียการมองเห็นเธอไปตลอดกาลไหม 

 

"ครับ ถ้ามันดีแก่ทุกคน ตะวัน ก็โชคดีนะครับ "แล้วปลายสายก็ตัดไป เหลือไว้แค่ผมที่น้ำตามันตกใน หัวใจมันหลุดลอยไปไกล เหลือไว้แค่รอยยิ้มสุดท้าย ที่ยิ้มให้เธอไปดีทั้งน้ำตา 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 แหะๆ ขอบคุณนะค่ะที่เข้ามาอ่าน เรื่องบ้าบอคอไม่ดีต้องไปซ้อม (เกี่ยวไหม) เรื่องนี้ไม่มาม่านะค่ะ โรแมนติก คอมมาดี้ น่ารักสดใส (อย่าไปเชื่อมัน) แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่าาาาาา

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา