ศิรญา

-

เขียนโดย ศิรญา

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 12.41 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  336 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) จิตวิปลาส

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
-จิ ต วิ ป ล า ส-
.
          พวกเธอที่ยังอยู่ตรงนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วเป็นห่วงกันหรือฉันแค่คิดไปเอง หมายถึงเป็นห่วงว่าฉันคนนี้จะเป็นยังไงต่อหลังจากโดนตราหน้าว่าเป็นคนติดยา แรกเริ่มฉันก็รู้สึกโกรธว่า เอ….ทำไมถึงกล่าวอ้างกันอย่างนี้ ทำไมคิดกับฉันแบบนี้นะ เอาจริงๆฉันไม่ได้แปลกใจขนาดนั้นแต่ก็ไม่ได้อยากมองให้มันเป็นเรื่องปกติ เพราะฉันกำลังโดนก้าวก่ายความเป็นส่วนตัว ซึ่งฉันค่อนข้างหวงแหนมันเป็นพิเศษ ใครก็ตามที่ไม่สนิทใจกันอย่าได้มาลองเชียว อย่าได้มาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของฉันเชียว ว่าไปนั่น………..
          ซึ่งฉันเคยโดนกล่าวอ้างแบบนั้นจริงๆนะ แล้วครั้งนี้ฉันเพียงแต่ออกมาปกป้องตัวเอง คนเราพอโดนกระทำซ้ำๆต้องมีจุดแตกหักกันบ้างแหละน่า!!! ใครจะทนเป็นพระอิฐพระปูนกัน!!!ฉันคนนึงล่ะวะที่ไม่ใช่  เพราะฉันยังเป็นคนที่ยังไม่ได้ปลงฉันยังมีกิเลสมีตัณหามีอารมณ์  ลำพังจิตพังๆของฉันก็ประคบประหงมดูแลยากแล้วซ้ำร้ายยังโดนกระทำแบบนั้นใครกันจะทนได้ ฉันเกิดระเบิดโมโหโทสะในทันที ราวกับเขื่อนกั้นน้ำสีดำมะเมือกแตกหักพุ่งล้นทะลักพังทลายพื้นราบเป็นหน้ากลอง ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความกังขาในสิ่งที่ได้เห็น ราวกับเห็นสัตว์ประหลาดตัวเขื่องอาละวาดใส่ผู้คนเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่อาจจะตราตรึงในหัวใจใครหลายคน สักพักหลังได้ระบายน้ำในเขื่อนออกฉันกลับสู่สภาวะปกติ เขื่อนดังกล่าวถูกซ่อมแซมทันตาเห็นแต่ยังคงทิ้งร่องรอยความอัปรีย์ที่เกิดขึ้นไว้เบื้องหน้า ทุกคนยังคงตกตะลึงกับเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ค่อยแปลกใจเหมือนกันเพราะถ้าบังเอิญพบเจอสัตว์ประหลาดอาละวาดที่ไหนเป็นฉันก็คงยืนงงตกตะลึงดูสิ่งที่เจ้าตัวนั้นได้กระทำ เพราะฉะนั้นนอกจากฉันจะเป็นคนติดยาแล้วคนวิปลาสในความคิดคนอื่นเริ่มปรากฏขึ้นดังเช่น"สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เขานั้นกลายเป็นคนบ้าภายในเวลาอันรวดเร็ว"ทุกคนตัดสินว่าฉันเป็นคนบ้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช่แล้วฉันกลายเป็นคนเสียสติกลายเป็นคนจิตป่วยกลายเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ คนบ้าในกลุ่มคนปกติได้ปรากฎตัวขึ้นฉันกลายเป็นแกะดำโดยสมบูรณ์แบบ บนกลางหน้าผากกว้างๆแต่สวยได้รูปของฉันกลับถูกแกะสลักโดยใช้เข็มเก่าขึ้นสนิมผ่านการใช้งานมาแล้วนับครั้งไม่ได้ตีตราประทับคำว่า "บ้า" ไว้กลางหน้าผาก
          สายตาของพวกเธอช่างน่ารังเกียจทุกครั้งที่มองมาทางฉัน ถ้าไม่ชอบกันขนาดนั้นทำไมต้องสนใจกันขนาดนี้ด้วย? ฉันดูเป็นคนร้องเรียกความรักความสนใจจากพวกเธอหรือ!? ก็ไม่นะ เพราะความรักที่ฉันมีให้ตัวเองนั้นเพียงพอและฉันไม่ได้ต้องการอะไรเพิ่มเติมจากพวกเธอเลย ซึ่งพวกเธอคิดกันเอาเองทั้งนั้นว่าฉันไม่ปกติ ฉันขาดความรัก ฉันเรียกร้องความสนใจต่างๆนานา จิตใจที่มีมลทินของพวกเธอสมควรได้รับการถูกขัดเกลาอย่างเร่งด่วน หากปฏิบัติกับคนด้วยกันอย่างไร้ความปราณีเช่นนี้แล้วพวกเธอยังใช่คนอยู่จริงๆหรือ??? ทำไมถึงบอกว่าไร้ความปราณีนั่นเพราะว่าพวกเธอได้ทำร้ายคนคนนึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถามจริงๆเลยนะไม่เหนื่อยกันบ้างหรืออย่างไร? ฉันเหนื่อยมากนะ…เหนื่อยที่โดนกระทำเช่นนี้ เหนื่อยเหลือเกินในบางทีจนอยากหายไปจากโลกใบนี้ “นี่กำลังเล่นบทบาทผู้โดนกระทำอยู่หรือเปล่าคนนี้เริ่มจับทางไม่ได้” กำลังคิดแบบนั้นอยู่สินะ อาจจะทำให้เข้าใจได้แบบนั้น เพราะว่าที่กล่าวมาทั้งหมดฉันเป็นฝ่ายกล่าวถึงการกระทำของอีกฝ่ายทั้งนั้นสารที่ได้รับนั้นมาจากฉันเองทั้งหมด เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าพวกเธอเองจะคิดว่าฉันนั้นบ้าด้วยเช่นกัน แล้วก็อย่าลืมล่ะว่าฉันนั้นยังติดยาอีกด้วย…ทุกคนเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติคนเราต้องรู้จักยอมรับและปรับตัวกันบ้างต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และหยืดหยุ่นตามความเหมาะสมฉันคิดแบบนั้นนะ
          ช่วงเวลากลางคืนที่เริ่มคืบคลานเข้ามาพร้อมกับความคิดที่ยังตกผลึกไม่ได้ของฉัน วกวนซ้ำไปซ้ำมาในสมองจนทำให้หลับไม่ได้ ฉันตัดสินใจใช้ยาเพื่อช่วยให้หลับได้สนิทหลังจากนั้นสักพักฉันพบความสงบสุข ความสงบสุขที่แท้จริงปรากฏขึ้นมาในหัวใจ หลับสนิทชนิดที่ไม่มีความฝัน ไม่ตื่นขึ้นมากลางดึก ไม่เป็นเป็นทุกข์เพราะนอนไม่หลับ แต่เป็นสุขเพราะได้ปล่อยวางแม้เพียงเวลาชั่วคราว เพราะความคิดต่างๆที่หลั่งไหลเข้ามาจากทั่วสารทิศซึ่งฉันนั้นไม่สามารถบังคับทิศทางการเข้าออกของมันได้ สิ่งเหล่านั้นมีลักษณะเหนียวข้นเป็นดำสนิทไม่มีสีอื่นผสมมีรูปร่างเป็นอิสระสามารถเคลื่อนไหวได้ดั่งใจต้องการโดยไม่ต้องการความควบคุมจากฉันเพราะฉันไม่สามารถควบคุมพวกมันได้นั่นเอง มันเริ่มเคลื่อนไหวช้าลง ช้าลง จนหยุดเคลื่อนไหวในที่สุดความมืดมิดมัวหมองในใจจึงเกิดแสงสว่างริบหรี่ขึ้นมาแสงนั้นทำให้อบอุ่นหัวใจเหมือนเพลงกล่อมเด็กก่อนนอนทำให้พริ้มตาหลับได้อย่างสบายใจ
          นับเวลาประมาณ5ชั่วโมงได้ นั่นคือช่วงเวลาที่ฉันได้พบความสงบมันคือช่วงเวลาที่ฉันไม่ต้องมาคอยระแวงสายตาของพวกเธอ คือช่วงที่ฉันนั้นชอบพอเป็นที่สุดแต่เวลานั้นแสนสั้นเหลือเกิน พอนาฬิกาปลุกแจ้งเตือนในตอนเช้าฉันกดปิดเสียงนรกเตือนนั่นทันที ที่เป็นเสียงนรกเตือนก็เพราะว่าฉันต้องลืมตาตื่นขึ้นมาเผชิญความจริงบนโลกที่แสนโหดร้ายไม่แพ้ภาพลักษณ์นรกที่เขาบรรยายวาดไว้ที่ฉันต้องใช้ชีวิตท่ามกลางพวกคนเฮงซวยอย่างพวกเธอ ขอโทษด้วยนะที่ใช้คำหยาบเพราะว่าเวลานอนไม่พอแล้วอารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะ แต่ก็อย่างว่าตราบใดที่ยังลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าฉันก็ต้องใช้ชีวิตนี้ต่อไป ใช้ไปเรื่อย ๆจนกว่าจะหมดอายุขัยระหว่างที่มีชีวิตก็ใช้ชีวิตร่วมกับความเจ็บปวดบางทีผสมกับความเศร้าบางทีผสมกับน้ำตาบางทีก็ผสมกับความสุขแม้เพียงเศษเล็กน้อย ความสุขนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงรสชาติการใช้ชีวิตได้อย่างน้อยๆก็พอมีรสชาติอื่นให้ได้ลิ้มลองบ้าง รสชาติสุขปนทุกข์ ทุกข์ล้วน ๆ ทุกข์คูณสอง ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยมีรสชาติอื่นสักเท่าไหร่นอกจากทุกข์และเศร้า 
          ชีวิตช่วงเช้าของฉันเริ่มต้นด้วยกาแฟในทันที ซึ่งฉันอ่านเจอผ่านๆหรือบางทีก็ตั้งใจอ่านแต่แสร้งทำเป็นเมินว่าไม่ควรทานกาแฟทันทีหลังตื่นนอนในตอนเช้า แต่เช้าของฉันเริ่มด้วยกาแฟ กาแฟดำไม่ใส่อย่างอื่นเพิ่มรสชาติต่างกันไปในทุกวัน เพราะไม่ได้ชั่งวัดตวงปริมาณ จำนวนแก้วขึ้นอยู่กับความง่วง ปริมาณความเข้มข้นขึ้นอยู่กับระดับความเกลียดชังต่อผู้คนในเช้าวันนั้น ใช่แล้วฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก็สามารถประเมินได้เลยว่าวันนี้ฉันเกลียดการใช้ชีวิตมากน้อยเพียงใด ปริมาณยังขึ้นอยู่กับว่าฤทธิ์ยาเมื่อคืนนั้นหลงเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด ต้องดื่มเท่าไหร่ถึงจะพอให้ใช้ชีวิตได้ทั้งวัน ส่วนตัวฉันเองชอบกาแฟรสกลมกล่อมชอบความเป็นกลาง แต่ส่วนใหญ่กาแฟที่ชงในตอนเช้ามักจะได้รสขมปี๋ เข้มข้นชนิดที่กลืนได้ลำบากแต่ฉันก็ดื่มมันจนหมดแก้ว บางทีแค่ชงกาแฟอร่อยฉันก็ชอบเช้าของวันนั้นแล้ว
          ฉันเองก็เป็นคนเรียบง่ายนะฉันกินยาเพื่อช่วยให้หลับในตอนกลางคืนและฉันใช้คาเฟอีนเพื่อช่วยให้ตื่นในตอนเช้า เพราะถ้าหลับไม่พอประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตก็จะน้อยจนทำให้พวกเธอลำบาก ฉันอาจจะกลายเป็นภาระสังคมในสักวันเพราะงั้นถ้าได้พักผ่อนเต็มที่ฉันก็จะทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่และไม่เป็นภาระของพวกเธอฉันเองก็เป็นคนปกติเหมือนกับพวกเธอทุกคนนั่นแหละ เพียงแต่ฉันแค่พยายามอุดรอยรั่วที่คิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ฉันอุดรอยรั่วเพื่อที่จะสามารถใช้ชีวิตร่วมกับพวกเธอได้อย่างผาสุก เพราะว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ในทุกวันฉันอยากเป็นคนที่ดีขึ้นจึงได้พยายามปรับปรุงตัวเองในทุกวัน ฉันกำลังพยายามนะกำลังพยายามอยู่ถ้าหากไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฉันอย่าได้ถามจากคนอื่นเพราะไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับฉันได้ดีพอนอกจากตัวฉันเองแม้แต่จิตแพทย์เองก็ยังไม่รู้จักฉัน จริงๆฉันเองยังไม่รู้ไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวฉันเองเลยเพราะฉะนั้นบางคำถามฉันอาจจะตอบไม่ได้นะ แต่ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยนะที่พยายามจะพูดคุยกับฉันก่อน ฉันเป็นคนปกติที่อาจจะแปลกนิดหน่อยแต่ว่าฉันปกติจริงๆนะ
…..แล้วพวกเธอเคยพยายามเข้าใจคนอื่นกันบ้างไหม? เคยพยายามใช้ชีวิตไม่ให้เดือดร้อนคนอื่นกันบ้างไหม? แล้วทำไมฉันต้องพยายามปรับที่ตัวฉันเองคนเดียวล่ะ? พวกเธอก็คนเหมือนฉันนะฉันไม่จำเป็นต้องใส่ใจพวกเธอขนาดนั้นนี่ เธอก็คนฉันก็คนเราไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น .
*******ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ ระยะการลงของตอนไม่แน่นอนเลยค่ะเพราะผู้แต่งมีจิตวิปลาส   ดังนั้นการลงตอนต่อไปจึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกค่ะขอบคุณที่อ่านกันนะคะ ผู้อ่านมีความหมายกับผู้แต่งมากค่ะ         (หัวใจสีขาวสิบล้านดวง) ตอนต่อไปคิดว่าน่าจะเข้มข้นขึ้นค่ะ ซึ่งก็ไม่แน่นอนเหมือนเดิมคาดเดาอะไรยากค่ะติดตามกันต่อไปนะคะว่ามันจะเป็นยังไงต่อขอบคุณค่ะ*******

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา