Tales of Holython (ดินแดนวิปลาส)

-

เขียนโดย หมดไฟ

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 01.02 น.

  3 chapter
  1 วิจารณ์
  354 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 01.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Sintrea

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 2 — Sintrea

เช้าวันต่อมา สกาน, บากาธ, บรัน ออกเดินทางขึ้นไปที่ปราการอีกครั้งเพื่อที่จะสำรวจอีกรอบหนึ่ง เนื่องจากเมื่อคืนบากาธ และสกานเหนื่อยมากจึงเอาของออกมาแค่บางส่วนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ ก็ขึ้นเขาตามแผนที่วางไว้ เมื่อทั้งสามมาถึงก็ได้พบกับผลงานที่ทั้งสองคนทำไว้ บรันถึงกับอ้วกแตก เพราะว่าภาพที่เห็นมีเพียงแค่ศพเละๆ เต็มพื้นไปหมด พร้อมกับคนตัวใหญ่ผิดมนุษย์ที่ถูกแทนที่หัวด้วยท่อนไม้ รอบๆซากศพก็มีแต่เลือดกับเศษอวัยวะกระจายเต็มไปหมด บรันถึงกับอุทานมาว่า “นี่ฝีมือพวกเจ้าแค่สองคนงั้นรึ?”

 

สกาน “ก็ตอนนั้นมันมืด ข้ามองอะไรไม่ค่อยเห็นน่ะ เลยแกว่งดาบกับหมัดไปทั่วเลย”

 

บากาธ “แน่ใจนะว่าแค่ดาบ กับหมัด?”

 

บากาธกับสกานต่างก็หัวเราะออกมา แต่บรันกลับช็อคกับภาพที่เห็นอยู่ ลามมาถึงยามบ่าย ขณะที่ทั้งสามคนกำลังเก็บสรรพาวุธ และทรัพยากรอื่นๆ บากาธก็ได้เจอกับแผนที่ใบหนึ่ง ในแผนที่ระบุถึงหมู่บ้านประมงริมทะเล และเมืองใหญ่ที่อยู่ห่างกันประมาณนึง และมีซากปรักหักพังบางอย่างอยู่ทางตอนใต้ของระหว่างหมู่บ้านและเมือง บากาธเรียกให้ทุกคนมาดูที่แผนที่นี้ พร้อมทั้งบอกทุกคนว่า

 

บากาธ “เราอาจขอความช่วยเหลือจากหมู่บ้านกับเมืองนี้ได้”

 

บรัน “แล้วตอนนี้เราอยู่ส่วนไหนของแผนที่ล่ะ?”

 

ทั้งสามคนเงียบแล้วมองหน้ากัน

 

สกาน “ข้าเจอกล้องส่องทางไกลเก่า ๆ แตก ๆ อยู่อันนึง เดี๋ยวข้าจะเอาแผนที่แล้วขึ้นหอคอยตรงนั้นไปนะ เดี๋ยวข้าดูให้”

 

สกานชี้แล้วเดินไปที่หอคอยที่ข้างๆมีศพคนตัวใหญ่ๆ อยู่ใกล้ๆ

 

เขาหยิบแผนที่กับกล้องส่องทางไกลขึ้นมา มองไปทางทิศตะวันออกพบกับป่าใหญ่ที่มีต้นสนสูง เป็นป่าสนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา มองไปทางตะวันตกก็เจอกับทะเลสีคราม ที่ขอบฟ้าก็มีเกาะภูเขาไฟเล็กๆ เกาะหนึ่ง มองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือก็พบกับเมืองใหญ่ เมืองหนึ่งที่มีกำแพงสูงตระหง่านทำจากหิน ถ้ามองตามถนนเส้นทิสตะวันตกก็จะเจอกับหมู่บ้านชาวประมง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่น่าจะหาปลาแล้วเอาไปขายในเมือง บากาธเดินลงมาจากหอคอยนั้น แล้วบอกกับสหายของเขาเกี่ยวกับเมืองและหมู่บ้าน

 

สกาน “เมืองนี้จะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ก็คือทางนี้ แล้วถ้าตามถนนเส้นนี้มาก็จะเจอกับหมู่บ้านประมง”

 

บากาธ “แล้วซากปรักหักพังนี่ล่ะ?”

 

สกาน “ข้าหามันไม่เจอ… น่าสงสัยรึไม่?”

 

บรัน “ข้าว่าเราเอาของกลับไปที่หอคอยแล้วบอกข่าวพวกเขาดีกว่านะ เพราะข้าทนดมกลิ่นเหม็นเน่าพวกนี้ไม่ไหวแล้ว มันเหม็นเกินกว่าที่ข้าคิดว่ามาจากซากศพเลยล่ะ”

 

บากาธกับสกาน นึกได้ว่า กลิ่นนี้น่าจะไม่ใช่กลิ่นศพปกติ และนี่ อาจเป็นสัญญาณบางอย่าง คิ้วของสกานเริ่มขมวดเข้า เหงื่อของทั้งสองเริ่มไหลท่วมตัว

 

สกาน “บากาธ เจ้าไปกับบรันนะ ข้าว่าจะอยู่เช็คอีกซักหน่อย ไม่นานนักหรอก”

 

บากาธ “เจ้ามั่นใจนะ?”

 

สกาน “ถ้ามีปัยหาเดี๋ยวข้ากระโดดลงเขาไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าเอง”

 

บากาธ “…” “ตามนั้นสหายข้า ขอให้เทพีคุ้มครองเจ้าล่ะ”

 

สกานมองไปรอบๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่ซากศพ แต่สิ่งหนึ่งที่เอะใจสกานนั่นก็คือ คราบเลือดให้ไปไหนหมด เขาพึ่งเอะใจหลังจากที่ได้เก็บสรรพาวุธต่างๆ ในตอนแรกนั้นคราบเลือดและเศษอวัยวะต่างๆ ก็อยู่ปกติดี แต่แล้วหลังจากที่สองคนนั้นเดินออกไปคราบเลือดนั้นก็หายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงแค่ซากศพและเศษอวัยวะเท่านั้น…

 

สกาน “หากเจ้ามีตัวตนจงเผยตัวซะ! ข้ารู้ว่าเจ้ามิได้จะพยายามเอาชีวิตข้า… จงเผยตัวเถิด…”

 

เสียงหญิงสาวปริศนา “แหมๆ… ท่านนักรบหนุ่มรูปงาม หล่อเหลามิเบานะ~”

 

ภาพที่สกานเห็นเป็นหญิงสาวรูปงามดั่งเทพีองค์หนึ่ง ผิวสีขาว ผมสีขาวยาวประมาณบ่า และมีตาสีแดง คลุมผ้าสีดำ ที่ชายผ้ามีคราบเลือดซึมอยู่ จู่ๆนางโผล่มาจากข้างหลังแล้วเอาหน้าของนางแนบไว้ข้างหูของสกาน สกานตกใจ หันมองตามแต่กลับไม่พบนาง เหมือนนางเป็นสายลม

 

หญิงสาว “อย่าพึ่งตกใจสิ… เป็นชายกำยำร่างใหญ่ แต่กลับตกใจกลัวผู้หญิงเนี่ยนะ?”

 

สกาน “เจ้าเป็นใคร!? อยู่ที่ไหน!? อย่าแวบๆเช่นนี้สิ!?”

 

หญิงสาว “ทำไมหยอออ~ กลัวเค้าหยออ~?”

 

โอ้พระมารดา ขนลุกเว้ย คนเขียนกับสกานอารมณ์เดียวกัน

 

เสียงของหญิงสาวคนนั้น อยู่ที่ข้างหูของสกาน เหมือนกับตอนที่นางโผล่มาตอนแรกไม่มีผิด

 

หญิงสาว “ฮ่าา เจ้านี่น่ารักจังเลยนะ”

 

สกาน “ข้าไม่หลงกฃเจ้าหรอกืที่ดินแดนของข้ามีผู้หญิงแบบเจ้าเยอะ”

 

หญิงสาว “โธ่~ พ่อนักรบมากประสบการณ์~ คิคิ เจ้าชื่ออะไรล่ะ?”

 

สกานงงและคิดในใจว่า “นางจะถามชื่อข้าด้วยเรื่องอะไร? ข้าต่างหากที่ต้องถามนาง”

 

หญิงสาว “นี่! เจ้านักรบ! เจ้ามาบุกรุกในพื้นที่ของข้า จะให้ข้าแนะนำตัวก่อนรึ!?”

 

สกานตกใจแบบงงๆ แล้วทำหน้าเหมือนเห็นผี “นี่เจ้ารู้ด้วยรึว่าข้าคิดอะไรอยู่”

 

หญิงสาว “เจ้าคิดดังไปต่างหาก… เอาเถอะ ข้าซินเทรีย เทพีแห่งเลือด มีอะไรให้ข้าช่วยเจ้าล่ะ…”

 

สกาน “หะ? ช่วย? ช่วยข้า? ช่วยข้าอ่ะนะ?”

 

หญิงสาวเริ่มเซ็ง แล้วไปนอนอยู่บนกำแพงเพียง เพียงแค่ชั่วพริบตา “เจ้าจะบอกว่า เมื่อคืนที่มีเลือดเต็มพื้นไปหมด แล้วเจ้านำแสงอาทิตย์ไปส่องยังคริสตัลเลือด เป็นเรื่องบังเอิญงั้นรึ?”

 

สกาน “…(งง)”

 

หญิงสาว “โอ้ย… ข้ารำคาณเจ้าละ ถ้าไม่มีเรื่องหรือธุระอันใดกับข้า ก็อย่าอันเชิญข้ามาอีก ข้าจะนอน!”

 

สกาน “เดี๋ยว!” แล้วนางก็หายไป…

 

หญิงสาว “ว่า?” โผล่มาโดยที่สกานไม่ทันตั้งตัว

 

สกาน “โอ้ย เจ้าชอบทำให้ข้าตกใจอยู่เรื่อย สรุปแล้ว เจ้าเป็นใคร?”

 

หญิงสาว “…” “ข้าบอกเจ้าแล้ว…”

 

สกาน “ตอนนั้นข้าตกใจ แล้วก็ไม่ทันตั้งตัวน่ะ”

 

หญิงสาว “ก็ได้… ข้าซินเทรีย เทพีแห่งเลือด แล้วคริสตัลที่อยู่ตรงหน้าเจ้าน่ะใช้อันเชิญข้านะ”

 

สกาน “ข้าสกาน… นักรบแห่งคาเลโดเนีย…”

 

ซินเทรีย “อืม… นั่นคือชื่อจริงๆของเจ้ารึ?”

 

สกาน “… เอพิเธียส คือชื่อจริงๆ ของข้า”

 

ซินเทรียลอยเข้ามาใกล้สกาน ดูเหมือนเทพีนางนี้จะถูกใจมนุษย์ผู้นี้ซะแล้ว “เจ้าเดินทางมาไกลนะ แต่ข้าไปละ แล้วเจอกันนะ นักรบหนุ่ม” แล้วนางก็หายไปกับสายลม

 

สกานหยิบคริสตัลเม็ดนั้นขึ้นมา มันเป็นคริสตัลสีแดงเข้ม คล้ายสีเลือด เมื่อมันต้องแสงอาทิตย์จะเกิดความระยิบระยับสวยงาม หลังจากที่พิจารณาดูแล้วสกานจึงเก็บเข้าไปไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วจึงเดินออกมาจากปราการนั้น

 

บากาธ “นี่! เจ้า! หญิงคนนั้นเป็นใครกัน!?”

 

สกาน “เหย! นี่พวกเจ้าแอบฟังข้ารึ!?”

 

บรัน “พวกข้าป่าวแอบฟังนะ พวกข้าแอบดูเลยต่างหาก ฮ่าๆๆๆ”

 

บากาธ “นี่ๆ! แล้วนางเป็นใครกัน? เป็นภูติ หรือเทพี อะไรรึ!?”

 

สกาน “ข้าไม่รู้! พวกเจ้าออกไปเลย! ข้าไม่พูดอะไรทั้งนั้น!”

 

ทั้งสามคนมีความสุข โดยเฉพาะสกาน ที่คาเลโดเนียนั้น สกานไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก จะมีก้มีเพียง 1-2 คนเท่านั้น เพราะเขาไม่อยากรู้จัก หรือสนิทกับคนอื่นๆทเนื่องจากคนรอบๆตัวเขา มักจะหาผลประโยชน์จากเขา อย่างการลงเดิมพันว่าใครจะชนะในการต่อสู้ หรือการหลอกให้เขาลงต่อสู้โดยไม่เป็นใจนัก คาเลโดเนีย ดินแดนที่มีแต่คนเห็นแก่ตัว แม้แต่เจ้าเมืองเองก็ตาม… ซินเทรียที่มองอยู่มาจากต้นไม้ที่อยู่เหนือหัวพวกเขา ก็ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู “ที่ดินแดนแห่งนี้มีแต่ความป่าเถื่อน ช่างโชคดีที่ภายในใจเจ้านั้นต่างจากทุกๆสิ่งบนพื้นดินแห่งนี้นัก” ซินเทรียคิดในใจแล้วนางก็หลับไป… 

 

ตัดภาพมาที่รถม้าคันหนึ่ง ที่กำลังเดินทางจากเมือง ไปยังหมู่บ้านประมง มีกลุ่มโจรในผ้าคลุมกำลังแอบซุ่มโจมตีอยู่ มีโจรอยู่ทั้งหมด 5 คน แต่แล้วจู่ๆ ก็มีลูกศรพุ่งมาปักที่อกของโจรคนหนึ่ง ไม่มีเลือดไหลและตายลงอย่างสงบ โจร 4 คนที่เหลือต่างตกใจ และภาพที่เห็นตรงหน้า คือขอนไม้ที่กำลังกลิ้งมาพวกโจรหลบไม่ทัน ถูกขอนไม้ทับร่างแหลก และบนรถม้าคันนั้น เป็นเพียงเหยื่อล่อให้พวกโจรมาดักโจมตีเท่านั้น

 

ชายหนุ่มปริศนา “แผนของเจ้าใช้ได้ดีเลยนะ”

 

หญิงสาวปริศนา “ขอบคุณค่ะ”

 

กลับมาทางด้านของสกาน, บากาธ และผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ กำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านประมง

 

บากาธ “นี่นะ! แล้วนางก็บอกว่า เจ้าเดินทางมาไกลนะ ด้วย~”

 

สกาน “ฮ่าๆ ข้าว่าเจ้าพอเถอะ! เจ้านี่ขี้แซวจริงๆ อิจฉาข้าละซี้”

 

เฟอร์ลิน “ฮ่าๆๆๆ แล้วนางบอกเจ้ารึเปล่าล่ะว่านางเป็นใคร”

 

บากาธ กับ สกานมองหน้ากัน “นางบอกว่า ความลับ!” บรันแก้ตัวให้สกาน

 

เฟอร์ลิน “ฮ่าๆๆๆ ข้านึกถึงสมัยข้ายังหนุ่มเลย ตอนนั้นน่ะ ข้ายัง…”

 

แล้วทุกคนก็เดินมาด้วยคุยไปด้วย มีความเฮฮาดี แต่มันจะเฮฮาแบบนี้ไปตลอดรึ แน่นอนว่าไม่

 

ผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง “ช่วยด้วย! เพื่อนข้าหายไป! ตอนแรกยังอยู่กับข้าอยู่เลย!” ทุกคนหันไปมอง ก่อนจะเริ่มช่วยกันออกตามหา

 

ผ่านไปไม่นานก็เจอกับรองเท้าของคนที่หายไป สกานอาสาที่จะออกไปตามหาเอง แล้วบอกให้ บากาธ กับบรัน ดูแลคนที่เหลือให้ดีๆ

 

ซินเทรีย “เจ้าแน่ใจรึว่าเจ้าจะเดินเข้าไปต่อ”

 

สกาน “คนของข้าหายไป ข้าต้องออกไปตามหาพวกเขา…” “เจ้าเป็นคนลักพาตัวไปรึเปล่า…”

 

ซินเทรีย “ไม่ใช่ข้า แต่ขอเตือนไว้ก่อน ครานี้เจ้าตัวคนเดียวก็คงสู้ไม่ได้แน่”

 

สกาน “เจ้าหมายถึงอะไร เจ้าจะช่วยข้ารึ?”

 

ซินเทรีย “…” “ข้ามาแค่เตือนเจ้า และที่ข้ามาเตือนเจ้า เพราะข้าถูกใจเจ้านะ… อย่าทำให้ข้าผิดหวังเลย”

 

สกาน “…” “เจ้าพูดเหมือนเจ้ารู้จักข้ามานานอย่างไรอย่างนั้น”

 

ซินเทรียไม่พูดอะไรแล้วนางก็หายไป ส่วนสกานก็เดินลึกเข้าไปในป่าต่อไป ทันใดนั้นตาของสกานก็ไปสะดุดกับวัตถุบางอย่างเข้า มันคือเสื้อของใครไม่รู้ แล้วทันใดนั้นเองลูกศร ก็พุ่งเข้ามาที่หน้าอกของสกานแต่โชคดีที่เฉี่ยวรักแร้ของสกานไป สกานหยิบดาบขึ้นมาตั้งท่าเตรียมต่อสู้… ท่ามกลางความเงียบสงัดกลางป่า มีเพียงสกานตั้งรับกับอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น “ข้าจะต้องเรียกสหายข้า” สกานคิดในใจ แล้วเขาก็วิ่งกลับไปยังกลุ่มผู้รอดชีวิต ภาพที่เห็นคือ บากาธกับบรัน กำลังสู้กับครึ่งมนุษย์ที่มีหัวกับขาเป็นสิงโต มีหาง แถมยังที่ขนาดตัวที่ใหญ่ ถ้าให้เปรียบเทียบ บากาธกับบรัน ตัวเท่าหน้าอกมันเท่านั้น จู่ๆ ท่อนไม้ขนาดใหญ่ก็พุ่งมาใส่หลังของสกาน สกานกระเด็นไปที่บากาธ ทั้งบากาธทั้งบรัน ก็ล้มลงเพราะโดนบากาธกระเด็นใส่ 

 

สิงโต “ข้าขอไปก่อน แล้วเจ้าทั้งสาม ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่”

 

เจ้าสิงโตหายเข้าไปในป่า ทิ้งให้ทั้งสามคน และคนอื่นๆ งงกับภาพที่เห็น แล้วเมื่อมาถึงหมู่บ้านประมง บากาธกับบรัน ออกไปหาเรือ ส่วนสกานแยกออกมา เขาหยิบคริสตัลเลือดออกมา “เข้าคิดถึงข้ารึ?” ซินเทรียโผล่ออกมาโดยที่ไม่ทันตั้งตัวอีกแล้ว 

 

สกาน “ทำไมเจ้าชอบโผล่มาแบบไม่ทันให้ข้าตั้งตัวตลอดเลยเล่า!”

 

ซินเทรีย “ก็ตอนเวลาเจ้าตกใจมันน่ารักดีหนิ ข้าชอบนะ”

 

สกาน “อ่าๆ พะยะค่ะ ท่านเทพีรูปงาม~”

 

ซินเทรีย “อือหึ เจ้ามีธุระอะไรรึ?”

 

สกาน “ตอนนั้น… ข้ายังไม่ได้อัญเชิญเจ้าออกมาเลย แล้วทำไมจู่ๆ เจ้าถึงโผล่มาได้ล่ะ?”

 

ซินเทรีย “ก็ข้าไม่อยากให้คนที่ข้าถูกใจตกอยู่ในอันตรายไงเล่า”

 

สกาน “นี่เจ้าเป็นเทพีจริงรึ? ข้ารู้สึกเหมือนเจ้าเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงคนนึงเอง”

 

ซินเทรีย “นี่! เจ้าเก่งเรื่องทำให้ข้ารำคาญนะ!”

 

สกาน “อ่ะๆๆ ข้าขอโทษ หายรำคาญข้านะ”

 

ซินเทรีย “อืม แล้วเจ้ามีธุระกับข้าแค่นี้รึ?”

 

สกาน “เดี๋ยว! แล้วเงื่อนไขในการอัญเชิญเจ้าคืออะไรกันแน่”

 

ซินเทรีย “ทำไมเจ้าถึงอยากรู้ล่ะ?”

 

สกาน “ข้าสงสัย เพราะทุกครั้งที่เจ้าโผล่มา ข้าแทบไม่ต้องทำอะไรเลย”

 

ซินเทรีย “อืมมม… ความลับ!” แล้วนางก็หายไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา