ปาฏิหาริย์โลกวิญญาณ (ได้รับการตีพิมพ์จากAmity Publishing แล้ว)

5.3

เขียนโดย watcharakarn

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 12.10 น.

  67 ตอน
  3 วิจารณ์
  39.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 23.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) ขนมวิเศษ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“อ๊าาากไม่น่าเชื่อเรารออออดแล้วววว!”  ผมตะโกนโหวกเหวกเสียงดังลั่นพร้อมกับเหยียดแขนทั้งสองชูขึ้นเหนือศีรษะอย่างลืมตัวส่งผลให้บาดแผลเปิดกว้างเลือดไหลทะลักออกมาอีก

 

 “โอ๊ยย…เจ็บ!” ผมร้องครวญรู้สึกถึงความทรมานที่กรีดลึกเข้ามา

 

“เอ้านี่…” สาริกาบอกพร้อมกับยื่นบางสิ่งบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นถ้วยไม้เล็กๆ ลงลวดลายทองคดโค้งประดับอัญมณีเม็ดเขื่องแพรวพรายทั้งมรกต(เขียว) เพทาย(แดงเข้ม) ไพลิน(น้ำเงิน) บุษราคัม(เหลือง) ล้อแสงวิบวับแวววาวมาให้ผม

 

“นายลองหยิบขนมในผอบนี้ไปสักเม็ดสิ ถือเป็นคำขอโทษจากฉันละกันนะ” เธอกล่าว

 

“คนบนฟ้าบนสวรรค์นี่ใช้แต่ของสวยๆ งามๆ กันทั้งนั้นเลยเนอะ” ผมเปรยพลางชะโงกหน้ามองลงไปด้วยความสงสัยเห็นขนมเยลลี่เจลลาตินคล้ายเมล็ดถั่วแดงแต่มีหลากเม็ดหลายสีแล้วก็อยากลิ้มลอง “อะไรน่ะ สีสันน่ากินดีนะเนี่ย”

 

“แต่ไม่ดีกว่า ผมยังไม่อยากกินตอนนี้น่ะ” ผมปฏิเสธอย่างนุ่มนวลด้วยเกรงใจ

 

“สักเม็ดสิอร่อยนะ แล้วนายจะรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยเชียว” เธอเอ่ยชวน “ถ้าจะให้แนะนำฉันว่าเม็ดสีแดงสิเด็ดสุด” ว่าแล้วสาวเจ้าก็ยิ้มหวานเสียจนคนฟังแอบเคลิ้มแต่ก็มิวายแคลงใจ อยู่ๆ จะให้ทานของส่งเดชหากผิดสำแดงขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน

 

“ไม่เอาหรอกคุณ นี่ผมกำลังเจ็บอยู่นะไม่มีอารมณ์มากินขนมหรอก” ผมบอกปัดพร้อมกับดันมันออกห่างทว่าพอเงยหน้ามองก็พลันรู้สึกถึงรังสีอำมหิตแผ่กระจายออกมาจากใบหน้าถมึงทึงนั้น  

 

‘……….’

 

“อ๊ะ ก็ได้…ก็แค่ขนม” ผมกลับลำในทันทีแล้วจึงหย่อนนิ้วหยิบเม็ดขนมสีแดงๆ  เข้าปากเคี้ยวหนุบหนับอย่างจำยอมสัมผัสรสชาติหวานอมเปรี้ยวเหมือนผลไม้รวมผสมความเย็นซาบซ่าแทรกซ่านอยู่บนลิ้นแล้วก็ติดใจ

 

“ก็เท่านั้นแหละ” เธอพูดแล้วจึงปิดฝาก่อนที่ผอบใส่ขนมเยลลี่จะเรืองแสงสีเขียวอ่อนแล้วจึงย่อขนาดลง พอสาริกากำมือแล้วแบอีกทีมันก็หายวับไปประหนึ่งเล่นมายากลทำเอาผมอ้าปากค้างตะลึงจนขนมแทบร่วงหล่น สงสัยนี่คงเป็นวิธีการเดียวกันกับการเสกถาดแดงๆ นั่นให้หายไปเป็นแน่

 

“เอื้อก” ผมกลืนมันลงไปอย่างรวดเร็ว ในใจร่ำๆ อยากจะทานอีกแต่ก็ทำเฉยไว้

 

“อร่อยใช่มั๊ยล่าาาา อิอิ” เธอแซวอย่างรู้ทัน ไม่พูดเปล่ายังยกมือซ้ายทุบเปรี้ยงลงมาที่ไหล่ขวาผมเป็นเชิงหยอกอีก

 

“เฮ้ยผมเจ็บอยู่ไม่เห็นรึไงว่า…อ้าว” ผมโพล่งออกมาอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับสะบัดท่อนแขนขึ้นกันแต่ก็ต้องตกใจที่เห็นว่าบาดแผลและคราบเลือดที่ไหลอาบอยู่กลับอันตรธานไปอย่างน่ามหัศจรรย์

 

“ปะปะเป็นไปได้ยังไงเนี่ย” ผมเปรยออกมาตาเบิกโพลงด้วยอัศจรรย์ใจพลางแกว่งข้อแขนไปมาแต่ก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดใดใดอีก

 

‘ไม่น่าเชื่อเลย’

 

“เอาล่ะไปกันได้แล้ว” นางฟ้าสาวกล่าวแล้วจึงเดินนำไป

 

“ดะดะเดี๋ยวก่อนคุณจะพาผมไปไหนกันเนี่ย?” ผมตั้งข้อสงสัยพร้อมกับมองซ้ายมองขวาเห็นผนังสีขาวสะอ้านและทางเดินพื้นปูนเปลือยขัดมันที่พาเราไปได้ทั้งสองทาง ดูจากสภาพแวดล้อมแล้วน่าจะอยู่ในอาคารที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ นั้นมีบอรด์แปะข่าวสารประชาสัมพันธ์ติดอยู่แต่ไม่ทันจะเดินเข้าไปหยุดดูสาริกาก็เหลียวหน้ามาเรียกผมเสียก่อน

 

“ตามมาสิ ฉันกำลังจะไปพบใครคนนึง”

 

“อื้ม…ไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผมบอกก่อนจะก้าวเท้าตามเธอไปอย่างงุนงง

 

‘เธอจะพาผมไปไหน แล้วใครกันที่เจ้าตัวพูดถึง’ ผมเองก็อยากทราบเช่นกัน

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

ชอบอ่านนิยายแนวไทยๆ กันมั๊ย

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา