ฮักเพียงเจ้าสุดหทัย (omegaverse)
-
เขียนโดย มิมาลินทร์
วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.34 น.
8 บท
0 วิจารณ์
6,236 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) เรื่องที่ไม่คาดคิด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันเสาร์ เวลา 23.30 น.
ตัวหนังสือฮั่นจึ (คันจิภาษาจีน) สีทองสองตัวเรียงลงมาในแนวตั้งส่องสว่างในยามวิกาล ขนานกับความสูงของตึกระฟ้าใจกลางเมืองหลวง ตัวหนังสือนั้นทำให้รู้ได้ในทันทีว่าเป็นตึกของเครืออสังหาธุรกิจของแซ่ ‘หยงไช้’ ตระกูลที่มีชื่อเสียงด้านการทำธุรกิจในการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้กับโรงแรมหลายดาวทั้งภายในประเทศไทย ประเทศแม่อย่างประเทศจีน มีหลายบริษัทน้อยใหญ่ที่อยากทำงานด้วยกับแซ่นี้ รวมทั้งครอบครัวที่กำลังอยู่บนชั้นบนสุดของสิ่งปลูกสร้างนี้เช่นกัน
โดยปกติแล้วมันเป็นสถานที่ส่วนตัวของรองประธานบริษัทหนุ่มไฟแรงเอาไว้ใช้ในการทำงานต่างๆ ภายในบริษัท แต่ตอนนี้สถานที่นี้กลับเป็นสถานที่เอาไว้โต้เถียงกันภายในครอบครัวของครอบครัวหนึ่งแทนเสียแล้ว ประธานและรองประธานบริษัทสองพ่อลูกได้ทิ้งครอบครัวนี้เอาไว้ภายในห้องแล้วให้หนุ่มแว่นอายุห่างกับหลางราวหนึ่งรอบ ผู้ทำหน้าที่เป็นเลขาซื่อสัตย์ของพ่อและเขามานานเกือบสิบปีมาอยู่ พูดคุยธุระบางอย่างที่สำคัญแทน
“ฉันจะต้องส่งจามินทร์ ไปให้กับเจ้าหนี้อยู่กินกับเขาจนมีลูกเพื่อสืบทายาทและเป็นสะใภ้เครือหยงไช้เพราะฉันไปทำข้อตกลงเอาไว้ ว่าถ้าคืนเงินที่ยืมมาไม่ทันเวลากำหนดสัญญา จะส่งลูกสักคนในบ้านที่มีสถานะเป็น ‘โอเมก้า’ ไปมอบให้” เสียงชายร่างท้วมวัยกลางคน ครึ่งเสี้ยวอาหรับ เอ่ยขึ้นกลางห้องใหญ่ ที่มีสายตาของเด็กสามคนอายุไล่เลี่ยยืนอยู่กับหนึ่งเลขาของเจ้าหนี้ ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย และเย็นชาเยือกเย็น ตาที่นิ่งและปากไม่ขยับแสดงสื่ออาการใดๆ ออกมา ชายคนที่ว่ามีชื่อว่า
‘จาคีฟ’ เป็นนักธุรกิจชาวอาหรับที่ได้ไปก่อปัญหาสร้างหนี้กับเครือหยงไช้ ทางฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอที่ยากจะต้านทานคือการขอลูกในบ้านไปเป็นภรรยาและนายหญิงใหญ่ของเครือหยงไช้เลขาแว่นทำได้เพียงแต่ยืนมองอยู่เฉยๆ ไม่พูดอะไร จาคีฟได้แย่งพูดในสิ่งที่เขาต้องพูดไปหมดเสียแล้ว
ทั้งๆ ที่ชื่อที่อันไพเราะที่จาคีฟเอ่ยพูดไปเมื่อครู่ เป็นชื่อของลูกสาวคนหนึ่งจากลูกทั้งหมดสองคน เรื่องที่ไม่คิดไม่ฝันได้เกิดขึ้นเมื่อลูกสาวคนนี้ดันเป็นโอเมก้า ซึ่งตรงกับสัญญาที่ให้ไว้กับคู่กรณีเสียนี้ ความจริงเขาตกลงทำสัญญาลงไปก็เพราะอยากให้ลูกสาวได้สามีที่ดี
แต่เขากลับคิดผิดหลางและพ่อของเขานั้นเป็นงูพิษที่หลอกให้เขากลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่โต นั้นเท่ากับว่าเขาต้องมอบลูกสาวไปโดยไม่ได้สินสอดสักแดงเดียวเขาเลยมานั่งเสียใจในสิ่งที่เขาได้ทำลงไปกับมือของตัวเองอยู่แบบนี้
เขาไม่ได้ตั้งใจจะส่งลูกสาวของตัวเองไปลำบาก ในอนาคตอาจโดนซุบซิบนินทาจากเหล่าสังคมไฮโซว่าลูกสาวเขาต่างๆ นานาจนอยู่ไม่สุขใจเป็นแน่
ตอนนี้เขาอยากให้คนที่ไปแต่งงานเป็นลูกเลี้ยงของเขาที่มีชื่อว่า "อาลิน" เด็กที่เก็บมาเลี้ยง หมายจะแก้แค้นในเรื่องเก่าๆ มาเป็นคนรับเคราะห์กรรมนี้แต่ปัญหาคือร่างกายของเด็กคนนั้นดันไม่เผยสถานะ ไม่ว่าจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงหลายแห่งอย่างไร ผลยังคงออกมาก็ยังเป็นเช่นเดิม ซึ่งในทางการแพทย์การที่มนุษย์ไม่แสดงอาการให้เห็นเลยว่าเป็นเบต้า โอเมก้าหรืออัลฟ่า มันหมายความว่า คนที่ไร้สถานะแบบนี้จะอยู่เหนือกฏหมายทั้งหมด ซึ่งไม่มีทางมาแต่งงานใช้หนี้อย่างที่จาคีฟคาดหวังได้ แน่นอนว่าลูกสาวที่เผยสถานะออกมาเร็วกว่าจึงพลอยซวยแบบนี้
พอสถานการณ์วิกฤติ ลูกชายอีกสองคนของเขาถึงกับตะลึงกับคำพูดของบิดาไม่น้อย และดูเหมือนจะไม่พอใจอีกด้วย เพราะจามินทร์เป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ วัยสิบสี่ปี
“ผมว่า...พ่อทำเกินไป จามินทร์ยังเด็ก” ชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายคนโตของบ้าน ได้เอ่ยขึ้น เขามีชื่อว่า ‘จาฟาร์’ มีลักษณะหน้าตาที่หล่อเหลาน่าหลงใหลตามวัยสิบเก้าปี และผิวแทน เขามีฐานะเป็นถึงอัลฟ่าผู้สูงศักดิ์ ปกติแล้วเขาเป็นคนที่รักพ่อและเข้ากับพ่อของตนได้ดีมากกว่าลูกคนอื่นๆ ในบ้านแต่คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ขัดแย้งไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อตัวเองทำเท่าใดนัก
“ก็พ่อตกลงทำสัญญาไปแล้ว หรือแกจะไปเป็นเมียมันแทนละ?” ฝ่ายผู้เป็นพ่อเอ่ยสวนกลับไปหาลูกชายที่เถียงคอเป็นเอ็น มือของลูกชายที่กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง ใบหน้าแดงก่ำ อารมณ์และกิริยาส่อว่า พร้อมจะง้างมือมาต่อยยังเขาทันทีหากเขาไม่ใช่ ‘พ่อ’
“ผมเป็นอัลฟ่า พ่อก็รู้ อัลฟ่ากับอัลฟ่า เป็นไปได้ยากที่จะให้กำเนิดลูก” ชายผิวแทนตอบพร้อมทำหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยรู้สึกผิดหวังกับพ่อของตัวเองขนาดนี้มาก่อน หรือสิ่งนี้จะเผยเมื่อมนุษย์อย่างเราๆ เข้าตาจนกันแน่
“ฮึก......ฮือๆๆ” เสียงคร่ำครวญของเด็กสาวโอเมก้าเจ้าของชื่อ เจ้าหล่อนได้แต่เสียใจและทำตัวไม่ถูก เข่าของหล่อนอ่อนลงอย่างกะทันหัน ทำให้นั่งเข่าลงไปกับพื้นพร้อมกับเอามือซับหน้าของตนอยู่เป็นระยะ ชายหน้าหวานผู้เป็นลูกเลี้ยงที่จาคีฟเก็บมาเลี้ยงในฐานะพี่ชายอีกคนหนึ่ง สังเกตเห็นอาการของน้องตน เขาที่ยืนอยู่ไม่ห่างไกลหล่อนมากนักก็เริ่มเดินมาหาอย่างช้าๆ พร้อมกับย่อตัวลงกอดปลอบน้องสาวเบาๆ
“น้องต้องไปอยู่กับเจ้าหนี้เมื่อไหร่ครับ” ลูกชายคนเล็กเอ่ยถามบิดาบ้าง หลังจากที่นั่งเงียบไม่ออกความคิดเห็นมานาน ในอกอุ่นแกร่งของเขาในตอนนี้ มีเด็กสาวที่ตัวสั่นเพราะความหวาดกลัวกำลังซบอกอยู่ เขาลูบหัวของเธอเบาๆ เรื่อย ๆ อย่างอ่อนโยนอยู่อย่างนั้นในตอนที่คุยกับคนที่มีฐานะเป็นพ่อ จาคีฟมองหน้าอาลินด้วยสีหน้าที่ยากจะขาดเดาแล้วเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา
“พรุ่งนี้” เขาพูดเสียงเน้น แล้วเบือนหน้านิ่งๆ หนีคนตัวเล็กที่นั่งกอดน้องสาวอยู่
ทุกคนที่ได้ยินบิดาเอ่ยออกมาก็ตกใจกันยกใหญ่ “!!!!”
ทั้งอาลิน จาฟาร์และจามินทร์ เริ่มทำหน้าตาวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด นี่มันเร็วเกินไป จะให้บอกปุ๊บไปปั๊บแบบนี้ใครจะทำได้กันล่ะ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อยู่ในโลกที่แสนสดใสในกรอบของครอบครัว แต่ทว่าเช้าวันต่อมาต้องไปแต่งงานมีลูกกับคนที่ตัวเองไม่รักและไม่รู้จักหน้าคร่าตาอีก
“พ่อ จะให้น้องแต่งงานกับใคร ก็ไม่รู้ได้ยังไง?” ความโกรธของพี่ชายคนโตเริ่มปะทุและเดือดพล่าน เขาเอ่ยถามบิดาด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด ปกติเขาเป็นคนใจร้อนมากพอตัวอยู่แล้วพอมาเจอแบบนี้ก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ทำไมชายร่างท้วมตรงหน้าจากที่เคยเป็นพ่อที่แสนดีถึงมาทำร้ายอนาคตของลูกสาวของตนได้อย่าลงคอ
ฝ่ายบิดาที่เห็นท่าทางลูกชายของตนที่เก็บอาการไม่อยู่ก็ได้แต่มองด้วยสายตาเรียบเฉยอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เขาเลิกคิ้วขึ้นเพราะสงสัยในคำถามที่ไอ้ลูกชายใจร้อนของเขาเอ่ยถามขึ้นเมื่อครู่ “รู้จักสิ.....ก็คนที่เป็นครูสอนพวกแกยังไงล่ะ จำไม่ได้หรือ”
“ครู?” คนใจร้อนเอ่ยทวนอย่างแปลกใจ จากอารมณ์ร้อนภายในจิตใจต้องเปลี่ยนเข้าสู่โหมดปกติชั่วคราว เพื่อพิจารณาไตร่ตรอง แน่นอนว่าคนที่เป็นครูเคยสอนเขามา มันมากจนเขาก็นึกไม่ออกว่าควรคิดว่าเป็นใคร
“หลาง หยงไช้ ที่มาบ้านเราบ่อยๆ อยู่ช่วงหนึ่ง” ชายร่างท้วมพูดขยายความ ชื่อของว่าที่สามีในอนาคตของลูกสาวคนเล็กของเขาออกมา ทันทีที่ได้เอ่ยชื่อออกมาลูกๆ ทุกคนก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แต่หนึ่งในคนที่ทำสีหน้าเจ็บปวดที่สุดก็คืออาลินพี่ชายคนเล็ก
“ไม่จริง....” เขาบ่นพึมพำในลำคอ
“รักแรก....ต้องมาเป็นสามีของน้องสาวตัวเอง” อาลินคิดวนไปซ้ำไปซ้ำมาในหัวเขาน่าจะรู้สึกตัวตั้งแต่ที่อีกฝ่ายคอยมากินข้าวที่บ้านบ่อยๆ เพราะอะไร? นั้นก็เพราะเขาแอบปลาบปลื้มน้องสาวของอาลินตอนนี้ได้เห็นจุดประสงค์ที่ชัดเจนที่สุดแล้ว
“มันต้องมีสักทาง ที่จะหลุดพ้นจากจุดนี้ไปได้ ทำไมมินทร์ต้องเกิดมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ” ชายหนุ่มร่างบางผู้เป็นพี่ชายได้แต่บ่นพึมพำในลำคอเป็นเชิงตัดพ้อกับโชคชะตาของน้องสาวตน เขารู้สึกสงสารน้องสาวตัวเองจับใจ
เจ้าหล่อนเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายท่าทางเหมือนจะเป็นจะตายเสียให้ได้ แม้หล่อนจะเก่งเรื่องเรียนสักเพียงไหน ตอนนี้ก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะรักษาสติของตัวเองเอาไว้ ทำไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเมื่อต้องคิดว่าจะต้องไปเป็นเมียคนที่ไม่ได้รักแถมเป็นอัลฟ่าที่เป็นผู้ชายอีก
ตอนนี้หล่อนได้ส่งสายเว้าวอนส่งไปหาชายผู้เป็นพ่อหมายจะขอความเห็นใจ แต่ดูเหมือนจะไร้ผล พ่อของหล่อนเอาแต่เมินสายตาหล่อนที่ส่งไปให้ มีเพียงแค่พี่ชายที่ยังคงกอดเธอไว้แน่นตรงหน้ากับพี่ชายอีกคนที่ยืนเถียงพ่ออย่างสู้ตายเพื่อหาทางช่วยผ่อนผันให้หล่อนได้ไปเป็นแบบนั้นช้าลง
“…….พี่ก็อยากช่วยไปแต่งงานแทนเรา แต่มันเป็นไปไม่ได้” อาลินได้แต่กอดน้องแน่นอยู่แบบนั้น เพราะไม่รู้จะช่วยน้องสาวของตนเองอย่างไร ตอนนี้เขาแทบจะนึกอะไรไม่ออกเลย คิดว่าจะไปแต่งงานแทนน้องก็ไม่ได้เพราะมีปัญหาเรื่องสถานะ
ฝ่ายน้องสาวอย่างจามินทร์ จากที่ร้องไห้อยู่ก็พยายามที่จะตั้งสติอย่างช้าๆ เดิมที่เจ้าหล่อนเป็นคนที่ชาญฉลาดมากคนหนึ่ง แต่ปัญหาในคราวนี้มันมากจนเกิดไป เพราะจู่ๆ มันก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้หล่อนตั้งรับกับมันไม่ทัน หล่อนเริ่มรวบรวมสติใหม่อีกครั้ง ค่อยๆ ใช้สมองคิดแก้ปัญหาเพราะเชื่อว่าในทางที่ตันแบบนี้อาจมีแสงสว่างซ่อนอยู่
เมื่อได้ลองทวนความคิดดู รู้สึกไปสะดุดกับคำว่า “แต่งงานแทน” ที่พี่ชายของหล่อนเอ่ยขึ้นมา ถ้าสมมุติว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายเข้าใจผิดแล้วเผลอผูกพันธะ โดยการกัดคอทำสัญญากับพี่ชายอย่าง 'อาลิน' ไปก็จะไม่สามารถที่แก้ไขอะไรได้ จำต้องไปเป็นคู่กันชั่วนิรันดร์ อย่างน้อยๆ ถ้าพี่ของหล่อนเผยสถานะในอนาคตออกมาว่าเป็นเบต้าหรืออัลฟ่า การจับคู่ก็จะเป็นโมฆะ
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงทางตระกูลมาซาเอลคงหาเงินมาใช้หนี้ได้หมดเสียก่อน หล่อนได้แต่ภาวนาเหลือเกินว่าพี่ของหล่อนจะไม่ได้เป็นโอเมก้าในอนาคตเพราะจะคงต้องอยู่กับหลางไปชั่วชีวิตของเขา โดยธรรมชาติโอเมก้าจะมีคู่ได้เพียงคนเดียวไปทั้งชีวิตมีใหม่ก็ไม่ได้ เมื่อทำพันธะกันไปแล้ว แต่ในฝ่ายของอัลฟ่านั้นช่างแตกต่าง....อัลฟ่าจะมีโอเมก้าสักกี่คนก็ได้ ในชีวิตของเขา
หากในวันพรุ่งนี้ระหว่างเข้าหอ ตัวของพี่ชายที่แอบชอบเจ้าหนี้คนนี้ได้สลับตัวกับน้องสาวอย่างหล่อนในตอนกลางคืนตอนเข้าหอล่ะก็....หลางก็อาจจะเข้าใจผิดก็ได้ อย่างน้อยๆ รูปร่างและผิวพรรณระหว่างพี่ชายกับหล่อนนั้นใกล้เคียงกันมากทีเดียว
“มินทร์ มินทร์ว่าคิดอะไรดีๆ ออกแล้วล่ะ แต่ต้องพึ่งพี่นะ” อาลินรู้สึกดีใจขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็พอจะมีอะไรที่จะช่วยน้องได้สักอย่างไม่ว่าอะไรเขาก็เต็มใจทั้งนั้น
“จะให้พี่ช่วยอะไรหรือ” ชายหนุ่มร่างบ่างเอ่ยถามน้องกลับเมื่อน้องขอความช่วยเหลือ หล่อนมองสีหน้าพี่ชายคนนี้อย่างจริงจัง ก่อนจะค่อยๆ บอกพี่ชายของตนไปช้าๆ ชัดๆ
“อยากให้พี่สลับตัวกับหนูในคืนวันเข้าหอค่ะ” หล่อนแค่นเสียงตอบพร้อมยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ อาลินตาเบิกโพลงและอ้าปากค้างเพราะอึ้งกับสิ่งที่น้องสาวของตนเอ่ยขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนั้นหลางที่ไม่ได้ชอบเขาอยู่แล้วจะไม่เกลียดขี้หน้าเขาไปกว่าเดิมงั้นหรือ
"มินทร์ไม่ได้ชอบผู้ชาย ขอร้องพ่อปล่อยมินทร์ไปเถอะนะคะ ตลอดมาหนูก็เป็นลูกที่ดีตลอด" หล่อนตะโกนบอกพ่อของตัวเองเสียงดัง
อาลินตกใจอีกครั้งเมื่อน้องสาวของตนพยายามทำอะไรแปลกๆ อีก ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเจ้าหล่อนนั้นชอบผู้หญิงด้วยกันเอง....มันต้องมีแน่นอนที่จะมีอัลฟ่าที่เป็นผู้หญิงที่เป็นคู่ของหล่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง หล่อนมักบอกเรื่องนี้ให้อาลินฟังอยู่เสมอๆ ว่าหล่อนมีรสนิยมรักอย่างไรแต่กับคนในครอบครัวนี้สิ วันนี้จะเป็นครั้งแรกที่พ่อ แม่ และจาฟาร์จะได้รับรู้
ฝ่ายพ่อพอได้ยินหล่อนขอร้องแบบนั้นบวกกับตอนนี้เขาไม่อยากไปสานสัมพันธ์กับเครือหยงไช้อีกแล้วเพราะฝ่ายนั้นโกงเขามารอบหนึ่ง อาลินจึงเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยที่จะนำไปใช้แก้แค้นหลางและแก้แค้นในฐานะลูกเลี้ยงอย่างอาลินที่เขาอุตสาห์เก็บมาเลี้ยงอย่างยาวนานหลายสิบปี
"ได้.....พ่อจะทำตามที่ จามินทร์ขอ"
ตัวหนังสือฮั่นจึ (คันจิภาษาจีน) สีทองสองตัวเรียงลงมาในแนวตั้งส่องสว่างในยามวิกาล ขนานกับความสูงของตึกระฟ้าใจกลางเมืองหลวง ตัวหนังสือนั้นทำให้รู้ได้ในทันทีว่าเป็นตึกของเครืออสังหาธุรกิจของแซ่ ‘หยงไช้’ ตระกูลที่มีชื่อเสียงด้านการทำธุรกิจในการส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้กับโรงแรมหลายดาวทั้งภายในประเทศไทย ประเทศแม่อย่างประเทศจีน มีหลายบริษัทน้อยใหญ่ที่อยากทำงานด้วยกับแซ่นี้ รวมทั้งครอบครัวที่กำลังอยู่บนชั้นบนสุดของสิ่งปลูกสร้างนี้เช่นกัน
โดยปกติแล้วมันเป็นสถานที่ส่วนตัวของรองประธานบริษัทหนุ่มไฟแรงเอาไว้ใช้ในการทำงานต่างๆ ภายในบริษัท แต่ตอนนี้สถานที่นี้กลับเป็นสถานที่เอาไว้โต้เถียงกันภายในครอบครัวของครอบครัวหนึ่งแทนเสียแล้ว ประธานและรองประธานบริษัทสองพ่อลูกได้ทิ้งครอบครัวนี้เอาไว้ภายในห้องแล้วให้หนุ่มแว่นอายุห่างกับหลางราวหนึ่งรอบ ผู้ทำหน้าที่เป็นเลขาซื่อสัตย์ของพ่อและเขามานานเกือบสิบปีมาอยู่ พูดคุยธุระบางอย่างที่สำคัญแทน
“ฉันจะต้องส่งจามินทร์ ไปให้กับเจ้าหนี้อยู่กินกับเขาจนมีลูกเพื่อสืบทายาทและเป็นสะใภ้เครือหยงไช้เพราะฉันไปทำข้อตกลงเอาไว้ ว่าถ้าคืนเงินที่ยืมมาไม่ทันเวลากำหนดสัญญา จะส่งลูกสักคนในบ้านที่มีสถานะเป็น ‘โอเมก้า’ ไปมอบให้” เสียงชายร่างท้วมวัยกลางคน ครึ่งเสี้ยวอาหรับ เอ่ยขึ้นกลางห้องใหญ่ ที่มีสายตาของเด็กสามคนอายุไล่เลี่ยยืนอยู่กับหนึ่งเลขาของเจ้าหนี้ ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย และเย็นชาเยือกเย็น ตาที่นิ่งและปากไม่ขยับแสดงสื่ออาการใดๆ ออกมา ชายคนที่ว่ามีชื่อว่า
‘จาคีฟ’ เป็นนักธุรกิจชาวอาหรับที่ได้ไปก่อปัญหาสร้างหนี้กับเครือหยงไช้ ทางฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอที่ยากจะต้านทานคือการขอลูกในบ้านไปเป็นภรรยาและนายหญิงใหญ่ของเครือหยงไช้เลขาแว่นทำได้เพียงแต่ยืนมองอยู่เฉยๆ ไม่พูดอะไร จาคีฟได้แย่งพูดในสิ่งที่เขาต้องพูดไปหมดเสียแล้ว
ทั้งๆ ที่ชื่อที่อันไพเราะที่จาคีฟเอ่ยพูดไปเมื่อครู่ เป็นชื่อของลูกสาวคนหนึ่งจากลูกทั้งหมดสองคน เรื่องที่ไม่คิดไม่ฝันได้เกิดขึ้นเมื่อลูกสาวคนนี้ดันเป็นโอเมก้า ซึ่งตรงกับสัญญาที่ให้ไว้กับคู่กรณีเสียนี้ ความจริงเขาตกลงทำสัญญาลงไปก็เพราะอยากให้ลูกสาวได้สามีที่ดี
แต่เขากลับคิดผิดหลางและพ่อของเขานั้นเป็นงูพิษที่หลอกให้เขากลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่โต นั้นเท่ากับว่าเขาต้องมอบลูกสาวไปโดยไม่ได้สินสอดสักแดงเดียวเขาเลยมานั่งเสียใจในสิ่งที่เขาได้ทำลงไปกับมือของตัวเองอยู่แบบนี้
เขาไม่ได้ตั้งใจจะส่งลูกสาวของตัวเองไปลำบาก ในอนาคตอาจโดนซุบซิบนินทาจากเหล่าสังคมไฮโซว่าลูกสาวเขาต่างๆ นานาจนอยู่ไม่สุขใจเป็นแน่
ตอนนี้เขาอยากให้คนที่ไปแต่งงานเป็นลูกเลี้ยงของเขาที่มีชื่อว่า "อาลิน" เด็กที่เก็บมาเลี้ยง หมายจะแก้แค้นในเรื่องเก่าๆ มาเป็นคนรับเคราะห์กรรมนี้แต่ปัญหาคือร่างกายของเด็กคนนั้นดันไม่เผยสถานะ ไม่ว่าจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงหลายแห่งอย่างไร ผลยังคงออกมาก็ยังเป็นเช่นเดิม ซึ่งในทางการแพทย์การที่มนุษย์ไม่แสดงอาการให้เห็นเลยว่าเป็นเบต้า โอเมก้าหรืออัลฟ่า มันหมายความว่า คนที่ไร้สถานะแบบนี้จะอยู่เหนือกฏหมายทั้งหมด ซึ่งไม่มีทางมาแต่งงานใช้หนี้อย่างที่จาคีฟคาดหวังได้ แน่นอนว่าลูกสาวที่เผยสถานะออกมาเร็วกว่าจึงพลอยซวยแบบนี้
พอสถานการณ์วิกฤติ ลูกชายอีกสองคนของเขาถึงกับตะลึงกับคำพูดของบิดาไม่น้อย และดูเหมือนจะไม่พอใจอีกด้วย เพราะจามินทร์เป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ วัยสิบสี่ปี
“ผมว่า...พ่อทำเกินไป จามินทร์ยังเด็ก” ชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายคนโตของบ้าน ได้เอ่ยขึ้น เขามีชื่อว่า ‘จาฟาร์’ มีลักษณะหน้าตาที่หล่อเหลาน่าหลงใหลตามวัยสิบเก้าปี และผิวแทน เขามีฐานะเป็นถึงอัลฟ่าผู้สูงศักดิ์ ปกติแล้วเขาเป็นคนที่รักพ่อและเข้ากับพ่อของตนได้ดีมากกว่าลูกคนอื่นๆ ในบ้านแต่คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ขัดแย้งไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อตัวเองทำเท่าใดนัก
“ก็พ่อตกลงทำสัญญาไปแล้ว หรือแกจะไปเป็นเมียมันแทนละ?” ฝ่ายผู้เป็นพ่อเอ่ยสวนกลับไปหาลูกชายที่เถียงคอเป็นเอ็น มือของลูกชายที่กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง ใบหน้าแดงก่ำ อารมณ์และกิริยาส่อว่า พร้อมจะง้างมือมาต่อยยังเขาทันทีหากเขาไม่ใช่ ‘พ่อ’
“ผมเป็นอัลฟ่า พ่อก็รู้ อัลฟ่ากับอัลฟ่า เป็นไปได้ยากที่จะให้กำเนิดลูก” ชายผิวแทนตอบพร้อมทำหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยรู้สึกผิดหวังกับพ่อของตัวเองขนาดนี้มาก่อน หรือสิ่งนี้จะเผยเมื่อมนุษย์อย่างเราๆ เข้าตาจนกันแน่
“ฮึก......ฮือๆๆ” เสียงคร่ำครวญของเด็กสาวโอเมก้าเจ้าของชื่อ เจ้าหล่อนได้แต่เสียใจและทำตัวไม่ถูก เข่าของหล่อนอ่อนลงอย่างกะทันหัน ทำให้นั่งเข่าลงไปกับพื้นพร้อมกับเอามือซับหน้าของตนอยู่เป็นระยะ ชายหน้าหวานผู้เป็นลูกเลี้ยงที่จาคีฟเก็บมาเลี้ยงในฐานะพี่ชายอีกคนหนึ่ง สังเกตเห็นอาการของน้องตน เขาที่ยืนอยู่ไม่ห่างไกลหล่อนมากนักก็เริ่มเดินมาหาอย่างช้าๆ พร้อมกับย่อตัวลงกอดปลอบน้องสาวเบาๆ
“น้องต้องไปอยู่กับเจ้าหนี้เมื่อไหร่ครับ” ลูกชายคนเล็กเอ่ยถามบิดาบ้าง หลังจากที่นั่งเงียบไม่ออกความคิดเห็นมานาน ในอกอุ่นแกร่งของเขาในตอนนี้ มีเด็กสาวที่ตัวสั่นเพราะความหวาดกลัวกำลังซบอกอยู่ เขาลูบหัวของเธอเบาๆ เรื่อย ๆ อย่างอ่อนโยนอยู่อย่างนั้นในตอนที่คุยกับคนที่มีฐานะเป็นพ่อ จาคีฟมองหน้าอาลินด้วยสีหน้าที่ยากจะขาดเดาแล้วเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา
“พรุ่งนี้” เขาพูดเสียงเน้น แล้วเบือนหน้านิ่งๆ หนีคนตัวเล็กที่นั่งกอดน้องสาวอยู่
ทุกคนที่ได้ยินบิดาเอ่ยออกมาก็ตกใจกันยกใหญ่ “!!!!”
ทั้งอาลิน จาฟาร์และจามินทร์ เริ่มทำหน้าตาวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด นี่มันเร็วเกินไป จะให้บอกปุ๊บไปปั๊บแบบนี้ใครจะทำได้กันล่ะ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อยู่ในโลกที่แสนสดใสในกรอบของครอบครัว แต่ทว่าเช้าวันต่อมาต้องไปแต่งงานมีลูกกับคนที่ตัวเองไม่รักและไม่รู้จักหน้าคร่าตาอีก
“พ่อ จะให้น้องแต่งงานกับใคร ก็ไม่รู้ได้ยังไง?” ความโกรธของพี่ชายคนโตเริ่มปะทุและเดือดพล่าน เขาเอ่ยถามบิดาด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด ปกติเขาเป็นคนใจร้อนมากพอตัวอยู่แล้วพอมาเจอแบบนี้ก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ทำไมชายร่างท้วมตรงหน้าจากที่เคยเป็นพ่อที่แสนดีถึงมาทำร้ายอนาคตของลูกสาวของตนได้อย่าลงคอ
ฝ่ายบิดาที่เห็นท่าทางลูกชายของตนที่เก็บอาการไม่อยู่ก็ได้แต่มองด้วยสายตาเรียบเฉยอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เขาเลิกคิ้วขึ้นเพราะสงสัยในคำถามที่ไอ้ลูกชายใจร้อนของเขาเอ่ยถามขึ้นเมื่อครู่ “รู้จักสิ.....ก็คนที่เป็นครูสอนพวกแกยังไงล่ะ จำไม่ได้หรือ”
“ครู?” คนใจร้อนเอ่ยทวนอย่างแปลกใจ จากอารมณ์ร้อนภายในจิตใจต้องเปลี่ยนเข้าสู่โหมดปกติชั่วคราว เพื่อพิจารณาไตร่ตรอง แน่นอนว่าคนที่เป็นครูเคยสอนเขามา มันมากจนเขาก็นึกไม่ออกว่าควรคิดว่าเป็นใคร
“หลาง หยงไช้ ที่มาบ้านเราบ่อยๆ อยู่ช่วงหนึ่ง” ชายร่างท้วมพูดขยายความ ชื่อของว่าที่สามีในอนาคตของลูกสาวคนเล็กของเขาออกมา ทันทีที่ได้เอ่ยชื่อออกมาลูกๆ ทุกคนก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แต่หนึ่งในคนที่ทำสีหน้าเจ็บปวดที่สุดก็คืออาลินพี่ชายคนเล็ก
“ไม่จริง....” เขาบ่นพึมพำในลำคอ
“รักแรก....ต้องมาเป็นสามีของน้องสาวตัวเอง” อาลินคิดวนไปซ้ำไปซ้ำมาในหัวเขาน่าจะรู้สึกตัวตั้งแต่ที่อีกฝ่ายคอยมากินข้าวที่บ้านบ่อยๆ เพราะอะไร? นั้นก็เพราะเขาแอบปลาบปลื้มน้องสาวของอาลินตอนนี้ได้เห็นจุดประสงค์ที่ชัดเจนที่สุดแล้ว
“มันต้องมีสักทาง ที่จะหลุดพ้นจากจุดนี้ไปได้ ทำไมมินทร์ต้องเกิดมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ” ชายหนุ่มร่างบางผู้เป็นพี่ชายได้แต่บ่นพึมพำในลำคอเป็นเชิงตัดพ้อกับโชคชะตาของน้องสาวตน เขารู้สึกสงสารน้องสาวตัวเองจับใจ
เจ้าหล่อนเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายท่าทางเหมือนจะเป็นจะตายเสียให้ได้ แม้หล่อนจะเก่งเรื่องเรียนสักเพียงไหน ตอนนี้ก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะรักษาสติของตัวเองเอาไว้ ทำไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเมื่อต้องคิดว่าจะต้องไปเป็นเมียคนที่ไม่ได้รักแถมเป็นอัลฟ่าที่เป็นผู้ชายอีก
ตอนนี้หล่อนได้ส่งสายเว้าวอนส่งไปหาชายผู้เป็นพ่อหมายจะขอความเห็นใจ แต่ดูเหมือนจะไร้ผล พ่อของหล่อนเอาแต่เมินสายตาหล่อนที่ส่งไปให้ มีเพียงแค่พี่ชายที่ยังคงกอดเธอไว้แน่นตรงหน้ากับพี่ชายอีกคนที่ยืนเถียงพ่ออย่างสู้ตายเพื่อหาทางช่วยผ่อนผันให้หล่อนได้ไปเป็นแบบนั้นช้าลง
“…….พี่ก็อยากช่วยไปแต่งงานแทนเรา แต่มันเป็นไปไม่ได้” อาลินได้แต่กอดน้องแน่นอยู่แบบนั้น เพราะไม่รู้จะช่วยน้องสาวของตนเองอย่างไร ตอนนี้เขาแทบจะนึกอะไรไม่ออกเลย คิดว่าจะไปแต่งงานแทนน้องก็ไม่ได้เพราะมีปัญหาเรื่องสถานะ
ฝ่ายน้องสาวอย่างจามินทร์ จากที่ร้องไห้อยู่ก็พยายามที่จะตั้งสติอย่างช้าๆ เดิมที่เจ้าหล่อนเป็นคนที่ชาญฉลาดมากคนหนึ่ง แต่ปัญหาในคราวนี้มันมากจนเกิดไป เพราะจู่ๆ มันก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้หล่อนตั้งรับกับมันไม่ทัน หล่อนเริ่มรวบรวมสติใหม่อีกครั้ง ค่อยๆ ใช้สมองคิดแก้ปัญหาเพราะเชื่อว่าในทางที่ตันแบบนี้อาจมีแสงสว่างซ่อนอยู่
เมื่อได้ลองทวนความคิดดู รู้สึกไปสะดุดกับคำว่า “แต่งงานแทน” ที่พี่ชายของหล่อนเอ่ยขึ้นมา ถ้าสมมุติว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายเข้าใจผิดแล้วเผลอผูกพันธะ โดยการกัดคอทำสัญญากับพี่ชายอย่าง 'อาลิน' ไปก็จะไม่สามารถที่แก้ไขอะไรได้ จำต้องไปเป็นคู่กันชั่วนิรันดร์ อย่างน้อยๆ ถ้าพี่ของหล่อนเผยสถานะในอนาคตออกมาว่าเป็นเบต้าหรืออัลฟ่า การจับคู่ก็จะเป็นโมฆะ
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงทางตระกูลมาซาเอลคงหาเงินมาใช้หนี้ได้หมดเสียก่อน หล่อนได้แต่ภาวนาเหลือเกินว่าพี่ของหล่อนจะไม่ได้เป็นโอเมก้าในอนาคตเพราะจะคงต้องอยู่กับหลางไปชั่วชีวิตของเขา โดยธรรมชาติโอเมก้าจะมีคู่ได้เพียงคนเดียวไปทั้งชีวิตมีใหม่ก็ไม่ได้ เมื่อทำพันธะกันไปแล้ว แต่ในฝ่ายของอัลฟ่านั้นช่างแตกต่าง....อัลฟ่าจะมีโอเมก้าสักกี่คนก็ได้ ในชีวิตของเขา
หากในวันพรุ่งนี้ระหว่างเข้าหอ ตัวของพี่ชายที่แอบชอบเจ้าหนี้คนนี้ได้สลับตัวกับน้องสาวอย่างหล่อนในตอนกลางคืนตอนเข้าหอล่ะก็....หลางก็อาจจะเข้าใจผิดก็ได้ อย่างน้อยๆ รูปร่างและผิวพรรณระหว่างพี่ชายกับหล่อนนั้นใกล้เคียงกันมากทีเดียว
“มินทร์ มินทร์ว่าคิดอะไรดีๆ ออกแล้วล่ะ แต่ต้องพึ่งพี่นะ” อาลินรู้สึกดีใจขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็พอจะมีอะไรที่จะช่วยน้องได้สักอย่างไม่ว่าอะไรเขาก็เต็มใจทั้งนั้น
“จะให้พี่ช่วยอะไรหรือ” ชายหนุ่มร่างบ่างเอ่ยถามน้องกลับเมื่อน้องขอความช่วยเหลือ หล่อนมองสีหน้าพี่ชายคนนี้อย่างจริงจัง ก่อนจะค่อยๆ บอกพี่ชายของตนไปช้าๆ ชัดๆ
“อยากให้พี่สลับตัวกับหนูในคืนวันเข้าหอค่ะ” หล่อนแค่นเสียงตอบพร้อมยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้ อาลินตาเบิกโพลงและอ้าปากค้างเพราะอึ้งกับสิ่งที่น้องสาวของตนเอ่ยขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนั้นหลางที่ไม่ได้ชอบเขาอยู่แล้วจะไม่เกลียดขี้หน้าเขาไปกว่าเดิมงั้นหรือ
"มินทร์ไม่ได้ชอบผู้ชาย ขอร้องพ่อปล่อยมินทร์ไปเถอะนะคะ ตลอดมาหนูก็เป็นลูกที่ดีตลอด" หล่อนตะโกนบอกพ่อของตัวเองเสียงดัง
อาลินตกใจอีกครั้งเมื่อน้องสาวของตนพยายามทำอะไรแปลกๆ อีก ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเจ้าหล่อนนั้นชอบผู้หญิงด้วยกันเอง....มันต้องมีแน่นอนที่จะมีอัลฟ่าที่เป็นผู้หญิงที่เป็นคู่ของหล่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง หล่อนมักบอกเรื่องนี้ให้อาลินฟังอยู่เสมอๆ ว่าหล่อนมีรสนิยมรักอย่างไรแต่กับคนในครอบครัวนี้สิ วันนี้จะเป็นครั้งแรกที่พ่อ แม่ และจาฟาร์จะได้รับรู้
ฝ่ายพ่อพอได้ยินหล่อนขอร้องแบบนั้นบวกกับตอนนี้เขาไม่อยากไปสานสัมพันธ์กับเครือหยงไช้อีกแล้วเพราะฝ่ายนั้นโกงเขามารอบหนึ่ง อาลินจึงเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยที่จะนำไปใช้แก้แค้นหลางและแก้แค้นในฐานะลูกเลี้ยงอย่างอาลินที่เขาอุตสาห์เก็บมาเลี้ยงอย่างยาวนานหลายสิบปี
"ได้.....พ่อจะทำตามที่ จามินทร์ขอ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ