SIREN : รักข้ามสายพันธ์ุ
เขียนโดย THEBENN
วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 09.16 น.
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2563 09.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ลางบอกเหตุอันน่าสะพรึง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความห่างออกไปหลายไมล์จากแผ่นดินใหญ่จนถึงมหาสมุทรคาราเปี้ยน มีเกาะเล็กๆเกาะหนึ่งที่สวยงามมากราวกับสวรรค์แห่งท้องทะเล หาดทรายสีเหลืองนวลประกายแสงระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ น้ำทะเลสีฟ้าสดใสสามารถมองเห็นแนวปะการังและมวลหมู่ปลาที่สวยงามได้อย่างชัดเจน ช่างเป็นเกาะที่สวยงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย บนเกาะแห่งนี้มีหมู่บ้านชื่อว่าแอสก้ามีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มาก โดยผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นชาวประมงหาปลา วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน และที่สำคัญผู้คนที่นี่รักท้องทะเลมากถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำอาชีพประมงแต่พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะอนุรักษ์ท้องทะเลด้วยเช่นกัน ความเป็นอยู่ของผู้คนบนเกาะแห่งนี้เป็นไปได้ด้วยดีและมีความสุขมากจนกระทั่งเมื่อหลายวันก่อน ที่หมู่บ้านแอสก้าได้มีชาวประมงที่ออกไปหาปลาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครพบเจอพวกเขาอีกเลยแม้แต่ซากศพ ซากเรือ หรือเบาะแสอื่นๆก็ไม่พบ ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
จอห์น เจฟ และเคลวิน เป็นคนที่เก่งที่สุดในหมู่บ้านได้อาสาเป็นคนคอยคุ้มกันคนในหมู่บ้านหรือที่คนในหมู่บ้านเรียกคนที่ทำหน้าที่นี้ว่า “ ครีดาลิส ” ทั้งสามคนได้เดินลาดตระเวนชายฝั่งทุกวัน และวันนี้ก็เช่นกันเพื่อเฝ้าระวังอันตรายและตามหาเบาะแสของคนที่หายตัวไป
“ เจ้าว่าวันนี้เราจะเจออะไรบ้างไหม นี่เราก็ตามหาและก็เฝ้ากันมาหลายวันแล้วยังไม่พบอะไรเลย ทั้งสาเหตุของการหายตัวไป ทั้งเบาะแสของคนในหมู่บ้าน ”
จอห์น กล่าวด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้า และหมดความหวังที่จะช่วยคนพวกนั้นกลับมา
“ เอาน่าเดี๋ยวก็พบเองหล่ะ ทำหน้าที่ของพวกเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ข้าหล่ะสงสารครอบครัวพวกคนที่หายตัวไปจริงๆป่านนี้คงเป็นห่วงแทบใจจะขาด ไม่รู้ว่าคนที่เรารักตอนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้างที่หายตัวไปแบบนั้น อะไรที่พวกเราพอที่จะช่วยให้พวกเขาสบายใจขึ้นมาบ้าง พวกเราก็ทำไปอย่างเต็มที่เพื่อพี่น้องคนในหมู่บ้านของเรา สู้ๆนะเพื่อนๆ ”
เจฟ หันไปตบไหล่จอห์นเบาๆเพื่อให้กำลังใจ และหันไปยิ้มให้เคลวินด้วยแววตาที่มุ่งมั่น
“ อื้ม!! มาพวกเรามาสู้ไปด้วยกันนะ เพื่อทุกคนจะได้กลับมามีความสุขอีกครั้ง วันนี้ก็เป็นแค่อีกวันที่เราเหนื่อยแต่พรุ่งนี้เราจะเหนื่อยมากกว่า 55555 ”
“ เคลวินนี่มันใช่เวลาไหมเนี่ยข้ากำลังซึ้งเลย เจ้านี่น้ามันน่านัก นี่เจ้าเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องขำหรือไง ”
จอห์นต่อว่าเคลวินด้วยสีหน้าที่จริงจังและโกรธ
“ ข้าไม่ได้เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องขำนะ แต่ข้าแค่อยากให้พวกเจ้าทั้งสองคนหายเครียด งั้นข้าขอโทษนะ ข้าไม่คิดว่าคำพูดของข้าจะทำให้พวกเจ้าโกรธ ”
“ เอาเถอะไม่เป็นไรหรอกเคลวิน แต่เจ้าจงรู้ไว้ว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่เปราะบางสำหรับความรู้สึกของใครหลายๆคน คราวหน้าคราวหลังเวลาเจ้าจะเล่นอะไรก็ระวังๆหน่อยแล้วกันนะ ”
เจฟพูดเตือนเคลวินด้วยความเป็นห่วง และทั้งสามก็ลาดตระเวนชายฝั่งต่อไป
เรื่องการหายตัวไปของชาวประมงในหมู่บ้านแอสก้าเป็นเรื่องที่โด่งดังมากจนไปได้ยินถึงหูกษัตริย์วิลเลียมผู้ปกครองอาณาจักรสลาโมเนีย พระองค์ทรงเกิดความร้อนเนื้อร้อนใจห่วงใยประชาชนมากแต่ด้วยความที่พระองค์มีอายุเยอะแล้วจึงทำอะไรก็ลำบากจึงส่งบุตรชายไปทำภารกิจแทนพระองค์ โดยมีพระนามว่าเจ้าชายออสติน เจ้าชายออสตินนั้นมีหน้าตาและรูปร่างที่สิริโฉมงดงามมาก ผมสีน้ำตาลทอง ผิวพรรณขาวสวยผุดผ่องราวกับหิมะที่ตกครั้งแรกในฤดูหนาว นัยน์ตาสีฟ้าเข้มเหมือนกับสีของน้ำในมหาสมุทรที่ดิ่งลึกลงไป เพราะเหตุนี้เจ้าชายออสตินจึงเป็นที่โปรดปรานสำหรับหญิงสาวทั้งเมือง เพราะเพียงแค่เดินผ่านก็ทำให้หญิงสาวตกหลุมรักได้ทันที แต่การไปทำภารกิจครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการลงโทษเจ้าชายออสตินด้วยเพราะที่ผ่านมาเจ้าชายมัวแต่ออกไปเที่ยวสังสรรค์ สำมะเลเทเมาไม่สนใจงานการ และขลุกอยู่การกับการยิงธนูอย่างเดียว จนทำให้ฝีมือการยิงธนูของเจ้าชายไม่มีใครเทียบได้เลย ตลอดเวลาที่เจ้าชายมีงานหรือภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพระบิดาเจ้าชายจะให้คาร่าซึ่งเป็นสหายคนสนิทตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กๆเป็นคนทำงานให้ตลอด แต่คาร่าก็ยอมและเต็มใจเพราะคาร่านั้นแอบชอบเจ้าชายมาตั้งแต่เด็กๆเมื่อกษัตริย์วิลเลียมรู้ว่าเจ้าชายไม่ยอมทำงานเองให้คาร่าทำให้ตลอดจึงทำให้วิลเลียมโกรธออสตินมากที่เจ้าชายไม่ยอมทำงานวันๆเอาแต่เที่ยวเตร่และยิงธนูอยู่อย่างเดียว จึงทรงรับสั่งว่าถ้ามีงานหรือภารกิจต่อจากนี้เจ้าชายจะต้องเป็นคนทำเองถ้าไม่ยอมทำก็จะถือว่าขาดความเป็นพ่อลูกกัน
“ ข้าจะให้เจ้าทำภารกิจนี้นะออสติน นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ข้าจะได้พิสูจน์เจ้าว่าสมควรที่จะได้รับอำนาจต่อจากข้าหรือไม่ แต่ถ้าเจ้าไม่ทำข้าจะถือว่าเจ้าไม่ใช่ลูกและไม่สมควรที่จะได้รับบัลลังก์ต่อจากข้า เข้าใจไหมออสติน ”
“ แต่ท่านพ่อข้าไม่ได้ต้องการบัลลังก์หรืออำนาจสืบต่อจากท่านอะไรทั้งนั้น ข้าแค่ต้องการใช้ชีวิตแบบที่ข้าอยากเป็น ไม่ต้องมีใครมาบังคับ ท่านพ่อปล่อยข้าไปเถอะ ”
“ ชีวิตแบบไหนกันหล่ะที่เจ้าอยากจะเป็น ชีวิตที่วันๆมัวแต่ออกไปเที่ยวเตร่ ออกไปยิงธนูไม่ทำอะไรเลยนะหรอ!! ข้าทนกับเจ้ามามากพอแล้วออสติน ข้ามอบภารกิจนี้ให้เจ้าทำถ้าเจ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าพ่อ เราเป็นกษัตริย์นะออสติน เราต้องดูและประชาชนไม่ให้เดือดร้อน ใส่ใจประชาชน จัดการปัญหาต่างๆ เจ้าจำคำที่ข้าเคยสอนได้ไหมว่ากษัตริย์อยู่ไม่ได้หากไม่มีประชาชน เราต้องให้ความสำคัญกับประชาชนสิ ไม่ใช่ทำตัวแบบสำมะเลเทเมาไปวันๆแบบนี้ เข้าใจไหมออสติน แล้วถ้าหากว่าข้าจับได้ว่าเจ้าให้คาร่าทำนะ เราได้เห็นดีกันแน่!! ”
วิลเลียมพูดด้วยสีหน้าที่โกรธและโมโหออสตินเอามากๆที่ไม่ยอมทำตัวให้สมกับว่าที่กษัตริย์
“ ขอรับท่านพ่อ ข้าจะทำภารกิจนี้ให้สุดความสามารถ ให้สมกับว่าที่กษัตริย์ที่ท่านพ่ออยากจะให้ข้าเป็น ”
หลังจากออสตินพูดจบออสตินก็เดินออกจากห้องมาพร้อมกับคาร่าด้วยสีหน้าที่เศร้าใจว่าตนไม่เคยทำอะไรให้ท่านพ่อภูมิใจได้เลย ที่ผ่านมาตนเอาแต่สำมะเลเทเมาไปเรื่อยเปื่อย ไม่สนใจประชาชนทำให้ท่านพ่อผิดหวัง
“ ข้ามันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคาร่า ”
ออสตินหันไปถามคาร่าด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย
“ ออสตินฟังข้านะเรื่องทั้งหมดมันผ่านมาแล้วไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ แต่ตอนนี้เจ้ารู้ตัวแล้วว่าสิ่งที่ทำไปนั้นผิดต่อไปนี้เจ้าก็แค่ทำให้อนาคตดีขึ้นแค่นั้นเอง เจ้าก็แค่ทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ”
“ อื้อ! ข้าเข้าใจแล้วขอบใจเจ้ามากนะวันนี้เจ้าคงจะเหนื่อยมามาก งั้นเจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวข้าก็จะกลับไปพักผ่อนเหมือนกัน ”
คาร่าพยักหน้ารับ ถึงแม้ว่าคาร่าจะเป็นห่วงออสตินถึงเพียงใดแต่คาร่ารู้ดีว่าตอนนี้ต้องปล่อยให้ออสตินให้ได้ใช้ความคิดสักพักเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะสู้ต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ