พลิกฟ้าล้างปฐพี

-

เขียนโดย WCSD

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.10 น.

  11 บท
  0 วิจารณ์
  10.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2561 22.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) การตื่นขึ้นของจิตวิญญาณและความลับบางอย่าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ภายในถ้ำที่อยู่ส่วนลึกของป่าทมิฬเทียนฟงที่นั่งหลับตาอยู่ได้ลืมตาขึ้นพร้อมกับระเบิดพลังปราณอันหนักหน่วงออกมาแรงกดดันของมันหนักอึ้งซะจนผนังถ้ำเกิดรอยแตกร้าวจนเห็นได้ ตอนนี้เขาได้ทะลวงเข้าสู่ระดับปราณก่อร่างเรียบร้อยแล้วหลังจากฝึกอยู่ในป่าทมิฬแห่งนี้มาเกือบๆสิบเดือน เทียนฟงทำหน้าตาดูพอใจมาก หลังจากที่เขาปลดปล่อยพลังปราณออกมาปราณเหล่านั้นก็หลอมรวมกันกลายเป็นร่างเงาร่างหนึ่ง มันคือจิตวิญญาณของเทียนฟง เขาทำหน้าแปลกใจจิตวิญญาณของเขาหาใช่พวกจิตวิญญาณธาตุต่างๆ หรือจิตวิญญาณของสัตว์ทั้งหลาย มันมีรูปร่างคล้ายๆกับมนุษย์แต่ตัวใหญ่โตกว่ามากแม้จะยังเห็นรูปร่างได้ไม่ชัดเจนจนไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันคือจิตวิญญาณของอะไรกันแน่ แต่มันก็มีแรงกดดันที่มากมายยิ่ง 

     "ไม่ว่ามันจะเป็นจิตวิญญาณอะไรแต่มันก็ตื่นขึ้นมาแล้ว แถมข้ายังรู้สึกว่ามันจะทรงพลังอีกด้วย"เทียนฟงพึมพำกับตัวเอง เขาเก็บข้าวเก็บของภายในถ้ำเพื่อที่จะเตรียมตัวออกเดินทาง เขากระโดดลงไปข้างล่างเพื่อตรงไปยังทะเลสาปที่อยู่เบื้องหน้า เมื่อลงไปทำความสะอาดร่างกายเขาโกนหนวดเคราออกทำให้เผยใบหน้าอันหล่อเหล่าของเขา แม้จะใช้ชีวิตอยู่ในป่ามานานแต่ก็ไม่อาจทำให้สีผิวของเขาหมองคล้ำได้ เขาเก็บแกนกลางของสัตว์อสูรวิญญาณทั้งสองไว้ในอกเสื้อและรีบตรงดิ่งไปสู่ทางออกของป่าทมิฬ เมื่อออกจากป่าทมิฬมาได้อย่างปลอดภัยเทียนฟงยืนนิ่งราวกับคิดอะไรบางอย่าง

     "ข้าจะไปสำนักไหนดีเนี่ย สำนักบูรพาไร้พ่ายกับนิกายลู่เหยียนนี่ตัดทิ้งไปเลยเพราะ เมิ่งหลิวอิงกับกู่เฉินซวงอยู่ที่สองสำนักนั่น หอกระบีเจียงเหอก็อาจไม่เข้ากับจิตวิญญาณของข้า หากจะเข้าสำนักที่โด่งดังที่สุดในอาณาจักรอัปสรสีชาดนี้หละก็ คงเหลือแค่สำนักสุริยันจันทราสินะ"เมื่อตัดสินใจได้แล้วเขาจึงมุงหน้าไปยังทิศหนือของอาณาจักรเพื่อไปยังเมืองลั่วหยางซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสุริยันจันทรา

     เมื่อออกเดินทางไปซักพักเขาจึงนั่งพักบนเขาลูกหนึ่ง เมื่อหายเหนื่อยจึงหยิบแกนกลางของหมาป่าสีเงินออกมาและเพ่งจิตไปยังจี้หยกเพื่อให้มันดูดซับแกนกลางเข้าไปกระบวนการดูดซับใช้เวลาไปค่อนข้างนานพอสมควรจนในที่สุดจี้หยกก็ดูดซับมันได้ทั้งหมดจี้หยกส่งเสียงราวกับมันจะแตกหัก ทำให้เทียนฟงสะดุ้งโหยงก่อนที่จะเร่งดูดซับพลังงานของมันเข้ามาในร่างกายเพราะกลัวจี้หยกนั้นจะเสียหายกระบวนการดูดซับค่อนข้าช้าเลยทีเดียวเพราะระดับพลังของเทียนฟงนั้นต่ำกว่าแกนกลางของหมาป่าสีเงินมากทำให้ต้องใช้เวลาในการดูดซับพลังปราณจึงนานพอสมควร เหตุที่เขาเร่งใช้จี้หยกดูดซับแกนกลางของสัตว์อสูรวิญญาณชั้นสูงเหล่านี้ก็เพราะว่าหากเขาเข้าไปในเมืองเกิดพลาดพลั้งเจอกับยอดฝีมือเขาอาจจะเสียพวกมันไปได้เขาจึงรีบดูดซับมันอันนึงก่อนส่วนอีกอันเขาก็จะนำมันไปขายในร้านในเมือง ในระหว่างที่เขาดูดซึมพลังปราณจากแกนกลางที่ถูกส่งต่อมาจากจี้หยกอยู่นั้นจู่ๆสติของเขาก็ถูกดูเข้าไปในห้วงมิติของจี้หยกอีกครั้ง เขาอยู่หน้าประตูที่เขาคุ้นเคยแต่บรรยากาศในวันนี้ต่างกลับออกไป มันรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะว่าเขารีบใช้จี้หยกดูดซับแกนกลางเร็วไปอย่างงั้นเหรอ เขาผลักประตูก่อนจะก้าวเข้าไป เมื่อเข้าไปในห้องภายในจี้หยกที่เขาเคยเข้าไปทุกครั้งแล้วมันดูว่างเปล่าฝูงแกะที่เคยวิ่งวนอยู่แถวสระน้ำสีทอง วันนี้ไม่มีแม้แต่เงา สระน้ำสีทองแห้งเหือดราวกับมันระเหยออกไปหมด

     "เกิดอะไรขึ้นกับที่นี่เนี่ย เมื่อสามวันก่อนมันยังมีอยู่เลยนี่นา"เทียนฟงตกใจกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ระหว่างที่เขากำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็รับรู้ได้ว่ามีพลังปราณที่หนักอึ้งอยู่ข้างหลังเขา เขาหันหลังไปดูไม่ทันได้สังเกตุดีตัวของเขาก็ลอยละลิ่วไปทางป่าไผ่ที่อยู่ใกล้ๆสระน้ำ เทียนฟงกระอักเลือดนิดหน่อย หากเขาไม่ได้น้ำจากสระหรือเนื้อแกะเหล่านั้นมาช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อกับกระดูกของเขาแล้วละก็เขาคงตายทันทีจากการโจมตีเมื่อครู่

     "เจ้าเป็นใครกันแล้วเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร"เทียนฟงพยุงตัวเองขึ้น เขามองไปยังแขกผู้ไม่ได้รับเชิญดวงตาเขาก็เบิกโพลงด้วยความความตกใจ "เป็นไปไม่ได้"สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขามันใหญ๋โตกว่าเขาราวสามเท่าได้มันคล้ายกับร่างเงาของจิตวิญญาณเขาที่เห็นในตอนอยู่ในป่าทมิฬ แต่บัดนี้เขาเห็นมันชัดเจนร่างกายของมันมีสีแดง ผมของมันสีดำขลับยาวจนถึงกลางหลัง ดวงตาสีน้ำเงินราวกับจะดูดกลืนได้ทุกสิ่ง เขี้ยวสีขาวสองซี่ที่งอกออกมาข้างนอกใหญ่โตราวกับเสือคาบดาบ มันไม่พูดอะไรทั้งสิ้นตรงดิ่งเข้าหาเทียนฟงพร้อมกับใช้กำปั้นขนาดยักษ์ชกเข้าไปที่เทียนฟงอีกครั้งคราวนี้เทียนฟงสามารถใช้แขนทั้งสองข้างของเขารับหมัดนั้นได้อย่างหวุดหวิด เเขนของเขาชาจนเกือบจะยกมันไม่ขึ้นเทียนฟงยิ้มออกมาเล็กน้อยเขาต้องการจะทดสอบพลังของระดับปราณก่อร่างอยู่พอดีแต่ไม่คิดว่าจะได้มาใช้มันกับจิตวิญญาณของตัวเอง เขาไม่รอช้าเร่งพลังปราณมารวมไว้ตรงหมัดขวาของเขา เมื่อเจ้ายักษ์แดงเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้าวิ่งเข้าไปปล่อยหมัดใส่เทียนฟงทันที เทียนฟงง้างหมัดที่รวบรวมพลังปราณไว้แล้วซัดเข้าปะทะตรงๆกับหมัดขนาดใหญ่ของเจ้ายักษ์แดงนั่น

          ตู้มมม!!!

     เสียงดังสนั่นไปทั่วห้องนั้นซักพักก็ได้ยินเสียงร้องอันโหยหวนขึ้นมา "อ๊ากกกก"เจ้ายักษ์แดงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดแขนของมันหายไปครึ่งท่อนจนเห็นกระดูกท่อนเเขนขนาดใหญ่ เลือดสีดำไหลย้อยลงมาราวกับน้ำตก 

     "เจ้าคิดว่าเป็นเป็นแค่จิตวิญญาณจะสามารถเอาชนะข้าได้งั้นเหรอ เจ้าก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของข้าแม้ว่าจะเป็นจิตวิญญาณที่แปลกประหลาดก็ตามแต่เจ้าก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของข้า"เทียนฟงพูดด้วยน้ำเสียงขึงขังเขาพอใจกับพลังของตัวเองเป็นอย่างมาก เจ้ายักษ์แดงยืนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆ พลังปราณที่หนาแน่นในห้องหล่อหลอดแขนของมันขึ้นมาใหม่ มันพุ่งไปมาอย่างรวดเร็วภายในห้องซึ่งผิดจากขนาดตัวของมัน ก่อนจะพุ่งเข้าหาเทียนฟง เทียนฟงยกเเขนทั้งสองข้างหมายจะสะกันการโจมตีที่กำลังจะมาถึงแต่ไม่ใช่ เจ้ายักษ์แดงทะลุผผ่านเข้ามาในตัวของเขา มันทำให้เขารู้สึกแปลกร่างกายของเขาฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็วจากอาการบาดเจ็บเมื่อกี้ เขารู้สึกว่าพละกำลังของเขาจะมากขึ้นอีกด้วย ปราณภายในร่างกายของเขาก็อัดแน่นมากกว่าแต่ก่อน

     "บัดนี้ข้าได้ตื่นขึ้นแล้ว เจ้านายข้า เมื่อกี้ต้องของอภัยแต่ข้าต้องทดสอบว่าท่านเหมาะจะให้ข้าเป็นจิตวิญญาณของท่านหรือไม่ ข้าหาใช่จิตวิญญาณดั้งเดิมของท่านไม่ จิตวิญญาณดั้งเดิมของท่านคือจิตวิญญาณแห่งศร"เสียงดังกึกก้องภายในใจของเทียนฟงมันเป็นเสียงของเจ้ายักษ์แดงแน่นอน

     "ข้า ข้างงไปหมดแล้ว นั่นหมายความว่าข้านั้นมีสองจิตวิญญาณใช่หรือไม่"เทียนฟงถามอย่างตะกุกตะกักด้วยความงุนงง

     "จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่"

     "หมายความว่ายังไง แล้วทำไมตอนข้าทะลวงเข้าสู่ระดับปราณก่อร่างจิตวิญญาณดั้งเดิมของข้าจึงไม่ปรากฎออกมาหละทำไมเป็นเจ้า"เทียนฟงยังคงสงสัยในคำพูดของยักษ์แดง

     "หากจะพูด จิตวิญญาณแห่งศรนั้นแม้จะมีความรวดเร็ว แหลมคม แต่พลังทำลายล้ายนั้นต่ำเมื่อเทียบกับจิตวิญญาณทั่วไป หรืออีกความหมายหยึ่งมันคือจิตวิญญาณขยะจึงไม่แปลกที่ข้าจะปรากฎตัวออกมาแทน ข้าไม่ใช่จิตวิญญาณของท่าน แต่ข้าเป็นจิตวิญญาณอาศัยอยู่ในจี้หยกแห่งนี้ ส่วนสาเหตุที่กลายเป็นจิตวิญญาณของท่านข้าก็ไม่รู้เหมือนกันข้ารู้สึกเพียงว่าท่านนั้นมีกลิ่นอายที่คุ้นเคย"เสียงในหัวของเทียนฟงกล่าวขึ้นอย่างยืดยาว หากจิตวิญญาณดั้งเดิมของเขาเป็นจิตวิญญาณแห่งศรจริงแล้วละก็ทักษะที่จะช่วยขัดเกลามันคงมีแต่ทักษะระดับต่ำเท่านั้น ทักษะทั้งหมดเมื่อเเบ่งตามความแข็งแกร่งและพลังทำลายล้างสามารถแบ่งได้เป็น ทักษะระดับต่ำ ทักษะระดับกลาง ทักษะระดับสูง ทักษะระดับปฐพี ทักษะระดับนภาและทักษะระดับเทวะ บนโลกนี้ยังไม่เคยปรากฎทักษะที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณแห่งศรที่สูงกว่าระดับต่ำเลย

     "แล้วเช่นนั้นข้าจะสามารถฝึกทักษะอะไรได้อย่างงั้นเล่า"เทียนฟงตัดพ้อในวาสนาตัวเองแม้จะมีโชคแต่ก็ไร้ซึ่งวาสนาถึงจะมีอีกจิตวิญญาณหนึ่งแต่มันก็เป็นจิตวิญญาณที่ไม่เคยปรากฎในโลกนี้มาก่อน

     "อย่าได้เสียใจหรือน้อยใจไปเลยนายท่าน โดยพื้นฐานแล้วเมื่อข้าเป็นจิตวิญญาณของท่าน ท่านสามารถฝึกทักษะใดๆก็ตามได้อย่างไม่มีข้อจำกัด"เสียงในหัวดังขึ้นทำให้เทียนฟงเสียวสันหลังวาบ "งั้นมันก็จะโกงเกินไปแล้ว"เทียนฟงกล่าวขึ้นเบาๆเขายิ้มออกมาอย่างบ้าคลั่งไม่มีใครในโลกที่จะเหมือนเขาอีกแล้วมีสองจิตวิญญาณแม้จิตวิญญาณหนึ่งจะเป็นจิตวิญญาณขยะแต่อีกจิตวิญญาณหนึ่งก็เพิ่มพลังปราณให้เขาอย่างมหาศาลและทำให้เขาสามารถฝึกทักษะของจิตวิญญาณอื่นได้อีกโดยไม่มีข้อจำกัด

     "ฮ่าๆๆๆ สวรรค์ หลังจากข้าต้องทนทุกข์มาหลายปี โชคร้ายมาแล้วหลายครั้งในที่สุดท่านก็คือโชคดีให้กับข้าเสียที ข้ากู่เทียนฟงผู้นี้จะสยบทั่วทั้งฟ้าดินให้จงได้"เทียนฟงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนสติจะหลุดออกจากห้องภายในจี้หยก การดูดดลืนปราณจากแกนกลางอสูรวิญญาณก็เสร็จเรียบร้อยพอดี ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นที่สองของระดับปราณก่อร่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาออกเดินทางต่อด้วยใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและก็ความมั่นใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา