koku-soja

8.0

เขียนโดย TsuKiTsuKi

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.23 น.

  14 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 12.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ตอนที่11 กับครอบครัวอีกครั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่11 กับครอบครัวอีกครั้ง

 

 

เรื่องนี้ก็แต่งตามจินตนาการของตัวเอง สถานที่ในเรื่องไม่ได้ยึดประเทศไหนเป็นที่หลัก

เป็นเพียงจินตนาการของไรต์เอง 

 

 

ไซ----เป็นชื่อที่โทชิเรียกโซจา

 

 

โซ----เป็นชื่อที่โทชิเรียกคนรัก ไซโซ

 

 

ผมสูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ยถาม “คุณต้องการอะไร”ผมเอ่ยถามแต่ตาก็ลอบมองของที่จี้คอผม ความหวาดกลัว ความเย็นเฉียบของใบมือที่สัมผัสกับลำคอ มันทำให้ผมหวาดกลัว ผมกลัวกลัวตาย ยิ่งกลัวผมก็ยิ่งต้องตั้งสมาธิเพื่อหาทางหลุดออกจากสถานการณ์ในตอนนี้ผม และเพื่อไม่ให้ตัวเองเตลิดไปมากกว่านี้ เพราะมันอันตรายเกิดไปผมที่ไร้เวทย์แค่โดนเชือดคอก็ตายชัวร์

 

 

“ก็แบบว่านะ มีคนบอกว่าเธอร่านอยากได้ผัวเพิ่ม เขาเลยให้ฉันมา” มือมีดกล่าวกับผมด้วยน้ำเสียงเริงร่า น้ำเสียงของมันทำให้ผมเย็นวาบไปทั้งตัว คนแบบนี้มันน่ากลัวคนที่เห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องเล้าอารมณ์

 

 

ผมแทบไม่อยากจะเชื่อว่าโคคุ จะสั่งให้มือมีดมาทำแบบนี้กับผม คุณจะทำแบบนี้กับผมจริงๆเหรอ ผม..แทบไม่อยากจะเชื่อ โคคุ..จะกล้าทำกับผม ผมรู้สึกแย่เหมือนกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบที่หัวใจของผม ความรู้สึกที่อยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก หลากความรู้สึกที่บ่นเปลกันไปหมด ความสิ้นหวังที่รับรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้สมองและความรู้สึกของผมรู้สึกจะเออร์เลอร์เพียงชั่วครู่ผมตั้งสติก็คิดแผนเอาตัวรอดทันที่

 

 

ความหวาดกลัวต่อความตาย ความโง่ที่เชื่อโคคุ ความต้องการที่จะรอด ความรู้สึกต่างๆผลัดดันให้ผมยิ้มออกมา  ผมเลือกยิ้มที่ตัวเองคิดว่าดูดีที่สุด

 

 

 “โธ่..เรื่องนี้เองก็พูดกันดีดีสิครับผมนะพร้อมเสมอ  เล่นเอามีดมาจี้คอแบบนี้ไอ้หนูผมก็หดหมดสิครับ ผมไม่ค่อยชอบแบบเอสเอ็มด้วย ว่าแต่คุณเอาถุงยางมาด้วยไหมครับ จะให้ผมใช้ปากใส่ให้ไหมครับ หรือจะยังไง” ผมก็เป็นผู้ชายครับ เรื่องหนังเอวีเนี่ยก็เคยดู  ไม่ใช่เด็กใสอะไรขนาดนั้น

 

 

“แต่ก่อนอื่น..เอามีดออกก่อนได้ไหมครับ..ผมได้นอนลงคุณจะได้ทำอะไรได้ถนัดๆ” ผมยังคงยิ้มพร้อมทั้งค่อยถอดเสื้อตัวเองช้าๆออกอย่างยั่วยวน

 

 

“มึงยั่วยวนอย่างนี้นี่เองโคคุโอะถึงได้..ติดใจมึง มึงคงแซ่บมากสินะ” ชายคนนั้นพูดออกมา ในขณะที่ผมนอนลงบนโซฟาปล่อยให้แขนมือซ้ายล่วงอยู่กับพื้น มือขวากระดิกนิ้วเรียกคนที่ยืนอยู่  ทันทีที่มันเห็นท่าทางของผม มันก็เลียริมฝีปากก่อนมันเอามีดใส่ปลอกเไว้ที่ข้างเอว มันขึ้นคร่อมผม

 

 

ขยะแขยง มันคือความรู้สึกที่ผมรู้สึก ปากหยุ่นที่ขยับไปบนผิวกายของผมทำเอาผมคลื่นไส้จะอาเจียน ชั่งแตกต่างจากสัมผัสของโคคุ “อ่า..”ผมแกล้งส่งเสียงครางออกไปแม้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ได้รู้สึกร่วม หรือมีอารมณ์เลย แต่เสียงของเหมือนจะไปกระตุ้นคนที่คร่อมผมอยู่  มือขวาขยุ้มผมอีกฝ่ายแล้วกดหัวอีกคนที่กำลังยอกเย้ายกอกหวานไว้บนหัวอีกคน ยามที่อีกฝ่ายกำลังมัวเมาอยู่กับยอดอกสีหวาน

 

 

“อ่า...ซีด..”เสียงหวานที่ส่งเสียงออกไปยิ่งทำให้คนที่กำลังเล่นยอกอกขบปลายยอก อย่างที่ไม่รู้เลยว่าเป็นวินาทีทีมันกำลังจะชะตาขาด

 

 

มือซ้ายของจาจาฉวยโอกาสที่กดหัวของอีกฝ่ายกับหน้า พร้อมกับส่งเสียงหวานออกมาล่อให้อีกฝ่ายคิดว่าเขามีอารมณ์ร่วม หยิบเศษจานที่แตกชิ้นใหญ่กำแน่นจนมือตัวเองเลือดออกที่ฝ่ามือ จาจาก็ยังคงนิดเฉยเหมือนไม่รู้สึก มือที่ขาวมีเลือดไหลรินออกมาเงื้อมมือจนสุดแล้วแทงจนเกือบมิด

 

 

“อ๊าก..มึง” เสียงของคนโดนแทงดังขึ้น แต่ไม่ทันจะตอบโต้ จาจาก็ใช้มือทั้งสองดันร่างที่คร่อม ตามด้วยเท้ายัน ทำให้ร่างที่โดนถึงหงายหลังไปตกจากโซฟาเศษจานที่คาที่หลังโดนกระแทกจนมืด เสียงร้อนด้วยความเจ็บปวดไม่ได้นำพาให้จาจาสงสาน สายเลือดของพ่อที่หมุนเวียนความโหด ความเด็ดเดี่ยว ที่อยู่ในสายเลือดของพ่อ ถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์หลากหลายที่เข้มข้นใจตัวจาจา และเลือดที่ไม่รู้ว่าเป็นของจาจาหรือของคนที่ร้อง จาจาลุกขึ้นเดินมาที่คนที่นอนตะแคงร้องอยู่

 

 

รอยยิ้มเหยียดปรากฏบนใบหน้าจาจาทันที่ที่เดินมาถึงร่างนั้นจาจาเตะไปที่ท้องอย่างแรงเท่าที่เขาจะมี เสียงครางคราญก็ดังลั่งบ้าน แรงเตะท้องทำให้ร่างที่นอนอยู่เปลี่ยนอิริยาบถจากนอนตะแคงเป็นนอนหงาย ก็ยิ่งทำให้เศษจาจายิ่งจมลึกไปในผิวหนัง ไม่เพียงแค่นั้นจาจายังเหยียบไปที่ท้องที่ตรงกับที่เขาแทงด้านหลัง จาจาไม่แม้แต่มองหน้านั้น เท้าเปล่าของจาจาค่อยเพิ่มน้ำหนักกดทับที่ละนิดละนิด เสียงร้องอย่างเจ็บปวดไม่ได้เข้าหัวของจาจาแม้แต่นิดเดียว เมื่อพอใจแล้วจาจาก็ลากเท้าละไปตามเสื้อผ้าของคนที่นอนมาหยุดที่กล่องดวงใจที่คิดจะใช้กลับเขา  จาจาค่อยเพิ่มน้ำหนักเท้าที่กดที่กล่องดวงใจที่ละนิดละนิดก่อนใช้เท้าบดขยี้ทั้งแท่งหนึ่งเดี่ยวและพวงสรรค์ทั้งสอง จนเสียงกรีดร้องหยุดไป จาจาถึงได้หยุดทำ ทั้งที่อยากจะเอาแจกันที่ตั้งอยู่ตรงนั้นทุ่มใส่มันแต่ก็กลัวว่ามันจะตายเร็วเกินไป จึงพอแค่นี้ก่อน

 

 

สมองที่เริ่มกลับมาทำงานเต็มที่หลังจากที่ปล่อยให้อารมณ์นำพาความเจ็บปวดระบายลงกับคนที่นอนหายใจรวยรินอยู่ตรงหน้า เลือดที่นอนเต็มพื้น จาจายังไม่อยากให้มันตายเร็วเกินไป มันจะสบายเกินไป เขาอยากให้มันลิ้มรสความอยากตายแต่ไม่ได้ตาย เขาควรจะรีบหาใครสักคนมาช่วยเขาก่อนที่โคคุจะกลับมา หรือก่อนที่โคคุจะส่งใครมาอีก

 

 

ใคร..ควรจะโทรหาใครดี.. คุณพ่อ..ไม่ได้ไม่ได้..คุณพ่ออาจจะทำงานหรืออยู่กับคุณแม่ปลีกตัวมายาก พี่เขย..ใช่พี่เขย ผมรีบเอามือถือมาโทรหาพี่เขยทันที่ และเป็นโชคดีที่คนที่รับไม่ใช่พี่ชายผม

 

 

“(ว่าไง)”เสียงพี่เขยดังออกมาจากมือถือ

 

 

“พี่เขยช่วยด้วย ช่วยจาจา จาจาอยู่ที่บ้านโคคุที่ซีบิล” สายตัดไปทันที่ที่จาจาบอกที่อยู่ตัวเอง จาจารีบกลับเข้าไปในห้องนอนของเขา ของที่เป็นของเขาไม่ใช่ที่โคคุซื้อให้โดยไม่สนสบายตัวเองที่ไม่ได้ใส่เสื้อ ทันที่เดินกลับมาถึงห้องรับแขกก็เห็นพ่อ พี่เขย และอาอิชิเพื่อนสนิทคุณพ่อ  ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรออกไป ทันที่ที่ทุกคนเห็นผม ผมก็เห็นสายตาของความห่วงใยมองมาที่เขา จาจาน้ำตาไหลทันที่ทีเห็นพ่อของเขา จาจารีบวิ่งเข้าไปกอดคุณพ่อน้ำตาของจาจาไหลออกมาทันที่

 

 

“มันจะข่มขืนจาจา มันเอามืดจี้คอจาจา พ่อจาจา...มือจาจาเปื้อนเลือด” ผมซุกอกพ่อ อกของพ่อเป็นทีที่ปลอดภัยที่สุด

 

 

ยังไม่ทันจะได้ออกห่างจากพ่อ เสื้อคลุมของพ่อก็คลุมมาที่ตัวจาจาที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อ จาจายิ่งร้องไห้ออกมาใหญ่ด้วยความรู้สึกอบอุ่นและรู้ว่าตัวเองปลอดภัยจริงๆแล้ว พ่อของจาจาลูบหัวลูกชายอย่างปลอบโยน

 

 

“มันยังไม่ตาย และอาก็ไม่ให้มันตายเร็วนักหรอก” เสียงเย็นๆจากอิชิผู้เป็นมือขวาของพ่อดังขึ้น คุณอาอิชิเป็นเพื่อนสนิททั้งคุณพ่อทั้งภูติของคุณพ่อแต่คุณอาอิชิมีโรคประจำตัวที่มีมาแต่เกิดคือโรคผิวเผือก แต่เพราะเป็นพ่อมดเลยสามารถรักษาได้แต่กว่าจะรักษาได้ก็ทำให้อาอิชิมีผมขาวทั้งหัวและตาก็แดงเป็นสีเลือดไปแล้ว แต่โรคนี้ก็ยังส่งผลเสียต่อคุณอาอยู่ดี คุณอาอิชิโหดมาก เลือดเย็น ฉลาด  แต่ก็เท่มากกเช่นกัน ผมผละออกจากคุณพ่อ แล้วเช็ดน้ำตาก็มองไปที่มือมีดก็เห็นว่าคุณอาอิชิกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่แล้วหันมายิ้มให้ผมก่อนหันไปหาคุณพ่อที่เดินไปดูอาอิชิ

 

 

“เดี๋ยวกูจัดการเอง  กูเอาไปไว้ที่ชั้นล่างของผับได้ใช่ไหม”คุณอิชิหันไปพูดกับพ่อ พ่อพยักหน้า

 

 

“จาจา เดี๋ยวลูกไปอยู่กับพี่พี่น้องน้องก่อนนะ”พ่อเดินมาหาผมอีกครั้งก่อนพูดขึ้น

 

 

“พ่อ...ผมไม่ไปได้ไหมครับ..ผม..ยังไม่พร้อม ทั้งรอยแผลที่หน้า ที่มือ และยังรอยบนตัว “จาจาแบบมือเปื้อนเลือดให้พ่อดู พร้อมกับขยับหน้าให้พ่อเห็นรอบตบที่คนทำไม่ได้อยู่ที่นี่

 

 

“จะยากอะไร ก็บอกความจริงไป ว่าโดนไอ้คนที่นอนเลือดออกนี่จะมาข่มขืนเรา ทำร้ายเอา ดีว่าพ่อเรากับคุณโทชิซังตั้งใจจะมารับเราเพื่อให้ไปเที่ยวด้วยมาเจอพอดีเราเลยรอด แต่ก็เจอทำร้ายไปเยอะ “เสียงของคุณอิชิแทรกขึ้นมา ในขณะเตะคนที่นอนจมกองเลือดจนลอยขึ้นมา  นิ้วโป้งกับนิ้วชี้คุณอาอิชิตั้งท่าทำมินิฮาร์ตแต่ระหว่างนิ้วทั้งสองกับมีเศษผมสี่ห้าเส้าที่เหมือนผมคนที่ลอยอยู่อยู่ระหว่างนิ้ว “พรึ่บ”เสียงไฟลุกเส้นผมนั้นก็ถูกเผาไหม ควันที่ลอยออกกมาจากการเผาผมลอยมามัดร่างที่ลอยอยู่

 

 

“ไปเที่ยวไหนกันฮะ” ผมไม่รู้เรื่องเที่ยว เลยมองทุกคน

 

 

 

“ก็ที่บอกว่ากลับมาให้มาหาไง” พี่เขยเอ่ยแต่ยังไม่ทันจะพูดจบเสียงอาอิชิก็ดังกลบเสียงขึ้นมาว่า

 

 

 “จะคุยห่าอะไรก็ย้ายออกจากที่นี่ก่อนเถอะ เดี๋ยวไอ้เจ้าของบ้านกลับมาจะยุ่งยากกัน  อ๋อ..ถ้าลูกๆมึงถามมึงว่าไอ้ตัวที่ทำร้ายจาจาอยู่ไหน มึงก็บอกว่าอยู่กับกูที่ห้องใต้ดินร้านก็จบแล้วไอ้โย กูไปล่ะ”คุณอิชิจัดการให้เสร็จสัพแล้วคุณอิชิก็จากไป

 

 

ผมกับพี่โทชิหายตัวมาที่บ้านแม่ แต่เราสองคนยืนอยู่ที่ลานหน้าบ้าน พี่โทชิมองเข้าไปในบ้านก่อนพูดออกมา

 

 

“ไม่ว่าอะไร ไม่ว่าโคคุพูดอะไร เราต้องบอกมันไปว่าเราโดนข่มขืน อย่าให้มันรู้ว่าเรารอดมาได้” โทชิพูดขึ้นมา  โคคุมันไม่ชอบให้ของของมันไปยุ่งอะไรกับคนอื่น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ไม่ว่าจะไปยุ่งเองหรือมีคนอื่นมายุ่งมันก็สละได้ ของของมันก็ต้องเป็นของของมัน ถ้าเป็นแบบนั้นจริง โคคุก็ต้องปล่อยมือจากน้องเมียเขา  ครั้งนี้หากมันทำจริงๆ มันก็ทำเกินไปแล้ว เขาควรแน่นำให้จาจาทำแบบนี้ไปนานแล้ว

 

 

“ทำไมครับ”จาจามองพี่เขยอย่างไม่เข้าใจ                           

 

 

“ทำตามที่พี่บอกเถอะถือว่าพี่ขอเรา...อ๋อ..แล้วก็พี่น้องเราๆชวนกันไปเที่ยวทะเลก่อนเปิดเทอม เราต้องไป..ไม่งั้นพวกนั้นคงเป็นห่วงเรา” โคคุตัดบทด้วยการเปลี่ยนเรื่องกลางคัน และใช้เรื่องนี้ครอบครัวพูดให้โซจาไป

 

 

“ก็ดีนะพี่..เอาเรื่องแย่ๆลงทะเลไป เดี๋ยวผมแอบไปอาบน้ำล้างตัวก่อน พี่พาพวกพี่น้องผมไปเลย เดี๋ยวพี่มารับผมตอนเย็นได้ไหม ผมอยากพักที่ห้องผมก่อน”จาจาเองก็ตามใจพี่เขย ในเมื่อพี่เขยเปลี่ยนเรื่อง เขาก็จะไม่ดื้อดึงถามเขา

 

 

“อืม..มารับ จะให้พี่บอกพวกนั้นด้วยไหม”

 

 

“ไปถึงที่นั้นค่อยเล่านะพี่ไม่งั้นคงไม่ไปกันแน่ ผมไปนะ” ขอตัวลาจากพี่เขยผมย่องไปเข้าหลังบ้านแล้วรีบไปห้องตัวเอง โชคดีที่ไม่มีคนเห็น ผมได้ยินเสียวพวกพี่น้องของผมที่ห้องรับแขกเป็นไปได้มากว่าตกลงจะไปกันแล้วก่อนผมโทรมา

 

 

ผมอาบน้ำเอาเสื้อผ้าเปื้อนเลือดทิ้งใส่ถุงว่าจะเอาไปเผาทิ้งก่อนไปทะเล ผมอาบน้ำแต่งตัว เสร็จจากในห้องน้ำ แต่ก็ทำได้ช้าเนื่องจากแผลที่ฝ่ามือ ออกมาจากห้องก็ได้ยินเสียงมือถือแผดเสียงดั่ง ความเหนื่อยทางจิตใจ ส่งผลถึงร่างกายผม ผมรับมือถือไปส่งไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครโทรมา แต่พอรับสายความเหนื่อยล้าของจิตใจก็ทำให้ผมระเบิดมันออกมาไม่สนหน้าอินหน้าพรหม

 

 

“ฮัลโหล” เสียงของคุณที่ผมรู้จัก เสียงของโคคุดังออกมา ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรออกมาผมก็   สวนกลับมันไม่ไหว ผม...ทนเขาไม่ไหว

 

 

“ซะใจแล้วใช่ไหม สมใจแล้วใช่ไหม คุณให้คนมาจี้คอผม ให้ผมยอมให้มันเอา คุณทำสำเร็จตามที่พูดไว้เลย หาผัวให้ผมอีกคน แต่ก็ดี..มันทำให้ผมรู้ว่าคุณเป็นไง ผมฆ่ามันทิ้งแล้วละไอ้ผัวคนนั้น..เลือดมันไหลนองเต็มพื้นเลยรู้ไหม รู้ไหมว่าเป็นครั้งแรกเลยนะ..ที่ได้ฆ่าคน..เป็นครั้งแรกเลย” น้ำตาผมไหลออกมาเองเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านในวันนี้ ผมไม่รู้อยากหาทางลงให้อารมณ์ของผมที่ปะทุอยู่ภายใน “เลือดเต็มมือเลย สีแดงเต็มไปหมด กูเอาศพออกมาจากบ้านมึง โทรบอกพี่โทชิขอให้ยืมคนมาช่วย พี่เขาก็ส่งภูติมาช่วยจัดการให้กูด้วย ภูติ นั้นพากูไปหาพี่โทชิ มึงรู้ไหมตอนที่กูบอกพี่โทชิว่ากูถูกข่มขืนและกูฆ่าคน..พี่โทชิเขาดึงกูเขาไปกอด..พี่โทชิยังไม่ว่าอะไรกู..เขาอยู่ข้างกู แต่ในขณะเดียวกัน...มึงเป็นคนผลักกู ผลักกูให้ตกนรกทั้งเป็น กูทำอะไรให้ทำไม่ต้องทำแบบนี้กับกู...อึก.. ฮือ..” ผมไม่รู้ว่าผมพูดอะไรไปบ้าง หรือผมทำอะไรอยู่ ผมปล่อยโฮออกมา การร้องไห้มันช่วยฮิลอารมณ์ผมได้ ได้ในระดับหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหน แต่ผมรู้ว่าผมร้องไห้จนหลับคาเตียงมาตื่นอีกที่ก็พี่เขยมาปลุก

 

 

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาก็ยินเสียงพี่เขยพูด “ตื่นเต็มตารึยังโซจา” พี่เขยเรียกชื่อจริงๆของผม

 

 

“ไซโซครับ ไม่ใช่โซจา ผมเปลี่ยนชื่อแล้วไม่รู้เหรอ” ผมลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองไปรอบเตียง จนเจอเจ้าของเสียงยืนอยู่ข้างเตียง

 

 

“เดี๋ยวนะ...ผมยังไม่ได้เก็บเสื้อผ้าเลย หลับเพลิดพี่” ผมพูดกับพี่เขย

 

 

“หลับเพลินหรือร้องไห้เพลิด ดูตาเราสิ ดูหน้าเราสิ ไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำไป เดี๋ยวเรื่องเสื้อผ้าพี่จะจัดการให้อยากได้ชุดไหนเป็นพิเศษไหม”  พี่เขยมองหน้าผมที่ลุกขึ้นยืน

 

 

“ไม่มีพี่ได้หมด แต่ว่าขอให้อย่างโชว์ผิวผมครับ ที่ตัวรอยมันเยอะ” ก่อนที่จะไปเข้าค่ายตัวของผมก็ถูกโคคุจัดเต็ม ถึงรอยจะจางไปแล้วแต่ก็ยังพอเห็นได้อยู่ แล้วยัง..รอยที่เกิดอย่างไม่เต็มใจนี่อีก ผมยิ้มให้พี่เขย แต่ตัวผมรู้สึกว่าเป็นยิ้มที่ดูไม่ดีเอาเลย เพราะว่าตัวผมไม่ได้ยิ้มออกจากใจ

 

 

ผมออกจากห้องน้ำ ก็เห็นพี่โทชิลากกระเป๋าเดินทางของผมมาวางข้างหน้าผม “พี่เก็บเสร็จพอดี”พี่เขยบอกผม ผมเดินไปหาแล้วหูกระเป๋าเลื่อน พี่โทชิก็จับที่หูกระเป๋าเลื่อนแล้วเราก็หายตัวมาที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง

 

 

“นี่ห้องนอนเรา เราเอาของไปเก็บแล้วลงไปข้างล่าง พวกพี่น้องเรากำลังทำบาร์บีคิวกันอยู่หน้าบ้าน” พี่โทชิพูดเสร็จก็กำลังจะเดินจากไป แต่เป็นผมที่เรียกพี่เขาไว้

 

 

“พี่บอกพี่น้องผมหรือยัง” พี่โทชิหยุดเดิน แล้วหันกลับมายิ้มให้ผม

 

 

“อืม..บอกแล้ว แล้วก็บอกไปอีกว่าการมาเที่ยวทั้งนี้คือการฮิลให้เรา  เราจะลบวันแย่ๆของไซ พี่ขอเรียกเราแบบนี้เถอะนะ  จะเรียกไซโซก็ไม่ถนัดใจจริงๆ” เขาพูดกับน้องเมียไปตรง

 

 

“ครับผม..ผมไปจัดของนะ” ผมกำลังเปิดประตูห้องพี่โทชิก็เรียกผม

 

 

“ไซ..พี่ลืมบอกไปว่าพี่หยิบมือถือเรามา” โทชิส่งมือถือให้โซจา

 

 

ผมรับมือถือมา มองหน้าพี่โทชิอย่างงง “ระหว่างที่เราเข้าห้องน้ำ ทั้งสายเรียกเขา ทั้งข้อความเต็มเลย พี่เลยอดไม่ได้ที่จะปิดเสียงมือถือเอาไว้นะ” ผมมองพี่โทชิที่พูด

 

 

“ครับ..เดี๋ยวเจอกันครับ” ผมเข้าห้อง เก็บของเขาตู้ สมเป็นพี่เขยเลือกเสื้อเชิ้ตให้ผมเกือบหมด ก็ยังมีเสื้อกล้ามสองตัว เสื้อยืดบ้าง แต่ก็อย่างน้อยก็สองสามตัว แต่กางเกงนี่สิ ขายาวตัวเดียว นอกนั้น..จะสั้นไปไหนฟ่ะ แล้วก็มีบ็อกเซอร์ที่ใส่นอนด้วย แต่ทั้งหมดมันก็ชุดผมเองทั้งนั้นละ พวกกางเกงขาสั้นผมชอบเอาไว้ใส่อยู่บ้าน เวลาอยู่บ้านผมไม่ค่อยจะใส่ขาวยาวหรอก ผมทำทุกอย่างเสร็จก็ล้มตัวนอนบนเตียง ตอนนี้ ผมไม่รู้จะเอาไงดี คงต้องปรึกษาพวกคุณปู่ที่หลัง ผมหวังว่าหลังจากนี้ผมจะผ่านมันไปได้ด้วยดี มือถือที่ผมโยนไว้บนเตียงตอนเดินเข้ามาสั่นอยู่บนเตียง

 

 

“ครืน ครืน ครืน” ผมหยิบขึ้นมาดู หน้าจอก็ขึ้นว่าเป็นโคคุเป็นโทรเข้ามา ผมกดตัดสายทิ้งทันที ผมเอามือถือไปชาร์ตแบตหัวเตียวก่อนเดินลงไปร่วมงาน ผมเดินออกมาหน้าบ้านก็พบว่าพวกพี่น้องของผมตั้งวงดื่มกันอยู่ อีกวงก็ย่างพวกบาบีคิวกันซึ่งทั้งสองวันก็ไม่ได้ห่างอะไรกันเลยก็ พี่เซจินพี่ชายคนที่สามฝาแฝดกับพี่ซาโยพี่คนที่สองกำลังยืนถ่ายรูปท้องฟ้ายามอัสดงอยู่ ทุกคนที่ได้ยินเสียงประตูบ้านปิดก็หันมามองประตูก็เห็นผมเดินออกมา ผมรู้สึกว่าพี่น้องของผมพยามทำตัวปกติ ทำตัวสนุกสนานกัน  ผมเดินเข้ามานั่งที่ว่างแล้วยิ้มให้พวกพี่น้อง พี่เซจินก็เดินกลับเข้ามานั่งที่ว่างอีกที่ ทุกคนมองหน้าผม ผมยิ้มให้ทุกคนผมไม่รู้ว่าผมยิ้มออกไปได้แย่ หรือว่าอย่างไรพวกพี่ชายน้องชายของผมถึงได้ทำหน้าเหมือนกินยาข่ม

 

 

“เฮ้อ...จะถามอะไรจาจาก็ แต่แค่ตอนนี้นะ หลังจากนี้จาจาจะฮิลตัวเอวและจะเดินต่อ” ผมเอ่ยปากบอกพี่น้องทุกคน  พี่โทชิเดินเข้ามาเอาจานบาร์บีคิวที่ย่างเสร็จแล้วมาว่างแล้วพูดว่า

 

 

“เห็นไหมพี่บอกแล้วว่าไซจะผ่านไปได้ ถ้าพวกเรามีความสุขจาจาจะมีความสุข” สมกับเป็นพี่เขยของผมรู้ดี

 

 

“เจ็บมากเลยใช่ไหม” ยูโตะเดินมาหาผม ยูโตะพี่ชายคนโตในแฝดสี่เดินมาถามผม ยูโตะเป็นน้องที่ผมเลี้ยงมาเพราะช่วงที่เด็กแฝดทั้งสี่เกิดมาช่วงที่แม่ร่างกายไม่ค่อยดีนักพวกพี่พี่ก็เลยช่วยกันเลี้ยงน้อง  

 

 

ยูโตะไม่ใช่เด็กรูปร่างบาง ยูโตะชอบเล่นกีฬากีฬาสุดโปรดคือว่ายน้ำ แต่ก็ชอบขี่ม้าหรือปืนเขาทำให้ตัวเขามีสีแทน แต่ด้วยรูปลักษณะผิวสีแทนผมสีบลอนด์ทอง กับใบหน้านิ่งๆเวลายิ้มแววตาแพรวพราวทำให้สาวๆชมชอบ ถ้าให้เปรียบเทียบก็สัตว์ยูโตะเหมือนกับจิ้งจอกตัวน้อยของพี่น้อง  ถึงจะเป็นคนเงียบๆกับคนทั่วไปแต่กับพี่น้องยูโตะเป็นน้องน้อยขึ้อ้อนอีกคน ยูโตะลากปลายนิ้วยาวของตัวเองบนแก้มที่ถูกตบของจาจา

 

 

“เจ็บ..แต่เดี๋ยวก็หาย..อย่าคิดมาก” ผมเอื้อมมือไปบีบจมูกยูโตะหนึ่งที่ น้องชายผมยู่ปาก ก่อนยิ้มเมื่อผมปล่อยมือจากจมูก ทำให้ยูโตะเห็นมืออีกข้างที่โดนบาดยาว ยูโตะจับมือผมมาดูอย่างอ่อนโยน

 

 

“พี่อยากกินอะไรเดี๋ยวยูโตะบริการพี่เอง” ตาของยูโตะระยิบระยับแพรวพราว แต่ก็ซ่อนความห่วงใยไม่มิด

 

 

“ครับผม..ดูแลพี่ชายเต็มที่เลยนะครับ” ผมพูดไปยิ้มไป การอยู่กับครอบครัวทำให้ผมมีความสุข ผมนั่งดื่มนั่งทานกับพวกพี่น้อง ทุกคนต่างบริการผม ไม่เว้นแม้กระทั่งพี่ชายของผมที่ต้องดูแลแฟนก็ทิ้งพี่เขยมาเอาใจผม^^ ขณะที่เรานั่งกินกันไปท่ามกลางพระจันทร์เต็มดาวเสียงมือถือของโทชิก็ดังขึ้น

 

 

โทชิหยิบมือถือขึ้นมาดู ก็ไม่เห็นชื่อ เบอร์ก็ไม่คุ้น เขาตัดสินใจรับ เดาไปก็ไม่ได้อะไร” ครับ”โทชิรับสาย

 

 

“(แดกเหล้ากัน มึงอยู่บ้านหรือเปล่า)” ทันทีที่ไม่ได้ยินเสียงที่ไม่ได้ยินมานาน สายตาของโทชิก็ตวัดไปที่โซจาก่อนหลุดขึ้นเดินไปคุยหน้าประตูบ้าน

 

 

“กูไม่ได้อยู่บ้าน กูพาเมียกับพี่น้องเมียกูมาเที่ยว” โทชิเอ่ยออกไปตรงๆ ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง

 

 

“(อืม..กูก็จะตามไปดึ่ม ด้วย ที่ไหน)” โทนเสียงของปลายดูจะมีเรื่องอะไรให้คิดมันเลยออกมาเป็นแบบนี้ อีกอย่างคือเขาไม่ได้สนิทกับมัน แค่เรียนห้องเดียวกันมันต้องการอะไร หรือจะส่งคนมาทำร้ายโซจา

 

 

“มึงไปหาคนอื่นได้ไหมวะ พอดีทางเมียกูมีเรื่อง  เขายังไม่อยากเจอใครนอกจากครอบครัวเขาวะ” ผมพูดออกไป อยากจะรู้ว่ามันจะทำไง มันเงียบไปอีกครั้งก่อนพูดขึ้น

 

 

“(งั้นกูขอไปค้างด้วย กูจะไม่ให้ครอบครัวเมียมึงเห็นดึกๆมึงค่อยมากินเหล้ากับกู)” มันเซ้าซี้กว่าที่ผมคิด

 

 

“มึงกับกูก็ใช่ว่าจะสนิทกันนะ มีเหี้ยอะไรถึงจะมาหากู” ผมคิดไม่ตกจริงๆ ถ้ามันต้องการจะทำร้ายน้องเมียผมผมก็ต้องขัดขวางมัน

 

 

“(กูมีอารมณ์จะไปไง บอกที่อยู่มึงมาได้แล้ว อย่าเล่นตัว)”ปลายสายตอบกลับมา

 

 

ในขณะที่โทชิกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ทางด้านจาจาก็นั่งคุยนั่งกินอยู่ แต่แล้วทั้งวงก็เงียบกันไปหมดเมื่อมีอีกคนเดินเข้า ผู้ชายที่รวมความหล่อและความสวยไว้ได้อย่างลงตัว  ผู้ชายที่ได้หน้าตาทั้งพ่อทั้งแม่ พี่ชายคนโตของพวกเขา คุรัย ชิโมะ 

 

 

“พี่ขอคุยกับจาจาสองคน จาจาไปกับพี่” ทันทีที่เดินถึงตัวน้องชายชิโมะก็เอ่ยออกมา ทุกคนในวงมองหน้ากันและกันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ชิโมะเดินนำจาจาออกมาจากวงจนถึงระยะที่ปลอดภัยแล้วถึงหันหน้ากลับมาคุยกับจาจา

 

 

“จาจา..พี่ขออะไรเราอย่างหนึ่งได้ไหมครับ” พี่ชายผมพูดออกมายิ้มๆ

 

 

“ได้หมดนั้นละพี่..ถ้าทำให้ได้”พี่ชายผมหวังดีกับผมเสมอนั้นละ อะไรที่ขอมันต้องเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวผม

 

 

“อย่างพึงหยุดเรื่องทีทำตอนนี้ เรายังเป็นศัตรูกับเขาไม่ได้ เพราะคนคนนั้นมีสิทธิ์ในสภาเวทย์มนตร์ระหว่างประเทศ เขาสามารถถ่วงดุลได้ หากเราได้เขามาอยู่กับเราในอนาคตคุณแม่ก็สามารถมาอยู่ข้างกายพ่อได้ ไม่ต้องหลบซ่อนอย่างที่เป็นอยู่เราจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า ทนไปก่อนได้ไหม” ผมทั้งรู้สึกแปลกใจและผิดสังเกตเพราะแววตาของพี่ชายผมทอด้วยแสงหม่น แล้วก็เหมือนรู้สึกผิดแต่ไม่มั้งจะรู้สึกผิดเรื่องอะไรละ

 

 

“พี่..เอ่อ..คือ..พี่..”ผมไม่รู้ว่าพี่รู้เรื่องได้ยังไง แล้วมีใครอื่นที่รู้เรื่องนี้ไหม”จาจาพูดด้วยความกังวล

 

 

“พี่ก็พอรู้อะไรมาบ้าง แต่พี่ก็ไม่ได้บอกใครหรอก” พี่ชิโมะพูดออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด

 

 

“ผมไม่ได้จะหยุดหรอกพี่ แต่เขาก็น่าจะเขี่ยผมทิ้งแล้วละ นิสัยของเขาไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ผมเผลอไปบอกเขาว่าผมมีอะไรกับคนนั้นไปแล้ว “ ผมก้มหน้าลง ผมเผลอพูดโดยไม่คิด ทั้งยังเป็นเพราะพี่เขยยุให้เขาบอกแบบนี้และไปคนอย่างโคคุโอะไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ใช้ซ้ำเป็นไปได้เขาไม่ใช่คนขี้เบื่อ แต่เขาเป็นคนไม่ยอมรับการทรยศ การไปนอนกับคนอื่นทั้งที่มีเขาอยู่เขาถือว่าทรยศ และเขาจะไม่สนใจคนทรยศอีก

 

 

“แต่ถ้ามีโอกาสล่ะ ถ้าเรายังได้โอกาสที่จะอยู่ข้างเขาละ” พี่ผมเหล่ตามองผม

 

 

“ผมก็ยังกลัวพี่ เขาทำร้ายผมผมไม่ว่า แต่การที่เขาเอาคนมาข่มขืนผม ผม..รับไม่ได้พี่ ตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะเอายังไงต่อ ผมแค่ถอยออกมาตั้งหลักยังไม่ได้คิดว่าจะหยุดหรือทำอะไรต่อครับ “ ผมพูดตามตรง

 

 

“ถ้าไม่อยากพบหน้าก็คุยทางมือถือก็ดี ถือว่าเพื่อแม่” พี่ชิโมพูดอย่างอ่อนโยน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา