ภารกิจป่วน ข้ามมิติพลิกชะตาโลก!

7.7

เขียนโดย MarkitJeff

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.57 น.

  15 ตอน
  3 วิจารณ์
  13.55K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) มุ่งสู่โลกมนุษย์!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

และแล้ววันที่ภารกิจจะเริ่มต้นก็ได้มาถึง ขั้นตอนการเปิดประตูวาปกำลังจะเริ่มขึ้น มีผู้คนมากมายต่างมาลุมล้อมรอดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

เดนนิสกับนินาเมะยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายและเหล่าอาจารย์ของสมาคมจอมเวทย์ทั้งหลาย

 “เอาละพร้อมแล้วนะ!” เสียงตะโกนดังลั่นจากกอเจียส ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ ท่ามกลางบรรยากาศตอนเช้าอากาศสดใส

“พร้อม ครับ/ค่ะ!”

เดนนิสและนินาเมะมีอาการกดดันเล็กน้อยแต่ทั้งคู่ก็ได้ปลอบใจซึ่งกันและกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

“ตามที่ทราบกันดีพวกเธอทั้ง2คนจะถูกส่งไปกันคนละที่ เพื่อตามหาคนที่ทางเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ ฉันขอให้พวกเธอพยายามให้เต็มที่ ฉันเชื่อว่าพวกเธอทำได้จงจำไว้ให้ดีว่า ห้ามแสดงเวทย์มนให้ผู้คนอีกโลกหนึ่งได้เห็น

ไม่งั้นพวกเธอจะได้รับบทลงโทษร้ายแรง เว้นแต่ว่ามีแต่คนที่ทางเราตั้งเป้าหมายไว้เท่านั้นที่พวกเธอจะสามารถแสดงเวทย์มนให้เขาเห็นได้ แต่ภายในบริเวณนั้นห้ามมีใครอื่นเห็นด้วย เข้าใจแล้วสินะ!”

ครับ/ค่ะ!”

“ทางเราจะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือให้ หากต้องการใช้ให้หยิบสิ่งนี้ขึ้นมา”

กอเจียสเดินไปมอบแท่งรูปร่างปริซึมให้เดนนิสกับนินาเมะ

“รักษามันไว้ให้ดีๆด้วยละ”

“ขอบคุณ ครับ/ค่ะ”

กอเจียสกับเหล่าคณะอาจารย์จอมเวทย์ทั้งหลายสร้างวงเวทย์ขนาดใหญ่และถ่ายโอนพลังเวทย์ลงไป

“มิติคู่ขนานจงเปิดทางไหลเวียนเวทย์มนให้พวกเราด้วยเถิด!”

กอเจียสหยิงผงเวทย์มนมิติพิศวงแล้วโรยไว้โดยรอบวงเวทย์ที่เป็นสื่อกลางการเปิดวาป

เอาละเปิดประตูวาปได้!

ซู้ม!

ประตูมิติที่เชื่อมระหว่างโลกสองโลกได้เปิดออก สภาพแวดล้อมแถ่วนั้น

เปลี่ยนไป บรรยากาศค่อนข้างมือมน มีกลุ่มก้อนพลังเวทย์สีเหลืองจ๋า กระจัดกระตายเต็มไปหมดบนอากาศ ลมแรง  ใบไม้ปลิวว่อน ต้นหญ้าสั่นไหวไปมา เสียงดังกระหึ่ม

“ทั้งคู่พยายามเข้า อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะเดนนิส” อาจารย์เรเฟียมาส่งลูกศิษย์ของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย

“ครับอาจารย์!” เดนนิสตะโกนสู้เสียงประตูวาปอันดังกระหึ่ม

เดนนิสกับนินาเมะกำลังจะวิ่งเข้าไปในประตูวาร์ป

 “เดนนิส!” นินามะตะโกนเรียก

เดนนิสหันไปทางนินาเมะและพบมองมาและยิ้มอ่อนๆให้

“พยายามเข้านะ!” นินาเมะกล่าวไว้ก่อนจะวิ่งเข้าไป

“เธอก็ด้วยละ! พยายามเข้านะ!”เดนนิสตะโกนตอบกลับไป

“เร็วเข้าเดนนิส! ประตูนี้เปิดได้ไม่นานหรอกนะ!”กอเจียสตะโกนใส่

เดนนิสให้รีบๆออกตัวไปได้แล้ว

“ครับ!”

เดนนิสวิ่งเข้าไปในวาร์ปที่ภายในเต็มไปด้วยชั้นบรรยากาศหลากสี เต็มไปด้วยกลิ่นอายเวทย์มนอันน่าพิศวง เดนนิสถูกดูดเข้าไป เขาไม่สามารถขยับร่างกายตัวเองได้ เขาเพียงแค่ไหลไปตามทางไหลเวียนเวทย์ในประตูวาร์ปเพียงเท่านั้น และค่อยๆ เร็วขึ้น- เร็วขึ้นเรื่อยๆ-

“แว๊กกกกกกก!” เสียงตะโกนครั้งสุดท้ายของเดนนิสก่อนที่เสียงนั้นจะถูกตัดให้หายไป

ซู้มมมม!

เดนนิสลืมตาขึ้น สิ่งที่พบเห็นคือโลกที่เขาไม่คุ้นเคย โลกที่มียานพาหนะต่างๆ อากาศค่อนข้างร้อนถึงร้อนมาก

“เดนนิส—“

“เดนนิส!”

“หือ?!” เดนนิสมองไปรอบๆพยายามหาต้นเสียงแต่ก็ไม่พบ เป็นเสียงที่ค่อนข้างสูงและใส

“ใครกันนะ?!”เดนนิสถามหาด้วยความตกใจ

“ไม่ต้องกังวลไป ฉันคือพลังเวทย์ที่อยู่ในหัวของนายฉันสื่อสารกับนายด้วยพลังเวทย์ของที่ไหลนเวียนจากตัวนายเข้าไปในสมองของนาย”

“ฉันถูกปลุกขึ้นมาด้วยกระแสเวทย์จากวาปที่นายใช้เชื่อมมาที่โลกแห่งนี้ หรือรู้จักฉันอีกชื่อคือครูซ”

“ย..ยังงี้นี้เอง” เดนนิสพูดด้วยความโล่งอกและเริ่มหันมาสนใจสิ่งรอบตัวเขามองไปรอบๆมันเหมือนเป็นซอยตันลับตาคนเอาไว้ใช้สำหรับทิ้งขยะ คิดๆดูแล้วคงเอาไว้กันคนเห็นตอนข้ามมิติมาด้วยละมั้ง หรือว่าที่แบบนี้เหมาะสมที่จะอันเชิญคนระดับเขามา

 “เฮ้ นายนะ!” อยู่ๆก็มีเสียงเข้มเรียกหาเดนนิส

“เอ๋ ฉันไม่รู้เลยน่าว่านายเปลี่ยนเสียงได้นะครูซ”

“ไม่ใช่ฉันซะหน่อย..”

“เอ๋...?” เดนนิสเลยมองไปที่ต้นเสียงอีกครั้งเพื่อดูว่าใครเรียกเขา

“แกนั้นแหละ! เป็นบ้ารึไงกัน พูดอยู่คนเดียว!”

“ฮ..เฮ้ย!” เดนนิสตกใจเมื่อได้เห็นเจ้าของเสียงเป็นเด็กวัยรุ่นดูท่าจะนักเลงไม่เบารูปร่างค่อนข้างใหญ่ยืนกันอยู่5คน กำลังเดินมาทางเขา

“ครูซ ฉันว่านั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีแน่”

“นี้ๆ เดนนิสอย่าลืมนะ ว่าห้ามใช้พลังเวทย์นะ เพราะฉะนั้นหาทางเอาตัวรอดจากพวกนั้นให้ได้นะ ฉันไปก่อนละ” และแล้วเสียงที่ดังในหัวของ

เดนนิสก็ดับไป

“ด..เดี๋ยวเซ่ เจ้าพลังเวทย์ฉันที่ทรยศ!!!!”

“มันต้องอนาถาขนาดไหนที่โดนพลังของตัวเองทิ้งไป..”

“เฮ้ยแกนะบ้าไปใหญ่แล้ว พูดอะไรอยู่คนเดียว” กลุ่มนักเลงเดินเข้ามาประชิดตัวเดนนิส นักเลงพวกนั้นตัวสูงพอๆเดนนิสแต่มีคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นตัวหัวโจกรูปร่างสูงใหญ่มาก

“ดูท่าแกน่าจะบ้านะเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“แต่เอาเถอะๆ พวกฉันก็ไม่ได้เป็นพวกใจร้ายอะไร”

หลังจากพูดจบนักเลงก็แบมือยืนมาใกล้ๆเดนนิส

“แค่แกจ่ายมาให้ฉันเท่าที่แกมี แล้วพวกเราก็จะปล่อยแกไป”

เดนนิสรู้ว่าตัวเองตกอยู่ในวิกฤตอย่างมาก

“นี้มันอะไรกันเนี่ย มาถึงก็แจ็คพอตแตกเลย โดนหาเรื่องไถตังซะแล้ว

แล้วไอเราที่พึ่งทะลุมิติมาจะมีตังแบบโลกของพวกมันได้ยังไงฟร้ะ!”

เดนนิสคิดในใจ และพยายามคิดหาทางออกจากที่นี้ให้รอดไปได้ก่อน

“เอาละนะ พอดีตอนนี้ฉันไม่มีตังติดตัวเลยอยู่แม้แต่ นิดเดียว เพราะฉะนั้น

เรามาค่อยๆ คุย--...”

-นักเลงกำหมัดแล้วพุ่งเข้ามาต่อยอย่างเร่งรีบ-

เดนนิสหลบได้แบบฉิวเฉียด

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า  อะไรกันไม่มีตังซักแดงเดียวเลยเหรอเนี่ย ถ้างั้นก็คงต้องโดนดีหน่อยแล้ว ที่หลบได้ตะกี้มันก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ”

“แย่ละ.. อย่างน้อยถ้าใช้เวทย์ได้ละก็ฉันก็คงพอที่จะเอาตัวรอดได้อยู่แท้ๆเชียว” เดนนิสคิดขึ้นมาในใจ

“เฮ้อ น่าเบื่อๆ สงสัยคงต้องอัดให้เละหน่อยแล้วละ”

กลุ่มนักเลงกำหมัดแน่นกำลังจะเข้าไปรุมชกเดนนิส แบบเต็มยศ

“ซวยละเว้ยยย!”

แต่ก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้น

แกร๊งงง—

“ฮืมมม” เหล่านักเลงและเดนนิสหันไปมองแล้วพบกับเด็กชายคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนพึ่งเข้ามัธยมปลาย อายุราวๆ15ปี เดินพ่านมาทิ้งกระป๋องน้ำอัดลมโดยที่ไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้อยู่ จนเด็กคนนั้นสบตากลับ แววตาค่อนข้างดุดันมีทรงผมที่ค่อนข้างแหวกแนวเมื่อเทียบกับคนในยุคนี้

“เฮ้ยแกนะ มองมามีปัญหารึไงฟระ!”

ชายคนนั้นชี้ที่ตัวเองก่อนจะเอ่ยว่า “ฉันรึ?”

“ป่าวหรอกฉันก็แค่มาทิ้งกระป๋องน้ำนะ ไม่ได้สนขี้หน้าพวกแกอยู่แล้ว”

นักเลงได้ยินถึงกับฉุนขาดรีบเดินไปทางชายคนนั้น

“เอ็งนี้ปากดีไม่เบานี้หว่า ถ้าจะอยากโดนดีสินะ แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกเรานะไม่ได้ใจร้ายอะไรแค่จ่ายทั้งหมดที่แกมี พวกเราก็จะปล่อยแกไป”

เดนนิสเห็นชายคนนั้นตกอยู่ในท่าทีที่ไม่ดีเลยพยายามจะหาวิธีทำอะไรซักอย่าง ในขณะเดนนิสมัวแต่สนใจเด็กชายคนนั้นและกำลังพยายามจะเดินไปช่วย

“แกนะอยู่นิ่งๆไป” ลูกเตะของนักเลงรูปร่างสูงใหญ่กระแทกเข้าไปที่ตัวเดนนิสอย่างจัง ทำให้ล้มลงไปกับพื้น”

“อ...โอ้ยยย ” เดนนิสล้มลงอย่างแรงและกำหมัดแน่นไว้

“หน่อย เล่นทีเผลอรึ สกปรกไม่เบาเลยนะ!” เดนนิสพูดขึ้นทั้งๆทีส่วนใหญ่เวลาดวลเวทย์มนกับคนในโรงเรียนก็ชอบเล่นทีเผลอเหมือนกัน

ยังไงก็เถอะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้วคงต้องทำสิ่งที่ต้องทำ ฉันคงต้องใช้เวทย์มนนิดๆหน่อยแล้วละ เดนนิสคิดขึ้นมา

แต่ทันใดนั้นเมื่อเด็กชายคนนั้นเห็นเดนนิสโดนเตะล้มลงไปกับพื้น เขาจึงเอามือล่วงกระเป๋ากางเกงและหยิบเงินที่เขามีออกมา

“เฮอะ! เป็นคนเข้าใจง่ายดีนี้หว่า หรือจะเรียกว่าน่าสมเพชดีน้า ฮ่าๆๆ”

กลุ่มนักเลงหัวเราะสะใจต่อการกระทำของชายคนนั้น

แต่สิ่งที่ชายคนนั้นหยิบมาคือเหรียญ5บาทเท่านั้น

กลุ่มนักเลงมองที่ชายคนนั้นด้วยสีหน้าเยาะเย้ย

“นี้คือทั้งหมดที่แกมีงั้นเรอะ! ฮ่าๆๆ! มันจะไปพออะไร!”

นักเลงรูปร่างสูงใหญ่ชักคอเสื้อชายคนนั้นะพรางจะทำท่าจะทำร้าย

“ใช่แล้วนี้แหละที่หมดที่ฉันมี...”

“งั้นก้โดนอัดให้เละไปเถอะแกนะ!”

เดนนิสรีบลุกขึ้นจากการรวบรวมเวทย์ไว้ในมือกำลังจะพุ่งเข้าไปช่วย

แต่ทันใดนั้น ด้วยความเร็วสูง เด็กชายคนนั้นได้พูดขึ้นว่า

“ฉันจะประเคนเงิน5บาทให้แกได้ใช้อย่างคุ้มค่าเอง!”

ชายคนนั้นกำเหรียญ5บาทไว้ในหมัดขวาแล้วชกไปที่นักเลงรูปร่างสูงใหญ่เข้าอย่างจัง ตู้ม! เสียงหมัดดังกึกก้องจนคนที่แค่มองดูนั้นก็แทบจะรู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างกับโดนเอง เป็นหมัดที่ออกไปด้วยความเร็วสูงแทบมองไม่ทันยังไงยังงั้น

นักเลงรูปร่างสูงใหญ่ล้มลงกระแทกกับพื้นจนน็อคไป

“ฮึเป็นไงละ นั้นคือท่าไม้ตายใหม่ของฉัน หมัด5บาทแห่งคุณธรรม!”

เดนนิสอึ้งไปชั่วครู่กับพลังหมัดนั้น แทบจะพอๆหรือไม่ก็สูงกว่าพลังเวทย์ระดับมาตรฐานของเขาด้วยซ้ำ แรงพอที่จะน็อคคนรูปร่างใหญ่ได้

“อย่าพึ่งได้ใจไปนะโว้ย!” กลุ่มนักเลง4คนที่เหลือพุ่งเข้าไปรุมเด็กชายคนนั้นและเลิกสนใจตัวประกอบฉากอย่างเดนนิส

“เข้ามาเลย! ไอพวกกุ๊ย มาชิมเหรียญ5นี้กันให้หมดซะ”

ตู้ม! ตู้ม! ผัวะ! ผลัก!

ชายคนนั้นหยุดนักเลงเหล่านี้ หนึ่งคนต่อหนึ่งหมัดเท่านั้น

เดนนิสรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่โลกนี้มีเด็กที่บ้าพลังได้ขนาดนี้

“น..นาย เป็นตัวอะไรแน่เนี่ย!” เดนนิสถามด้วยความร้อนรน

“หา? ถามฉันงั้นรึ ฉันก็คือคนปกตินั้นละนะ คนที่มีนามว่าริงโก้ยังไงละ!”

“ไม่ใช่แล้วเฟร้ย!”

ปิ๊งป่องงงงง นาฬิกาประจำเมืองดังขึ้นเตือนว่าโรงเรียนภายในบริเวณใกล้เข้าแล้ว

“แย่ละซิ! สายซะแล้ววว ฉันต้องไปก่อนละขอให้นายโชคดีละกัน ตะกี้โดนหนักใช้เล่นเลยนายนะ ทีหลังระวังด้วยละ” ริงโก้พูดกับเดนนิสก่อนจะรีบวิ่งไปโรงเรียน

แต่แล้วก็หันกลับมาพูดว่า “ทีหลังนายต้องหัดสู้คนบ้างนะ จะแพ้จะชนะมันไม่สำคัญหรอกน่า” แล้วก็วิ่งจากไปด้วยความเร็วสูง

“เฮ้ เดียวเซ่ ถึงจะเห็นฉันยังงี้ก็เถอะแต่ฉันน่าจะอายุมากกว่านายนะ!”

เดนนิสตะโกนใส่เด็กชายคนนั้น

หลังจากนั้นซอยนี้จากที่วุ่นวายก็กลับกลายเป็นบรรยากาศที่เงียบเหงา

และเหม็นขยะเน่าในเป็นอย่างมาก

“นี้ เดนนิส!”

“ว๊าก!” เดนนิสสะดุ้งกับเสียงเรียกชื่อภายในหัวของเขา

เสียงของครูซที่เรียกเดนนิสแบบไม่ทันตั้งตัว

“เจ้าครูซตะกี้แกชิ่งหนีไปเลยนะ เดียวแกโดนดีแน่”

“แล้วนายจะทำยังไงละเดนนิส ชกหัวตัวเองรึ?” ครูซตอบกลับไป

“น่าโมโหที่สุดเลยยยย!” เดนนิสโมโหกลิ้งไปกลิ้งมา โดยลืมไปว่ารอบตัวแทบจะมีแต่ขยะในตรอกโล่งๆที่ไร้ผู้คน ซักพักครูซก็พูดออกมา

“เดนนิสที่ฉันหายไปตะกี้เพราะพลังเวทย์ของนายมันไม่พอที่คงสภาพให้ฉันสื่อสารกับนายได้ยังไงละ เพราะมีพลังเวทย์ที่ไม่ค่อยมาก และรู้แค่เวทย์พื้นฐานเท่านั้น”

“ก็แล้วมันทำไมเล่า! ฉันก็ถูกคัดสรรมาเรื่องแบบนี้ทำไมก็ไม่รู้ จอมเวทย์ที่เก่งกว่าฉันมีอยู่ถมไป แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยละ!”

“แต่ว่าตะกี้ตอนนายรวบรวมพลังเวทย์หวังจะช่วยเด็กคนนั้นนะ มันช่วยทำให้ฉันกลับมาคงสภาพพร้อมสื่อสารกันนายได้ ซึ่งมันยากมากที่จอมเวทย์จะรวบรวมพลังเวทย์ให้วงจรเวทย์ไหลเวียนให้พร้อมสื่อสารกับเวทย์ของตัวเองในอึดใจเดียวแบบนั้น อันที่จริงพลังเวทย์ของนายก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเท่าไรหรอกนะ” ครูซกล่าวขึ้นมาเพื่อชมเชยเดนนิส

“จ...จริงรึ งั้นก็ฉันก็ไม่ได้ไม่เก่งสินะ? ฮะ! คงมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่ในตัวฉันสินะ!”

“เรื่องนั้นฉันไม่รู้หลอกนะ แต่นี้ก็เป็นตัวบอกว่านายเป็นพวกขี้เกียจไม่มีการมั่นซ้อมพลังเวทย์ให้วงจรเวทย์ในตัวนายไหลเวียนได้ดีพอ ฉันถึงได้หายไปเร็วแบบนั้นยังไงละ เข้าใจรึยัง”

“ร..รู้แล้วละน่า!” สักพักเดนนิสก็ตระนักได้ถึงภารกิจที่เขาถูกส่งให้มาทำ

ให้สำเร็จ

“นินาเมะ จะเป็นยังไงบ้างน้า” เดนนิสพูดออกมาด้วยความความเป็นห่วง ก่อนที่จะนึกได้ว่าสถานการณ์แบบนี้ คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือตัวของเขาเองนี้แหละ

“เฮ้ ครูซการที่นายถูกปลุกด้วยการไหลเวียนเวทย์ของประตูวาปที่ทำให้นายตื่นขึ้นมา มันต้องมีสาเหตุสินะจำเป็นที่เอาไว้ช่วยฉันสินะ”

“ใช่แล้วละ เดนนิส ฉันเป็นตัวที่สามารถบอกตัวเป้าหมายได้ ว่าคนที่นายตามหาอยู่ไหน ซึ่งการวาปมานี้ จุดหมายปลายทางของนายก็จะถูกส่งมาให้อยู่ใกล้เป้าหมายอยู่แล้วละ”

“ดีละ ครูซ! นั้นช่วยบอกตำแหน่งของคนที่ต้องตามหามาหน่อยสิ”

“ตอนนี้เป้าหมายกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก และกำลังจะมุ่งไปยังสถานที่ที่เรียกว่าโรงเรียนสุกี้น้ำ”

“มีชื่อสถานที่บ้าๆแบบนั้นอยู่ด้วยรึ!”

หลายความคิดพุดขึ้นมาในหัวเดนนิสทั้งเหตุการณ์เมื่อกี้ ทั้งชื่อของโรงเรียนและซักพักเดนนิสก็รีบวิ่งไปดูยูนิฟอร์มเหล่านักเลงที่นอนกองกันอยู่ เป็นยูนิฟอร์มของโรงเรียนสุกี้น้ำนั้นเอง

“เฮือก!”

“ต้องไปที่นั้นจริงๆรึ” เดนนิสรู้สึกหวาดหวั่นแปลกๆ ครูซจึงพูดขึ้นมา

“เดนนิส.. เด็กชายที่มาช่วยนายนะก็ใส่ยูนิฟอร์มโรงเรียนสุกี้น้ำเหมือนกันนะ... และแถมรีบวิ่งไปทางโรงเรียนสุกี้น้ำด้วย”

เดนนิสนิ่งไปช่วยขณะปล่อยให้เวลาสมองอันน้อยนิดของเขาได้ประมวลผลไปตามเวลา

“ร...หรือ ว่า!!!!!!!”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา