เกมวิวาห์เจ้าสาวมาเฟีย
เขียนโดย ศิริพารา
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.33 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 11.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) เกมวิวาห์เจ้าสาวมาเฟีย ตอนที่ 3 100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพราวพุธใช้บริการซับเวย์ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกที่สุดเพื่อเดินทางจากอพาร์ตเมนต์ไปยังย่านไชน่าทาวน์ แหล่งขายอาหารสไตล์เอเชีย มีให้เลือกทั้งอาหารปรุงสุกสดใหม่หรืออยากหาวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารจีนหรือไทยก็สามารถซื้อหาได้จากร้านรวงในย่านนี้
หญิงสาวเลือกรับประทานบะหมี่เกี๊ยวจากรถเข็นที่จอดขายอาหารอยู่ข้างทาง มีเก้าอี้ตั้งเรียงรายไว้ให้ลูกค้านั่งรับประทานกันหน้าร้าน ได้บรรยากาศคล้ายๆ กับตอนไปนั่งรับประทานของหวานกับครอบครัวในเยาวราช ทำให้คลายความคิดถึงบ้านคิดถึงทุกคนในครอบครัวลงได้บ้าง ทั้งยังไม่ลืมสั่งบะหมี่ใส่กล่องไปฝากเพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นอีกด้วย
ชั่วโมงเศษที่เดินอยู่ในไชน่าทาวน์พร้อมกับรับประทานอาหารมื้อเย็นนั้นก็ใกล้เวลาเริ่มงานเข้ามาทุกที พราวพุธจึงเดินไปอีกไม่ไกลก็จะถึงที่ตั้งของโรเซ่ วาเคชั่นคลับ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างไชน่าทาวน์และลิตเติ้ลอิตาลี
โรเซ่ วาเคชั่นคลับ เป็นแหล่งที่เที่ยวของผู้มีอันจะกินในนิวยอร์ก ลูกค้าทุกคนต้องเป็นสมาชิกรายปีถึงจะมีสิทธิย่างกรายเข้ามาใช้บริการ พนักงานทุกคนที่จะได้เข้ามาทำงานจึงต้องถูกเทรนมาเป็นอย่างดี ต้องเอาใจใส่และเห็นความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ แม้ว่าค่าตอบแทนในชั่วโมงการทำงานจะไม่แตกต่างจากคลับทั่วไปแต่ทิปที่ลูกค้าเต็มใจจ่ายให้นั้น เป็นแรงใจชั้นเยี่ยมและทางคลับก็ไม่ได้ขอส่วนแบ่งจากพนักงานเลย
โชคดียิ่งนักที่โคโน่นั้นติดต่อกับมิกิ ผู้เป็นน้า ตั้งแต่ช่วงที่อยู่เพนซิลเวเนีย ตอนแรกก็ให้ช่วยมองหางานพาร์ทไทม์ในตอนที่ต้องอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก เมืองที่มีค่าครองชีพสูงไม่ใช่น้อย เมื่อเธอและโคโน่เดินทางถึงนิวยอร์ก มิกิจึงเรียกเข้าไปหาและอธิบายขอบเขตของงานให้ได้รับรู้และทั้งคู่ก็สามารถผ่านมาตรฐานการให้บริการลูกค้า ประกอบกับช่วงนั้นทางคลับยังขาดพนักงานอีกสองสามคน ทั้งคู่จึงได้เข้าทำงานในทันที
เดินมาไม่ไกลนักพราวพุธก็ได้เห็นร่างคุ้นตาของเพื่อนสาวยืนรออยู่ตรงทางเข้าคลับด้านข้าง ซึ่งพนักงานทุกคนต้องใช้ประตูนี้ในการเข้า-ออก เท่านั้น
“มารอนานรึยัง โคโน่” พราวพุธทักทายพร้อมทั้งเอื้อมมือไปแตะแผ่นหลังเพื่อนให้เดินนำหน้าเข้าไปด้านใน จากนั้นจึงยื่นถุงบะหมี่ไว้ตรงหน้าเพื่อน “ซื้อมาฝาก รู้ว่าเธอต้องหิวแน่ๆ”
โคโน่ยิ้มจนตาหยีพร้อมรับถุงหิ้วในมาถือเสียเอง “เดี๋ยวถึงห้องแต่งตัวแล้วจะจัดการเลย เหลือเวลาอีกนิดหน่อยกว่าจะเริ่มงาน”
ว่าแล้วก็เร่งฝีเท้าให้ถึงห้องแต่งตัวเร็วขึ้นจนคนที่เดินตามต้องหัวเราะร่วน เพราะรู้ว่ากลิ่นหอมของอาหารนั้นยั่วน้ำลายโคโน่สักแค่ไหน ในระหว่างที่โคโน่กำลังจัดการกับบะหมี่เกี๊ยวแสนอร่อยนั้น พราวพุธก็กำลังแต่งตัวด้วยฟอร์มของพนักงานซึ่งเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวเข้ารูปผูกโบไทกับกางเกงสกินนี่สีดำ เน้นโชว์สรีระของผู้หญิงทว่าปราดเปรียวและคล่องแคล่วอยู่ในที
“รู้ไหมว่าวันนี้กาบี้ทำให้ฉันประสาทเสีย อ๊า...” พูดเพียงเท่านั้นแล้วต้องครางลากเสียงยาว เมื่อได้เห็นเรียวขาของพราวพุธซึ่งเจ้าตัวกำลังวางเท้าบนม้านั่งแล้วดึงเชือกผูกบูตความยาวถึงหัวเข่า “ทำไมขาฉันถึงไม่เรียวสวยเหมือนเธอนะ พราว”
สาวขาสวยหัวเราะร่วนเพราะเป็นคำชมที่ได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ในบรรดาพี่น้องทั้งสี่คนมีหน้าตาสะสวยกันไปคนละแบบ คงจะมีเพียงแค่เธอคนเดียวกระมังที่ไม่ได้สวยหวานเหมือนใคร แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่อิจฉารูปร่างเพรียวระหง โดยเฉพาะสะโพกผายถึงสามสิบเจ็ดนิ้วแต่เมื่อไล่สายตาลงมายังเรียวขากลับน่ามองยิ่งนัก
ต้นขา ปลีน่องและข้อเท้าของพราวพุธดูเหมือนว่าจะมีขนาดที่ลงตัวกันอย่างเหมาะเจาะ ด้วยความสูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดเซนติเมตรอาจจะดูสูงเกินมาตรฐานสาวไทยไปสักนิด แต่นั่นกลับส่งผลให้เธอมีรูปร่างระหง ไม่ได้เก้งก้างหรือดูบอบบางจนเกินไป
“ตกลงขาฉันหรือกาบี้ที่ทำให้เธอประสาทเสีย” ถามกลับเมื่อเห็นเพื่อนมองตามเรียวขาของตนไม่วางตา นี่ดีนะที่เป็นผู้หญิงด้วยกันไม่เช่นนั้นล่ะก็ อย่าหวังว่าคนอย่างพราวพุธจะอยู่นิ่งๆ ให้ใครลวนลามทางสายตาเช่นนี้
โคโน่ไม่ตอบว่าอย่างไรแต่รีบเคี้ยวอาหารแล้วเปิดน้ำดื่ม ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่มองค้อนเพื่อนตาเขียวปัด “ทั้งสองอย่างเลย เรียวขาเธอน่ะทำให้ฉันอิจฉา แต่ความมากมายของกาบี้ทำให้ฉันอารมณ์เสีย”
“ยังไง?”
“รู้ไหมว่าวันนี้พร่ำเพ้อถึงเธอทั้งวัน เป็นห่วงสารพัด กลัวว่าเธอจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บ่อยเข้าฉันก็รำคาญเลยแกล้งถามไปว่าเป็นแค่เพื่อนกันทำไมต้องเป็นห่วงขนาดนี้ รู้ไหมกาบี้ตอบว่าไง” โคโน่ชะงักคำพูดไว้ครู่หนึ่งแล้วเปิดล็อกเกอร์หยิบชุดฟอร์มพนักงานออกมา แล้วเล่าต่อเมื่อเห็นว่าเพื่อนยังมองหน้าอย่างรอคอย “กาบี้คิดว่าเธอเองก็เริ่มมีใจให้บ้างแล้วน่ะสิ”
“เฮ้ย! คิดแบบนั้นได้ไง” พราวพุธส่ายหน้าดิก
“ไม่รู้... ก็โม้ใหญ่เชียวว่าเธออยากเรียนภาษาอิตาเลียน”
พราวพุธถอนหายใจเพราะไม่รู้ว่าคำพูดเพียงเท่านั้นจะทำให้กาบี้ตีความหมายผิดไปใหญ่โตเช่นนี้ “ก็อยากเรียนจริงๆ นั่นแหละ แต่แค่อยากเรียนภาษาก็ไม่ได้หมายความว่าต้องชอบกาบี้สักหน่อย”
โคโน่พยักหน้ารับเพราะเข้าใจความรู้สึกของพราวพุธดี ผู้หญิงด้วยกันมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่ามีใจรักใคร่ชอบพอหนุ่มคนไหนบ้าง “งั้นคงถึงเวลาที่เธอต้องพูดกับกาบี้ให้เข้าใจสักที ปล่อยไว้แบบนี้ยิ่งจะเสียความรู้สึกกันไปใหญ่”
ใช่ว่าจะไม่รู้ ไม่เห็นในไมตรีจิตที่กาบี้มีให้เกินเพื่อน ตั้งแต่เล็กจนโตหากได้ขึ้นชื่อว่าเพื่อนแล้วพราวพุธไม่เคยคิดเกินเลยกับใครสักครั้ง สมัยมัธยมก็อยู่ในโรงเรียนหญิงล้วนซึ่งตรงกันข้ามเป็นโรงเรียนชายล้วน มีบ้างที่ตามกลุ่มเพื่อนไปกรี๊ดกร๊าดหนุ่มรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ แต่ถ้ารู้ว่าอยู่ในช่วงอายุไล่เลี่ยกันหรือกำลังเรียนระดับชั้นเดียวกันแล้วล่ะก็ ต่อให้หล่อเหลาสักแค่ไหนก็ดูไร้ซึ่งแรงดึงดูดใจต่อเธอนัก
นี่กระมังที่เขาเรียกว่าความชอบส่วนบุคคล ยิ่งกาบี้ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เล่นหัว พูดจาหยอกเย้ากันมาเกือบสี่ปีเช่นนี้แล้วยิ่งไม่อาจคิดเกินเลยได้
สีหน้าครุ่นคิดของเพื่อนทำให้โคโน่ซึ่งเพิ่งแต่งตัวเรียบร้อยต้องเข้ามานั่งข้างๆ แล้วเลื่อนมือขึ้นโอบบ่าบอบบางอย่างให้กำลังใจ “เอาน่า... บางทีถ้ากาบี้ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเธอเห็นเขาเป็นแค่เพื่อน อะไรๆ มันอาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้”
“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
จบคำพูดของพราวพุธเสียงปรบมือของหัวหน้าพนักงานเสิร์ฟก็ดัง เรียกความสนใจของพนักงานทุกคนให้มองไปยังต้นกำเนิดของเสียง
“เอาล่ะสาวๆ อีกยี่สิบนาที โรเซ่ วาเคชั่นคลับจะเปิดบริการแล้ว กรุณาย้ายก้นงอนๆ ออกไปทำงานของพวกคุณด้วย” นั่นคือเสียงปลุกเร้าให้พนักงานทุกคนได้กระตือรือร้น และให้บริการลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส “เร็วเข้าๆ ทิปงามๆ รอพวกเธออยู่...”
ลูกค้าหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ที่เข้ามาใช้บริการในโรเซ่ วาเคชั่นคลับเป็นผู้ชายแทบทั้งสิ้น คงไม่มีผู้หญิงคนไหนคิดเดินเข้ามาใช้บริการคลับที่มีพนักงานเสิร์ฟสาวหุ่นเพรียวไม่ต่างไปจากนางแบบ ไล่เลียงไปจนถึงหุ่นสะบึมสุดเอ็กซ์ หรือดูโชว์ที่ทำให้ผู้ชายตาค้าง สามารถควักเงินเป็นฟ่อนๆ ให้นางโชว์บนเวที
แม้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในแต่ละคืนนั้นนางโชว์รวมไปถึงพนักงานต่างถูกเลือกไปเป็นคู่นอนของหนุ่มๆ ผู้มีกำลังจ่าย ในคลับยังมีห้องซึ่งตกแต่งหลากหลายสไตล์เอาไว้บริการซึ่งคิดค่าบริการรายปีรวมในบัตรสมาชิกแล้ว หากเมามายจนไม่สามารถเดินทางกลับก็นอนค้างได้อย่างสบายใจ แล้วจะมีลูกค้าสักกี่คนที่จะใช้บริการห้องเหล่านี้ตรงตามวัตถุประสงค์ ในเมื่อว่าไม่ได้กำหนดให้นอนคนเดียวหรือต้องเมามายเท่านั้น
เซ็กซ์หรือตัณหาราคะที่เกิดขึ้นนั้น ทางคลับยังยืนยันว่าไม่มีรายรับหรือมีส่วนรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นด้วยความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย อาจจะสองคน สามคนหรือมากกว่านั้นก็เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนบุคคล
ด้วยเหตุนี้จึงมีการ์ดร่างใหญ่คอยดูแลความเรียบร้อยทั้งด้านหน้าและในคลับ ความเข้มงวดนี้กระมังที่ทำให้พราวพุธกล้าเข้าทำงานในคลับนี้ แม้จะทำงานได้แค่เพียงหนึ่งสัปดาห์แต่ก็ไม่เคยเห็นการบังคับขืนใจใดๆ เกิดขึ้น อีกเหตุผลของคนขี้งกคงเป็นเพราะทิปที่ได้วันต่อวันโดยไม่ต้องแบ่งใคร
แต่คนขี้งกกลับปิดเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอด ต่อให้มีความปลอดภัยแค่ไหนก็ไม่อาจให้คนในครอบครัวรู้ว่าอาจหาญมาเป็นพนักงานเสิร์ฟในคลับเช่นนี้ พราวพุธรู้สึกไม่ดีเท่าไรเมื่อต้องโกหกคนทางบ้านแต่รายได้จากการบริการนั้นกลับกลบลบความรู้สึกย่ำแย่นั้นออกไปจนสิ้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ