เกมวิวาห์เจ้าสาวมาเฟีย
เขียนโดย ศิริพารา
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.33 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 11.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) เกมวิวาห์เจ้าสาวมาเฟีย ตอนที่ 2 50%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแม้การตายของชายทั้งห้าคนเป็นเรื่องที่ผิดปกติแต่ดิโน่ก็มั่นใจว่า ลูกชายจะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม ปัญหาน้อยใหญ่ที่คอนเนลิโอยื่นมือเข้าไปจัดการในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ ทำให้เขารู้ว่ากลุ่มเวนโตล่าจะยั่งยืนภายใต้การปกครองของคอนเนลิโอ
มีไม่กี่คนนักหรอกจะรู้ว่าความสัมพันธ์ของพ่อลูกเวนโตล่านั้นไม่ได้น่าพิสมัยสักเท่าไหร่นัก มองดูผิวเผินแล้วการพูดคุยของพ่อลูก อาจจะเป็นเหมือนเพื่อนต่างวัยซึ่งมีความสนิทชิดเชื้อกันอย่างมาก ความคิดเห็นเท่าทันกัน รู้อกรู้ใจไปเสียทุกเรื่อง ทว่าคนเป็นพ่อกลับไม่เคยได้ความรักจากลูกชายในแบบที่ต้องการเลยสักครั้ง
‘แกไม่เคยรักฉันด้วยเหตุผลของความเป็นลูก แต่แกแค่กำลังทำหน้าที่ของลูกอยู่เท่านั้นเอง’
ม่านหมอกแห่งความไม่เข้าใจบางอย่างยังปิดกั้นความสัมพันธ์พ่อลูกตลอดมา แม้จะเตือนตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่าในสักวันหนึ่งเมื่อคอนเนลิโอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว คงจะเข้าใจในตัวตนของพ่อได้มากขึ้น
มาเฟียเฒ่าซึ่งใครต่อใครกล่าวถึงว่าเขาเป็นคนเย็นชารีบสลัดความคิดนั้นออกไปในทันที ย้ำตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งผู้ให้คำปรึกษาอย่างแท้จริง แต่จู่ๆ กลับมีอีกเรื่องผุดขึ้นมาในสมองทั้งยังเป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความมั่นคงของกลุ่มเวนโตล่า!
ไวเท่าความคิดดิโน่ก็หมุนตัวกลับ เดินไปยังห้องนอนของลูกชายอีกครั้ง “นีล ฉันคิดว่า...”
“อ๊า...” ครางออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพราะคนเป็นพ่อไม่ยอมเลิกรา “ไม่ว่าจะคิดเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน จะตีสองแล้วนะ ไม่นอนตอนนี้เดี๋ยวก็อยู่ไม่ถึงอีกสามสิบปีหรอก”
“เออ! ก็ถ้าแกเลิกนิสัยปากไวแล้วฟังฉันพูดให้จบบ้าง ป่านนี้คงได้พักผ่อนแล้ว” ตอบออกไปตรงๆ ทั้งยังอยากย้อนวัยไปอีกสักหลายสิบปีจะท้าดวลกับลูกชายให้รู้แพ้รู้ชนะกันไปข้างหนึ่ง
ดูหน้ามันตอนนี้สิ! เบื่อหน่าย รำคาญใจที่จะพูดกับตนเสียเต็มประดา
“เอ้า... มีอะไรก็บัญชามา” ยืดตัวลุกขึ้นเต็มความสูงยืนกางขากว้างแล้วกอดอก ตั้งใจฟัง เพียงเท่านั้นสีหน้าของผู้เป็นพ่อก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน จากที่เคยหน้านิ่วคิ้วขมวดกลับยิ้มแย้มดูอารมณ์ดียิ่งนัก ปฏิกิริยาดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้คอนเนลิโอไม่น้อย
“แกว่า... นังหนูคนนั้นเป็นยังไง ใช้ได้ไหม” ดิโน่ถาม
“คนไหน?”
“เทพีนำโชค วันนี้ไง”
คอนเนลิโอหรี่ตาแคบมองพ่อด้วยสายตาประเมินความสามารถ “ไหวเหรอ เป็นข่าวหัวใจวายคาอกอีหนูนี่ไม่สนุกนะ”
“ฉันไม่ใช่ไอ้แก่ตัณหากลับ ไอ้ลูกเลว” พูดได้เต็มปากว่าความน้อยเนื้อต่ำใจจะหมดสิ้นไปทุกครั้งที่ลูกชายเริ่มกวนโมโห “ฉันหมายถึงแก สนใจไหม”
คอนเนลิโอส่ายหน้าดิก “เด็กไป อะไรๆ จะโตเต็มที่รึยังก็ไม่รู้”
อันที่จริงแล้วเขาไม่ทันได้มองเทพีนำโชคของพ่อได้ถนัดตาสักเท่าไหร่นัก ในเวลาที่อารมณ์ไม่เป็นปกติ ต้องกวาดสายตามองรอบๆ ด้วยความระแวดระวังทั้งการร่ำลาของทั้งคู่ยังสร้างความรำคาญใจให้เขาไม่น้อย ไม่มีทางที่จะเพ่งพิศใบหน้าของผู้หญิงสักคนด้วยจิตพิศวาสเป็นแน่
“สวยนะ ที่สำคัญเซนส์ของฉันบอกว่าผู้หญิงคนนี้จะนำโชคมาให้เรา”
ไม่เพียงแค่เชื่อถือในโชคชะตา แต่คอนเนลิโอยังรู้ว่าพ่อของตนนั้นเชื่อในเซนส์ที่เกิดขึ้นอย่างแรงกล้า “พ่อเพิ่งประณามการกระทำของโลล่าไปไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ”
“ฉันไม่ได้หาเมียให้แกสักหน่อย”
“อาฮะ... เรื่องนี้เรามีความคิดตรงกันแล้ว” คอนเนลิโอพยักหน้ารับ
“แต่ถ้าแกมีลูกเยอะๆ นั่นจะทำให้กลุ่มเวนโตล่าของเรามีเสถียรภาพ มั่นคงมากขึ้น” ดิโน่ให้เหตุผล แม้ลึกๆ ในใจแล้วนั่นจะเป็นเหตุผลรอง หากการตอบโต้น้องสะใภ้ตัวแสบต่างหากคือเหตุผลหลักที่เพิ่งคิดได้เมื่อครู่
“หมายความว่าพ่อจะให้ผมทำลูกออกมาเยอะๆ แบบ...” ปั้นหน้างงทั้งยังหมุนนิ้วชี้เป็นวงกลมราวกับเรียบเรียงคำพูด “มีลูกสิบคนก็เกิดจากผู้หญิงสิบคนงั้นเหรอ”
“จุ... จุ... จุ... ถ้าคนไหนที่แกเกิดติดใจมากๆ จะมีลูกกับหล่อนมากกว่าหนึ่งคนมันก็ไม่ผิดกติกาหรอก”
คอนเนลิโอแทบจะสำลักคำพูดของผู้เป็นพ่อ “แหม... อยากเห็นหน้าเทพีนำโชคจริงๆ ถ้าหล่อนมาได้ยินพ่อพูดถึงแบบนี้ ยังจะอยากเป็นเทพีนำโชคของพ่ออยู่อีกไหม”
แม้จะเข้าใจในคำประชดประชันของลูกชายแต่ต้องตอบออกไปอีกอย่าง เพราะมันหมายถึงความท้าทาย “หรือแกห่วยเรื่องบนเตียง ถึงได้กลัวว่าเทพีนำโชคของฉันจะขยาด”
“โอย... ที่ทำเป็นโยกโย้อยู่นี่ก็เพราะรู้ว่าพวกหล่อนต้องติดใจ ว่างนิดว่างหน่อยเป็นต้องอ้อนให้ทำลูกตลอด อย่างนั้นแล้วจะมีเวลาที่ไหนมาดูแลกลุ่มเวนโตล่า” ไม่เพียงแค่คำพูดแต่รวมไปถึงสีหน้า แววตากำลังโอ่ตัวอย่างถึงที่สุด
“ฮึ! ไอ้ขี้โม้” ด่ากลับตรงๆ อย่างทันควัน “ถ้ามีน้ำยาจริง อีหนูทั้งหลายของแกคงจะมีสักคนร้องห่มร้องไห้มาขอค่าเลี้ยงดูจากฉันแล้วล่ะ นี่อะไร เงียบฉี่”
“เดี๋ยวนี้วิวัฒนาการของคอนดอมมันล้ำเลิศ” มันคือเรื่องจริงที่เขาไม่เคยหลงลืมตัวเองเลยสักครั้ง แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาวิจารณ์ตรงๆ ยังดีที่คนเป็นพ่อพูดเลยแค่เคือง แต่ถ้าเป็นคนอื่นพูดคงได้ลองลับคมคัตเตอร์ตัดซิการ์กับปลายลิ้นมันดูแล้ว
“ห่วยก็ยอมรับมาเถอะ ฉันนี่พ่อแก ต่อให้แกเลวร้ายแค่ไหนก็ยอมรับได้เสมอ” ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้โจมตีลูกชายเช่นนี้ เมื่อสบโอกาสจึงต้องตอกย้ำซ้ำๆ
“เอาเลย เอาตามที่พ่อมีความสุขนั่นแหละ ยังไงเสียผมก็ไม่ก้าวพลาดเพราะหลุมพรางตื้นๆ แค่นี้หรอก” คอนเนลิโอบอกพลางเดินไปทรุดตัวนั่งลงบนปลายเตียง “ความจริงแล้วเวลาทะเลาะกับพ่อนี่ก็สนุกดีนะ บางทีถ้าเจอผู้หญิงที่ฉลาดเท่าผมหรือพ่อแล้วค่อยมาว่ากัน”
“ก็เทพีนำโชคนี่แหละ คุยด้วยแล้วรู้สึกว่าต้องวิ่งตาม ลูกล่อลูกชนเยอะเชียวละ” ดิโน่บอกตามความจริงทุกประการ
“จริงเหรอ พ่อเจอหล่อนไม่นานนี่” ถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“เออ! เพราะเจอแป๊บเดียวนี่แหละถึงได้รู้ว่าไม่ใช่แค่จะนำโชคดีมาให้แต่ที่สำคัญมีกึ๋นด้วย” ดิโน่บอกและยิ้มพรายในใจเมื่อเห็นดวงตาคู่คมของลูกชายเกิดประกายบางอย่างขึ้นมาแวบหนึ่ง พลางคิดในใจว่าถึงแม้ไม่สำเร็จในทันทีแต่เพียงแค่รู้ว่าลูกชายเกิดความสนใจขึ้นมาก็ถือว่าประสบผลสำเร็จมากแล้ว “ก็... แล้วแต่แกนะ ลองๆ คุยดูก็ไม่เสียหายอะไร เบอร์โทรหล่อนก็มีแล้วนี่”
เตือนมันสักหน่อยเผื่อจะลืมว่าเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมานี้ ตนยืมโทรศัพท์มือถือของเทพีนำโชคติดต่อเข้ามา
มาเฟียหนุ่มมองตามร่างของผู้เป็นพ่อที่เดินออกไปจากห้องนอนในขณะที่สมองยังประมวลผลในคำพูดเมื่อครู่ ‘เบอร์โทรหล่อนก็มีแล้วนี่’
ถึงแม้ว่าความฉลาดปราดเปรื่อง รู้ทันเกมทันความคิดคนอื่นนั้นจะถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่การที่เขาต้องจัดการกับหลายเรื่องของกลุ่มเวนโตล่ามาทั้งวันก็ทำให้หลงลืมเรื่องเล็กน้อยบางอย่างไปบ้าง ร่างสูงใหญ่จึงขยับตัวลุกขึ้นจากปลายเตียงเดินเข้าไปในห้องน้ำ
แล้วจะไปได้เบอร์โทรศัพท์หล่อนมาตั้งแต่ตอนไหนวะ? คอนเนลิโอคิดในใจเพียงเท่านั้นแล้วอุณหภูมิน้ำที่กำลังพอดีก็ดึงเขาให้อยู่ในโลกส่วนตัวของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ