เลห์โรงเรียนต้องคำสาป [ Lleh to hell]

7.8

เขียนโดย soploy

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.00 น.

  2 ตอน
  4 วิจารณ์
  3,567 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2559 15.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ภารโรงลึกลับ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          
          เสียงหมู่มวลแมลงราตรีดังขึ้นในประสาทหู พวกมันมีไม่ต่ำกว่า10 หรือ 20 ชนิดแน่ๆ ช่างสิใครสนล่ะ ฉันมองไปรอบๆ ในตอนนี้ถ้าให้บอกเวลาคงยากฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ ครั้งสุดท้ายที่ฉันจำได้คือฉันปิดไฟในห้องเพื่อที่จะนอน แม้พื้นที่โดยรอบจะไม่มีแสงไฟแต่ด้วยคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงแสงจากพระจันทร์ก็สาดส่องทะลุจากการปกคลุมของต้นไม้ใหญ่มาให้พอได้เห็นบ้างว่าอะไรเป็นอะไร ฉันจำได้ว่านี่เป็นครั้งที่ 7 แล้วตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่เลห์ (Lleh) ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องมีแอล 2 ตัว แต่การออกเสียงทุกคนเรียกที่นี่ว่าเลห์ ฉันเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง ครั้งแรกที่ละเมอมาที่นี่ฉันตกใจมากถึงขั้นวิ่งเสียสติไปแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง แต่ก็แปลกที่สุดท้ายแล้วฉันกลับวิ่งไปถึงหอพักและกลับเข้าไปโดยที่รูมเมทฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันออกมา หรือแม้กระทั่งยามหน้าหอและครูผู้คุมหอ อย่าเพิ่งสนใจเรื่องพวกนั้นเลย มาสนใจที่นี่ดีกว่า ในที่สุดฉันก็เดินตรงมาตามทางเดินเท้าที่หญ้าราบเตียนชัดเจนจนมาถึงกระท่อมกลางป่าถ้าให้อธิบายตามที่เห็นจากตรงที่ยืนอยู่ห่างออกไปราวๆ 300-500 เมตร ตัวกระท่อมอยู่ตรงกลางลานกว้างมีเพียงต้นไม้ต้นเดียวที่งอกงามสูงเด่นอยู่ข้างๆ กระท่อมหน้ากระท่อมมีตะเกียงที่ถูกจุดแขวนไว้ 2 ดวงตรงหน้าทางเข้าฉันเห็นทุกอย่างชัดเจนเพราะตรงนั้นเป็นจุดที่แสงจันทร์ตกเต็มที่ ฉันก้าวเท้าเดินเข้าไปเรื่อยๆ ทุกอย่างดูดึงดูดน่าสนใจไปหมดฉันก้าวเร็วขึ้นจนกระทั่งถึงหน้าประตู
“กลับดีกว่ามั้ย” ฉันชั่งใจกับตัวเอง เพราะคิดว่าจากตรงนี้ไปที่หอมันไกลเกินไปแล้ว อีกอย่างเรื่องที่รูมเมทฉันเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องแปลกๆ เกี่ยวกับเด็กในโรงเรียนหายตัวไปในป่าบ่อยๆ อีกกระท่อมนี้มาตั้งอยู่ตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปกติสักเท่าไหร่ แล้วที่สำคัญที่สุด มันไม่เกี่ยวกับฉัน.... ฉันถอยออกมาพร้อมทั้งหันหลังหวังจะกลับไปที่หอพักแต่
“มีแขกเหรอ....เข้ามาก่อนสิ” ใช่ฉันหยุดชะงักการเคลื่อนไหวก่อนจะรีบหมุนตัวกลับไปหาปลายเสียงเป็นคุณตาแก่ๆ (เดาว่าเป็นผู้ชายนะจากเสียง) ฉันมองเห็นหน้าท่านไม่ชัดสักเท่าไหร่ด้วยแสงจากดวงจันทร์ที่ไม่ได้สว่างเท่ากับแสงไฟ แล้วคุณตาท่านก็ไว้ผมยาวรุงรังไปหมด
“ไม่ดีกว่าค่ะ มันดึกมากแล้ว” แต่แล้วความคิดบางอย่างกลับแทรกเข้ามาในหัวฉัน ถ้าคนๆ นี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กๆ ใน โรงเรียนหายไปละ ฉันกำลังเป็นเหยื่อรายต่อไปงั้นเหรอ
“เด็กใหม่ใช่มั้ย” คุณตาค่อยๆ ขยับเดินออกมาช้าๆ ในมือถืออะไรสักอย่างเป็นดวงกลมๆ มีแสงสีเขียว
“อย่าเข้ามานะ” ฉันคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ตัวฉันที่ค่อยๆ ถอยหนี แต่ตัวคุณตากลับค่อยๆ ขยับเข้ามา
“ไม่ต้องกลัวฉันหรอก แก่ขนาดนี้แล้วเรี่ยวแรงจะเดินก็ยังไม่ค่อยมีจะไปทำร้ายเธอได้ยังไงกันแค่จะเดินไปส่งเท่านั้นเอง” คุณตาหยุดขยับเข้ามาพร้อมทั้งยิ้มให้ฉันด้วยความจริงใจแต่ฉันกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
“ไปเถอะถ้ายามหรือครูคุมหอรู้หนูคงแย่แน่”
“คุณตารู้ด้วยเหรอคะ”
“ฉันเป็นภารโรงอยู่ที่เลห์น่ะ”
“แล้ว...” ฉันไม่กล้าต่อรองว่าคุณตาอย่าไปบอกใครเรื่องนี้ได้หรือป่าว
“ฉันไม่ใช่คนปากโป้งหรอก ไปกันเถอะ” คุณตาภารโรงเดินเลยฉันไปเพื่อที่จะเดินนำหน้า
“แล้วทำไมคุณตาถึงมาอยู่ไกลขนาดนี้ล่ะคะ”
“ไกลเรอะ”
“ไกลค่ะ จริงๆ บ้านพกภารโรงก็มีไม่ใช่เหรอคะ” ฉันยังคงเดินตามไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ อีกใจก็คิดว่าถ้าหลอกไปฆ่าทิ้งล่ะจะทำยังไง ฉันมองไปรอบๆ ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง จนกระทั่งไปสะดุดตากับเงาอะไรสักอย่างบนต้นไม้
“เอ่อ...คุณตาคะ...”
“อย่าพูดถึงมันเชียวนะ รีบๆ เดินตามฉันมาเถอะช้ากว่านี้อาจจะสยองกว่าที่เธอคิดไว้ก็ได้” เหมือนกับว่าท่านรู้ว่าฉันจะพูดอะไรอย่างนั้นแหละ แต่ฉันก็ทำตามที่คุณตาบอกรีบเดินจ้ำไปจนจี้หลังคุณตา แต่แปลกแฮะรู้สึกเหมือนคุณตาท่านเดินเร็วขึ้นหรือป่าวนะ
“แล้วทำไมคุณตายังไม่นอนอีกล่ะคะ ดึกขนาดนี้แล้ว”
“แล้วเธอล่ะดึกขนาดนี้ออกมาจากที่พักทำไม” ฉันไม่ได้คำตอบแต่กลับได้คำถามมาแทน จะบอกยังไงดีล่ะ
“น่าจะละเมอ...ค่ะ”
“งั้นเหรอ” คุณตาจู่ๆ ก็หยุดเดินทำเอาฉันเกือบจะชนเข้าแล้ว
“หยุดทำไมคะ”
“เธอละเมอมานานแค่ไหนแล้ว” ทำไมถึงถามเหมือนกับว่ารู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก
“เอ่อ...จะ..7ค่ะ” คุณตาหยุดนิ่งไม่พูดอะไรราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะแหวนหน้ามองไปบนฟ้า
“คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงสินะ”
“ค่ะ มีอะไรหรือป่าว” คุณตาคล้ายๆ ว่าเอามือล้วงไปในกระเป๋าเสื้อคลุมเพื่อจะหยิบอะไรบางอย่าง
“รับนี่ไปสิ” มันน่าจะเป็นสร้อยนะมองเห็นไม่ชัดสักเท่าไหร่มีอะไรสักอย่างกลมๆ น่าจะเป็นจี้สีเขียวๆ เหมือนกับไอ้ที่คุณตาถือมาตอนแรก แล้วตอนนี้มันหายไปไหน
“มันจะช่วยให้เธอไม่ละเมออีก” ฉันรับมันมาอย่างงงๆ
“ใส่ไว้เหรอคะ”
“ใช่เอาคล้องคอไว้มันจะทำให้สิ่งชั่วร้ายทำร้ายเธอไม่ได้”
“ขอบคุณนะคะ”
“99 บาท” อะไรนะ !!!! นี่หลอกขายกันชัดๆ เลย
“เอ่อ...คือว่า”
“พรุ่งนี้ตอนพักเที่ยงเอาเงินไปให้ฉันที่แปลงผักหลังโรงเรียนตกลงตามนี้นะ เดินตรงไปก็ถึงแล้วฉันกลับก่อนล่ะ ปวดหลังอยากจะนอน” อ้าวไม่ส่งให้ถึงซะด้วย
“ขอบคุณนะคะ” ฉันหันไปขอบคุณคุณตาภารโรงก่อนจะหันหน้ามุ่งไปยังหอพักเอ๊ะ เมื่อกี้คุณตาบอกว่าเท่าไหร่นะ
“คุณ...ตา...”
 
“.....” คุณตาหายไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ความเงียบและความว่างเปล่า ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้นหลับหูหลับตาวิ่งไม่คิดชีวิตอย่างที่เคยๆ ทำจนกระทั่งถึงห้อง ให้ตายสิหายแวบไปแบบนั้นพรุ่งนี้ฉันจะกล้าไปเจอได้ยังไงกัน...
 ฝากติดตามด้วยนะคะ ฝากวิจารณ์ด้วยค่ะ นักเขียนมือใหม่ค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา