นางพญาไร้ใจ

7.9

เขียนโดย nightshadow

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.

  37 ตอน
  1 วิจารณ์
  35.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

35) เบี้ยงหลังจุดประสงค์ที่ต้องการ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ไป๋เฟิงหมดอาลัยตายอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ  เมื่อมองไปยังชายหนุ่มที่นางปักใจมาตั้งแต่เด็ก  แม้กระทั่งในยามนี้แววตาที่เขามองมาที่นาง  ก็มีเพียงความเฉยชาว่างเปล่า  หากไม่เห็นท่าทีที่แตกต่าง ที่เขามีต่อองค์หญิงหลี่เหวินศัตรูหัวใจของนางแล้วล่ะก็  นางคงคิดว่าเขาผู้นี้ไร้หัวใจ  เพราะไม่ว่านางจะเอาใจเขา  หรือคั่งแค้นต่อเขา  ก็มีแต่เพียงนางเท่านั้นที่ต้องดิ้นรนอย่างสุดตัว  กระนั้นก็ไม่สามารถจะทำให้เขาสนใจหรือเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อนาง ไม่ว่านางจะอยู่ในสถานะใด  นางรู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องของสถานะ เพราะไม่ว่านางจะเป็นข้ารับใช้ เป็นคุณหนู หรือสนมเอก  นางก็ยังคงไร้ค่าในสายตาของเขาอยู่ดี น่าแปลกที่มาถึงตอนนี้ภาพความทรงจำ      ของตัวตนในอดีตชาติของนางปรากฎเข้ามาในหัว    ความทรงจำที่เคยหายไปย้อนกลับมา  ในเวลานี้ที่นางรู้สึกแค้นเคืองไม่ใช่จินหย่งอีกแล้ว  แต่ผู้ที่นางรู้สึกแค้นเคืองก็คือ   เจ้านรกต่างหาก ที่ลิขิตให้นางต้องมามีใจรักให้ชายผู้นี้  เพราะมันได้สร้างแต่ความเจ็บปวด และทุกข์ทรมานให้กับนางมาตลอด         และต่อให้ชาติกำเนิดของนางจะไม่มีอะไร        ผิดพลาด  และนางจะเกิดมาเป็นองค์หญิงก็ตาม มันก็คงไม่ต่างกับที่เป็นอยู่ในตอนนี้  เพราะในเมื่อความรักที่นางมีต่อเขามันไม่เคยมีค่าและความหมายในสายตาเขา  ต่อให้นางจะเป็นใคร  ก็ไม่อาจได้หัวใจของเขามาครอง  นางได้แต่สงสัยเหลือเกินว่า  อะไรทำให้นางหลงผิด  ทำอะไรมากมาย เพียงเพื่อให้ชายที่ไม่ได้มีหัวใจเพื่อนางสนใจ  ไม่สนว่าใครจะเป็นจะตายหรือเดือดร้อนอย่างไร  แต่ที่สุดกลับพบว่ามันช่างสูญเปล่า  นางเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องความรักมานักแล้ว หากวิญญาณของนางไปยังปรโลกอีก  สิ่งเดียวที่นางจะร้องขอไม่ว่าจะให้นางไปเกิดอยู่ในสถานะใด  สูงศักดิ์หรือต้อยต่ำนางอยากขอเพียงให้หัวใจของนาง ไร้รักต่อชายใดอีก     ขอเพียงเท่านี้ไม่ว่าจะให้นางเกิดเป็นใคร ภพภูมิไหนนางก็จะไม่เรียกร้องอะไรอีกเลย  ไป๋เฟิงถูกทหารลากตัวไป         โดยไม่ขัดขืนดิ้นรน   ฮ่องเต้คว้านจื่อ  หันมาเอ่ยคำขอบคุณแม่ทัพหนุ่มพร้อมเอ่ยขอโทษอย่างเห็นใจและไม่คิดระแวงอีก
"ข้าต้องขอขอบใจแม่ทัพจิน  ที่ทำให้ข้าตาสว่างได้เห็นธาตุแท้ของนางอสรพิษ  และต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจท่านผิดไปเอาเป็นว่า  เพื่อเป็นการไถ่โทษข้าจะปูนบำเหน็ดให้ท่านและมอบค่าปลอบขวัญให้คนในตระกูลจินและตระกูลเหอ ที่ทำให้ต้องตกอกตกใจกันนะ  ว่าแต่ข้าได้ยินพระนามขององค์หญิงหลี่เหวินมานานหลายปีแล้ว  ความจริงก็รู้สึกชื่นชมในสติปัญญาความสามารถตั้งแต่ยังเยาว์วัยของนางอยู่  หาได้ยากที่จะมีสตรีที่มีใจต่อสาธารณะ  ห่วงใยทุกข์สุขของราษฎรจนยอมเสี่ยงที่จะต้องโทษ  ช่างน่าเห็นใจนักที่ต้องไปลำบาก อยู่ต่างแคว้นเป็นสิบปี    ข้าจะมีราชองค์การเรียกตัว        องค์หญิงหลี่เหวินกลับมายังแคว้นฉี พร้อมคืนสถานะให้ตามเดิมก็แล้วกันนะ  เอาล่ะท่านถอดชุดนักโทษและเปลี่ยนชุดตามเดิมได้   นี่ก็ดึกมากแล้วข้าอนุญาติให้ท่านพักผ่อนอยู่ในห้องนี้ก่อนก็แล้วกันแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ  หมดเรื่องแล้วข้าไปก่อน ท่านพักผ่อนตามสบาย"       "ทรงพระปรีชายิ่งแล้ว   พะยะค่ะฝ่าบาท"   เมื่อฮ่องเต้คว้านจื่อเสด็จกลับออกจากตำหนักไปแล้ว       จินหย่งมีรอยยิ้มสมใจปรากฎอยู่ที่มุมปาก  เขาคงต้องขอบใจความแค้นของไป๋เฟิงที่มีต่อเขา  เพราะมันทำให้เขาได้ประโยชน์หลายต่อเลยทีเดียว  ตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนที่คนในตระกูลของเขา  ได้มา บอกว่าลงมือมอบบทลงทัณฑ์อันสาสมให้กับข้ารับใช้นางนั้น  และนางก็ได้หนีหายออกจากบ้านไป  เขาไม่คิดประมาทในเรื่องเล็กน้อยหรอกโดยเฉพาะ    ไป๋เฟิงเด็กหญิงที่มักสร้างปัญหา                  ให้เขากับองค์หญิงได้เสมอ  เขาได้คาดเดาความรู้สึกและอุปนิสัยของเด็กหญิงข้ารับใช้อย่างไป๋เฟิง  และให้คนสืบจนได้รู้ว่าไม่ผิดไปจากที่คาดไว้  ความคิดของนางมักตื้นเขินและคาดเดาได้ง่าย  ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกริษยา ความรักอันน่ามืดตามัว และความแค้น  นางก็จะทำมันออกมาด้วยสติปัญญาอันโง่งมและคาดเดาได้ง่ายเสมอ  นางพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สามารถเข้าไปทำงานในวัง  และได้เป็นสนมเอก  นางคงคิดล่ะสินะ  ว่าการที่นางรอดพ้น จากสงครามวังหลังมาได้ด้วยตัวนางเอง  ด้วยสติปัญญาความสามารถอย่างนาง อยู่ได้ไม่ทันถึงเดือนก็โดนให้ร้ายจนตายแล้ว  เขาเองต่างหากที่เป็นคนคอยช่วยให้นางได้ขึ้นเป็นสนมเอกสมใจ เพื่อหลอกใช้ความแค้นที่นางมีต่อเขาให้เป็นประโยชน์  เขารู้ว่านางคิดหวังสิ่งใด  และเพื่อให้นางคิดว่านางได้ตำแหน่งสนมเอกคนโปรดมาด้วยตัวของนางเอง  เขาก็ปล่อยให้นางถูกข่มเหงรังแกจนสะบักสะบอมแทบเอาตัวไม่รอด และพอเห็นว่าจะไม่รอดจริงๆ  ก็ให้คนของเขาที่แฝงตัวในวังคอยให้ความช่วยเหลืออย่างลับๆ  จนทำให้นางขึ้นเป็นสนมสมใจ    ในสิบปีมานี้สารติดต่อ ระหว่างเขากับองค์หญิงส่งข่าวและวางแผนร่วมกันมาโดยตลอด  องค์หญิงอยากให้เขาทำทุกอย่างเพื่อการขึ้นเป็นแม่ทัพ  แต่ก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าตระกูลของเขาเป็นทหารรับใช้ราชวงศ์เก่ามานาน อาจเป็นที่หวาดระแวง  เพราะเรื่องความสามารถฮ่องเต้คว้านจื่อไม่เคยติดใจ  แต่ยิ่งเขามีสติปัญญาความสามารถเท่าไหร่  ก็ยิ่งเป็นที่ไม่ไว้วางใจมากขึ้นเท่านั้น  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ไป๋เฟิงเป็นเครื่องมือ  และแผนทุกอย่างก็สำริดผลในคราวนี้  เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้  นอกจากจะทำให้ฮ่องเต้คว้านจื่อคลายความหวาดระแวงในความภักดีของเขาได้แล้ว  ยังทำให้ฮ่องเต้คว้านจื่อสนพระทัย ในตัวองค์หญิงหลี่เหวินขึ้นมา ความจริงแล้วก็อย่างที่องค์หญิงคาดการณ์ไว้ ฮ่องเต้คว้านจื่อ สนพระทัยซักถามเรื่องราว เกี่ยวกับองค์หญิงมาโดยตลอด และอยากที่จะเห็นพระพักตรและพบตัวจริงมานานแล้ว แต่ขุนนางในราชสำนักที่เป็นคนของฮ่องเต้คว้านจื่อ ได้ทูลทักท้วง จนฮ่องเต้คว้านจื่อไม่กล้าเรียกตัวกลับมาเพราะฐานอำนาจยังไม่มั่นคง  แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ความต้องการเดิมย้อนกลับมา  เพราะเวลาก็ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว และการเมืองในราชสำนักก็สงบนิ่งมานาน  และเมื่อได้ฟังบทสนทนาที่เขาจงใจพูดโต้ตอบถึงวีรกรรมสติปัญญาความสามารถ รวมถึงแรงริษยาที่ไป๋เฟิงมีต่อองค์หญิง ก็ยิ่งทำให้ฮ่องเต้สนพระทัยมากขึ้น  และการในครั้งนี้ก็ยังทำให้สามารถกำจัดไป๋เฟิงให้สิ้นไปในคราวเดียวด้วย  เพราะขืนให้นางยังอยู่ต่อไป      นางอาจกลายเป็นปัญหาต่องานใหญ่ของเขากับองค์หญิงได้ ดังนั้นเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม      ต้องกำจัดตัวปัญหาไปซะก่อน
'ใกล้แล้วสินะพะยะค่ะ องค์หญิงของกระหม่อม ที่กระหม่อมจะได้พบกับพระองค์อีก  สิบปีมานี้แม้จะติดต่อกันผ่านสารที่ถูกส่งมาอยู่ตลอด  แต่ก็ไม่อาจทดแทนการได้พบปะกับองค์เองจริงๆได้  วันเวลาอันแสนทรมานใกล้สิ้นสุดลงแล้ว กระหม่อมเติบโตเป็นแม่ทัพที่กุมกำลังทหาร    และได้ซ่องสุมหน่วยกองกำลังพิเศษ  ที่เป็นเหล่าอดีตเด็กกำพร้าผู้มีสติปัญญาเป็นอัจฉริยะที่องค์หญิงส่งมารอไว้อยู่ก่อนแล้ว เหลือแต่แผนการขั้นสุดท้ายสู่พระราชอำนาจเท่านั้น  สำหรับเขาสตรีที่คิดเพียงแต่ เรื่องความรักส่วนตัวกับบุรุษเพียงคนเดียว   อย่างไป๋เฟิง  ไม่อาจเทียบค่ากับสตรีผู้มีใจต่อเป้าหมายและอุดมการณ์ของตัวเองเพื่อบ้านเมืองและส่วนรวมได้  เขารักแผ่นดินนี้และรักองค์หญิงหลี่เหวินพระองค์นี้ยิ่งชีพ แล้วหญิงที่เห็นแก่ตัว  โง่งมและเนรคุณเยี่ยงนั้นน่ะหรือ จะคิดเพ้อฝันให้เขาสนใจได้  เขาและองค์หญิงล้วนเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นต่องานใหญ่ของตัวเอง ความไร้หัวใจและความเด็ดขาด  ซึ่งมันไม่เคยมีในตัวของไป๋เฟิง  ดังนั้นเรื่องของสถานะไม่เกี่ยว  ไม่ว่านรกหรือสวรรค์จะลิขิตไว้อย่างไร     เขาก็ไม่มีทางมีใจรักให้ไป๋เฟิงได้  และในตอนนี้ก็ไม่มีแม้แต่ความอาลัยอาวรณ์ในฐานะสหาย
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา