My Dessert !! รักนะนายขนมหวาน (Yaoi)

8.8

เขียนโดย sodazaaa

วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 03.00 น.

  15 ตอน
  15 วิจารณ์
  17.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) My Dessert 12

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

My   Dessert   12

 

            ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับความรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรมาทับพอลืมตาก็ สังเกตเห็นท่อนแขนแข็งแรงพาดอยู่ที่เอว แม่งเอ้ย !! กูก็ว่าอยู่ทำไมมันอึดอัด ผมค่อยๆยกแขนมันออกช้าๆเพื่อไม่ให้มันรู้สึก ที่ผมทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมกลัวมันหรอกนะจริงๆผมอยากจะถีบมันให้หงายด้วยซ้ำ แต่วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติเลยกะจะออกไปเดินเล่นซะหน่อย เดินแบบเดินคนเดียวโดยไม่มีใครคอยตามน่ะครับ

 

            หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็ออกมาเดินเล่นรับลมทะเลที่ชายหาดคนเดียว ฮ้าาาา !! ลมเย็นๆ แสงแดดอ่อนๆ เสียงคลื่น กลิ่นทะเลยามเช้านี่มันช่างสดชื่นจริงๆ ยิ่งได้มาเดินคนเดียวแบบนี้บอกได้เลยว่าฟินน แต่ถ้าจะให้ฟินกว่านี้ต้องมาเดินกับแฟนนะครับ ผมเดินทอดน่องมาตามชายหาดเรื่อยๆโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าเดินออกห่างจากบ้านมา ไกลแค่ไหนแล้ว ไม่ต้องห่วง ผมไม่หลงหรอกหน่าไม่ใช่เด็กๆนะครับที่ออกห่างจากบ้านแล้วจะกลับไม่ถูกน่ะ เดินอยู่อีกสักพักผมก็กลับบ้าน พอมาถึงหน้าบ้านผมก็ต้องตกใจที่เห็นไอ้พี่เดลมันวิ่งหน้าตื่นเข้ามา

 

            ฟึ่บบ

 

            “ อ๊ะ ” ผมร้องออกมเบาๆ เพราะตกใจที่อยู่ๆพี่เดลมันก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามากอดผม มันเป็นอะไรของมันอ่ะ “ พะ พี่เป็นอะไรมากอดผมทำไมเนี่ย ”

 

            “ ... ”

 

            “ พี่เดล เป็นอะไรรึป่าว ” ผมถามออกไป เพราะพี่เดลมันไม่พูดอะไรเลยเอาแต่กอดผมไว้นิ่งๆแบบนั้น ถ้าหูผมไม่ได้ฝาด ผมว่าผมได้ยินเสียงหัวใจพี่เดลเต้นโคตรแรงเลยล่ะ

 

            “ ... ”

 

            “ ... ”

 

            “ อย่าทำแบบนี้ อย่าทำแบบนี้อีก ” เสียงพี่เดลพูดออกมาเบาๆ เหมือนกระซิบให้ผมฟัง

 

            “ ทำอะไร ”

 

            “ อย่าหายไปไหนโดยที่ไม่บอก ”

 

            “ ผมแค่ไปเดินเล่นมาเองพี่ อย่าซีเรียสหน่า ” ผมบอกออกไปด้วยเสียงที่ติดตลก

 

            “ จะไม่ให้กูซีเรียสได้ไง ตื่นมาก็ไม่เห็นมึงอยู่ในห้องเดินหาทั่วบ้านก็ไม่มี โทรศัพท์ก็ไม่เอาไปกูจะติดต่อมึงได้มั้ย กูคิดว่ามึงจะหนีกูไป แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับมึงจะเป็นยังไง กูจะรู้สึกยังไง กูแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วที่มึงหายไปรู้บ้างมั้ย!! ” พี่มันพูดอย่างโมโหหลังจากปล่อยผม เสียงมันน่ะโมโหใส่อารมณ์เต็มที่ แต่แววตาของมันกลับไม่ใช่แบบนั้น มันเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความเป็นห่วงที่เห็นว่าผมหายไป

 

              ผมได้แต่ทำตาปริบๆ หน้าผมตอนนี้บอกได้เลยว่าเหวอมาก ตั้งแต่รู้จักกันมานี่ถือเป็นครั้งแรกได้มั้งที่พี่เดลมันพูดอะไรยาวๆแบบนี้ แล้วยังคำพูดของมันอีกที่ทำให้ผมตกใจ

 

              “ ผะ ผมขอโทษ ” ผมบอกออกไปอย่างรู้สึกผิด ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมต้องรู้สึกผิดแค่ออกไปเดินเล่นเอง คงเป็นเพราะคำพูดและแววตาของมันที่แสดงออกว่าเป็นห่วงผมมากล่ะมั้งที่ทำให้ ผมรู้สึกผิดขึ้นมา

 

              “ ช่างเถอะ ” พูดจบพี่มันก็หันหลังเดินเข้าบ้านไปเลย ปล่อยให้ผมยืนงงเป็นไก่อยู่ตรงนั้น พอผมเดินตามเขาไปในบ้านก็เห็นพี่เดลกำลังเก็บของ นี่อย่าบอกนะว่าจะกลับแล้วน่ะ

 

              “ จะกลับแล้วหรอพี่ ”

 

              “ อืม ”

 

              “ ไหนบอกจะมาสองวัน ”

 

              “ ทำไม มึงไม่ได้อยากมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่หรอ กูเป็นคนบังคับมึงมา จะกลับช้ากลับเร็วก็คงเหมือนกัน ”

 

              “ ... ” กริบเลยครับ ไปต่อไม่ถูก

 

 

              ระหว่างทางกลับ ในรถเต็มไปด้วยความเงียบและบรรยากาศน่าอึดอัด ทั้งผมทั้งพี่เดลไม่มีใครพูดอะไรเลยตลอดทางแม้แต่เสียงเพลงก็ไม่มีสักนิด อึดอัดโคตรรรรรร ผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้อ่ะ ถ้าเป็นปกติผมคงเอะอะโวยวายไปแล้ว แต่เวลานี้บอกตรงๆผมไม่กล้าจะว่าผมป๊อดก็ได้ ตั้งแต่พี่มันพูดกับผมก่อนกลับผมก็รับรู้ได้เลยว่าอารมณ์มันไม่โอเค ผมถึงได้นั่งเงียบมาตลอดทางจนจะถึงบ้านนี่ไง

 

             

              เอี๊ยดด

 

              พี่มันมาส่งผมที่บ้านถึงแม้ว่ามันจะโกรธผมอยู่(รึป่าว) แต่ผมก็ยังไม่ได้ลงจากรถทันทีหรอกนะ ผมนั่งทำใจอยู่แปปนึงก่อนจะเอ่ยถามพี่มันออกไป

 

              “ พี่โกรธผมหรอ ”

 

              “ เปล่า ”

 

              “ ก็เห็นอยู่ว่าพี่โกรธ ”

 

              “ สนใจด้วยหรอ ”

 

              “ ก็... เปล่าซะหน่อย ก็แค่สงสัยว่าพี่โกรธผมเรื่องอะไร แค่เรื่องที่ผมไปเดินเล่นเมื่อเช้าเนี่ยนะ? บ้าไปแล้วพี่ ”

 

              “ เอออ!! กูมันบ้า บ้าที่เป็นห่วงมึง บ้าที่กลัวว่ามึงจะเป็นอะไร บ้าที่วิ่งตามหามึงให้วุ่น หมดกูมันบ้าเอง!!! ”

 

              “ พี่เป็นอะไรวะ เอะอะก็มาตะคอกใส่ผม แค่ผมไปเดินเล่นแค่นี้มันเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้นเลยรึไง!! ” ไม่ไหวแล้วนะ ตะคอกใส่กูอยู่นั่นแหละแม่ง กูทำอะไรผิดนักหนาวะ ผมก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งเงียบให้ใครเค้าด่าอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ

 

              “ ... ”

 

              “ ยังไง ตอบมาดิ ทีอย่างนี้ทำไมไม่ตอบล่ะ เหอะ! อย่ามาทำเหมือนพี่เป็นห่วงอะไรผมนักหนาเลย ”

 

              “ ก็กูเป็นห่วงมึงไง ถ้าไม่ห่วงกูจะเป็นแบบนี้มั้ย!!! ”

 

              “ แล้วพี่จะมาเป็นห่วงอะไรผมนักหนาเล่า ผมโตแล้วนะไม่ใช่เด็ก 3 ขวบ ออกไปไหนมาไหนแค่นี้มันไม่ตายหรอก!!! ” มีคนเป็นห่วงผมก็รู้สึกดีนะ แต่อย่ามาทำเหมือนผมเป็นเด็กจะได้มั้ย จะออกไปไหนมาไหนคนเดียวมั่งไม่ได้เลยรึไง ผมโตแล้วนะ

 

              “ ... ”

 

              “ ... ” ผมกับพี่เดลต่างนั่งเงียบไม่มีใครพูดอะไร ผมตัดสินใจลงจากรถเข้าบ้านไปโดยไม่กล่าวขอบคุณและไม่หันหลังกลับมามองพี่มัน เลย คิดว่าตัวเองโมโหเป็นคนเดียวรึไง

 

 

 

              หลังจากที่ทะเลาะกันวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอพี่มันเลย ปกติตอนเช้ามันจะมานั่งรอส่งผมเข้าห้องเรียน พักเที่ยงก็มานั่งกินข้าวโต๊ะข้างๆ แต่ตั้งแต่วันนั้นมันก็หายไปมีแต่เพื่อนๆมันที่มานั่ง เฮอะ!! คิดว่าผมจะสนรึไงล่ะ จะไปไหน ทำอะไรก็ไปสิไม่เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว ผมไม่ชอบหรอกนะคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วมาใส่อารมณ์กับผมแบบนั้น ครอบครัวก็ไม่ใช่ เพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนยิ่งไม่ใช่ใหญ่ ก็แค่รุ่นพี่เท่านั้นแหละ

 

              “ มึงทะเลาะกับพี่เดลหรอวะ ” จูเนียร์ถามขณะที่เรานั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหารใต้ตึกคณะ

 

              “ เปล่าหนิ ”

 

              “ ถ้าไม่ได้ทะเลาะแล้วพี่เดลมันหายไปไหนอ่ะ ปกติกูเห็นมันต้องมานั่งส่งมึงตอนเช้า มานั่งกินข้าวด้วยตอนเที่ยง มาเจ๊าะแจ๊ะกับมึงนี่หว่า ”

 

              “ จะไปไหนก็ช่างมันสิ กูอิ่มแล้วนะ มึงอิ่มรึยังจะได้ขึ้นเรียน ”

 

              “ อะไรวะ รีบไปไหน ”

 

              “ กูร้อน ถ้ามึงยังไม่ขึ้นงั้นกูขึ้นก่อนนะ ” พูดเสร็จผมก็เอาจานข้าวไปเก็บทันที จูเนียร์เห็นอย่างนั้นเลยรีบยัดข้าวเข้าปากก่อนจะเอาจานไปเก็บแล้ววิ่งตามผม มา

 

              “ เฮ้ยย รอกูด้วยดิวะไอ้คุณมัฟฟิน ”

 

 

-------------------- 50% --------------------

 

 

              เลิกเรียน

 

              “ เฮ้ยมึง วันนี้ไปผับกัน ”  จูเนียร์พูดชวนผมในขณะที่เรากำลังเก็บของกลับบ้านกันอยู่

 

              “ อ่าาา วันนี้กูขี้เกียจว่ะ ”  ผมปฏิเสธออกไปเพราะรู้สึกขี้เกียจจริงๆ ถ้าเป็นปกติเวลาไอ้พวกนี้ชวนไปไหนผมไปหมดนะแต่ไม่รู้สิ วันนี้ผมแค่รู้สึกไม่อยากไปไหน ไม่อยากทำอะไร

 

              “ ไปเหอะหน่าา พวกไอ้พายุก็ไปนะเว้ย มันให้กูมาชวนมึงไปด้วยเนี่ย นานๆทีจะพวกมันจะว่างตรงกันนะแล้วอีกอย่างมึงจะได้หาอะไรคลายเครียดด้วยไงกู เห็นช่วงนี้มึงดูอารมณ์ไม่ค่อยดี  ”  ผมนิ่งคิดไปสักพัก ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้เจอกับพวกพายุเลยเพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน ไปหาอะไรดื่มแก้เซ็งหน่อยก็ดี

 

              “ เอางั้นก็ได้ กี่โมงอ่ะ ”

 

              “ มันนัดกัน 3 ทุ่ม ”

 

              “ งั้นมึงแวะรับกูด้วยแล้วกัน กูขี้เกียจขับรถไปเผื่อกูเมาจะได้ติดรถมึงกลับด้วย ”

 

              “ โหห ไอ้เวรนี่กะไม่ให้กูกินเลยมั้งเนี่ย ภาระกูอีก เออๆ 2ทุ่มครึ่งเดี๋ยวกูไปรับครับไอ้คุณมัฟฟิน ”

 

              “ ดีมากครับไอ้คุณจูเนียร์ งั้นกูกลับบ้านก่อนนะ 2ทุ่มครึ่งเจอกัน ”  ผมบอกลาจูเนียร์แล้วขับรถกลับบ้านเพื่อไปเตรียมตัว

 

 

              21:00 @CM Pub

              ผมกับจูเนียร์มาถึงที่หมายในเวลา 3 ทุ่มเป๊ะตามนัดไม่ขาดไม่เกิน ถามว่าเวลาไปเรียนเคยไปตรงเวลาอย่างนี้บ้างมั้ยตอบเลยว่าไม่ครับ 555 ก็นะ เวลาไปเรียนฟีลมันไม่เหมือนกับไปเที่ยวนี่ครับมันก็ต้องขี้เกียจกันบ้างเป็น ธรรมดาหรือพวกคุณไม่เป็น

 

              ผมเดินเข้าไปตรงโซนวีไอพีที่ชั้น 2 ระหว่างทางที่เดินไปก็มีแต่คนมองมาที่พวกผมทั้งหญิงทั้งชาย บางคนก็มองด้วยสายตาเคลิ้มฝันแต่บางคนนี่ก็มองด้วยสายตาโลมเลีย ผมล่ะเกลียดสายตาพวกนี้จริงๆ ถ้ามันมาจากผู้หญิงผมก็ไม่อะไรหรอกนะแต่นี่มันมาจากสายตาผู้ชายเนี่ยสิ เห็นหน้าผมหวานๆอย่างนี้แต่ผมก็ไม่ใช่เกย์นะเว้ย ผมยังชอบเสียบไม่ได้ชอบโดนเสียบ เห็นแล้วมันหงุดหงิดจริงๆ

 

              “ เอ้าๆ ไอ้มัฟฟินไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ หน้าหงิกมาเลย ”  ชีต้าร์ทักผมทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะ

 

              “ มันหงุดหงิดสายตาตัวผู้ทั้งหลายที่มองมันนั่นแหละ ”  จูเนียร์เป็นคนตอบแทน แล้วก็ได้รับเสียงหัวเราะจากเพื่อนรักทั้งหลาย ขอบคุณมากไอ้เพื่อนเวร

 

              “ อย่าซีเครียดเว้ย พวกนั้นก็แค่มองแหละหน่า เอาไปกูชงไว้ให้มึงโดยเฉพาะเลยนะเว้ย ”  ชีต้าร์ยื่นแก้วเหล้าที่มันชงมาให้ผม ผมรับมาแล้วหรี่ตามองมันอย่างจับผิดไว้ใจได้แค่ไหนวะแก้วนี้

 

              “ อะไร มองกูด้วยสายตาแบบนี้คือยังไง โหยแม่ง น้อยใจว่ะ กูรึอุตส่าหวังดีแต่เพื่อนกลับระแวงกูซะงั้น ”  มันแกล้งพูดเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วทำเป็นซบไหล่ไอ้พายุ ไอ้นั่นก็แค่มองมันนิ่งๆแต่ก็ไม่ได้ปัดออกแต่อย่างใด ยังไงวะคู่นี้ซัมติงจิงเกอเบลป้ะเนี่ย

 

              “ กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย อย่าดิ้นดิวะ ”  ผมพูดพลางยักคิ้วกวนตีนส่งไปให้ ไอ้ต้าร์ก็ได้แต่ทำเสียงฟึดฟัดแต่ผมก็ไม่สนใจหรอกไอ้นี่มันงอนจริงซะที่ไหน ล่ะ

 

              ผมนั่งกินไปเงียบๆ สายตาก็มองไปยังเหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลายที่พากันเต้นอย่างเมามันส์อยู่ ข้างล่าง แต่ก็ต้องหันกลับมาเพราะรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาที่ผม ผมมองไปรอบๆก็พบกับสายตาคู่หนึ่งที่มองผมมาจากโต๊ะอีกมุมของโซน เหอะ ! มองแบบนี้ต้องการอะไร หายไปตั้งนานไม่โผล่หัวมาแล้วอยู่ๆก็มานั่งจ้องแบบนี้ทำเหมือนผมผิดงั้นแหละ กูไม่ผิดป่ะวะคิดแล้วแม่งก็โมโห ผมเลยซัดเหล้าไป 3 แก้วติด

 

              “ เห้ยๆๆ ไอ้มัฟฟินเป็นไรวะ ค่อยๆแดกก็ได้ไม่มีใครแย่งมึงหรอก นี่เหล้านะเว้ยแม่งแดกเอาๆอย่างกับน้ำเปล่า ”  จูเนียร์ที่นั่งอยู่ข้างๆบอกพลางดึงแก้วออกจากมือผมทำให้เพื่อนในโต๊ะต่าง หันมามองด้วยความสงสัยว่าเป็นห่าอะไร

 

              “ ไม่มีอะไร เดี๋ยวกูมาไปห้องน้ำแปป ”  ผมบอกเพื่อนในโต๊ะก่อนจะลุกออกไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกจากเพื่อน

 

              ผมเดินลงมาจากชั้น 2  ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมไม่เข้าห้องน้ำที่ชั้นนั้นเลย  ก็ผมไม่ได้จะเข้าห้องน้ำซะหน่อย  ผมก็แค่อยากออกไปสูดอากาศให้อารมณ์เย็นลงเฉยๆ ระหว่างที่เดินออกไปก็มีผู้ชายคนนึงเดินมาขวางผมไว้และมองผมด้วยสายตากรุ้ม กริ่ม ชิบหายเอ้ยย คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ยังเสือกมายุ่งกับกูอีก

 

              “ สวัสดีครับ ชื่ออะไรอ่ะ ผมซันนะ ”  ไอ้หน้าเหียกนั่นทักผมพร้อมกับแนะนำตัว เอาจริงๆหน้าตามันก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรนะพอไปวัดไปวาได้แหละแต่มัน เป็นตัวผู้ไงถ้ามึงเป็นผู้หญิงกูก็คงจะเล่นด้วยอยู่หรอก  ผมไม่ตอบอะไรแล้วเดินเลี่ยงออกไปอีกทางแต่ไอ้สันหลังนั่นก็ยังไม่ลดละยัง เดินมาขวางพร้อมกับดึงแขนผมไว้

 

              “ ปล่อย ”  ผมมองมันด้วยสายตานิ่งๆ แขนก็พยามยามสะบัดออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย

 

              “ แค่อยากรู้จักเอง ไปดื่มด้วยกันสักแก้วสิ ”  ยังๆ ยังไม่หยุดสัสนี่ ดูหน้ากูด้วยว่ากูเล่นกับมึงมั้ย ผมสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมได้ก็ผลักมันออกไปไกลๆ

 

              “ เสือก!! ”

 

              “ อ้าวว คนสวย ผมอุตส่าพูดด้วยดีๆนะ  ”

 

              “ กูขอเหรอ ”

 

              “ สัสนี่ วอนแล้วมั้ยล่ะมึง ”  มันพูดเสร็จก็เงื้อหมัดขึ้นเหมือนจะต่อยผมที่ไปพูดจาหมาๆใส่ ผมก็ไม่ได้หลบนะต่อยมาผมก็ต่อยกลับอ่ะเอาดิ ผมก็ไม่ได้ง่อยนะแค่ปกติไม่ได้มีเรื่องอะไรเลยไม่ได้สู้คนอะไรมาก แต่ถ้าเรื่องมาหาผมก็พร้อมมีเสมอแหละยิ่งอารมณ์ผมตอนนี้บอกได้เลยว่าผมพร้อม มาก

 

              พรึ่บบ!!  ผัวะ!!

 

              ในขณะที่ไอ้ซันอะไรนั่นกำลังจะปล่อยหมัดใส่ผม ก็มีมือหนึ่งมาดึงมือมันไว้แล้วตามมาด้วยเสียงหมัดกระทบใบหน้าจนไอ้นั่นล้ม ลงไปกองกับพื้น

 

              “ คิดจะทำอะไร ”  เสียงเข้มๆถามไอ้ซันออกไปพร้อมกับสายตาเชือดเฉือน

 

              “ มึงเป็นใคร แล้วเสือกไรด้วยวะ ”  ถามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแล้วถลามาจะต่อยใบหน้าของอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายหลบได้แล้วปล่อยหมัดใส่อีกหมัดจนมันตัวงอลุกไม่ขึ้น

 

              “ อย่ายุ่งกับคนของกู ”  พูดจบก็ลากแขนผมเพื่อจะออกไปข้างนอกแต่ผมขืนตัวเอาไว้แล้วสะบัดแขนออก

 

              “ ไม่ต้องมาเสือก ”

 

              “ กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าให้พูดดีๆ ”

 

              “ แล้วกูพูดเลวตรงไหน ”  ว่าจบผมก็หันหลังเตรียมเดินกลับไปที่โต๊ะ ไม่ปงไม่ไปมันละแม่ง แต่พอผมจะเดินกลับตัวผมก็ลอยวืดขึ้นจากพื้นเพราะแรงกระชากจากคนตรงหน้าที่ กระชากผมไปแล้วยกพาดบ่าพาเดินออกไป ผมก็โวยวายไปตลอดทาง “ เรามีเรื่องต้องคุยกัน ”

 

              “ ปล่อยนะเว้ย!! กูไม่ไป!! ไม่มีอะไรจะคุยเว้ย!! บอกให้ปล่อยไง!! หูหนวกอ๋อ!! ปล่อยดิวะ!! ”  ผมโวยวายไปตลอดทางและก็มีสายตามองตามผมมาตลอดทางเช่นกัน

 

              “ ถ้ามึงยังไม่หยุดกูจูบมึงตรงนี้แน่ อย่าคิดว่ากูไม่กล้า อยากลองก็เอา ”

 

              “ ... ”  ผมปิดปากฉับทันที ไม่ได้กลัวนะเว้ยแค่เกรงใจ มันพาผมเดินออกแล้วจับผมยัดเข้ารถมันทันที พอมันจะเดินไปฝั่งคนขับผมก็เปิดประตูออกแต่มันก็วิ่งกลับมาดันผมเข้าไป เหมือนเดิมแล้วขู่ผมด้วยสายตานิ่งๆกับน้ำเสียงที่บ่งบอกว่ามันเอาจริงแน่

 

              “ ถ้ามึงก้าวลงมาแม้แต่ก้าวเดียว กูจัดการมึงตรงนี้แน่ ”  พูดจบมันก็ไปฝั่งคนขับแล้วสตาร์ทรถออกไปทันทีโดยไม่พูดอะไรซึ่งผมเองก็นั่ง เงียบเอาแต่มองไปข้างๆตลอดทาง ไม่อยากมองหน้าแม่ง

 

 

              ไอ้พี่เดลพาผมมาที่คอนโดนึงซึ่งก็คงเป็นคอนโดมันนั่นแหละ มันลากผมลงมาจากรถแล้วลากผมไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปที่ห้องมันทันที

 

              “ ปล่อย จะลากอีกนานมะ เดินเองได้ไม่ต้องให้ใครมาลาก ”  ผมพูดพร้อมสะบัดแขนออก แต่แม่งมือเหนียวชิบหายสะบัดยังไงก็ไม่หลุด จนเป็นผมเองที่เจ็บแขน

 

              “ เจ็บมั้ยล่ะ ถ้าเจ็บก็เลิกสะบัดซะ ”  มันพาผมมาถึงห้องก็เหวี่ยงผมไปที่โซฟาจนผมจุก

 

              “ ปล่อยดีๆไม่เป็นรึไง ”  ผมตั้งตัวได้ก็กลับมานั่งดีๆ พร้อมสำรวจแขนตัวเองไปด้วย สัสเอ้ยแดงหมดเลย

 

              “ เป็นห่าอะไร ”

________________________________________

 

  1. TBC.

 

สนุกไม่สนุกยังไงบอกได้น๊า

เรื่องนี้จะไม่ดราม่านะคะ เพราะโซเองก็ยังแต่งไม่เก่ง

เลยกลัวว่าถ้าดราม่าเดี๋ยวมันจะออกไม่ดี

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ขอคอมเม้นเป็นกำลังใจด้วยน๊า

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา