Valley of the Blue Moon

9.0

เขียนโดย Huntessell

วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 04.45 น.

  10 chapter
  14 วิจารณ์
  11.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 18.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) เรือนกระจก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ในตอนนี้ข้าหมดสิ้นข้อกังขาแล้ว ผู้อำนวยการบอกกับตนเองในใจยังคงเต้นรัวกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าไม่เคยคาดคิดว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่จนได้เห็นวันนี้ ภายใต้ม่านพลังสีน้ำเงินที่ขยายกว้างไปทั่วทั้งบริเวณสนามใจกลางม่านพลังนั้นเด็กสาวผู้สวมฮู้ดสีดำยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ใช่แล้วเธอแค่ยืนอยู่ตรงนั้นทำตามกติกาในการทดสอบไม่มีใครร่วงรู้ว่าเธอรู้ตัวหรือเปล่าแต่การขยายพลังเวทย์ได้ขนาดนั้นแม้แต่ผู้อำนวยการที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานยังเคยเห็นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นและแน่นอนว่าคนที่ทำแบบนี้ได้จะต้องไม่ใช่เด็กสาวอายุสิบแปดปีอย่างนี้แน่

แต่ที่เธอทำได้อาจเป็นเพราะพรสววรค์กระมัง..หรือไม่ก็มรดกทางสายเลือด

ความทรงจำของเขาหวนคืนไปเมื่อสองวันก่อนตอนที่แม็กนัสเข้ามาพบเขาที่ห้องแล้วบอกถึงความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่พวกเขาตามหามานานแสนนานในตอนนี้อาจจะมารวมกันอยู่ที่นี่แล้วก็เป็นได้.. แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาแม้ในตอนนี้เขาจะมั่นแล้วว่าเรื่องที่แม็กนัสพูดนั้นถูกต้อง แต่มันยังไม่ถึงเวลาพวกเขาต้องรอ

 

บรรยากาศทั่วทั้งสนามตกอยู่ในความเงียบไร้เสียงใดๆราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่กระชากห้วงเสียงของทุกคนไปหมดแล้ว เจซเผลอลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัวหลังจากที่ลูน่าหยุดการขยายม่านพลังเธอก็รบเดินหนีไปทันทีไม่รู้เพราะอะไรเจซพยายามจะเดินตามเธอไปแต่เวนดี้ดึงมือเขาไว้เสียก่อน 'เมื่อกี้มันบ้าอะไรกัน' เขาคิดในใจ ลูน่าทำแบบนั้นได้อย่างไรเชื่อว่าทุกคนคงมีคำถามนี้ลอยอยู่ในหัวเจซไม่ได้พูดอะไรอีกปล่อยให้เวลาในการทดสอบไหลผ่านไปเรื่อยๆ

 

 

หลังจากจบการทดสอบเจซและเพื่อนทั้งสี่ผ่านเกณฑ์การทดสอบมาได้อย่างสบายๆตามที่คาด

"แหมเมื่อกี้เล่นเอาตกใจหมดเลยนะ" บรู๊คเอ่ยก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะที่ทุกคนพากันเดินออกมาด้านนอก

"ตกใจงั้นหรอ น่าจะใช้คำว่าตกตึงเลยซะมากกว่า" แคลร์โรไลน์พูดเสริม

"พวกนายว่าเธอเป็นปีศาจหรือเปล่าถึงทำแบบนั้นได้?"

"พูดมากน่าโอดราก้าจะรับปีศาจเข้าเรียนทำไมกัน" เจซพูดทำท่าเงื้อมือจะทุบลงไปที่หัวของเพื่อนรักที่วิ่งไปหลบหลังอาซาทันที

"อ๋า อย่าทำฉันนะเจ้าปีศาจ"

"นายน่าจะไปหาหมอซะบ้างนะ คนอะไรร่าเริงได้ตลอดเวลาจริงๆ" เวนดี้พูดเสียงระอา

"ก็แหมฉันไม่อยากให้พวกนายเครียดนี่น่า ดูอย่างเจ้าพวกนั้นสิ" บรู๊คพูดแล้วชี้มือไปยังอีกฝากของทางเดิน หน่วยพยาบาลกำลังพาเหล่าผู้เข้าสอบที่ได้รับผลกระทบจากม่านพลังเมื่อครู่ออกไปด้านนอกเพราะหลายๆคนอาจจะทนต่อกระแสพลังขนาดนั้นไม่ได้จนมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับร่างกาย

"ฉันขอไปเดินเล่นหน่อยนะ ไว้เจอกันที่โรงแรม" เจซบอกพร้อมกับโบกมือให้ทุกคนแล้วรีบเดินออกมาโดยที่ไม่รอคำตอบได้ยินเสียงเหมือนเวนดี้กำลังจะตามมาแต่อาซาเรียกเอาไว้ เขาเดินลัดผ่านระเบียงทางเดินที่ติดกับสวนหย่อมเล็กๆจนมาเจอกับเรือนกระจกขนาดย่อมบริเวณนี้ไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไหร่นักบรรยากาศเงียบสงบบวกกับกลิ่นหอมของแมกไม้ที่ลอยโชยมาตามลมทำให้เจซรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง ในหัวของเขายังคงหมุนวนอยู่กับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นแต่ยิ่งคิดยิ่งมีแต่ทำให้เขาปวดหัวมากขึ้นเท่านั้น เจซถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในเรือนกระจกที่อยู่ใกล้ๆนั้นภายในเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดรวมไปถึงผลไม้ตระกูลเบอรี่ที่ชูลูกสุกปลั่งน่ากิน.."ไม่มีใครเห็นก็ไม่มีใครว่านี่เนอะ" เจซตกลงกับตัวเองก่อนจะก้าวไปข้างหน้าย่อตัวลงเด็ดบลูเบอรี่ลูกนึงแล้วส่งมันเข้าปาก

"นั่นมีเอาไว้ชิมฟรีงั้นหรอ" เจซเกือบสำลัก เขารีบลุกขึ้นยืนแล้วหันไปหาต้นเสียงทันทีนั่นทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ลูน่านั่นเองที่เดินเข้ามา

"เอ่อคือนี่มัน" เจซพยายามหาข้อแก้ตัวที่ดูดีกว่าการที่จะบอกว่า 'ฉันแค่เห็นมันสุกน่ากินมากก็เลยอดใจไม่ไหว' นั่นคงฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่.. แต่ผิดคาดลูน่ากลับยิ้มแล้วส่งเสียงหัวเราะเบาๆออกมานี่เป็นครั้งแรกที่เจซเห็นลูน่าหัวเราะ..เธอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเมื่อใบหน้านั้นไม่ถูกคลุมด้วยฮู้ดอันใหญ่และมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่

"ถูกของนายนะ ไม่มีใครเห็นก็ไม่มีใครว่า" ลูน่าพูดเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆเขาแล้วย่อตัวลงเด็ดบลูเบอรี่ลูกเล็กเข้าปาก ก่อนจะหันมาส่งยิ้มบางให้เจซ

"อะ..อือคงอย่างนั้นแหละ" เจซรู้สึกว่าลมหายใจกระตุกไปช่วงนึงใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นเหมือนจับไข้

'อา..สงสัยฉันคงต้องไปหาหมอกับเจัาบรู๊คแล้วล่ะ' เจซคิด

 

เวลาผ่านไปจนกระทั่งตกเย็นเจซและลูน่ายังคงนั่งอยู่ในม้านั่งบริเวณส่วนหย่อมใกล้ๆกับเรือนกระจกทั้งคู่พูดคุยกันหลายเรื่องทำให้เจซเริ่มรู้จักเธอมากขึ้น ลูน่าชอบสัตว์มากโดยเฉพาะสัตว์ที่ตัวใหญ่ซึ่งเดาได้ไม่ยากหลังจากเห็นเจ้าไวนิสกริฟฟินตัวโตของเธอ การได้พูดคุยกับลูน่าทำให้เขารู้สึกเบาใจลงอย่างน่าประหลาดหลายๆเรื่องที่คิดก่อนหน้านี้คล้ายว่าจะปลิวหายไปตามลมยังไงอย่างนั้น แล้วจู่ๆเจซก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้จึงตัดสินใจถามลูน่าที่นั่งอยู่ข้างๆเขา

"นี่ฉันมีเรื่องสงสัย เอ่อเธอฉันขอถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าหน่อยได้มั๊ย"

"นายหมายถึงเรื่องที่สนามกีฬางั้นหรอ?" เจซพยักหน้า

"อื้มได้ถามมาสิ" ลูน่าตอบหลังจากนิ่งเงียบไป

"เธอทำแบบนั้นได้ยังกัน?" เจซพุ่งตรงเข้าประเด็น

"ฉันก็แค่ทำตามคำสั่งแสดงให้ทุกคนเห็นตามกฎการทดสอบ"

"เดี๋ยว เมื่อกี้เธอพูดว่าคำสั่งหรอ" เจซรู้สึกว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ในประโยคที่เธอพูด ลูน่าดูลังเลเล็กน้อย

"คืออย่างนี้นะหลังจากที่พวกเรากลับจากห้องอาจารย์ใหญ่เช้าวันรุ่งขึ้นเขาขอให้ฉันไปพบอีกเพื่อที่จะปรึกษา"

"ปรึกษาเรื่องอะไร?"

"..อาจารย์ใหญ่บอกให้ฉันแสดงพลังในการทดสอบวันนี้ให้ถึงที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นๆข้องใจที่พวกเราผ่านมาถึงรอบการวัดทักษะได้ทั้งที่ไม่ได้ขึ้นประลองในรอบแรก"

"ฟังดูไม่ค่อยจะเข้าท่าเท่าไหร่เลยนะ"

"ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นแต่ท่านขอร้องจนฉันปฏิเสธไม่ได้ เรื่องก็เลยออกมาในรูปนี้"

"เฮ้อ รู้สึกเหมือนกับที่เข้าเรียนที่นี่ได้เป็รเพราะเธอยังไงก็ไม่รู้"

"ไม่หรอกนายเองก็เก่งมากเหมือนกัน" ลูน่ายกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม

"ฮึ ขอบใจ" เจซส่งเสียงหัวเราะในลำคอก่อนจะหันไปมองลูน่าไม่ว่ากี่ครั้งที่สบกับนัยต์ตาสีน้ำเงินเข้มคู่นั้นขอเธอก็ทำให้เขาใจเต้นแรงได้เสมอ จนทั้งคู่เผลอจ้องตากันนิ่งจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว..ขณะนั้นเองที่หอนาฬิกาเรือนใหญ่ประจำมหาลัยโอดราก้าส่งเสียงบอกเวลาสิบแปดนาฬิกาตรงทำให้ทั้งคู่ผงะไปเล็กน้อย

"อะไรกันเย็นขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย พวกเรารีบกลับกันเถอะ" ลูน่าพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนยกฮู้ดขึ้นมาสวมดูท่าทางร้อนรนผิดจากทุกที

"อื้ม.." เจซพูดแล้วลุกขึ้นยืนตามลูน่า เขายืนนิ่งอยู่กับที่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจทำบางอย่าง

"เป็นอะไรหรื.." เสียงของลูน่าขาดหายไปตอนที่เจซดึงตัวของเธอเข้ามากอดขังเธอไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแกร่งก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นสัมผัสลงเบาๆที่เส้นผมสีดำสลวยของหญิงสาวตรงหน้าที่ยืนนิ่งและใจเต้นแรงแทบระเบิดไม่ต่างไปจากเขาเลย..

"กลีบดอกไม้..มันติดผมเธออยู่" เจซพูดเสียงเบาหลังจากทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงัด

"เอ่อ..ขะ..ขอบใจนะ" ลูน่าพูดติดๆขัดๆขณะดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของเจซที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระง่ายๆ

"..นี่..ปล่อยได้แล้ว"

"อ่า โทษทีฉันไม่ได้ตั้งใจ คือ.." เจซปล่อยมือที่เกาะกุมเธออยู่ออก เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไปวะ กลิ่นหอมของพีชยังลอยวนอยู่ในอากาศรอบๆตัวเขาจนทำให้ภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปหมด

"ไม่เป็นไร..ฉันไม่ได้โทษนายหรอก.."  'เธอทำให้ฉันไม่มีทางเลือกเองนะ' เจซรู้สึกเหมือนสติขาดผึงก้าวเท้าเข้าไปดึงร่างของหญิงสาวตรงหน้าเข้ามาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง

"นะ..นี่ปล่อยนะ"

"..."

"ถ้านายไม่ปล่อยฉันจะ.."

"เอาเลย ถ้าจะห้ามฉันก็ทำซะตั้งแต่ตอนนี้เลย" เจซพูดด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดไปจนถึงใบหู

"..."

"เพราะตอนนี้ฉันคงห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว" ลูน่าไม่ได้พูดอะไรอีกปล่อยให้คนตรงหน้ากอดเธอแน่นเหมือนเด็กๆรู้สึกเลือดในตัวสูบฉีดใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด ทั้งคู่ต่างใจเต้นแรงไม่แพ้กันเลย

 

 

 

ถัดจากสวนที่เจซและลูน่าอยู่ไม่ไกลร่างเล็กของเด็กสาวกำลังยืนก้มหน้านิ่งปล่อยให้หยดน้ำใสๆไหลรินออกมาจากดวงตาอย่างหยุดไม่ได้ เธอกำหมัดขึ้นทุบมันลงไปกับผนังที่อยู่ข้างๆความเจ็บปวดนี้เทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่แล่นวาบอยู่ในใจ ขณะเดียวกันดอกไม้และต้นหญ้าที่อยู่บริเวณรอบตัวเธอก็เริ่มจับตัวเย็นจนกลายเป็นน้ำแข็งไปอย่างรวดเร็ว

 

 

To be continued

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา