Valley of the Blue Moon

9.0

เขียนโดย Huntessell

วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 04.45 น.

  10 chapter
  14 วิจารณ์
  11.26K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 18.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ข้อเสนอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เจซและลูน่ายืนอยู่หน้าประตูไม้บานนั้นได้ไม่นานมันก็เปิดอ้าออกอย่างช้าๆทั้งคู่รู้สึกได้ถึงลมเย็นที่เข้าปะทะใบหน้าทันทีที่ประตูเปิด เจซเดินนำเข้ามาก่อนตามด้วยลูน่าภายในนั้นถูกประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ฉลุด้วยทองทั้งสิ้นทั้งคู่เดินลึกเข้ามาภายในผ่านชั้นตู้กระจกสูงติดผนังบนนั้นมีขวดโหลตั้งอยู่เรียงรายภายในบรรจุสิ่งที่ดูคล้ายว่าจะเป็นพืชพันธุ์หายากและตัวอ่อนของสัตว์บางชนิด ไม่นานนักก็เจอกับโต๊ะทำงานที่ทำจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์บนนั้นมีเอกสารวางอยู่เป็นตั้งๆโต๊ะตัวนี้ตั้งอยู่หน้าประตูที่ทอดออกสู่ระเบียงกว้างด้านนอกเจซเดินอย่างระมัดระวังไปข้างหน้าจนมองเห็นร่างของชายชราถือไม้เท้ายาวเท่าความสูงของตัวเองกำลังยืนหันหลังหันหน้าออกสู่ระเบียงเหมือนกำลังชมวิวทิวทัศน์ของบลูมูนในยามค่ำคืน

"สวัสดีครับ" เขาตัดสินใจเอ่ยทักทาย ชายชราคนนั้นหันกลับมามองใบหน้าที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนยากจะระบุจำนวนปีได้นั้นยิ้มให้อย่างเป็นมิตรแล้วก้าวเท้าเข้ามาหาพวกเขา

"โอ้สวัสดีพวกเธอคงเป็นเจซกับลูน่า ยินดีที่ได้พบฉันเบอร์นาร์ด โวซนิแอกยินดีที่ได้พบ"เขาพูดพร้อมกับดึงมือเจซไปเขย่าแรงๆทีนึงแล้วหันมามองหน้าลูน่า

"เธอคงไม่ค่อยชอบที่ถูกใครโดนตัวใช่มั๊ยสาวน้อย?" เขาพูดอย่างรู้ทันลูน่าไม่ได้ตอบอะไรเธอแค่พยักหน้าเท่านั้น

"ช่างเถอะๆมาๆตามฉันมานี่คุยตรงนี้คงไม่สะดวก" ชายชราพูดแล้วหันหลังเดินไปอีกทางหนึ่งทั้งคู่เดินตามท่านผู้อำนวยการไปจนมาถึงอีกส่วนของห้องที่ดูเหมือนจะเป็นห้องรับแขกมีโซฟาไม้ฉลุด้วยทองปูเบาะนุ่มสามตัวตั้งอยู่หน้าเตาผิงเขาบอกให้ทั้งคู่นั่งลงก่อนจะเดินไปชงชามาให้ เจซและลูน่ารับถ้วยชากระเบื้องสีสวยมาไว้ในมือชายชรานั่งลงบนโซฟาอีกตัวหนึ่งข้างๆกันก่อนจะเริ่มพูด

"เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยนะอย่างที่บอกในจดหมายฉันขอบคุณพวกเธอจริงๆที่ช่วยหยุดเรื่องในวันนี้เอาไว้"

"ครับ พวกเราทำด้วยความเต็มใจ" ถึงภายนอกเจซซี่อาจจะดูเป็นคนบ้าบิ่นใจร้อนแต่เขาก็ถูกคนในตระกูลฝึกฝนมาอย่างดีทั้งเรื่องมารยาทและการเข้าสังคมถึงเขาจะไม่ชอบใจนักแต่เขาก็ทำได้ดีเมื่อต้องทำอะไรที่เป็นพิธีรีตอง

"ฉันก็เหมือนกันค่ะ" ลูน่าเอ่ยเสียงนิ่งยกถ้วยชาสวยในมือขึ้นจรดริมฝีปาก

"ฉันถึงได้ขอบคุณพวกเธอยังไงเล่าที่กล้าเสี่ยงกับเวทย์มนต์ที่ไร้การควบคุมนั่นอาจารย์บางคนของเรายังไม่กล้าเข้าไปจัดการเลย" เจซยิ้มหน้าเจื่อนเขานึกในใจว่าอาจารย์ที่พูดถึงพวกนั้นคงไม่โดนลงโทษหรอกนะ

"อ้อแล้วอีกอย่างที่ฉันเรียกพวกเธอมาในคืนนี้ก็เพราะมีเรื่องสำคัญอยากจะพูดด้วย"

"อะไรหรือคะ" ลูน่าเอ่ยถามพลางยกมือขึ้นถอดฮู้ดที่คลุมหัวอยู่ออกเจซแสร้งทำเป็นหันไปสนใจผู้อำนวยการ

'กลิ่นพีชอีกแล้ว'

"จากเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ฉันได้เรียกประชุมคณะกรรมการตัดสินการประลองทั้งหมดมาทันที หลังจากพิจรณาเรื่องของพวกเธอแล้วพวกเราได้ลงมติว่าพวกเธอทั้งคู่จะได้เข้าเรียนที่มหาลัยโอดราก้าในปีการศึกษานี้"

ทั้งเจซและลูน่านิ่งอึ้งไปหลายวินาทีมองท่านผู้อำนวยการด้วยสายตาฉงนเป็นที่สุด

"แต่ว่าแค่เรื่องในวันนี้จะทำให้พวกเราเข้าเรียนได้ยังไงกันครับ อีกอย่างทำแบบนี้คนอื่นจะมองว่าโอดราก้าสองมตราฐานเอาได้นะครับ" นิสัยรักความถูกต้องเข้มข้นในสายเลือดของเจซทำงานทันที

"นั่นสิคะ แล้วพวกเราก็ยังไม่ได้ทดสอบอะไรเลยจะผ่านการทดสอบได้ยังไงกัน" 

"เอาล่ะๆพวกเธอใจเย็นๆก่อนนะฟังฉันอธิบายก่อน เชื่อเถอะว่าพวกเราตัดสินใจกันดีแล้วคณะกรรมการทั้งหมดลงความเห็นแล้วว่าสิ่งที่พวกเธอทำในวันนี้กล้าหาญมากอีกอย่างฝีมือของเธอทั้งคู่พวกเราก็ได้เห็นแล้ว เรายินดีมากๆที่จะรับผู้ที่มีความสามารถแบบนี้มาอยู่ในมหาลัยของเราโปรดรับข้อเสนอของฉันเอาไว้เถอะนะ"

"..แต่ว่า"

"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเพื่อป้องกันให้คนอื่นคิดว่าเธอทั้งคู่ได้รับการคัดเลือกอย่างไม่โปร่งใสฉันจะให้พวกเธอลงทดสอบในการทดสอบวัดทักษะในวันมะรืนนี้ แน่นอนว่าหลังจากนี้ผลการทดสอบจะทำให้พวกเธอได้รับเข้าเรียนที่โอดราก้าอย่างแน่นอนแบบนี้สบายใจขึ้นมั๊ย?"

เจซรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกไม่รู้เป็นเพราะว่ากำลังจะได้เข้าเรียนที่มหาลัยชั้นนำของบลูมูนหรือเป็นเพราะชายชราตรงหน้าที่สามารถอ่านความในใจของเขาได้เกือบทุกประโยคกันแน่ เขาหันไปเห็นลูน่ากำลังอ้ำอึ้งไม่ต่างไปจากเขา

"เอ่อ..มันจะดีแน่หรือคะ"

"ดีแน่นอน!" ทั้งคู่หันมองหน้ากันเลิ่กลั่กเจซถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนจะตอบ

"ตกลงครับ"

"โอ้เยี่ยมเลย แล้วเธอละแม่หนูน้อย"

"เอ่อ.. ตกลงก็ได้ค่ะ"

 

หลังจากเด็กทั้งคู่เดินกลับออกไปแล้วท่านผู้อำนวยการก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงานวางไม้เท้าที่ปลายด้านบนสุดมีอัญมณีสีดำประดับอยู่ลงกับโต๊ะ ก่อนจะหยิบกระดาษสีทองแผ่นหนึ่งขึ้นมาเขียนข้อความลงไปในนั้นด้วยปากกาขนนกสีดำ ชายชราบรรจงพับมันเป็นรูปนกก่อนจะเดินออกไปยังระเบียงหินอ่อนกว้างด้านนอกแล้วค่อยๆเป่าลมหายใจใส่นกกระดาษตัวนั้น มันออกบินไปจากมือของเขาไปยังจุดหมายที่ชายชรากำกับเอาไว้เบอร์นาร์ดเดินกลับมานั่งประสานมือที่โต๊ะทำงานตัวเดิมในใจยังคงเต้นตึกตักจากเหตุการณ์เมื่อครู่

 

'อึดอัดชะมัด' เจซบ่นกับตัวเองขณะทั้งเขาและลูน่ากำลังเดินกลับออกจากมหาวิทยาลัยตอนนี้ดึกมากแล้วทั่วบริเวณจึงมีผู้คนบางตา เจซตัดสินใจทำลายความเงียบ

"เธอพักที่ไหน"

"เอ๊ะ?"

"ฉันถามว่าเธอพักที่ไหนดึกขนาดนี้แล้วผู้หญิงตัวคนเดียวมันอันตรายฉันจะไปส่ง" เจซร่ายยาวรู้สึกแหม่งๆพิกล

"เอ่อบนภูเขาน่ะ"

"เอ๋ บนภูเขามันมีโรงแรมให้พักด้วยงั้นหรอ?"

"..."

"เฮ้ย อย่าบอกนะว่าเธอ.."

"..."

"เธอจะบ้ารึไงห๊า! คนประเภทไหนไปนอนกลางป่ากลางเขาตัวคนเดียวแบบนี้" 

"ก็..โรงแรมในเมืองมันไม่มีที่ไหนยอมให้ไวนิสพักอยู่ด้วยเลยนี่นา" เจซนิ่งอึ้งเขาถอนหายใจเหยียดยาว

"เฮ้อให้ตายสิเชื่อเธอเลยยอมไปนอนกลางป่าแบบนั้นเพื่อเจ้ากริฟฟินนั่น" ลูน่านิ่งเงียบไปเหมือนเด็กสำนึกผิด

"เอาล่ะแล้วทีนี้เธอจะกลับยังไง?"

"ตอนนี้คนน้อยลงแล้วเดี๋ยวฉันจะเรียกไวนิสให้มารับ" เจซพยักหน้า

"เอาเถอะยังไงก็ขอให้โชคดีแล้วกัน" เจซโบกมือให้ลูน่าเขาคิดว่าเธอที่มีทั้งกริฟฟินกระหายเลือดตัวโตและฝีมือในตัวคงไม่เป็นอะไรไปเพียงเพราะนอนค้างคืนในป่าแน่ ลูน่าหยักหน้ารับเป็นการบอกลาเจซหันหลังเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างขูดกับพื้นทางเดินหินที่เขายืนอยู่

"ว้าย"

"เฮ้ย!" เจซซี่คนเก่งรีบถลาเข้าไปรับลูน่าที่ล้มเกือบหน้าคะมำข้อมือหนาดึงแขนของคนตรงหน้าไว้ไม่ให้เสียการทรงตัวร่างบางเซตามแรงกระชากเข้าหาแผงออกกว้างลมหายใจร้อนของเจซชะงักไปชั่วขณะ กลิ่นพีชหอมหวานอันเป็นกลิ่นประจำตัวของลูน่าลอยอบอวลอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งของเขาเจซรู้สึกเหมือนสติมึนเมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งคู่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นนานเหมือนกำลังตกตะลึง

"เอ่อปล่อยฉันได้แล้ว" ลูน่าพูดขึ้นพยามยามซ่อนใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อๆเอาไว้ภายใต้ฮู้ด เธอไม่ค่อยชินนักกับการถูกสัมผัสตัวแน่นอนว่าการกอดก็เป็นเรื่องที่ไม่คุ้นชินอย่างยิ่ง

"โทษที" เจซผละออกจากลูน่าก่อนจะแสร้งทำเป็นเงยหน้ามองพระจันทร์ดวงโตที่กำลังส่องแสงนวลอยู่บนท้องฟ้า

"งั้นฉันขอตัวก่อนนะ"

"เดี๋ยวก่อน!" ลูน่าชะงักไป

"..เอาไว้เจอกันใหม่นะ" เธอไม่ได้ตอบเพียงแค่พยักหน้าครั้งหนึ่งก่อนจะเดินลับหายไปทางอีกด้านหนึ่งของมุมถนนเจซรู้สึกใจเต้นรัวอย่างไม่อาจควบคุมได้เมื่อกี้เขาพูดบ้าอะไรออกไปว่ะ.. เจซทึ้งหัวตัวเองแรงๆทีนึงก่อนจะออกเดินไปอีกทางกลับสู่ที่พักของพวกเขา ในตอนนี้เจซยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงหุบยิ้มไม่ได้สักที

 

to be continued

 

เขียนตอนนี้แล้วรู้สึกว่าเจซเป็นพระเอกที่ชอบคุยกับตัวเองค่ะ ฮาาาาาาาาาา

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา