Where are you my Princess? (Yaoi)

10.0

เขียนโดย C_W_C

วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.56 น.

  25 บท
  3 วิจารณ์
  31.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) ...พายุเข้า+อยากสอบถามหน่อยนะคะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
 
               วันนี้ซีตื่นเช้าขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่แจ่มใสเป็นพิเศษ ในเมื่อวันนี้เขาจะได้ไปเที่ยวกับพี่ดันเต้…คนที่เขาพึ่งรู้ตัวว่ารัก พอมาคิดว่าวันนี้เขาจะต้องให้ตำตอบอีกฝ่ายก็อดจะตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
 
               ซีลงไปจัดการทำอาหารเช้าให้พวกพี่สาวและแม่เลี้ยงเหมือนทุกครั้ง พอเสร็จก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเมื่อเห็นเวลาเกือบจะแปดโมงครึ่งแล้ว
 
               แต่พอซีกลับเข้าห้องมาหลังจากอาบน้ำพร้อมแต่งตัวเสร็จก็เจอพี่สาวทั้งสองมารออยู่ก่อนแล้ว โดยพี่แพรวนั่งอยู่บนเตียงในมือกำลังกดดูมือถือของเขา ส่วนพี่พิณที่นั่งอยู่ข้างกันก็กำลังชะโงกหน้าไปดู
 
               “พวกพี่มีอะไรงั้นหรือครับ”ซีถามขึ้นจากที่ประตูเรียกให้ทั้งคู่หันกลับมามอง
 
               “ซี..เราน่ะ..กำลังจะไปไหนงั้นหรอ”แพรวตอบกลับด้วยคำถามขณะที่เหลือบสายตาที่กรีดอายไรเนอร์เสียเข้มมามอง
 
               “พวกพี่จะรู้ไปทำไมกันละครับ”ซีเลือกที่จะเลี่ยง
 
               “แหม~ซีเดี๋ยวนี้มีเรื่องปิดบังพวกพี่แล้วงั้นหรอ”พิณว่าพรางลุกขึ้นเดินมาหาซีพร้อมรอยยิ้มหยาดเยิ้ม
 
               “ป่าวครับ แค่คิดว่าคงไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่พวกพี่ต้องรู้นี่ครับ”ซีตอบกลับเสียงนิ่ง
 
               “งั้นหรอ~”พิณลากเสียงยาวก่อนที่มือเรียวจะถูกยกขึ้นแล้วฟาดกระทบลงบนใบหน้าซีอย่างแรง
 
               เพี๊ยะ!
 
               “เดี๋ยวนี้คิดเถียงฉันงั้นหรอ”รอยยิ้มหายไปเหลือไว้เพียงสายยตาที่จิกมองอย่างเหยียดหยาม ซึ่งซีก็ไม่ได้โต้ตอบเพียงยืนนิ่งเฉยอยู่แบบนั้น โดยไม่หันมาสบตาอีก
 
               “ขอโทษครับ”
 
               พิณส่งเสียงเยาะอยู่ในลำคอทีนึง พอเหลือบเห็นพี่สาวลุกขึ้นยืน ตัวเองก็เดินสวนร่างบางของซีออกจากห้องไป ส่วนแพรวก็ค่อยๆเดินนวยนาดมาหยุดยืนส่งยิ้มเหยียดให้ซีแล้วพูดบางอย่าง
 
               “จริงๆก็ไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ เพราะยังไงพี่ก็รู้อยู่แล้ว”ในคราแรกซียังคงไม่เข้าใจจนกระทั้งร่างเพียวเดินสวนออกไปแล้วทิ้งท้ายเอาไว้ให้ซีต้องตกใจ
 
               “ที่XXXตอน10โมงสินะ”
 
               ซีหันขวับกลับไปมองตามแต่โดนปิดประตูห้องใส่หน้า ร่างบางกระโจนไปหวังเปิดมันออกอีกครั้งแต่กลับได้ยินเสียงล๊อคดังมาจากด้านนอก
 
               กริ๊ก!
 
               “พี่แพรว พี่พิณทำอะไรน่ะครับ! เปิดประตูนะ”ซีทุบประตูปึงปังอย่างเริ่มร้อนลน
 
               “วันนี้ว่างนิ ก็อยู่บ้านพักผ่อนไปแล้วกัน”เสียงของพี่แพรวดังรอดเข้ามา
 
               “เปิดเถอะครับ อย่าทำแบบนี้”ซีพยายามหมุนลูกบิดไปมาแต่ยังไงก็เปิดไม่ออก
 
               “พวกพี่เป็นห่วงนะ เห็นซีไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อน เพราะงั้นเดี๋ยวพวกพี่จะเป็นคนไปเที่ยวกับพี่ดันเต้ให้เอง”เสียงพี่พิณดังเสริมด้วยน้ำเสียงระรื้น
 
               ด้วยประตูของบ้านนี้เป็นแบบล๊อคด้วยกุญแจซีจึงไม่สามารถปลดล๊อคจากภายในได้ ซีพยายามทั้งทุบทั้งดึงก็ยังคงไร้ผล
 
               “พี่พิณ เปิดนะ พี่แพรวอย่าทำแบบนี้ ปล่อยผมนะครับ!”เมื่อซีได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของทั้งคู่ที่เริ่มจะห่างออกไป ก็รู้ว่าคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ร่างบางตรงไปที่เตียงหวังหยิบโทรศัพย์มาโทรหาใครซักคน แต่แล้วก็ได้รับรู้ว่าแม้แต่มือถือก็ยังโดนเอาไปด้วยเช่นกัน
 
               แล้วทีนี้เขาจะออกจากห้องนี้ไปได้อย่างไร!!
 
 
 
               ร่างสูงใหญ่ของดันเต้ยืนเด่นเป็นสง่าในชุดเสื้อยืดสีขาว โดยมีแว่นกันแดดเสียบอยู่ที่คอเสื้อกับกางเกงยีนส์สบายๆอยู่กลางลานน้ำพุในพลาซ่าแห่งหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มละมุมขณะคิดถึงร่างบางซึ่งทำเอาสาวๆที่ยืนมองอยู่รอบๆแทบใจละลาย
 
               “ดันเต้ค้า”เสียงแหลมสูงของแพรวเรียกให้ดันเต้หันไปมอง ซึ่งชายหนุ่มก็ได้แต่เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
 
               “อ่าวคุณแพรวคุณพิณ มาทำอะไรกันงั้นเหรอครับ”
 
               “พวกเรามาแทนซีนะค่ะ”พิณตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม
 
               “มาแทน?”ดันเต้ทวนคำด้วยนึกสงสัย
 
               “ใช่ค้า พอดีว่าซีมีงานต้องทำเลยมาตามนัดไม่ได้แล้วน่ะค่ะ”พิณตอบ
 
               “ทำงานงั้นหรอ”ดันเต้กระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อได้ยินคำบอกของหญิงสาว
 
               “ก็น่าแปลกดีนะครับ ทั้งที่ซีทำงานอยู่ที่ร้านแม่ผมแท้ๆแล้วเผอิญว่าวันนี้ร้านหยุดซะด้วยสิ จะไปทำงานที่ไหนกันนะครับ”
 
               “อ่านั้นสิคะ ซีก็รับงานทำไปเรื่อยแหละค่ะ”พิณพูดแก้ต่างอย่างลนๆด้วยเริ่มรู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว เธอไม่รู้เลยว่าซีไปทำงานที่ร้านแม่พี่ดันเต้ตั้งแต่เมื่อไร แต่เดิมเธอก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าซีจะทำงานอะไร
 
               “แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นนะ”ทั้งแพรวและพิณหลบสายตาที่ชายหนุ่มมองมาด้วยหงื่อที่เริ่มซึม แค่มองท่าทางแบบนั้นันเต้ก็พอเดาอะไรได้รางๆแล้ว
 
               “ขอตัวซักครู่นะครับ”ดันเต้เดินห่างออกมาจากสองสาวนิดหน่อยก่อนจะหันหลังให้พวกเธอแล้วหยิบเอาโทรศัพย์ขึ้นมากดโทรออกหาซี แต่รออยู่ไม่นานปลายสายก็แจ้งถึงการปิดเครื่อง
 
               ดันเต้วางสายกะว่าจะลองโทรใหม่ดูอีกครั้งแต่กลับถูกแพรวกับพิณมาคล้องแขนจากด้านหลังเสียก่อน“ดันเต้คะ”
 
               “ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปสนใจเลย ซีก็แค่รุ่นน้องเองนะคะ”แพรวว่าขณะที่เบียดแทรกเอาหน้าอกอันใหญ่โตของเธอเข้าแนบชิดแขนของชายหนุ่ม
 
               “ไปกับพวกเรารับรองสนุกกว่าแน่นอน”พิณว่าเสียงพร่า นัยน์ตาหยาดเยิ้มช้อนขึ้นมองอย่างดึงดูด ฟันขาวขบกัดริมฝีปาดอวบอิ่มเคลือบลิปสติกสีสวยอย่างพยายามยั่วยวน
 
               ดันเต้มองกิริยาเหล่านั้นนิ่งๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากเหมือนเป็นเรื่องขำแล้วมือหนาก็จัดการแกะมือปลาหมึกของทั้งสองสาวออกจากแขนแบบไม่พูดไม่จา ให้ทั้งคู่ได้แต่งุงงงในท่าทางแบบนั้น
 
               “ขอโทษนะครับ”ดันเต้ถอยตัวมาเผชิญหน้ากับแพรวและพิณก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะเงยขึ้นสบตาพร้อมระบายยิ้มบางตามแบบฉบับ
 
               “แต่ผมไม่เห็นว่าซีเป็นแค่รุ่นน้อง”ดันเต้ว่าขณะที่ดวงตาสีอ่อนสื่อความอย่างชัดเจน ให้สองพี่น้องต้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา พิณอ้าปากค้างมีน้ำเสียงหลุดออกมาไม่เป็นศัพย์อย่างไม่อยากเชื่อ
 
               “ไม่จริง อย่าบอกนะว่า…”
 
               ดันเต้ยังคงยืนยิ้มยืนยันอยู่แบบนั้น ไม่มีแววการแก้ต่างว่าพวกเธอเข้าใจผิดแต่อย่างใดทำให้แพรวกัดปากฉับ ในดวงตาฉายประกายความเจ็บใจออย่างเต็มเปี่ยม แต่พิณไม่ยอมแพ้ร่างเพรียวบางเดินเข้าไปแนบชิดจนแทบซบอกชายหนุ่มโดยไม่แยแสสักนิดว่าเธอกำลังอยู่ในที่สาธารณะ
 
               “ไม่เอาน่า ยังไงผู้หญิงก็ต้องดีกว่าอยู่แล้วสิคะ”พิณว่าพรางส่งสายตาเชิญชวน ขณะที่มือบางหยิบคว้ามือของดันเต้ให้ทาบลงบนเรือนร่างของตัวเองอย่าไม่อายใคร
 
               ดันเต้ยังคงระบายยิ้มบางอยู่แบบเดิมแล้วชักมือกลับก่อนจะจับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวดันออกห่างจากตัว“ก็คงจะจริงนะครับ ผู้หญิงคงดีกว่า”
 
               คำบอกของดันเต้ทำให้พิณกระตุกยิ้มอย่างนึกว่าเธอสามารถเรียกร้องความสนใจจากชายหนุ่มได้ผล
 
               “งั้นผมจะให้โอกาสคุณอีกซักครั้ง”ดันเต้ทำให้ทั้งพิณและแพรวต้องยืนมองอย่างสงสัย
 
               ดันเต้ล้วงหยิบเอากระเป๋าเงินในกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนจะเปิดออกหยิบแหวนวงเกลี้ยงใสที่อยู่ข้างในออกมา และทันทีที่ทั้งสองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือแม้ในคราแรงจะแค่คับคล้ายคับคลาแต่ก็ยังนึกออกจนแพรวเผลอหลุดอุทานออกมา
 
               “แหวนนั่น”
 
               “มีอะไรงั้นหรอครับ?”ดันเต้ถามเมื่อเห็นทั้งคู่มองแหวนในมือตนด้วยสายตาแปลกๆ
 
               “เปล่านิ”แพรวปฎิเสธเมื่อไม่เห็นเหตุผลว่าเธอควรจะบอกในสิ่งที่เธอรู้
 
                “งั้นก็ถ้าพวกคุณสามารถสวมแหวนนี้ได้พอดีละก็ ผมคงรับไว้พิจารณาอีกครั้งเพราะผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะสนใจคือเจ้าของแหวนวงนี้เท่านั้น”ดันเต้ยื้นแหวนมาตรงหน้าของทั้งสองที่มีแววลังเล
 
               แพรวกับพิณหันไปสบตากันแวบนึงก่อนที่พิณจะเป็นคนเอื้อมมือไปคว้าแหวนวงนั้นมาถือไว้แล้วส่งสายตาให้ชายหนุ่มเป็นเชิงถาม
 
               “นิ้วกลางข้างซ้ายครับ”ดันเต้บอก
 
               พอได้ฟังหญิงสาวก็สวมแหวนลงบนนิ้วทันทีซึ่งผลที่ออกมาคือมันเหลือเนื้อที่ระหว่างแหวนกับนิ้วกว้างอย่างเห็นได้ชัด พิณจิ๊ปากอย่างเจ็บใจก่อนจะส่งแหวนให้พี่สาวที่ยื้นมือมารอแรงๆแบบไม่พอใจ
 
               แพรวรับแหวนมาแม้จะมีสีหน้าไม่มั่นใจ ก่อนจะจัดการสวมมันลงบนนิ้วก่อนที่ใบหน้าจะระรื้นขึ้นเมื่อเห็นว่าสามารถใส่เข้าไปจนสุดได้อย่างไม่ติดขัดแถมยังไม่เหลือที่ว่างระหว่างนิ้วกับแหวนเลย แพรวยกยิ้มอย่างมีชัยพรางยกมือที่สวมแหวนขึ้นโบกไปมาให้ดันเต้ดู
 
               “เห็นมั้ยคะ ใส่ได้พอดีเลย อ๊ะ!…”ยังไม่ทันจะพูดจบ แหวนวงน้อยก็ลื้นหลุดลงพื้นอย่างไม่พอดี กลิ้นหลุนๆไปหยุดที่ปลายเท้าของดันเต้ ให้ชายหนุ่มต้องก้มลงหยิบขึ้นมา
 
               “คงจะไม่พอดีสินะครับ คงจะหลวมไปสำหรับพวกคุณ”ดันเต้ยกแหวนวงน้อยขึ้นพลิกดู เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้เสียหายอะไรจึงหันกลับไปหาหญิงสาวทั้งคู่
 
               “มันก็คงจะเหมือนจิตใจที่ว่างเปล่าไม่สามารถเติมเต็มได้ หรือก็คือเหมือนจิตใจที่ไม่เคยรักใครนอกจากตัวเองของพวกคุณนั้นแหละครับ”คำกล่าวของดันเต้ทำให้พิณและแพรวต้องตาโตกัดปากแน่น มองชายหนุ่มที่ว่าพวกเธอด้วยรอยยิ้มได้หน้าตาเฉย
 
                “ผู้หญิงอาจจะดีกว่า”ดันเต้ว่าอีกขณะที่ขาก้าวเข้าไปใกล้สองสาวมากขึ้น บรรยากาศรอบตัวกับใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเริ่มดูขัดแย้งให้พิณและแพรวเริ่มตัวสั่นขึ้นมาอย่างประหลาด
 
               “แต่ผมรักซีมากกว่าครับ”ดันเต้มาหยุดยืนหน้าคนทั้งคู่ที่บัดนี้ได้แต่ยืนกำมือแน่น ตาเบิกโตอย่างตกตะลึงกับคำกล่าวของชายหนุ่ม แล้วยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรร่างสูงก็ก้มลงมาจนใบหน้าอยู่ระหว่างหญิงสาวทั้งสอง แล้วกระซิบถ้อยคำบาดใจทั้งที่ปากยังคงเปื้อนยิ้ม
 
               “และผมเชื่อว่าเขาดีกว่าพวกคุณแน่นอน”
 
               แพรวและพิณกัดปากตัวสั่นที่โดนตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า แต่ก็ไม่อาจสรรหาสิ่งใดมาเอาคืนได้ทั้งคู่จึงได้แต่ยืนจ้องหน้าชายหนุ่มที่ยืดตัวกลับไปยืนตรงอย่างเจ็บแค้น
 
                “พิณกลับ!”แพรวเค้นเสียงรอดไรฟันออกมาก่อนจะสะบัดร่างเดินจากไปพร้อมกับน้องสาวที่มีอากัปกิริยาไม่ต่างกัน
 
 
 
               ร่างบางของซีในชุดเสื้อแขนสั้นมีฮูดสีฟ้ากับกางเกงขายาวสีดำกำลังวิ่งสลับเดินด้วยท่าทางเร่งรีบไปยังที่นัดหมายกับพี่ดันเต้ หลังจากที่เขาตัดสินใจปีนหน้าต่างห้องออกมาด้านนอกได้ก็รีบขึ้นรถมายังพลาซ่าเลยทันที
 
               ซีหอบน้อยๆด้วยความเหนื่อย แต่ร่างบางก็ยังคงจ้ำไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด แต่แล้วร่างบางก็ต้องชะงักเมื่อเห็นพี่สาวทั้งสองกำลังจะเดินสวนมา ซีตัดสินใจจะหลบแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อทั้งแพรวและพิณหันมาเห็นเขาเสียก่อนและเดินเข้ามาดักทางเขาไว้ ใบหน้าของทั้งสองฉายแววความโกรธแค้นอยู่เต็มเปี่ยม
 
               “คิดว่าเหมาะสมกันแล้วงั้นหรอ!”มาถึงพิณก็ตวาดใส่ซีทันที
 
               “คิดว่าตัวเองมีดีตรงไหนกัน! ตรงไหนที่มันดีกว่าพวกฉัน!”
 
               “เดี๋ยวครับพี่พูดถึงอะไร”ซีพยายามไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นพี่สาวพูดไม่รู้เรื่อง
 
               “ดันเต้ไงละ”แพรวว่าแล้วเดินตรงเข้ามาฉุดแขนซีลากไปที่กระจกร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง เล็บแหลมจิกเขาไปในเนื้อจนซีรู้สึกเจ็บ ซีจะสะบัดออกแต่แขนอีกข้างก็โดนพิณเข้ามาจิกไว้เช่นกัน
 
               “ทั้งที่เทียบกับพี่ดันเต้แล้วตัวเองไม่มีอะไรเลยแท้ๆหน้าตา ฐานะ คิดว่าคู่ควรแล้วงั้นหรอ อาจเอื้อมเกินไปหน่อยแล้วละม้าง อย่างแกน่ะมีแต่จะทำให้พี่ดันเต้เขาตกต่ำลง ทำให้เขาอับอายเท่านั้นแหละ”แพรวพูดขณะที่มือบีบกรามของซีให้จ้องมองไปที่กระจก
 
               “ตื่นจากฝันซะเถอะซี เขาก็แค่เห็นว่าแกเป็นของแปลก ซักวันเชื่อสิเดี๋ยวเขาก็จะเบื่อ คนตัวเปล่าแบบแกไม่มีสิทธิจะได้ยืนเคียงข้างพี่ดันเต้หรอก”พิณพูดเสริมด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว
 
               ซียืนกดหน้านิ่งเงียบเส้นผมด้านหน้าตกลงมาปิดให้ทั้งพิณและแพรวไม่อาจเห็นแววตาของซีได้ แต่พิณก็ยังว่าต่อ
 
               “แล้วยังเป็นผู้ชายด้วยกันแท้ๆ”
 
               “น่าขยะแขยงที่สุด”แพรวยื้นหน้ามาพูดชิดริมหูเหมือนต้องการให้ซีได้ยินชัดที่สุด ให้ทุกคำตอกย้ำฝั่งลึกลงไปให้ได้มากที่สุด เธอไม่ยอมให้พวกมันได้มีความสุขกันหรอก
 
               ซีสะบัดตัวออกจากพี่สาวทั้งสองอย่างแรงก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง“พอซักทีเถอะครับ เรื่องของผม ผมคิดเองได้”
 
               ว่าจบร่างบางก็วิ่งหนีไปทันที ขณะที่ในดวงตาคู่ใสฉายประกายความหวั่นไหวอยู่อย่างชัดเจน
 
 ----------------------------------------------------------
                      คืออยากสอบถามผู้อ่านทุกท่านซักหน่อยน่ะค่ะ
                    อีกไม่กี่ตอนนิยายเรื่องนี้ก็จะจบแล้ว
                    เลยอยากทราบว่ามีใครอยากได้แบบรวมเล่มมั้ยคะ
                    เราอยากรู้ยอดก่อนสั่งพิมพ์น่ะค่ะ
                    เอาเฉพาะคนที่คิดจะสั่งจริงๆนะคะ
                    จะตกเล่มละประมาณ270บาทค่ะยังไม่รวมค่าจัดส่ง
                    อาจจะมีบวกลบบ้างนิดหน่อย
                    ใครสนใจช่วยบอกด้วยนะคะ
                    จะได้รู้ว่าจะสั่งพิมพ์ดีมั้ย
                    แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ จะลงให้จนจบแน่นอนค่ะ
                    แต่ในรวมเล่มจะมีตอนพิเศษของซีพี่ดันเต้ นิวพี่รักษ์ แล้วก็ของไม้กับ?? แล้วก็อื่นๆค่ะ
                    ใครสนใจมาลงชื่อบอกกันไว้ก่อนนะคะจะได้รู้ว่าเยอะมั้ย
                    ขอบคุณมากค่ะ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา