Tekkamen Blade Space Knight 100 yearafter

-

เขียนโดย ไีรโฮ

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.22 น.

  6 chapter
  0 วิจารณ์
  8,556 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556 15.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Normal Day

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

--------------------------------------------Chapter 2 Normal Day -----------------------------------------------------------

บ้านของอลิซซาเบธยามค่ำคืน

ตัวบ้านอยู่ในความเงียบสงบเพราะอลิซซาเบธและอัลเดรย์นอนหลับไปแล้ว เว้นแต่รีโวลที่นั่งดูทีวีอย่างเงียบๆอยู่ ข่าวกำลังรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์บริเวณลิฟต์วงโคจรที่ 13 และกำลังพยายามเชื่อภาพไปให้

‘พวกราดัมก็เริ่มหมายตาโลกอีกครั้ง เทคคาเมนก็เริ่มไม่แตกต่างอะไรจากราดัม’รีโวลครุ่นคิดไปมา

ขณะนั้นเองภาพของข่าวก็สามารถเชื่อมไปยังจุดเกิดเหตุได้ทันทีที่ภาพฉายรีโวลถึงกับเหงื่อตกเลยทีเดียว

‘เทคคาเมนยูนิคอร์น!? กำลังปะทะกับการ์ดงั้นเหรอ!? แต่ว่าทำไหมการ์ดถึงมีเทคคาเมนมาสเตอร์  ไนท์ และโบว ค่อยสนับสนุนละ!!’

รีโวลกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้นขณะนั้นสัญญาญภาพก็หายไป รีโวลกดปิดทีวีก่อนที่จะเอนตัวลงนอนกับโซฟาแต่ข้างในใจยังโกรธอยู่

‘การ์ด! แกทำเกินไปแล้วจริงๆ’

เช้าวันต่อมา

แสงพระอาทิตย์ส่องเข้ามากระทบตัวรีโวล รีโวลค่อยๆลุกขึ้นจากโซฟาแล้วมองไปรอบๆแล้วก็เห็นอลิซซาเบธที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวอยู่ รีโวลเดินไปที่ห้องครัวทันที

“ตื่นแล้วเหรอรีโวล”อลิซซาเบธที่กำลังหั่นเนื้ออยู่ถามขึ้น

“มีอะไรให้ช่วยไหม”รีโวลถามหางานทันที

“ไม่เป็นไรๆ ทำกับข้าวมันหน้าที่ฉันคนเดียว ไปนอนต่อเถอะถ้ายังง่วงอยู่น่ะ”

รีโวลเดินมานั่งที่โต๊ะกลางห้องครัว ก่อนที่จะเปิดทีวีของห้องครัวขึ้นเพื่อฟังรายงานข่าว

“ไม่อยากจะคิดเลยเหมือนกันว่า เทคคาเมน ก็ต้องมาฟังข่าวด้วย”อลิซซาเบธพูดแบบล้อๆขึ้น

“ตั้งแต่พวกเทคคาเมนการ์ดเข้ามาในโลก มันก็ต้องติดตามข่าวสารบ้างจะได้รู้ว่าพวกมันก่อเรื่องไว้ที่ไหนบ้าง”

“จริงสิน่ะ ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นายชอบกินอะไรเหรอ”

“ของที่ชอบกินน่ะเหรอ”

“ใช้ๆ จะได้ทำไว้ให้กินไง”

รีโวลนั่งครุ่นคิดอยู่สักพักก็ค่อยๆพูดขึ้น

“รู้สึกจะเป็นไอ้ของที่เรียกว่าไอศกรีม อะไรละมั้ง”

“อ่า นั้นน่ะเหรอของชอบนายเดี๋ยวทำกับข้าวเสร็จจะออกไปหาซื้อมาให้กินละกันน่ะ”

“ขอบใจน่ะ”

บ้านของเรน

“ฮึบ!!!!!”

เรนฟาดดาบคานตานะไปมากลางสายลมที่เย็นฉ่ำ ลมหนาวโฉยมาปะทะกับร่างของเรนที่อยู่ในเสื้อกล้ามสีขาวกางเกงขาสั่น แต่ไม่ทำให้ตัวเธอหนาวสะทกสะท้านสักเท่าไหร่ เรนฝึกใช้ดาบคานตานะอย่างคล่องตัว  ขณะนั้นดิไวที่ส่วนต่างๆเริ่มหายดีแล้วก็ยืนมองเรนที่กำลังฝึกอยู่

‘แม้จะเป็นเพียงเด็กสาวมนุษย์ธรรมดา แต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากตัวเธอมันช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก’ดิไวคิดพิจราณาเกี่ยวกับตัวของเรน

ขณะนั้นเองใบไม้จำนวนสามใบก็ร่วงลงมาจากต้นไม้ใกล้จะถึงตัวพื้น เรนหันไปตวัดดาบคานตานะฉับเดียว ใบไม้ทั้งสามก็ถูกฟันแยกออกเป็นส่วนๆอย่างรวดเร็ว

‘ตัวเราเองก็คงจะคงสภาพร่างกายนี้ไว้ได้ไม่นาน จำเป็นที่จะต้องมีคนสืบทอดพลังนี้ แต่ว่าถ้าสภาพจิตใจของเด็กสาวคนนี้ยังไม่พร้อมก็คงจะไม่สามารถส่งต่อพลังให้ได้’

เรนเก็บดาบเข้าฟักแล้ววางดาบพิงไว้กับต้นไม้ที่อยู่ใกล้แล้วหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมา

“แอบคิดอะไรเกี่ยวกับฉันอยู่ในใจหรือเปล่า”เรนถามขึ้นขณะเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมา

“กำลังคิดว่าเธอเหมาะที่จะรับการฝึกฝนนั้นรึยัง”ดิไวตอบ

“ฝึกฝนเรอะ ว่าแต่พูดสำเนียงมนุษย์แล้วงั้นเหรอ”

“อืม เตรียมพร้อมสำหรับการฝึกฝนได้เลย   เทค!!ซอร์ด!!!!”

ดิไวปล่อยลำแสงสีเขียวออกมากลายเป็นดาบที่มีขนาดค่อนข้างจะยาวพอๆกับคานตานะ เทคซอร์ด เรนเห็นดังนั้นจึงชักคานตานะออกจากฟักแล้วตั้งท่าพร้อมสู้

“พร้อมน่ะ เรน!!”

“โอ้ว!!!! เข้ามาเลยดิไว!!!”

ขณะนั้นเองบนอวกาศ

เป้ง!!!! ดาบของการ์ดแตกออกเป็นเสี่ยงด้วยการโจมตีเพียงหมัดเดียวของยูนิคอร์น

“อึก!!!! บ้าน่าอย่างข้าน่ะเหรอจะแพ้ให้ไอ้แก่คนหนึ่ง!!”การ์ดพูดด้วยความเจ็บใจ

“จงเจ็บใจและแค้น แล้วกลับไปซะ!!! บนดาวดวงนี้ไม่ใช้ที่ๆเจ้าควรจะมาอาละวาด!!”ยูนิคอร์นชี้นิ้วไล่การ์ด

การ์ดแต่เจ็บใจส่วนมาสเตอร์ ไนท์และโบวไม่กล้าเข้าไปช่วยเพราะเกรงกลัวพลังของยูนิคอร์น  ขณะนั้นเองยูนิคอร์นก็รวบรวมพลังไปที่คริสตอลสีเขียวที่มือข้างขวา แล้วเล็งไปทางการ์ด

“โวลเทคก้า!!!!!!!!!!!!”ยูนิคอร์นตะโกน

“อึก!!! โวลเทคก้า!!!!!!!!”การ์ดตะโกน

โวลเทคก้าของทั้งสองพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยพลังที่รุนแรงกว่าของยูนิคอร์นทำให้พลังไล่กลืนพลังของการ์ดไปอย่างรวดเร็วและกำลังพุ่งเข้าหาการ์ดอย่างรวดเร็ว  บึ้ม!!! การ์ดโดนโวลเทตก้าของยูนิคอร์นเข้าเต็มๆ การ์ดกระเด็นไปกระแทกกับตัวลิฟต์วงโคจรอย่างรุนแรง

“อั่ก!!!! อ๊อก!!!!!”การ์ดกระอั่กเลือดออกมา

มาสเตอร์ ไนท์และโบว เริ่มบินเข้าไปช่วยเหลือการ์ดแต่ทันทีแต่ทันใดทั้งสามก็ถูกม่านพลังของยูนิคอร์นจับตัวไว้อย่างรวดเร็วทำให้ไม่สามารถเข้าไปช่วยการ์ดได้

“ไอ้เทคคาเมน ขี้ขลาดและกลัวตาย ข้ารู้น่ะ!!! ว่าการ์ดขู่พวกเจ้าพวกเจ้าจึงยอมมาเป็นพวกของการ์ด!!!”ยูนิคอร์นพูด

“ไม่พวกข้านั้นมีเป้าหมายเดียวกันกับเข้า!!!!!”มาสเตอร์ปฏิเสธ

“หึ!! ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงพวกเจ้าจะเสียสติไปแล้ว!!! ข้าจะเอาพวกเจ้าทั้งสามไปขังไว้ที่คุกแห่งห้วงมิติ!!! ส่วนการ์ด!ข้าจะผนึกเจ้าไว้ที่แห่งนี้!!! จนกว่าจะมีใครโค้น ข้าลงได้เท่านั้นผนึกจึงจะถูกทำลาย!!!!”

ยูนิคอร์นเปิดประตูมิติขึ้นแล้วโยนทั้งสามเข้าไปในห้วงมิติก่อนที่จะปิดมิติลง แล้วหันมาทางการ์ดก่อนที่จะปล่อยพลังสีเขียวจำนวนมากเข้าใส่ ร่างกายของการ์ดค่อยๆถูกผนึกทีละส่วน

“หึๆ!!! นี้คงพอใจเจ้ามากสิน่ะ!! ยูนิคอร์น!”การ์ดพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

ยูนิคอร์นไม่พูดอะไรแต่หันหลังให้การ์ดเตรียมที่จะบินจากไป

“ฮ่าๆ!!! ถ้าท่านแม่รู้เขาคงโกรธท่านมาก!!!!!!! ตั้งแต่ตอนที่ท่านไล่เบลดออกไปจากครอบครัวและถีบส่งมันมาที่โลก!!!! ท่านแม่โกรธเจ้ามาก!!!! ท่านแม่ตรอมใจตายตอนที่รู้ว่าท่านจะทำลายความจำเขาเกี่ยวกับบ้านเกิดและยัดเหยียดแต่หน้าที่ลงไป!! เจ้ามันเป็นพ่อที่เลวมาก!!!!! และตอนนี้เจ้ากำลังจะทำให้ท่านแม่ที่ตายไปร่ำไห้!! และข้าจะไม่มีวันที่จะนับถือแกเป็นพ่อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

การ์ดพูดจบร่างกายทั้งหมดของเขาก็ถูกผนึกเข้ากับตัวลิฟต์วงโคจรเรียบร้อย ยูนิคอร์นบินมุ่งหน้าลงไปยังโลกใบหน้าของยูนิคอร์นมีน้ำตาไหลออกมาแต่ด้วยร่างเกราะทำให้เขาดูเหมือนไร้อารมณ์

บ้านของอลิซซาเบธ

รีโวลที่กำลังนั่งกินไอศกรีมอยู่กับพวกอลิซซาเบธก็สัมผัสได้ถึงบาอย่าง

‘จู่ๆ สัมผัสชีวิตของการ์ดก็หายไป!?’รีโวลรู้สึกใจหายทันที

“นี้ๆรีโวล ได้ยินที่พูดหรือเปล่า”อลิซซาเบธที่คาบช้อนอยู่ถามขึ้น

“เห โทษทีน่ะเรื่องอะไรเหรอ”รีโวลถาม

“ก็วันนี้จะมีเพื่อนของฉันมาทำรายงานที่บ้าน ก็เลยอยากจะขอให้รีโวล กับพี่อัลเดรย์ออกไปซื้อของบางอย่างให้หน่อยน่ะ พอดีว่าฉันต้องอยู่ทำความสะอาดบ้าน”อลิซซาเบธเอาช้อนออกจากปากแล้วตักไอศกรีมเข้าปาก

“ว่างไปด้วยกันไหมล่ะ”อัลเดรย์ถามรีโวล

“ได้เลย กำลังเบื่อๆอยู่”

5 นาทีต่อมา  

รีโวลกับอัลเดรย์กำลังเดินหาของในห้างสรรพสินค้าอยู่ ตามรายการที่อลิซซาเบธเขียนมาให้

“เอ๋ ร้านอุปกรณ์ขีดเขียนอยู่ไหนหว่า”อัลเดรย์กำลังมองหาร้านอุปกรณ์ขีดเขียน

“อยู่ทางนั้นไง”รีโวลทักขึ้น

“อ่อ จริงด้วยไปกันเถอะ”

อัลเดรย์และรีโวลเดินเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์ขีดเขียน  อัลเดรย์เดินเลือกหาของตามที่อลิซซาเบธจนไว้รีโวลยืนมองอุปกรณ์ขีดเขียนที่น่าสนใจบางอย่างอยู่

‘นี้อะไรกันเนี่ยรูปร่างช่างทำให้ประหลาดใจและน่าสนใจยิ่งนัก’รีโวลคิดในใจ

“อ้าว รีโวลสนใจไอ้เจ้านั้นด้วยเหรอ”อัลเดรย์ที่กำลังหยิบเอาไม้วัดขึ้นมาพูดขึ้น

“อ่าใช้ รูปร่างมันทำให้น่าสนใจพิลึกดีว่าแต่มันคืออะไรงั้นเหรอ”

“อ่อ มันคือวงเวียนน่ะ”

“วงเวียนเหรอ?”รีโวลพูดพลางจับตัววงเวียนที่วางไว้บนชั้นลงมาดู

“ใช้แล้วมันเป็นเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ ที่เอาไว้ใช้คำนวณหาวงกลมเวลาใช้ก็จะกางมันออก จะมีจุดสามจุด จุดตรงกลางจะเป็นที่เอาไว้กดกับตัวกระดาษส่วนอีกจุดหนึ่งที่เป็นแขนก็จะเป็นที่ใส่ไส้ดินสอไว้ใช้หมุนวาดเป็นวงกลม และจุดที่สามก็จะเป็นจุดที่เอาไว้กดพื้นแล้วลากตาม เพียงแต่ที่นายถือมันเป็นแบบที่มีสามจุดขนาดใหญ่ ปกติมันมีสองจุด”

รีโวลวางวงเวียนไว้ที่เดิมแล้วหันมาดูอัลเดรย์แล้วถามขึ้น

“ได้ของครบแล้วเหรอ”

“ก็สำหรับที่นี้ก็เหลืออันนี้อันเดียว ไปจ่ายตังค์กัน”

หลังจากที่รีโวลกับอัลเดรย์จ่ายตังค์เสร็จทั้งสองก็เดินหาเป้าหมายต่อไป

“อืม... ร้านต่อไปน่าจะอยู่ตรงนู้น ไปกันเถอะ”อัลเดรย์พูดแล้วเดินนำ

ชิ้ง!!! รีโวลสัมผัสบางอย่างได้อีกแต่สิ่งที่เขาสัมผัสได้ทำให้เขาใจหายทันที

‘เทคคาเมนไนฟ บาดเจ็บหนักเรอะ!?’

รีโวลรู้สึกใจหายวาปแต่ก็ยังไม่ได้แสดงอาการกระวนกระวายอะไรมากมาย แล้วยังเดินถือของช่วยอัลเดรย์ต่อเหมือนเดิม

บ้านของเรน

“แฮ่กๆๆ”

เรนที่ยืนเตรียมพร้อมปะทะกับดิไวแสดงอาการเหนื่อยออกมาแต่เจ้าตัวก็ได้เก็บอาการไว้ มีเพียงแค่เสียงเหนื่อยหอบเล็กน้อยเพียงแค่นั้น

“ทำได้ดีนิ แต่ว่าการเคลื่อนไหวยังช้าไปอยู่เล็กน้อยน่ะ”ดิไวพูดติชม

“เหอะ ก็ฉันมันเป็นมนุษย์ธรรมดาเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุดได้ก็ถือว่าเก่งแล้ว”เรนพูดถ่อมตัว

ดิไวสลายเทคซอร์ดไปเรนเห็นดังนั้นจึงเก็บดาบเข้าฟักแล้ววางไว้ที่ต้นไม้ก่อนที่จะเช็ดเหงื่อเล็กน้อย แล้วเดินไปนั่งพักที่ม้านั่งที่อยู่ใกล้ๆประตูเข้าบ้าน เรนหยิบน้ำขึ้นมาจิบเล็กน้อยแก้กระหายแล้วนั่งพัก

“ถึงร่างกายจะเป็นเกราะที่เก็บซ่อนอารมณ์แต่ฉันก็พอจะเดาได้ว่า นายกำลังกังวลเรื่องอะไรบางอย่างใช้ไหม”เรนทักขึ้น

“....................”

“บอกให้ฉันฟังก็ได้น่ะ”

“เทคคาเมนไนฟ เธอกำลังบาดเจ็บ”ดิไวตอบด้วยน้ำเสียงกังวล

“เทคคาเมนไนฟ? เธอ? แสดงว่าเทคคาเมนไนฟเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ”

“ใช้ เธอเป็นผู้หญิงตอนนี้ฉันก็สัมผัสได้ว่าเธอกำลังบาดเจ็บหนัก”

“ฝีมือใครล่ะ”

“ถ้าไม่ใช้การ์ดก็น่าจะเป็นพวกราดัม”

“งั้นเหรอ อย่ากังวลมากนักเลยฉันไปกินข้าวเช้าก่อนล่ะ”

เรนพูดจบแล้วลุกขึ้นเดินเข้าบ้านไป  ดิไวยืนกระวนกระวายใจอย่างมากที่สุดแต่ที่จริงแล้วดิไวก็รู้สึกได้ถึงคลื่นชีวิตที่หายไปของการ์ดแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากที่สุดก็คือไนฟที่บาดเจ็บหนัก  ดิไวเดินตามเรนเข้าไปในบ้านก่อนที่จะพยายามสลัดความกังวลไปให้หมด 

สำนักงานสถานีอวกาศ

ยูนิคอร์นที่เข้ามาอยู่ในห้องลับค่อยๆคืนร่างจากร่างเกราะกลับไปเป็นร่างมนุษย์ ร่างชายชราในเสื้อผบ.ร่างกายกำยำแข็งแรงและดูหนุ่มกว่าวัยเล็กน้อยร่างมนุษย์ของยูนิคอร์น

‘พ่อขอโทษ การ์ดพ่อจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อความอยู่รอดของจักรวาล’ชายชราคิดด้วยความเศร้า

ขณะนั้นเองประตูก็เปิดเข้ามาร่างเลขาผอมสูงสวยสาวเดินเข้ามา

“ท่าน ผบ.กาเรเชลค่ะ ท่านผู้บัญชาการสูงสุดของสหพันธ์มาขอพบค่ะ”เลขาพูดขึ้น

“อ่า จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”กาเรเชลพูดขณะจะเดินออกไป

เลขาสังเกตเห็นคราบน้ำตาที่ใบหน้าของกาเรเชลจึงถามขึ้น

“ท่าน ผบ.ร้องไห้?”

“ไม่ต้องถามอะไรมากกลับไปทำงานตัวเองซะ”

“ค..ค่ะ”

กาเรนเชลเดินมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมที่อยู่ถัดไปอีกสี่ห้อง  กาเรนเชลเปิดประตูเข้าไปพบชายชราที่อายุเยอะไม่แพ้เกินคนหนึ่งยืนมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งชายชราคนนั้นรอเขาอยู่

“การที่คุณจัดการเทคคาเมนที่เขามาปั่นป่วนเขตนี้ได้ ก็เป็นเรื่องดีแต่ว่าคุณจะเอายังไงกับพวกราดัม หากพวกมันบุกมาอีกคงไม่มีเทคคาเมนหน้าไหนเข้าต่อต้านพวกมันแน่”ชายชราคนนั้นพูดขึ้น

“ถ้าไม่จัดการพวกเขา มันจะทำให้เกิดความวุ่นวายมากกว่าเก่า เทคคาเมนไนฟก็โดนเล่นงานจนปางตาย ผมจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการพวกเขาไม่เช่นนั้นมันจะเกิดภัยร้ายที่น่ากลัวกว่าราดัมหลายเท่า”กาเรนเชลอธิบายขึ้น

“เทคคาเมนไนฟบาดเจ็บ แถมการใช้ก็อดโวลเทคก้าของเทคคาเมนไนฟก็เท่ากับว่าทำให้พวกราดัมรู้แล้วว่า เทคคาเมนไนฟไม่สามารถที่จะใช้ท่าที่มีพลังที่รุนแรงได้อีกแล้วนั้นก็หมายความว่า ก็อดราดัมต้องถูกคืนชีพขึ้นแน่ แล้วใครจะเป็นคนหยุดพวกมัน!!!”

“มีผมอยู่ทั้งคนจะกลัวอะไร!!!”

“คุณก็แก่แล้วน่ะกาเรนเชล! ไม่สิเทคคาเมนยูนิคอร์น!!”

“ถึงผมจะแก่ ผมก็มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะกำจัดก็อดราดัมเป็นหมื่นๆตัวได้สบาย”

“แต่งานนี้ผมไม่ไว้ใจคุณ”

“ถ้าไม่ใช้ผมแล้วใครจะเป็นคนทำ!!?”

“เทคคาเมนนั้นน่ะ เทคคาเมนเบลดนั้นไง”

“บ้าน่า!! เขายังไม่พร้อมที่จะสู้กับพวกก็อดราดัมหรอกน่ะ!”

“แต่เขาต้องทำ ถ้าเขาเป็นผู้สืบพลังของเบลดตัวจริง เขาต้องทำได้!!”

“เทคคาเมนเบลด ในตอนนี้ถึงจะมีพลังมากกว่าเบลดคนเดิมหลายร้อยเท่าแต่ว่า เขายังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่ไร้ซึ่งประสบการณ์อีกอย่าง จะทำลายก็อดราดัมแต่ละตัวได้ต้องใช้พลังระดับก็อดโวลเทคก้าเท่านั้นและพลังนั้นจะใช้ได้ก็ต้องได้รับแสงอาทิตย์เต็มพิกัด เทคคาเมนเบลดในตอนนี้ก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง!!!”

“หึๆ ขอถามจริงเถอะห่วงภารกิจหรือว่า ห่วง “ลูก” ตัวเองกันแน่”

กาเรนเชลได้แต่ยืนนิ่งและไม่ตอบโต้ความเอาแต่ใจของชายชราคนนั้น  ขณะนั้นเองเลขาก็เดินถือโทรศัพท์มา

“ออกไปก่อนอย่าเพิ่งเข้ามา”กาเรนเชลออกคำสั่ง

“แต่ว่าท่านค่ะ ลูกของท่านโทรมานะค่ะท่านไม่คิดจะคุยกับพวกเขาหน่อยเหรอค่ะ”เลขาพูดเตือน

“....................”

“ไปคุยโทรศัพท์กับลูกๆก่อนไป”ชายชราพูดออกคำสั่ง

กาเรนเชลหยิบโทรศัพท์จากเลขาแล้วเดินออกจากห้องก่อนที่จะยกโทรศัพท์ขึ้นหู

“คุณพ่อค่ะ!! ขอโทษที่โทรมารบกวนนะค่ะแต่มีเรื่องที่อยากจะคุยด้วยจริงๆ”เสียงหนึ่งพูดผ่านโทรศัพท์เสียงของอลิซซาเบธนั้นเอง

“อืม ไม่เป็นไรหรอกมีอะไรก็พูดมาเลย”กาเรนเชลยิ้มมุมปากแล้วพูด

“คือหนูเจอเด็กหนุ่มที่มีหน้าตาคล้ายพี่รองอย่างมากเลยค่ะ”

กาเรนเชลขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมาได้เพราะเขารู้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นรีโวลเขารู้จักรีโวลเป็นอย่างดี

“งั้นเหรอ ถ้าคาดไม่ผิดหนูชวนเขามาอยู่ด้วยใช้ไหม”กาเรนเชลพูดท้าย

“หวา ทายถูกซะด้วยก็น่ะค่ะเขาความจำเสื่อมหนูก็อยากจะช่วยเขา ตอนนี้พี่อัลเดรย์ก็ยังเตะฝุ่นเหมือนเดิมละค่ะ”

“ไม่หรอก อัลเดรย์เขาได้งานแล้วล่ะแต่ไม่ยอมมาเองต่างหาก”

“เห จริงเหรอค่ะแบบนี้พี่กลับมาต้องเล่นให้หนักเลย”

“ไม่ต้องหรอก อลิซซาเบธ พ่อว่าอีกสองวันพ่อจะกลับลงไปเยี่ยมน่ะ”

“จริงเหรอค่ะ!!! พ่อพูดจริงเหรอค่ะ”

“จริงสิ พ่อก็อยากจะเจอพวกลูกๆมากรู้ไหม เอาเป็นว่าพ่อขอตัวไปทำงานก่อนน่ะเป็นเด็กดีล่ะ”

“ค่ะ หนูรักพ่อค่ะ”

กาเรนเชลวางสายแล้วน้ำตาของเขาก็ไหลพรากออกมาขณะนั้นชายชราก็ยืนอยู่ข้างๆแล้ว ชายชราตบไหล่เขาเบาๆแล้วพูดขึ้นเหมือนว่าจะปลอบใจ

“อย่าร้องไห้เลยน่ะ ครอบครัวเทคคาเมนของนายล่มสลายแต่นายยังมีครอบครัวมนุษย์อยู่น่ะ”

“นั้นสิน่ะ การ์ด เบลด พ่อขอโทษน่ะ แต่ว่าผมจะต้องทุ่มเทความผิดพลาดให้ครอบครัวที่ลงเหลือของผมให้ได้!!!”

“แสดงว่า เทคคาเมนการ์ด และเบลด กับลูกมนุษย์ของนายอีกสองก็ต้องเป็นพี่น้องกันสิน่ะ”

“การต่อสู้ของพี่น้องมันใกล้เข้ามาแล้วครับ”กาเรนเชลเช็ดน้ำตาออก

หน้าบ้านของอลิซซาเบธ

อัลเดรย์และรีโวลขนของตามที่สั่งเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน อัลเดรย์กดอ๊อดกริ๊งหนึ่ง แต่ไม่มีใครมาเปิดประตู

“เอ้า ยัยนี้ของก็เยอะขนาดนี้ก็น่าจะรู้ว่าไม่มีเปิด”อัลเดรย์บ่น

“งั้นก็เปิดเขาไปซะเลย”รีโวลวางของลง

รีโวลเปิดประตูเข้าไปทันใดนั้นเอง เค้กก้อนหนึ่งก็โบ๊ะเข้ากลางหน้ารีโวลอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ะ!!!!!!”อัลเดรย์ตกใจ

“อ้าว ไม่ใช้พี่อัลเดรย์นี้”เสียงเด็กหญิงที่เป็นคนโบ๊ะเค้กใส่หน้าพูดขึ้น

อลิซซาเบธรีบถือทิชชู่แล้วดิ่งเข้ามาเช็ดหน้าให้รีโวลทันที เด็กหญิงผอมสูงผมยาวทวินเทลยืนเกาหัวแกร๊กๆ

2 นาทีต่อมา

“อ่อ อย่างนี้นี้เองวันนี้วันเกิดพี่ก็เลยจะเซอไพรส์พี่น่ะเหรอ”อัลเดรย์พูดขึ้น

ทั้งสี่นั่งอยู่บนโซฟา รีโวลที่เพิ่งเช็ดเค้กออกจากหน้าไปก็กำลังใช้ผ้าขนหนูซับน้ำล้างหน้า เด็กหญิงจ้องมองรีโวลที่กำลังเช็ดหน้าอยู่ตาไม่กระพริบ

“คิดอะไรอยู่น่ะ”อลิซซาเบธใช้ศอกสะกิดถาม

“อะ..เอ่อ....พี่คนนั้นใช้คนที่เธอเล่าให้ฟังหรือเปล่าอลิซซาเบธ”เด็กหญิงถามด้วยอาการล้นลาน

“ก็ใช้น่ะสิ อ่อลืมแนะนำให้รีโวลรู้จัก เพื่อนฉันคนนี้ชื่อ เนน่า”

“ค..ค่ะ!! เนน่ายินดีที่ได้รู้จักค่ะ!!”เด็กหญิงที่ชื่อเนน่าแนะนำตัวด้วยอาการล้นลาน

“งั้นเหรอ ยินดีที่ได้รู้จักน่ะ”รีโวลพูดขึ้น

เนน่าหน้าแดงทำตัวไม่ถูก แต่อลิซซาเบธก็พูดตัดบทขึ้น

“พี่ค่ะอีกสองวันนี้พ่อจะกลับมานะค่ะ”

“อ้าวงั้นเหรอ งั้นก็ต้องเก็บบ้านครั้งใหญ่ล่ะสิ เอาเป็นว่าทำงานกันให้เสร็จๆน่ะฉันจะไปเก็บบ้านก่อนล่ะ”อัลเดรย์พูดจบก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วตรงไปชั้นบน

“คุณพ่อเหรอ??”รีโวลพูดพลางกุมขมับหัว

“อืม คุณพ่อท่านเป็นคนใจดีมากเลยน่ะ”อลิซซเบธที่กำลังแกะสมุดรายงานพูดขึ้น

‘ทำไหมพอเราได้ยินคำว่า คุณพ่อ แล้วมันเจ็บหัวแปลกๆ’

เนน่ากำลังหยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋า แต่หยิบด้วยอาการล้นลานจนทำหนังสือหล่นลงพื้น เนน่ากำลังก้มลงไปเก็บแต่รีโวลก็เก็บให้แทนแล้วยืนให้

“เอาไปสิ”รีโวลพูดด้วยน้ำเสียงปกติ

เนน่าหน้าแดงทันทีถึงรีโวลจะพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่น้ำเสียงที่ตัวเนน่าเองได้ยิน เป็นน้ำเสียงที่สุภาพชวนให้หลงไหลเนน่าหยิบหนังสือมาแล้วรีบทำท่าอ่านปิดหน้าทันที

บนดาวลึกลับ

ตัวดวงดาวถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังบางอย่างทำให้ตัวดาวอยู่ในสภาพล่องหนและสามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางได้ทั่วดาวถูกปกคลุมไปด้วยหมอกเมฆสิ่งดำพื้นดินแห้งแล้ง และเต็มไปด้วยไข่ของราดัมจำนวนมาก แต่ก็ยังมีหอคอยขนาดใหญ่ที่สูงมโหราฬตั้งตระหง่าอยู่ท่ามกลางไข่ของราดัมจำนวนมาก

“เทคคาเมนการ์ด เทคคาเมนมาสเตอร์ เทคคาเมนไนท์ และเทคคาเมนโบว โดนกำราบไปแล้วสิน่ะ”หญิงสาวผมบลอนยาวในเสื้อสีขาวยืนบนหอคอยพูดขึ้น

“น่าเจ็บใจจริงทั้งๆที่เราได้พวกมันมาเป็นพวกแล้ว  แล้วการที่พวกมันทำลายไข่ของพวกเราล็อตแรกก็จะทำให้พวกมนุษย์ปักใจเชื่อว่าพวกมันอาละวาดเอง และถ้าพวกมันอยู่ราดัมก็จะบุกโลกได้ยาก แต่แผนนั้นก็โดนทำลาย”ชายหนุ่มผมยาวดำในเสื้อสีดำพูดขึ้นด้วยความโมโห

“แต่ว่าก็ดีแล้วนี้ ด้วยคำสาปของท่านผู้ปกครองสูงสุดทำให้เทคคาเมนการ์ด เป็นอมตะไม่มีวันตายนอกจากจะถูกขาดด้วยน้ำมือของเทคคาเมนเบลด และตอนนี้พวกมันทั้งสองก็ได้เจอกันแล้วการที่จะแยกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกจากกัน ก็เป็นสิ่งที่สมควรจะทำมาก”

“เพราะทั้งสองเป็นพี่น้องกันงั้นเหรอ มันไร้เหตุผลไปมั้ง!!!”

“ไม่ใช้ ที่รู้ๆกันอยู่ก็คือฝีมือของทั้งสองแตกต่างกันมากเทคคาเมนการ์ดไม่มีทางสู้เทคคาเมนเบลดที่มีฝีมือสูงกว่าได้แน่นอนและเมื่อถึงเวลาที่เทคคาเมนเบลดฆ่าเทคคาเมนการ์ดไปแล้ว ความโกรธแค้นของมันก็จะเพิ่มมากขึ้นและมันก็จะสามารถปลดปล่อยร่างที่ทรงพลังนั้นออกมาได้”

“บลาสเตอร์ ร่างบ้านั้นน่ะเหรอ”

ขณะนั้นเองสายลมก็พัดผ่านทั้งสองอย่างรุนแรงไข่จำนวนสองใบที่อยู่ข้างล่างก็ค่อยๆฝักออกราดัมที่มีสองขา มีแขนสี่แขนดวงตาแปดตา

“โอ ฝักออกมาแล้วเหรอ อาซูร่าราดัมทั้งสอง”ชายหนุ่มพูดขึ้น

“จงฟัง!!!! อาซูร่าราดัม!!! จงนำไข่ของราดัมทั้งหมดไปที่โลกและออกอาละวาดให้มันวอดวาย!!”หญิงสาวออกคำสั่ง

อาซูร่าราดัมทั้งสองกางปีกออกแล้วบินออกไปจากดวงดาว และไข่เกือบทั้งหมดของบริเวณก็โดนคลื่นพลังของอาซูร่าราดัมทั้งสองดึงลากออกไปจากดวงดาวด้วย

“Tek-Setter!!!!!!!”ชายและหญิงทั้งสองตะโกน

ร่างของหญิงสาวผมม้วนเข้าหากันและขยายออกล้อมร่างของหญิงสาวไว้แล้วเปล่งประกายแสงสีเขียวออกมาผมทั้งหมดรวมเข้ากับร่างกายของหญิงสาวแล้วกลายเป็นเกราะสีทองทั่วร่าง ผมยาวสีบลอนเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินยาว

“Tekkamen Queen!!!”หญิงสาวกลายร่างเป็นเทคคาเมน ควีน

ลมสีดำพัดปกคลุ่มร่างชายหนุ่มจนมืดมิดแล้วเปล่งประกายแสงสีเขียวออกมา ลมสีดำรวมเข้ากับตัวของชายหนุ่มกลายเป็นเกราะสีดำทมิฬ

“Tekkamen King!!!!!”ชายหนุ่มกลายร่างเป็นเทคคาเมนคิง

ควีนและคิงยืนมองไปยังกลุ่มเมฆดำที่เริ่มมีสายฟ้าแลบและสายฟ้าผ่าเกิดขึ้นเรื่อยๆ  เปรี้ยง!!!! สายฟ้าผ่าลงกลางไข่ราดัมลูกหนึ่งทำให้ตัวไข่  ดูดซึมพลังสายฟ้า

“หึๆ ท่านผู้ปกครองสูงสุดเลือกไข่แล้วสิน่ะ”ควีนพูดออกมา

“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม อาซูร่าราดัมที่พ่ายแพ้กลับมาจะต้องเป็นอาหารให้แก่ ก๊อดราดัม  ฮ่าๆ!!!!”คิงพูดและหัวเราะออกมา

บนโลก

ดิไวยืนมองท้องฟ้าที่เริ่มครึมและทำท่าว่าฝนจะตก ขณะนั้นเรนที่กำลังเก็บผ้าอยู่เห็นดิไวยืนมองท้องฟ้าด้วยท่าทางกังวลจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย

“เป็นอะไรไปเหรอ ดิไว”

“บรรยากาศแบบนี้ มีลางสังหรณ์ไม่ดีเลย”ดิไวตอบด้วยน้ำเสียงกังวล

“ลางสังหรณ์เหรอ? ช่างเถอะตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลย”เรนยกผ้าเข้าไปกองไว้ในห้องเก็บผ้าข้างๆ

ทันใดนั้นเองก็ปรากฏว่ามีบางอย่างจำนวนหนึ่งกำลังพุ่งลงมาจากชั้นบรรยากาศมุ่งลงพื้น ดิไวรีบบินตามไปที่สิ่งนั้นทันที

“เห้!!! รอกันก่อนสิ!!!!”เรนตะโกนตาม

เรนหยิบดาบคานตานะที่วางพิงต้นไม้ไว้แล้วรีบวิ่งตามดิไวไปทันที หากเป็นคนธรรมดาก็คงจะวิ่งตามไม่ทันแต่เรนฝึกฝนทุกอย่างจากดิไวมาอย่างดีจึงสามารถวิ่งได้เร็ว และพอที่จะตามการบินของดิไวทันได้

บ้านของอลิซซาเบธ

รีโวลที่กำลังถูพื้นด้านบนของบ้านสัมผัสถึงบางอย่างได้และวิ่งลงไปด้านล่างของบ้านทันที

“อ้าว จะไปไหนเหรอรีโวล”อลิซซาเบธถาม

รีโวลไม่ตอบแต่เปิดประตูออกไปแล้ววิ่งไปหน้าบ้านแล้วชูคริสตัลสีเขียวขึ้น

“Tek-Setter!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

ร่างของรีโวลเปลี่ยนไปเป็นร่างเทคคาเมนเบลด  เบลดพุ่งตัวบินขึ้นท้องฟ้าไป

“อะไรของเขา”อลิซซาเบธงงๆ

อลิซซาเบธหันไปมองเนน่า  เนน่ามีสีหน้าซีดผอมเหมือนจะตกใจที่เห็นรีโวลใช้เทคเซ็ตเตอร์

ด้านหนึ่ง

อาซูร่าราดัมสองตัว ยืนอยู่ท่ามกลางความพินาศของทั่วบริเวณขณะนั้นเองไข่ของราดัมจำนวนมากก็ฝักออกมาเป็นราดัมสี่ขาจำนวนมาก เข้าทำลายทุกอย่างโดยรอบ

“เฮือกๆ ฮ่าๆ”อาซูร่าราดัมอ้าปากที่เรืองแสงสีน้ำเงิน หัวเราะออกมา

ทันใดนั้นเองราดัมสี่ขาจำนวนห้าตัวก็ถูกตัดแยกชิ้นส่วนออกเป็นชิ้นๆ อาซูร่าราดัมทั้งสองหันไปมองทันที ปรากฏร่างดิไวที่ใช้เทคซอร์ดฟาดตัดร่างของราดัมสี่ขาหลายตัวที่กรูกันเข้าหา  อาซูร่าราดัมตัวแรกพุ่งเข้าหาดิไวทันทีแล้วฟาดดาบใส่ดิไว แต่ดิไวใช้เทคซอร์ดกันไว้ได้ทัน แล้วปัดดาบของอาซูร่าราดัมหลุดออกก่อนที่จะถีบตัวออกจากระยะของอาซูร่าราดัม แต่ทันใด ราดัมสี่ขาสองตัวก็ปล่อยเชือกรัดแขนและขาของดิไวไว้

“อึก!! แย่ละสิ!!!!”ดิไวตกใจ

ฉัวะ!!! ร่างของราดัมสี่ขาขาดออกเป็นสองท่อนและเชือกที่รัดแขนและขาของดิไวก็ถูกตัดออก

“เรน!!!!”ดิไวมองไปยังเจ้าของเพลงดาบ

เรนที่ถือดาบคานตานะที่อาบเลือดยืนหอบๆ กำลังมองมาที่ตัวดิไวอย่างคาดหวัง

“ไปซะสิ พวกลูกกระจ๊อกฉันจะจัดการเอง”เรนพูดขึ้น

“แต่พวกราดัมสี่ขามันก็ยากเกินไปสำหรับมนุษย์น่ะ!!!”ดิไวทักท้วง

“หรือนายดูถูกนักเรียนของนาย”เรนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“ก็ได้”

ดิไวถือดาบเทคซอร์ดมั่นแล้วพุ่งเข้าหา อาซูร่าราดัมทั้งสองตัว เรนหันไปฟันดาบคานตานะตัดร่างของราดัมสี่ขาที่กระโจนเข้ามาแยกออกเป็นสองชิ้น เรนวิ่งเข้าหาราดัมสี่ขาสองตัวที่กำลังวิ่งเข้ามาหาแล้วฟาดดาบคานตานะตัดร่างของราดัมสี่ขาทั้งสองตัวทันทีก่อนที่มันจะกระโจนเข้าหาตัวเธอ

‘ระวังตัวด้วย เรน!!!’

ดิไวฟาดเทคซอร์ดใส่อาซูร่าราดัม แต่อาซูร่าราดัมก็ใช้ดาบรับไว้ได้ทันใดอาซูร่าราดัมอีกตัวก็ฟาดดาบใส่ร่างของดิไวทันที ฉัวะ!!! เลือดของดิไวกระเด็นออกมาจากร่าง

“อ๊อก!!!!”ดิไวกระอั่ก

ดิไวปัดดาบของอาซูร่าราดัมตัวแรกออกแล้วหันไปต่อยอาซูร่าราดัมอีกตัวกระเด็นไป แต่ทันใดอาซูร่าราดัมตัวแรกก็กำลังจะฟาดดาบตัดคอของดิไว

“ไม่ทันแล้ว!!!!!”ดิไวพูดด้วยความตกใจ

“ดิไว!!!!!!!”เรนตกใจ

ฉัวะ!!!!! แขนที่กำลังจะตัดคอของดิไวขาดออกทันที เลือดกระฉูดออกมาจากแขนข้างนั้นของอาซูร่าราดัมและทันทีมันโดนลูกเตะหนึ่งถีบกระเด็นไปชนกับอีกตัวที่กำลังจะลุกขึ้น แล้วปรากฏร่างของเบลดที่ถือดาบอยู่

“เบลด!!”

“ดิไว ไม่คิดว่าจะเจอนายที่นี้”เบลดทักขึ้น

“อ่า ยังไงก็ตามตอนนี้ก็คงต้องแยกจัดการคนละตัวล่ะ”

“เป็นความคิดที่ดี แล้วเด็กสาวที่กำลังจัดการพวกราดัมสี่ขานั้นล่ะ”

“เธอชื่อเรน เธอขอให้ฉันฝึกเธอให้มีจิตวิญญาญและจิตใจเหมือนเทคคาเมน”

ขณะนั้นเองอาซูร่าราดัมทั้งสองตัวก็วิ่งเข้าหาเบลด และดิไว เบลดเปล่งลำแสงสีเขียวไปที่ดาบที่ตัวเองถือแล้วเปลี่ยนรูปร่างดาบให้กลายเป็นดาบคมเดียว

“ไลท์เบลด!!!!”เบลดตะโกน

ดาบสองคมเปลี่ยนเป็นดาบคมเดียวไลท์เบลด แล้วเบลดก็พุ่งเข้าหาอาซูร่าราดัมอีกตัว ดิไวก็พุ่งเข้าหาอาซูร่าราดัมอีกตัวแล้วฟาดเทคซอร์ดตัดสี่แขนหลังของมันออก แล้วหมุนตัวเตะคว่างสว่านใส่ตัวอซูร่าราดัมตัวนั้น

“อ๊อก!!!!!!!!!!!!!!!!”อาซูร่าราดัมตัวนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ดิไวถีบตัวอาซูร่าราดัมเพื่อดีดตัวออกมาแล้ว รวบร่วมพลังไปที่ตัวเทคซอร์ดจนกลายเป็นออร่าสีเขียวครอบตัวดาบไว้

“ไฮเปอร์ซอร์ด!!!!!!!!!!!!!!”ดิไวตะโกน

ดิไวฟาดดาบที่มีพลังรุนแรงและยาวออกมาด้วยออร่าสีเขียวตัดร่าของอาซูร่าราดัมตัวนั้นจนขาดออกเป็นสองท่อนและเลือดของมันพุ่งกระฉูด

ด้านเบลด

เบลดหลบการโจมตีทั้งหมดของอาซูร่าราดัมได้ แล้วฟาดไลท์เบลดตัดขาของมัน แล้วตวัดไปฟันตัดข้างที่เหลือของมันอาซูร่าราดัมทรุดตัวลงกับพื้นเบลดใช้เท้าเตะตัวของอาซูร่าราดัมกระเด็นขึ้นฟ้า แล้วบินพุ่งตามไป เบลดฟาดดาบตัดร่าของอาซูร่าราดัมตัวนั้นขาดออกเป็นสองท่อนจากแนวตรงทันที ร่างของมันร่วงกระแทกกับพื้นแล้วร่างของมันก็เละเป็นชิ้นๆ  เบลดและดิไวบินไปประกบเรนที่กำลังหอบอยู่ทันที

“ดิไว”เรนพูดด้วยน้ำเสียงหอบๆ

“สำเร็จแล้ว ฆ่าตัวการมันได้แล้วทีเหลือพวกนี้มันคงจะหนีกลับไปเอง”ดิไวพูด

แต่ทันใดนั้นเองร่างของอาซูร่าราดัมทั้งสองที่ขาดออกก็ลอยขึ้นเหนือฟ้าแล้วเปล่งประกายออร่าสีฟ้าออกมาแล้วดูดราดัมสี่ขาทั้งหมดเข้าไปที่ชิ้นส่วนของพวกมัน

“อึก!!!! อะไรกัน!!”เรนตกใจ

“แบบนี้หรือว่า!!!!”ดิไวตื่นตระหนก

“พวกมันจะรวมร่างกัน!!!!”เบลดพูดด้วยอาการตกใจ

เศษชิ้นส่วนที่ดูดกลืนราดัมสี่ขาไปจนหมดก็เข้าร่วมกันแล้วกลายเป็นร่างที่สูง 10 เมตรมีแปดแขนสี่ขาสองหัวตาสิบหกตา

“ฮว้าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!”ร่างนั้นร้องออกมาด้วยเสียงชวนสยอง

“นั้นมัน!!! เกรทราดัม!!!”ดิไวพูด้วยความตกใจ

ทันใดนั้นเอง

“Tek-Setter!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น

หลังจากเสียงหายไปก็ปรากฏร่างเทคคาเมนพุ่งมาอยู่ข้างๆดิไวและเบลด เทคคาเมนไนฟ

“ไนฟ!!!”เบลดและดิไวพูดด้วยความดีใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา