Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  54.52K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

57) ...Behind the Shadow...(3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

================================================

 

 

 

         ...มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่คนๆ นึงจะหาญกล้าสู้ตัวต่อตัวกับผู้ใช้ราชศาสตราคนนึงได้โดยไม่เสียเปรียบ...ยิ่งเมื่อผู้ใช้ราชศาสตราที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมีเจตนาจะฆ่าเขาโดยตรงด้วยยิ่งแล้วใหญ่...มันไม่ต่างอะไรจากการที่สามัญชนคนนึง หาญกล้าต่อต้านราชาที่อยู่สูงเกินเอื้อมเลยแม้แต่น้อย...แต่สำหรับเรย์ลาลีน นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติที่ มนุษย์  ยืนหยัดต่อต้าน ราชา  ได้อย่างภาคภูมิ...

 

         ...เรย์ลาลีนสร้างหอกสายลมสลักอักขระโบราณระดับ 9 ที่เขาไม่เคยนึกฝันว่าเขาจะสามารถทำได้ในชั่วชีวิตนี้ขึ้นมาบนมือซ้ายซึ่งเป็นข้างที่เขาถนัด ก่อนที่มืออีกข้างจะเสกศรสายลมรูปลักษณ์แปลกๆ นับ 20 ดอกระดมยิงเข้าใส่คลาเดียโดยอาศัยความเร็วของตัวเองไม่ยอมเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายตอบโต้กลับมาเลย...หลังจากที่เขา ตื่น  จากสภาพ OverDrive  นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่...ผลของการกรุยทะลวงเส้นเดินพลังเวทย์ของ OverDrive  ทำให้การส่งผ่านพลังจากอณูเวทย์รอบตัวสู่ร่างกายของเขา และจากร่างกายของเขาสู่แหวนนำเวทย์เพื่อแปรสภาพเป็นเวทย์บทนึงเป็นไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วจนอาจจะพูดได้ว่าเขาในตอนนี้ต่างตัวเขาเมื่อครั้งก่อน ตื่น  จนแทบจะกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว!...

 

         ...แต่อีกฝ่ายก็ไม่ใช่หมูในอวย ต่อให้เป็นในยามปรกติคลาเดียก็ถือเป็นผู้ใช้ ธาตุสายลม  ที่เก่งจนหาตัวจับได้ยากอยู่แล้ว...รูปแบบพลังจิต ก้าวพริบตา  ของเธอเมื่อถูกใช้อย่างต่อเนื่องก็ไม่ต่างจากการแยกร่างมาสู้เลยทีเดียว  เมื่อรวมกับราชศาสตราที่มีพลังอำนาจในการโจมตีที่ทะลุทะลวงเกราะป้องกันทุกรูปแบบ(เท่าที่เขารู้ในเบื้องต้น) บวกกับการโจมตีชนิดคิดฆ่าของเธอ...มันทำให้เธอเป็นตัวอันตรายระดับสุดยอดของสุดยอดที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ ชนิดที่การเผชิญหน้ากับเชรีน่าในครั้งแรกที่เขาว่า มหาโหด + โคตรลำเค็ญ ที่สุดนี่กลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปเลย... 

 

          " เคยคิดบ้างไหมว่าเราทั้งคู่ไม่ควรจะเดินมาถึงจุด...ถ้าเพียงแค่นายเข้าใจความรู้สึกของฉันแม้ซักเพียงเล็กน้อย "  หลังจากใช้เคียวปัดห่าศรสายลมที่ถูกระดมยิงมาจากจอมเวทย์หนุ่มตรงหน้า คลาเดียก็เปรยเบาๆ เหมือนจะเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง แม้รูปแบบและน้ำเสียงของบทสนทนาจะขัดกับการลงเคียวแต่ละครั้งที่คิดฆ่าอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิงก็ตามที

 

          " ฉันบอกแล้ว และยินดีจะบอกอีกครั้งว่าเราไม่มี ความรู้สึก  อะไรร่วมกันเลย! "  จอมเวทย์หนุ่มคำรามพร้อมกับใช้หอกสายลมระดับ 9 ในมือปัดเคียวออกโดยเขาเลือกปัดที่บริเวณด้านข้างของเคียวแทนที่จะปัดบริเวณคมที่เขารู้ดีว่าเปล่าประโยชน์เพราะความสามารถ DeadLine  ของอาวุธอีกฝ่าย ซึ่งเป็นการกระทำที่ฉลาดที่สุดจนคลาเดียเองยังต้องรู้สึกทึ่ง เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ยังคิดวิธีรับมือแบบนี้ไม่ออกเลยด้วยซ้ำ

 

          " นายเป็นทหาร ฉันเป็นทหาร ...นายเป็นห่วงชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชา ฉันก็เป็นห่วงคนของฉันไม่แพ้กัน ...นายยอมพลิกหินทุกก้อน ร่อนทรายทั้งชายหาด ทำทุกอย่างเพื่อให้ฝ่ายของนายชนะ ...ฉัน ...ไม่ต้องให้ฉันพูดต่อใช่ไหม?  ให้ตายสิ เรย์ฯ พูดตามตรงนะ ฉันแยกเราทั้งคู่ไม่ออกด้วยซ้ำ "  เธอเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีเป็นการใช้เคียวปักพื้นสร้างหนามแหลมสีดำทะลุพื้นขึ้นมาโจมตีอีกฝ่าย จนเรย์ลาลีนต้องกระโดดหลบตัวลอย 

 

          " ถ้านี่มันเป็นปัญหาที่ยากเกินไปสำหรับเธอ ฉันเฉลยให้ฟังก็ได้...สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างกันคือฉันไม่ยอมทำทุกอย่างอย่างหน้ามืดตามัวแม้กระทั่งขายวิญญาณให้กับปิศาจแบบเธอไงล่ะ!! "  หลังจากกระโดดหลบหนามสีดำรูปร่างน่ากลัวๆ นั่นอยู่ซักพัก เขาก็ไม่ยอมออมพลังจนตกเป็นเบี้ยล่างอีกต่อไป  เขาปักสุดยอดหอกสายลมในมือลงพื้นเปรี้ยง! สร้างคลื่นอัดกระแทกจนกระทั่งหนามแหลมสีดำที่ตามแทงเขาอยู่แตกสลายไปราวกับเศษแก้วไม่มีผิด

 

          " แหม่ เปรียบเปรยซะเห็นภาพเลยนะ ...เอาเถอะ...นายจะโกหกฉัน จะโกหกใครก็โกหกได้...แต่ฉันอยากให้นายลองทิ้งอคติไปซะแล้วลองคิดดีๆ อีกครั้งนึง...ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าคำตอบของนายจะยังเหมือนเดิมอยู่อีกไหม? "

 

            เรย์ลาลีนคำรามลั่นอีกครั้ง เขาเลือกที่จะระดมโจมตีอีกฝ่ายด้วยเวทย์ทุกบทเท่าที่เขานึกออกอีกครั้ง ...ใช่แล้ว...ถ้าให้คิดอย่างปลอดอคติอีกครั้ง เขาก็ยังไม่แน่ใจในคำตอบของตัวเองที่พึ่งตอบไปเลยด้วยซ้ำ

 

          " คิกๆๆๆ เห็นไหมล่ะ? ...ฉันพูดจริงๆ นะ เรย์ฯ ...ฝั่งของฉันยังมีที่ว่างสำหรับนายอยู่เสมอ "

 

          " นี่ เธอ!! "

 

            อยู่ๆ หญิงสาวก็ลดจิตคุกคามลงจนแทบไม่เหลือพร้อมกับยกมือเป็นเชิงบอกให้เขาหยุด   ซึ่งแม้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันแต่ที่ตลกก็คือตัวเรย์ลาลีนเองก็ดันบ้าจี้หยุดตามที่อีกฝ่ายสั่งจริงๆ น่ะสิ

 

          " คราวนี้คิดจะเล่นตลกอะไรอีกล่ะ! "  ไม่ใช่ว่าเขาโง่หรืออะไหรอกนะ...ไม่สิ จะว่าโง่ก็ได้ แต่เขาเองก็ยังหวังอยู่ลึกๆ ว่าจะยังสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการพูดคุยอยู่ดี

 

          " เอาน่าๆ เรามีเวลาฆ่ากันอีกเยอะ แค่พักคุยกันซัก 2-3 นาทีจะเป็นอะไรไปอีก "

 

          " ... "  จอมเวทย์หนุ่มไม่ตอบโต้ เขาเพียงแค่ขมวดคิ้วและเดินวนไปรอบๆ โดยไม่ยอมลดจิตคุกคามลงเท่านั้น ถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้จริงๆ ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็พยายามบอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายปั่นหัวเล่นง่ายๆ อีกต่อไป ...ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริงเขาก็ไขว้เขวทุกครั้งอยู่ดีนั่นแหละ

 

            คลาเดียเจตนาทิ้งจังหวะเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายพร้อมจะรับฟังเธออย่างเต็มที่ เธอเดินวนไปรอบๆ ตัวจอมเวทย์หนุ่ม 2-3 รอบ ก่อนจะเริ่มต้นพูดเบาๆ

 

          " ก่อนจะเริ่มฆ่ากันอีกครั้ง ...ฉันอยากจะให้นายรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่พวก...เห็นแก่ตัว...พวกนี้ซ่อนไว้ใต้ตึก "

 

          " โบราณวัตถุ? "

 

          " อ้อ  พวกนั้นเรียกกันอย่างงั้นหรอกเหรอ ...เอาเถอะ  ชื่อจริงๆ ของมันคือ นาฬิกาทราย แห่ง ดาราลาน "

 

          " น ...นาฬิกาทรายแห่ง ดาราลาน ?! ...โกหก! นาฬกาทรายแห่งดาราลาน เป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้น! มันเป็นตำนานที่ไม่มีอยู่จริง!! "  เรย์ลาลีนตะโกนตอบเสียงดังลั่นโดยแทบไม่ต้องคิด

 

         ...สำหรับผู้ที่อยู่ในแวดวงเวทย์มนตร์ ต่อให้เป็นเด็กที่พึ่งหัดใช้เวทย์มนตร์ก็ต้องเคยได้ยินไอเท็มในตำนานที่มีชื่อว่า นาฬิกาทรายแห่ง ดาราลาน  กันทั้งนั้น...เพราะมันคือไอเท็มที่บรรจุเวทย์ชนิดพิเศษที่สุดไว้อย่างเต็มเปี่ยม...

 

             เวทย์มนตร์สายกาลเวลา

 

             สำหรับผู้ใช้เวทย์มนตร์ นาฬิกาทรายแห่งดาราลานเป็นเหมือนกับจอกศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนเพียรพยายามค้นหามาหลายสิบชั่วอายุคน เพราะนั้นหมายถึงพลังอำนาจที่ไร้การต่อกรและข้อโต้แย้งในทุกๆ ประการ...เวทย์สายกาลเวลาเป็นสายเวทย์ที่อยู่เหนือกว่าเวทย์สายธาตุทั้งหมดทั้งมวล ไม่เว้นแม้แต่ ธาตุแสง  ซึ่งเป็นธาตุที่พิเศษที่สุด เพราะผู้ครอบครองเวทย์สายนี้หมายถึงความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและบิดเบือนการไหลของ มิติเวลา  ได้ตามใจชอบ!   

 

             จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ความสามารถทั้งมวลของ นาฬิกาทรายแห่งดาราลาน  ทำให้เรย์ลาลีนเลือกที่จะเชื่ออย่างไร้ข้อกังขาว่าไอเท็มดังกล่าวเป็นเพียงแค่ตำนานหลอกเด็กที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ เป็นเพียงแค่ตำนานงี่เง่าที่หลอกให้คนที่เชื่อมันเสียเวลาทั้งชีวิตในการค้นหาเท่านั้น...เพราะถ้าหากเรื่องนี้เป็นจริง...ความสามารถของผู้ที่ครอบครองไอเท็มชิ้นนี้จะทำลายสมดุลของสงครามทุกสงครามบนโลกนี้ไปเลย ต่อให้ผู้ครอบครองจะเป็นเด็กที่พึ่งหัดใช้เวทย์เพื่อจุดไฟได้ก็ตาม!

 

          " คิกๆ รู้อะไรไหม นายนี่มันไม่มีศรัทธากับความโรแมนติกเอาซะเลย "

 

          " ระหว่างเราสองคน ผมคิดว่าผมเป็นคนเดียวที่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง ศรัทธา กับ งมงาย นะ "

 

            คลาเดียหัวเราะร่วนกับคำตอบที่เจ็บแสบของอีกฝ่ายอย่างไม่ถือสาก่อนจะเริ่มต้นพูดต่ออีกครั้ง

 

          " เอาเป็นว่าฉันทำการบ้านมาพอสมควรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรย์ฯ ...ฉัมีหลักฐานที่เชื่อถือได้มากพอจะพิสูจน์ได้ว่าไอเท็มนี่ถูกซ่อนไว้ใต้ตึกบ้านี้ด้วยฝีมือของประธานาธิบดีริชาร์ดแห่งวัลคาไนท์ ...ลองคิดดูซี่ เรย์ฯ ...พลังอำนาจที่เพียงพอจะรวมโลกเป็นหนึ่งเดียวไว้ในมือ ...นายคงจะไม่โกหกฉันว่านายไม่สนใจมัน ...เรย์ฯ "  คลาเดียพูดพลางขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับโปรยเสน่ห์มารยาของเธอใส่ด้วยการลูบเบาๆ เข้าที่แก้มของจอมเวทย์หนุ่ม ซึ่งอีกฝ่ายก็โยกหัวหลบทันทีอย่างระแวง เธอหัวเราะอย่างยั่วเย้าก่อนจะพูดต่อ

 

          " อำนาจ...เงินตรา...ยศฐา......และนารี...ผู้ชายทุกคนยอมทุ่มแททั้งชีวิตเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง...แม้เพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ตามที "

 

            เรย์ลาลีนไม่ยอมให้อีกฝ่ายปั่นหัวเขาเล่นอีกต่อไป เขากระโดดทิ้งระยะออกมาไกล 2-3 เท่าตัวพร้อมกับคำรามลั่น

 

          "พอได้แล้ว!! ด้วยอำนาจแห่ง ผู้สำเร็จห้วงคำนึงแห่งสายลม  ข้าฯขอผนึกเจ้าไว้ชั่วกัปกัลป์ ...โลงเย็นนิรันดร์ !! "  เขาร่ายเวทย์ที่เลียนแบบเวทย์ โลงเย็นนิรันดร์  ของเชรีน่าออกมา เพียงแต่ใช้ธาตุลมซึ่งเป็นธาตุประจำตัวของเขาในการร่ายแทน...จริงอยู่ว่าความเชี่ยวชาญของเขาเกี่ยวกับเวทย์บทนี้ต่างจากเชรีน่าซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดเวทย์บทนี้ขึ้นมาอย่างเทียบไม่ติด อีกทั้งธาตุสายลมเป็นธาตุสายโจมตีทางกายภาพด้วยความแหลมคม ไม่ใช่ธาตุที่เหมาะสำหรับการผนึกอย่างธาตุน้ำแข็ง  แถมนี่เป็นครั้งแรกที่เขาลองใช้ทำให้เขาได้แต่หวังว่าเวทย์ของเขาจะแสดงผลแบบเดียวกับของเชรีน่า

 

            แต่แล้วเขาก็ได้เรียนรู้ถึงขอเสียของการใช้เวทย์ที่เลียนแบบหรือประดิษฐ์ขึ้นมาแบบด้นสด แถมยังเปลี่ยนแปลงธาตุพื้นฐานที่เหมาะสมของเวทย์บทนี้อีก  จากเวทย์ที่ควรจะพุ่งเข้าไปแช่แข็งอีกฝ่ายทันทีโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถป้องกันได้ กระแสเวทย์ที่เรย์ลาลีนพึ่งร่ายออกไปกลับม้วนตัวเป็นเกลียวสายลมอันแหลมคม ม้วนวนพุ่งเข้าใส่คลาเดียครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับอสรพิษที่คลุ้มคลั่ง แถมยังตามติดอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละแม้ว่าคลาเดียจะพยายามกระโดดเปลี่ยนตำแหน่งไปมาแล้วก็ตามที

 

           ' ค...ความสามารถเดียวที่เลียนแบบมาจาก โลงเย็นนิรันดร์  ของเชรีน่าได้คือการติดตามเป้าหมายจนกว่าเวทย์จะสัมฤทธิ์ผลสินะ '  จอมเวทย์หนุ่มคิดอย่างเหงื่อตก เพราะงานนี้จะบอกว่าเวทย์ที่เขาใช้มันเสียของก็ไม่ได้ซะด้วย แม้ว่าจะผิดไปจากที่เขาจินตนาการไว้แบบสุดกู่ก็ตามที

 

          ' แบบนี้ถ้ายัยพี่เชรีน่ารู้มีหวังได้โดนด่าเปิงแหงๆ เลยแฮะ '

 

            หลังจากทุ่มเทพลังทั้งหมดในการหลบหลีกเวทย์ประหลาดๆ ของอีกฝ่ายซักพัก คลาเดียก็พอจะเดาออกว่าเวทย์บทนี้ไม่ใช่เวทย์ที่มีไว้สำหรับหลบ เธอคำรามอย่างหงุดหงิดพร้อมกับเร่งพลังใส่เคียวในมือ  พริบตาต่อมาส่วนคมเคียวก็เปล่งออร่าสีดำชวนขนหัวลุกอันแสดงถึงระดับพลังระดับไม่ใช่น้อยๆ ที่เธอประจุลงไป ก่อนที่เธอจะฟาดใส่กระแสลมวนของอีกฝ่ายอย่างแรงชนิดที่กะจะให้แหลกทั้งเวทย์บทนี้ทั้งพื้นหินอ่อนที่ปูทั่วทั้งพื้นห้องโถงนี่เลยทีเดียว

 

            เพียงแต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หญิงสาวคิดเสมอไป เพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ปลายคมเคียวจะเสียบใส่เพื่อทำลายกระแสลมหมุนประหลาดๆ นั่น กระแสลมหมุนอันคมกริบนั้นก็แยกออกเป็น 2 ส่วน หลบคมเคียวนั่น ก่อนที่ปลาย 2 ด้านจะวกเข้าโจมตีเธออย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่อาจป้องกันได้อีกต่อไป!

 

            เรย์ลาลีนผู้เป็นเจ้าของเวทย์มนตร์บทนี้ยังถึงกับต้องเบิกตากว้างอ้าปากค้างอย่างตื่นตะลึง เพราะเขาพึ่งรู้ตัวว่าเขาเข้าใจผิดไปอย่างหนึ่ง...เวทย์ด้นสดบทนี้ไม่ได้เลียนแบบแค่ความสามารถด้านการติดตามเท่านั้น...แต่มันยังเลียนแบบอีกความสามารถนึงมาด้วย...

 

         ...เวทย์บทนี้ไม่อาจป้องกันได้!...

 

 

          " กรี๊ดดดดดดดดดดด !!!!!!! "

 

          " ย...แย่แล้ว!  ในนามของผู้เป็นนายและผู้บัญชา ข้าฯขอสั่งให้เจ้าหยุด! "  เรย์ลาลีนอุทานดังลั่นพร้อมกับใช้คีย์เวิร์ดที่ใช้สำหรับหยุดเวทย์ที่ใช้ไปในกรณีฉุกเฉินหยุดเวทย์แปลกๆ ของตัวเองลงพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที

 

          " ริยำเอ้ย! จำใส่กะโหลกแกไว้เลยนะเรย์ฯ ว่าห้ามใช้เวทย์บทนี้อีก "  เขากัดฟันกรอดพร้อมกับพูดกับตัวเองเบาๆ ราวกับโทษตัวเองพร้อมกับใช้มือกดบาดแผลบริเวณลำตัวของของอีกฝ่าย แต่เลือดสดๆ ก็ยังคงทะลักออกมาจากบาดแผลเป็นลิ่มๆ อย่างห้ามไม่อยู่ อันแสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของเวทย์บ้าๆ บทนี้ เสี้ยววินาทีต่อมาดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสบถด่าในความโง่เง่าของตัวเองอีกครั้ง

 

          " ไอ้โง่เอ้ย! ...ในนามแห่งผู้ตั้งมั่นในศรัทธา ข้าขออัญเชิญหัตถ์แห่งการรักษามาที่นี่-- "  เขาพึมพำเบาๆ ก่อนที่มือข้างที่สวมแหวนนำเวทย์อยู่จะเรืองแสงสีเขียวนวลตา ชายหนุ่มค่อยๆ วางมือลงบนปากแผลที่เหวอะหวะนั่นช้าๆ 

 

          " ขอโทษล่วงหน้าเลยนะคลาเดีย แต่ฉันไม่ใช่พวกที่ถนัดเวทย์สายรักษาเท่าไหร่ เพราะงั้นงานนี้มีหวังเหลือแผลเป็นแน่ๆ เดี๋ยวค่อยให้เชรีน่าตกแต่งให้อีกทีล่ะกันนะ "  เขาพูดพลางหลับตาลงและเพ่งสมาธิไปที่เวทย์รักษาที่เขาใช้อยู่...สำหรับจอมเวทย์ทุกคน เวทย์สายรักษาบาดแผลถือเป็นเวทย์ที่ต้องใช้สมาธิอย่างสูงชนิดที่ห้ามว่อกแว่กแม้แต่นิดเดียว ไม่เช่นนั้นแทนที่จะช่วย เวทย์รักษาที่ผิดพลาดอาจจะฆ่าผู้ถูกรักษาแทนเลยก็ได้ แถมเวทย์สายนี้ยังกินแรงอย่างมหาศาล ขนาดเขาเลือกใช้บทที่ง่ายที่สุดยังรู้สึกได้เลยว่าอณูเวทย์ไหลออกจากร่างไปมากมายเพียงใด

 

           เพียงไม่ถึงกึ่งอึดใจเขาก็ถอนมือออกจากบริเวณบาดแผลซึ่งบัดนี้เหลือไว้เพียงแค่รอยแผลเป็นบางๆ ที่แทบมองไม่เห็นเท่านั้น  ชายหนุ่มล้มตัวลงนั่งแหมะกับพื้นพร้อมกับปาดเหงื่อและหอบหายใจหนักๆ 2-3 ครั้ง ถึงจะออกตัวว่าเป็นเวทย์ที่ไม่ถนัดแต่เมื่อทุ่มกำลังอย่างสุดฝีมือเขาก็ทำได้อย่างแทบจะไร้ที่ติเหมือนกัน...แถมเขายังใส่พลังเวทย์เพื่อกระตุ้นร่างกายให้อีกฝ่ายอีก แม้ว่ามันจะเป็นการเปลืองแรงโดยไม่จำเป็นก็ตามที

 

          " อ...อือ "  เพราะด้วยพลังที่เรย์ลาลีนพึ่งถ่ายทอดไปเพื่อกระตุ้นร่างกาย ทำให้เพียงไม่ถึงอึดใจต่อมาคลาเดียก็ขมวดคิ้วพร้อมกับส่งเสียงครางเบาๆ ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แต่พอเธอพยายามจะยันกายลุกขึ้น ร่างของเธอก็ชาดิกจนหล่นตุ้บลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง

 

          " อย่าพยายามเลย นอกจากจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้ฟื้นขึ้นมาเร็วๆ แล้ว เวทย์ของฉันยังมีผลทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตขยับไม่ได้ไปชั่วระยะเวลานึงด้วย...นี่เป็นเวทย์พื้นฐานของพวกสอบสวนเชลยที่พวกนั้นชอบใช้กันน่ะ "  จอมเวทย์หนุ่มอธิบายอย่างช้าๆ พลางก้มลงไปเก็บจะเก็บเคียวของอีกฝ่ายที่ตกอยู่ แต่พอเอื้อมมือเข้าไปใกล้ เคียวนั่นก็เปล่งพลังสะท้อนออกมาจนเขาต้องหดมือกลับพร้อมกับครางอู้

 

          " ร...เรย์? ...เรย์! นั่นนายงั้นเหรอ? "

 

          " หือ? อ้าวเฮ้ย?!  ไหงน้ำเสียงถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ล่ะเนี่ย...อย่าบอกว่านี่กะจะเล่นตลกอะไรอีกน่ะ "

 

          " ต...ตลง-ตลกบ้าอะไรของนายกันล่ะยะ! น...นี่นาย! ย...อย่าบอกนะว่าทำแบบนี้เพราะคิดจะทำมิดีมิร้ายฉันน่ะ! อย่าเชียวนะ!! ถ...ถึงจะชอบแบบ OutDoor ก็เถอะ แต่พื้นห้องโถงแบบนี้มันแข็งไปนิดน่ะ "

 

          " เฮ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ หยุดก่อนเลยๆๆๆๆ ไหงบทสนทนามันเปลี่ยนจากการ์ตูนบ้าพลังกลายเป็นการ์ตูนติดเรทไปได้ล่ะเฮ้ย! แถมฉันก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นซักหน่อย "

 

          " เอ๋------!!! จะบอกว่าร่างกายอันทรงเสน่ห์ของฉันไม่เพียงพอที่นายจะหื่นกามฟืดฟาดๆ ได้งั้นเหรอ? อ...ไอ้กามตายด้าน!! "

 

          " พ...พอบอกไม่ทำก็เป็นไอ้กามตายด้าน แต่ถ้าทำจริงๆ ก็กลายเป็นไอ้วิปริตหื่นกาม ไปเอาตรรกะป่วยๆ แบบนี้มาจากไหนฟะเนี่ย!! ...ม...ไม่สิๆ อย่าออกนอกเรื่องสิคุณคลาเดีย! เอาเป็นว่าไหนๆ ผมก็ชนะแล้ว ไงๆ ก็ช่วยบอกพวกของเธอให้หยุดมือทีได้ไหม? "

 

          " อ...อะไรนะ? คนของฉัน? นายพูดอะไรของนายเนี่ย? "

 

          " ให้ตาย! นี่ถึงขั้นนี้ยังอุตส่าห์เฉไฉได้อีก พอซะทีได้ไหม? "

 

          " เฉไฉบ้าบอคอแตกอะไรกันล่ะยะ!! ฉันพูดจริงๆ นะ เท่าที่ฉันจำได้ ความทรงจำสุดท้ายของฉันคือฉันรอพวกนายอยู่ที่ห้องสืบสวนบ้านั่นนะ!! "

 

            คราวนี้เรย์ลาลีนถึงกับต้องขมวดคิ้วอย่างชักไม่ชอบมาพากล...ต่อให้ไม่มีความสามารถ จับเท็จ  ของนาเดีย แต่เรย์ลาลีนก็พอจะดูออกว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหกหรือคิดจะเล่นตลกอะไรกับเขา ...พูดกันตามตรงเขาค่อนข้างจะงงกับการเปลี่ยนท่าทีไปแบบกะทันหันของอีกฝ่ายแบบนี้ไม่ใช่น้อยๆ ...มันอย่างกับกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว...

 

          " คุณคลาเดีย...รึว่าคุณ? "

 

            แกร๊ก!

 

            เรย์ลาลีนหันขวับกลับไปมองที่ต้นตอของเสียงเล็กๆ นั่นทันทีด้วยสัญชาตญาณระวังภัย แต่เขาก็ต้องเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อสองตาของเขามองเห็นผู้ทำให้เกิดเสียงนั้นชัดๆ

 

            ผู้ที่จงใจเตะก้อนกรวดให้เกิดเสียงดังเพื่อให้เขารู้ตัวคือหญิงสาวที่เขาค่อนข้างจะรู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี หญิงสาวผู้มักจะอยู่กับพวกเฮเลนอยู่เสมอจนชนตา อัจฉริยะที่ได้รับการพาสชั้นผู้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอะไรนักเพราะความที่เป็นคนเงียบขรึมของเธอ

 

         ...พริสซิลล่า เดร็ด...

 

          " พริส? มาทำอะไรที่นี่เนี่ย? "  จอมเวทย์หนุ่มถามขึ้นเบาๆ พร้อมกับลดจิตคุกคามลงจนแทบไม่เหลือ เขาก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายเหมือนกับจะเข้าไปพูดด้วย แต่ก็ต้องหยุดชะงักและเรียกจิตคุกคามกลับคืนมาทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังทำอยู่ชัดๆ

 

            พริสซิลล่าที่ยังคงทำหน้านิ่งราวกับหินปักหลุมศพถอนหายใจเฮือกเบาๆ ก่อนที่เธอจะก้มลงหยิบราชศาสตราเคียวทมิฬ-เนเมซิสขึ้นมาอย่างช้าๆ ที่น่าตกใจก็คือทั้งๆ ที่เคียวเล่มนั้น...ไม่สิ ทั้งๆ ที่ราชศาสตราทุกชนิดจะไม่ยอมให้ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของแตะต้องแท้ๆ

 

          " พริสซิลล่า! "

 

          " เก่งนี่...ฉันพูดจากใจจริงเลยนะ...นายนี่เก่งจริงๆ ...ถึงจะเป็นแค่ ตุ๊กตา ที่สามารถเปล่งพลังจากเคียวได้เพียงครึ่งเดียว แต่แม้แต่ในทวีปของฉันก็ยังไม่มีใครเอาชนะผู้ที่ถือเคียวเล่มนี้ได้เลยแท้ๆ "

 

           " ต...ตุ๊กตา?? "

 

          " นายรู้ไหม? ว่ากว่าจะสามารถครอบงำคนเก่งๆ คนนึงให้มาเป็น ตุ๊กตา  ของตัวเองได้น่ะมันยากแค่ไหน? "

 

          " ว...ว่าไงนะ--- "

 

           " เอางี้นะ เรย์ฯ ...ในฐานะที่นายคว่ำ ตุ๊กตา ที่ดีที่สุดของฉันลงได้...ฉันจะบอกความลับของเคียวนี่ให้อย่างนึงนะ "

 

           " ??? "

 

          " เคียวเล่มนี้น่ะ...ปกติแล้ว...มันมีอยู่ด้วยกัน 2 เล่มนะ " 

 

            ชั่วพริบตาที่เรย์ลาลีนตกตะลึงจนเสียสมาธิจากคำพูดของเธอแม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของวินาที ในมือข้างที่ว่างอยู่ของพริสซิลล่าก็ปรากฎเคียวอีกเล่มที่เหมือนกับราชศาสตราเคียวทมิฬ-เนเมซิสไม่มีผิดเพี้ยนราวกับเป็นเคียวฝาแฝดกันออกมา เสี้ยวของเสี้ยววินาทีต่อมาเธอก็พุ่งวูบเข้ามายืนตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็วจนเขาถึงกับมองไม่ทัน!

 

          " ถือว่านี่เป็นของขวัญฝากไปที่ปรโลกก็แล้วกันนะ เรย์ฯ ลาก่อน "

 

            พริบตาเดียวเคียวคู่ในมือทั้ง 2 ข้างของเธอก็วาดวูบเล่มนึงผ่านลำคอเขา อีกเล่มผ่าสะพายแล่งพร้อมกับสร้างเส้นขีดสีดำสนิททิ้งไว้ ก่อนที่เรย์ลาลีนจะได้ทันหลบหรือเอ่ยปากพูดอะไรออกไป หญิงสาวตรงหน้าก็ชี้เคียวมาที่เขาพร้อมกับคำรามลั่น

 

          " ในนามของผูใช้ราชศาสตราที่แท้จริง  จงสะบั้น !! "

 

 

            ฉัวะะะะะะะะะะะะ !!!!!!!!!!!!!! 

 

 

 

 

 

.....................................................

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา