จอมใจ....สุดที่รัก

7.7

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.25 น.

  23 ตอน
  50 วิจารณ์
  119.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) +++ ทัณฑ์สวาท +++ NC นะจ๊ะ จุ๊บุๆ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
                ใบหน้าหล่อคมที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์สุรายังไม่เจือจางหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาภรรยาทางพฤตินัยสุดที่รักที่ไม่รู้ว่าตอนนี้หนีหายไปไหนเสียแล้ว ร่างแกร่งโซซัดโซเซเดินไปตามทางพลางโทรศัพท์ไปหาลูกน้องคนสนิทให้นำรถมาจอดรอเขาที่หน้าบริษัท ก่อนที่เขาจะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์แผนกประชาสัมพันธ์ที่มีร่างท้วมนั่งทำหน้าตกใจเมื่อได้เห็นสภาพเจ้านายใหญ่ของตนเอง กลิ่นแอลกอฮอล์แรงที่ลอยหึ่งเตะจมูกนางทำเอาคนเป็นลูกน้องต้องนิ่วหน้าและส่ายหัวไปมาเล็กน้อย
 
“ทำไมดื่มเหล้าแต่เช้าอย่างนี้คะคุณวิลเลียม” นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตำหนินิดๆ
 
“เห็นกานดาไหมครับมิสซิสเทนดี้” ผู้เป็นเจ้านายหนุ่มไม่ยอมตอบคำถาม แต่กลับถามหาเลขาสาวของเขากับนางแทน
 
“เห็นค่ะ….เธอพึ่งเดินร้องห่มร้องไห้ออกไปกับคุณไมเคิลเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ” ลอร่ากล่าวก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย “พวกคุณสองคนทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหมคะ”
                ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากหยักทั้งสิ้น ความรู้สึกเจ็บจุกเกิดขึ้นกลางอกแกร่งและแล่นแปลบไปยังขั้วหัวใจที่ใกล้จะแตกหักและบุบสลายเข้าไปทุกที ศีรษะหนักอึ้งและปวดหนึบเหมือนโดนของแข็งทุบเข้าให้อย่างจัง ร่างที่เริ่มไร้เรี่ยวแรงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อันมากล้นแทบจะทรุดฮวบลงเมื่อได้ฟังคำที่ทิ่มแทงหัวใจ
 
                เธอไปกับเขาคนนั้นอีกแล้ว….ดวงใจของเขาถูกผู้ชายคนนั้นพรากไปอีกแล้วใช่ไหม รู้ไหมว่าเขารู้สึกเจ็บปวดมากเท่าไหร่ รู้ไหมว่าเขารู้สึกร้าวรานมากแค่ไหนเมื่อนึกว่าเธอจะโบยบินจากเขาไปเพื่อไปเป็นดวงใจของใครอีกคน
 
เขาทนไม่ได้….และจะไม่มีวันทนด้วย!
 
                ร่างสูงใหญ่รีบก้าวฉับตรงไปยังหน้าบริษัททันทีโดยไม่คิดตอบอะไรกับพนักงานคนสนิทเลยสักนิด ใบหน้าแดงก่ำเครียดขรึมและฉายแววไปด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธจนคนเห็นต้องรู้สึกหวั่นเกรง ต้องพลอยหลบสายตาและทำตัวลีบเล็กไปตามๆกันเหมือนผู้เป็นเจ้าของบริษัทเดินผ่าน หากแต่ดวงตาที่ทุกคนได้เห็นนั้น มันฉายแต่แววของความเจ็บปวดอย่างสุดหัวใจ จนลูกน้องคนสนิทอย่างโจเซฟถึงกับรู้สึกจุกที่คอขึ้นมาเลยทีเดียว
 
“ฉันขับเอง” เสียงทุ้มเข้มบอกกับลูกน้องที่กำลังจะเปิดประตูรถด้านเบาะหลังให้
“ให้ผมขับให้เถอะครับคุณวิล คุณเมามากแล้ว….”
 
“ก็บอกว่าจะขับเองไงเล่า!!!”
 
                เสียงตวาดที่ดังลั่นทำให้คนที่ได้ยินถึงกับต้องสะดุ้งโหยงไปตามๆกัน อารมณ์เกรี้ยวกราดวิ่งพุ่งพ่านอยู่ในกายหนุ่มจนไม่สามารถจะควบคุมอารมณ์ไว้ได้เลยในตอนนี้ บวกกับฤทธิ์ของสุราที่ทำให้สติสัมปชัญญะแทบจะหลุดลอยยิ่งทำให้ผู้เป็นนายอารมณ์ฉุนเฉียวมากเข้าไปใหญ่ อย่างที่ไม่เคยมีใครเคยพบเห็นมาก่อนแม้แต่คนเป็นลูกน้องที่ใกล้ชิดกับเจ้านายคนนี้มากที่สุดอย่างโจเซฟเอง
 
“ส่งกุญแจมาโจเซฟ” ผู้เป็นนายข่มอารมณ์และกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำจนฟังดูน่ากลัว
 
“ไม่ครับ! ผมจะไม่ปล่อยให้คุณไปเป็นอันตรายแน่ เชิญขึ้นรถครับคุณวิลเลียม” โจเซฟทำใจกล้าเอ่ยออกมาเสียงดุแข็ง เขาไม่มีวันปล่อยให้คนที่กำลังเมามายขับรถไปเองเด็ดขาด ยิ่งคนตรงหน้าเป็นผู้มีพระคุณอย่างสูงยิ่งของเขาด้วยแล้ว ถึงจะโดนตะหวาดหรือโดนด่าสักกี่ครั้งเขาก็ไม่ยอม!
 
                วิลเลียมมองลูกน้องของเขาด้วยความโมโห คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนแทบจะจับเป็นปมแน่น หากแต่จิตใต้สำนึกของเขากลับเตือนขึ้นมาว่าสิ่งที่ลูกน้องทำอยู่นี้ไม่ใช่เพื่อตัวใคร แต่เป็นเพื่อตัวของเขาเองเท่านั้น เพราะถ้าหากปล่อยให้เขาขับรถออกไปเองล่ะก็มีหวังเขาคงได้ไปเจอกับมัจจุราชแทนที่จะเจอกับคนที่เขากำลังตามหาเป็นแน่
 
                ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถแต่โดยดี ทำเอาคนเป็นลูกน้องต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ผู้เป็นนายยอมเชื่อฟังเขาง่ายๆ ก่อนที่ร่างกำยำจะรีบปิดประตูและวิ่งไปทางด้านคนขับรถเพื่อให้ทันใจคนที่กำลังนั่งทำหน้ายุ่งและโกรธเกรี้ยวจนแทบจะหักคอเขาตายอยู่แล้ว
 
 
                รถยนต์คันหรูแล่นไปด้วยความเร็วจนสามารถตามรถยนต์ของคนตัวการได้ทันท่วงที หากแต่ยังคงรักษาระยะห่างไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ได้ว่าพวกเขากำลังตามอยู่ จนในที่สุดรถทั้งสองคันก็มาจอดเทียบอยู่หน้าคฤหาสน์เลสเซิ้ล ทำเอาคนเป็นเจ้าของคฤหาสน์รู้สึกโล่งใจไปหนึ่งเปราะ เพราะอย่างน้อยเพื่อนบ้านแสนแสบของเขาก็ไม่ได้พาแม่ภรรยาทางพฤตินัยสุดที่รักไปไหนไกลจากเขาเลยสักนิด แต่ก็ใช่ว่าเขาจะรู้สึกขอบคุณและเป็นปลื้มกับความมีน้ำใจของเพื่อนหนุ่มจนลืมเรื่องบาดหมางที่เกิดขึ้นไปได้หรอกนะ
 
ไม่มีวัน….และ….ไม่มีทาง!
 
ในเมื่อดันนำลูกเสือมาส่งถึงถ้ำเองแล้ว….ก็อย่าคิดว่าจะได้ลูกเสือกลับไปอีกเลย!
 
                ร่างเล็กเดินเข้าคฤหาสน์ด้วยน้ำตาที่ยังคงไหลพรากเพราะความเจ็บช้ำน้ำใจ โดยมีร่างใหญ่ของชายหนุ่มข้างบ้านแสนดีคอยประคองไว้ไม่ให้เธอล้มพับไปกับพื้น กายสองกายที่ใกล้ชิดแทบสนิทใจยิ่งทำให้คนอารมณ์ร้ายโกรธเกรี้ยวมากขึ้นไปใหญ่ จนต้องเดินดุ่มๆตามเข้าไปด้วยสีหน้าและแววตาที่ดุกร้าวจนเหมือนเขาสามารถฆ่าคนที่ขวางหน้าได้เลยทีเดียว
 
“คุณไมเคิลกลับไปก่อนเถอะค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” กานดาเอ่ยพลางผละออกจากกายแกร่งก่อนจะประนมมือไหว้เป็นการขอบคุณตามคำที่เธอพูดอีกครั้ง
 
“คุณไม่เป็นอะไรแน่นะครับ….” ไมเคิลถามคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง หากแต่เขากลับต้องชะงักเมื่อจู่ๆก็ถูกใครบางคนกระชากให้หันหลังกลับอย่างแรง
 
‘ผัวะ!!!!!’
 
“คุณวิลเลียม!”
 
                หมัดหนักๆถูกปล่อยออกไปกระทบใบหน้าขาวหล่ออย่างจังจนร่างกำยำเซไปตามแรงต่อยหากแต่ยังทรงตัวไว้ได้ทัน ก่อนที่แขนแกร่งจะรีบป้องกันตัวอย่างเร็วรี่เมื่ออีกฝ่ายเริ่มโจมตีอีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาคนที่ยืนมองเหตุการณ์ถึงกับต้องทำตาโตอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเพราะความตกใจ ก่อนที่ร่างเล็กจะตั้งสติได้จึงรีบเข้าไปห้ามหากแต่กลับโดนแม่บ้านประจำตระกูลขวางไว้เสียก่อนเพราะกลัวเธอจะถูกลูกหลง จนในที่สุดทุกอย่างก็จบลงเมื่อโจเซฟและโทมัสกับลูกน้องคนอื่นๆช่วยกันจับผู้ชายเลือดเดือดสองคนแยกออกจากกัน
 
“นี่นายเป็นบ้าอะไรของนายฮะวิลเลียม!” ไมเคิลถามออกมาเสียงดังอย่างหัวเสีย ปากหยักได้รูปมีเลือดซิบออกมาจากมุมปากจนเขาต้องเอามือมาเช็ดมันออก
 
“ใช่! ฉันมันบ้า! บ้าที่ไปหลงไว้ใจเพื่อนบ้านอย่างแกไงไมเคิล!!!” วิลเลียมตวาดกลับด้วยน้ำเสียงเข้มกร้าว จนคนนอกถึงกับรู้สึกตื่นกลัวผู้เป็นนายใหญ่ไปตามๆกัน
 
“ถ้านายจะโกรธเคืองฉันเพราะเรื่องที่โมนิก้าเอาไปบอกนายล่ะก็….รู้ไว้ซะว่านายมันโง่!” คนเป็นเพื่อนบ้านตะเบ็งเสียงออกมาด้วยความโมโห จนโทมัสต้องรีบจับร่างใหญ่ไว้มั่นเพื่อกันไม่ให้เขาพุ่งไปหาผู้เป็นเจ้านายตัวจริงได้ “และคุณกานดาก็ไม่สมควรมีสามีโง่ๆอย่างนาย….ไม่สมควรเลยสักนิด!”
 
                คำพูดของอีกฝ่ายทำเอาชายหนุ่มถึงกับเลือดขึ้นหน้ามากเข้าไปใหญ่ กายแกร่งทำท่าจะพุ่งไปหาอีกฝ่ายหากแต่กลับโดนลูกน้องจับล็อกตัวไว้ถึงสามคน ทำให้เขาได้แต่สะบัดตัวแรงๆและขมึงตาใส่ชายหนุ่มอีกคนอย่างอาฆาตเพียงเท่านั้น
 
เขาน่ะหรือที่ไม่สมควรจะเป็นสามีสุดที่รักของเธอ หึ….ถ้าเขาไม่เหมาะแล้วใครกันล่ะที่เหมาะ….คงจะเป็นตัวเองล่ะสินะ….น่าไม่อายจริงๆ!
 
“ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ไมเคิล….ออกไป!!!” คนเป็นเจ้าของบ้านตะโกนไล่ตะเพิดเพื่อนบ้านหนุ่มออกมาจนสุดเสียง ใบหน้าหล่อคมยังคงแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุราและยิ่งแดงมากเข้าไปใหญ่เพราะความโมโหจนแทบจะถึงขีดสุด
 
“คุณไมเคิลกลับไปก่อนเถอะครับ ผมขอล่ะ” โทมัสเอ่ยด้วยความร้อนใจ กลัวว่าเจ้านายใหญ่จะโกรธเกรี้ยวไปมากกว่านี้อีก
 
                ไมเคิลหันไปมองหน้าโทมัสอย่างหงุดหงิด ก่อนที่เขาจะหันมามองหญิงสาวที่ยืนเบิกตากว้างเอามือปิดปากเหมือนดั่งกำลังช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ก็มิปาน เขาจึงได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาและพยักหน้าเป็นการบอกว่าเขาจะออกไปจากคฤหาสน์แต่โดยดี ทำให้คนที่กำลังล็อกตัวเขาไว้คลายมือออกได้หากแต่ก็ยังรู้สึกหวั่นใจอยู่ไม่น้อย
 
“นายกำลังถูกโมนิก้าหลอกอยู่วิลเลียม คนที่นายสมควรจะเชื่อมากที่สุดคือคนที่รักนายจนหมดหัวใจต่างหากล่ะ” เสียงทุ้มกล่าวเสียงเครียดพลางมองเพื่อนหนุ่มตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจ “คนๆนั้นเขายืนอยู่ข้างนาย….ไม่ใช่ข้างฉัน….เขารักนายไม่ได้รักฉัน….มองเขาสิ….แล้วนายจะรู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดมันเป็นความจริง”
 
                วิลเลียมมองเพื่อนหนุ่มด้วยสายตาดุแข็ง คิ้วหนาดำยังคงขมวดเข้าหากันไม่ยอมคลาย ก่อนที่ดวงตาคมร้ายจะหันเหไปมองร่างบอบบางที่ยืนร้องไห้อยู่ไม่ไกลตัวเท่าไหร่นักแทน ร่างของเธอดูเหมือนจะสั่นเทาเพราะความหวาดกลัว สายตาของเธอดูเหมือนจะอ้อนวอนให้เขาหยุดบ้าคลั่งและกลับมาเป็นชายผู้แสนดีของเธอคนเดิม หากแต่ความเจ็บปวดมันกลับแล่นแปลบเข้ามาทิ่มแทงหัวใจดวงแกร่งอีกครั้ง เมื่อเขานึกไปถึงคำพูดต่างๆนาๆที่เธอโกหกหลอกลวงเขา เพื่อเพียงแค่จะได้ออกไปพบกับผู้ชายอีกคนที่อยู่ข้างบ้าน กับภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เขาเห็นมันทั้งจากคนอื่นและกับตาของตัวเอง
 
แล้วอย่างนี้….จะให้เขาเชื่อมั่นในความรักของเธอได้อีกหรือ?
 
 “ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว” เสียงดุเข้มเอ่ยออกมาอย่างขุ่นเคือง ทำให้คนเป็นเพื่อนต้องถอนหายใจเบาๆอีกรอบ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยฟกช้ำจะหันไปมองหญิงสาวอีกครั้งพลางส่งยิ้มบางๆให้เป็นการปลอบใจ และจึงเดินออกจากคฤหาสน์ไปด้วยหัวใจที่หวาดหวั่น….
 
กลัวว่าคนที่เขาแอบรักจะถูกทำร้าย….ทั้งกายและหัวใจ
 
                คฤหาสน์เลสเซิ้ลกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง หากแต่ความตึงเครียดกลับคลอบงำไปทั่วจนทุกคนต่างรู้สึกอึดอัด ผู้เป็นเจ้าของบ้านเอาแต่ยืนก้มหน้านิ่งไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาสักคำ ส่วนคนเป็นแขกของบ้านก็ได้แต่เก็บเสียงสะอื้นไห้ไว้ในใจ ปล่อยเพียงแค่น้ำตาให้มันไหลอาบแก้มอยู่แบบนั้นอย่างมิอาจจะสามารถกักกลั้นมันไว้ได้
 
“ปล่อย….” ผู้เป็นนายสั่งลูกน้องทั้งสามที่ยังคงจับเขาไว้เสียงแผ่ว
 
                โจเซฟมองเจ้านายของตัวเองก่อนที่จะหันไปพยักหน้าบอกลูกน้องอีกสองคนให้ทำตามคำสั่ง กายกำยำกลับมาเป็นอิสระอีกครั้งแต่คราวนี้เขาไม่โวยวาย ไม่พุ่งไปหาใคร และไม่คิดจะทำร้ายใครทั้งสิ้น
 
หากแต่ตอนนี้เขากำลังคิดจะจัดการกับแม่กระรอกน้อยของเขาที่ชอบทำตัวซุกซนไปทั่วต่างหาก!
 
“มานี่!”
 
                แขนเรียวบางถูกกระชากให้ร่างเล็กเดินตามไปกับร่างใหญ่ จนทำให้เกิดเสียงวี๊ดว๊ายเพราะความตกใจจากเหล่าแม่บ้านที่คอยประคองกายสาวอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มก้าวฉับขึ้นไปยังชั้นสองพลางกึ่งจูงกึ่งลากหญิงสาวให้เดินตามมาด้วย ก่อนที่ร่างสวยจะถูกผลักให้เขาไปในห้องนอนของเธอเองแบบที่ไม่แรงนัก แต่ก็ไม่เบาเลยสักนิด
 
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ทำไม….กลัวว่าไอ้ไมเคิลมันจะช้ำในตายหรือไง” ทันทีที่ล็อกประตูเสร็จ ชายหนุ่มก็หันมาแขวะหญิงสาวที่ยืนน้ำตาไหลพรากอยู่ตรงหน้าทันที
 
“เจ็บมากไหมคะ” เสียงสั่นเครือถามออกไปอย่างไม่สนใจคำแขวะของอีกฝ่าย ดวงตาหวานฉายแววเป็นห่วงคนตรงหน้าจนหมดหัวใจ ทำให้คนที่กำลังทำตัวร้ายๆต้องรู้สึกจุกอกขึ้นมาในทันที
 
“ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงผม” เสียงเข้มเอ่ยอย่างตัดพ้อและคงความน้อยใจอยู่เต็มเปี่ยม ดวงตาคมเฉียบแสร้งหันเหไปมองแจกันใบสวยที่มีดอกคาลล่าลิลลี่สีขาวที่หญิงสาวชื่นชอบแทน
 
“คุณวิล….” กานดาโอดครวญออกมาพลางเดินไปหาคนตรงหน้า หากแต่เขากลับถอยห่างเหมือนดั่งว่าไม่อยากให้เธอเข้าใกล้แม้แต่เมตรเดียว
 
“สนุกมากใช่มั้ยที่หลอกผมได้น่ะ” ชายหนุ่มว่าด้วยน้ำเสียงเหยียบเย็นหากแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด
 
“ดาไม่เคยคิดหลอกลวงคุณเลยนะคะ คุณวิล….คุณกำลังเข้าใจดาผิด” หญิงสาวพยายามแก้ตัว แต่กลับดูเหมือนเขาจะไม่เชื่อเธอเลยสักนิด
 
“แล้วที่คุณบอกผมว่าจะไปโอนเงินให้ป้ากับลุงที่เมืองไทยแต่กลับไปอยู่กับไอ้ไมเคิลมันหมายความว่ายังไง….เมื่อเช้าที่คุณบอกผมว่ามีคนโทรผิดแต่จู่ๆก็บอกว่าป้าของคุณโทรมาว่าเงินไม่เข้า เลยจะออกไปดูที่ธนาคารแต่กลับไปหาไอ้ผู้ชายคนนั้นมันหมายความว่ายังไงฮะ!”
 
                คำพูดของเขาทำเอาเธอถึงกับชะงักงันไปในทันใด รู้สึกเย็นวาบไปทั่วกายเหมือนมีใครเอาน้ำเย็นๆมาสาดเข้าให้อย่างจัง หัวใจดวงน้อยหล่นวูบเหมือนมีมือมากระชากให้หลุดล่วง รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนจนอยากจะอ้วกเหมือนทุกครั้งที่เธอถูกจับได้ว่าโกหกในตอนที่เธอยังเด็ก
 
“คือดา….”
 
“อย่างนี้ยังเรียกไม่หลอกลวงอีกหรือกานดา” ดวงตาคมหันมามองใบหน้าหวานแบบตรงๆ ทำเอาคนถูกจ้องต้องสะดุ้งเล็กน้อยและรีบเอ่ยคำอธิบายออกไปทันที
 
“คุณกำลังเข้าใจผิด ดากับคุณไมเคิลเราไม่ได้แอบคบกันจริงๆนะคะ ที่ดาต้องโกหกคุณเป็นเพราะว่าดาจำใจต้องทำมันต่างหาก” หญิงสาวกล่าวพลางทำหน้าดั่งคนจะร้องไห้ ทั้งๆที่หยาดน้ำตาพึ่งจะเหือดแห้งไปไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เอง
 
“ต้องทำมัน….เพื่ออะไรล่ะ….เพื่อที่จะได้ไปเริงรักกับมันได้ง่ายๆน่ะเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียงพูดออกมา อารมณ์กรุ่นโกรธเริ่มเกิดขึ้นเมื่อนึกถึงชายอีกคนที่เป็นตัวการ!
 
“ไม่ใช่นะคะคุณวิล” กานดารีบปฏิเสธอย่างทันควัน “ที่ฉันทำไปก็เพื่อปกป้องคุณนะคะ ไม่ใช่เพื่อทำอย่างที่คุณพูด”
 
“หึ….อย่ามาตลกหน่ากานดา คุณจะมาปกป้องผมด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบ….ไร้สาระสิ้นดี!” วิลเลียมเอ่ยอย่างไม่คิดจะเชื่อคนตรงหน้าเลยสักนิด ทำให้คนมีความผิดต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก
 
“ปกป้องให้คุณรอดจากคนที่กำลังจะทำร้ายคุณยังไงล่ะคะ” เสียงหวานกล่าวพลางพยายามทำน้ำเสียงให้สั่นเครือน้อยที่สุด “ที่ดาต้องโกหกคุณ….เพราะมีคนขู่เอาไว้ว่าถ้าดาเอาเรื่องของเขาไปบอกคุณ….เขาจะทำลายชื่อเสียงของคุณค่ะ”
 
“แล้วคุณก็เชื่อเขาอย่างนั้นน่ะเหรอ” เสียงทุ้มว่าพลางมองใบหน้าหวานอย่างไม่เข้าใจ “กานดา….แทนที่คุณจะปิดปากเงียบเพราะกลัวว่าผมจะเป็นอันตราย สู้คุณบอกผมให้รู้แล้วรู้รอดไปไม่ดีกว่าหรอเราจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่ให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาช่วยคุณแก้ไขปัญหาให้ผมอย่างนี้” ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้คนตรงหน้าต้องรู้สึกผิดและว่ากล่าวตัวเองอยู่ในใจว่าไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
 
“ขอโทษค่ะ ดาไม่ทันคิด” เธอก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี
 
“หรือว่าที่คุณไม่อยากบอก….เป็นเพราะคุณอยากจะใกล้ชิดสนิทสนมกับไมเคิลมากกว่ากันแน่” เขาเอ่ยเสียงขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ทำเอาเธอต้องมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจบ้าง
 
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ดาไม่เคยคิดแบบนั้นเลยค่ะ” หญิงสาวกล่าวแก้ตัวในทันที พลางภาวนาอย่าให้เขาเข้าใจเธอผิดไปมากกว่านี้อีกเลย
 
“แล้วทำไมคุณถึงบอกเรื่องนั้นกับไมเคิลล่ะ….ทำไมคุณถึงไม่เลือกที่จะบอกผม….ทำไมถึงอยากทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายคนนั้นนัก….ทำไมหรือกานดา”
 
                วิลเลียมเอ่ยถามคนตรงหน้าไม่ขาดปากพลางมองใบหน้าหวานด้วยแววตาเจ็บปวด เขาน้อยใจเหลือเกินที่เธอไม่เห็นเขาเป็นคนสำคัญอันดับหนึ่งของเธอ ถึงแม้ว่าเรื่องที่เธอปิดบังไว้มันจะเกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง แต่มันก็ไม่ได้ผิดอะไรไม่ใช่หรือหากเธอจะบอกให้เขาได้รับรู้ ถึงจะโดนขู่ว่าถ้าหากเธอบอกเขาจะเป็นอันตราย แต่อย่างไรซะฝ่ายนั้นก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าเขารู้เรื่องหรือไม่ แทนที่เราจะหันหน้ามาปรึกษาและแก้ปัญหาไปด้วยกัน แต่เธอกลับเลือกที่จะฝ่าฟันปัญหาไปกับใครอีกคนอย่างนั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ….
 
“ที่ดาไม่บอกคุณก็เพราะดาไม่อยากให้คุณต้องมานั่งคิดมากยังไงล่ะคะ แล้วคุณไมเคิลเขาก็เผอิญมาได้ยินเรื่องนั้นเข้าฉันก็เลยต้องหันหน้าปรึกษาเขา” เสียงหวานกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาหยดใสเริ่มไหลอาบแก้มอีกครั้งด้วยความทรมานใจ “เขาเป็นคนเดียว….ที่ดาจะพึ่งพาได้ในตอนนั้นค่ะ”
 
“ผมมันเป็นคนพึ่งพาไม่ได้งั้นสิ” คำตัดพ้อถูกเอ่ยออกมาด้วยความที่เขายังน้อยใจอยู่เต็มประดา แถมพอมาได้ยินว่าเธอไม่มีที่พึ่งนอกจากเพื่อนบ้านหนุ่มอีกแล้ว มันก็ยิ่งทำให้ความน้อยใจเพิ่มทวีคูณมากเข้าไปกันใหญ่ บวกกับฤทธิ์สุราที่ยังคงไม่จางหายไปทำให้ตอนนี้ดูเหมือนอารมณ์ของเขาจะแปรปรวนดั่งพายุที่ไม่รู้ว่าจะพัดไปทิศทางใดเลยสักนิด
 
“ไม่ใช่นะคะคุณวิล โถ่….ดาจะอธิบายยังไงให้คุณเข้าใจดี” กานดาโอดครวญอีกครั้งด้วยหัวใจที่บีบรัด นี่เขาจะไม่คิดยกโทษให้เธอเลยใช่ไหม เธอจะทำอย่างไรให้เขาหายโกรธหายเคืองเธอดี ไม่น่าเลยกานดาเอ๋ย….ไม่น่าไปหลงสัญญิงสัญญากับผู้หญิงคนนั้นว่าจะไม่บอกเขาเลย ไม่อย่างนั้นเรื่องคงจะไม่เลยเถิดมาถึงขนาดนี้เป็นแน่  
 
“ไม่ต้องอธิบายแล้ว ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น….มันก็แค่คำแก้ตัวของคุณ”
 
                จู่ๆเขาก็ไม่อยากฟังคำอธิบายของเธอเอาเสียดื้อๆ เขาไม่อยากรับรู้หรือรับฟังอะไรอีกแล้ว คำพูดทุกคำของเธอมันอาจจะเป็นแค่คำหลอกลวงที่เธอแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกเขาก็เป็นได้ ไม่มีอะไรมารับประกันว่าเธอพูดความจริง ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาเชื่อมั่นในคำพูดของเธอได้อีก
 
นอกจากหัวใจ….ที่มันยังคงมั่นรักต่อเธอไม่ยอมเลิกรา….
 
แต่เขาไม่อยากเจ็บ เขาไม่อยากจำ….เขาไม่อยากถูกเธอทำให้หัวใจเจ็บช้ำจนแทบจะปางตายอีก เพียงแค่เขาต้องสูญเสียคนที่เป็นเสมือนดวงใจของเขาไปถึงสองคนมันก็ปวดร้าวมากพอดูแล้ว เขาจะทำอย่างไรดี….
 
“คุณวิล….”
 
                หญิงสาวได้แต่ครางเสียงเรียกคนตรงหน้าด้วยความปวดใจ ทำไมมันถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้ ทำไมเขาถึงไม่เปิดใจรับฟังอะไรจากเธอบ้างเลย หรือเป็นเพราะเขากำลังมึนเมากับฤทธิ์สุราอยู่เลยทำให้เขากลายเป็นคนไม่มีเหตุผล หรือเป็นเพราะเขาโดนใครคนนั้นเป่าหูจนหลงเชื่อไปหมดทั้งใจ ว่าเธอคนนี้เป็นคนโกหกปลิ้นปล้อน เชื่ออะไรไม่ได้เลยสักนิด
 
แม้แต่ความรักของเธอที่มีให้เขาจนหมดหัวใจก็เชื่อไม่ได้อย่างนั้นน่ะหรือ….
 
“ทำไมคะคุณวิล….ทำไมคุณถึงไม่เชื่อดาบ้าง….คำพูดของดามันไม่มีความหมายกับคุณแล้วหรอคะ”
 
               กานดาเอ่ยถามพลางปล่อยเสียงสะอื้นออกมาอย่างสุดจะกลั้น เจ็บปวดใจดั่งเหมือนมีอะไรมาบีบรัดจนแทบจะแหลกสลาย เรี่ยวแรงในกายดูเหมือนจะลดน้อยถอยลงจนขาทั้งสองข้างแทบจะพยุงตัวเอาไว้ไม่อยู่ ตัดพ้อต่อว่าเขาอยู่ใจว่าเพียงแค่เธอโกหกเพราะความจำเป็นแค่นี้เขากลับยกโทษให้เธอไม่ได้เลยหรือ เพียงแค่เธอไปพบปะกับเพื่อนสนิทของเขาเพื่อจะช่วยให้เขาอยู่รอดปลอดภัยนี่มันผิดมหันต์มากเลยใช่ไหม ทีเขาไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นเธอยังไม่เห็นจะโวยวายหรือโกรธเกรี้ยวใส่เขาอย่างนี้เลย แล้วยังมีผู้หญิงก่อนหน้าอีกมากมายที่ไม่รู้ว่าจะโผล่กันมาตอนไหนอีกเธอก็ไม่เห็นจะนึกหวาดหวั่นกับมันเลยสักนิด ในเมื่อเธอเชื่อใจเขาและพร้อมจะยอมรับฟังเขาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม แต่เพียงแค่มีคนมาสร้างสถานการณ์ให้เขาและเธอแตกหักกันเขาก็หลงปักใจเชื่ออย่างไม่ลืมหูลืมตาเสียแล้วหรือ
 
ก็ใช่สิ….ในเมื่อคนที่หลอกเป่าหูเขาอยู่คืออดีตคนรักของเขาหนิ….เธอมันก็แค่คนมาใหม่จะไปสู้อะไรกับหล่อนได้ เขาก็ต้องเลือกที่จะเชื่อคนรักเก่าของเขาอยู่แล้ว….ไม่เห็นจะแปลกเลยกานดาเอ๋ย
 
รู้แล้วว่าสำคัญตัวเองผิด รู้แล้วว่าไม่อาจจะคิดเป็นที่หนึ่งแทนใครคนนั้นได้….ในเมื่อเขายังเชื่อใจกันและกันอยู่จนหมดหัวใจ แล้วเธอยังจะมีหน้าเชิดหน้าชูคอเป็นห่านปีกหัก ที่ไม่สำเหนียกตัวเองว่าไม่ได้เป็นหงส์แสนสวยเหมือนกับใครบางคนได้อีกหรือ…
 
“แล้วคุณคิดว่าผมยังจะเชื่อใจคุณได้อีกอย่างนั้นหรือ”
 
                 คำพูดที่หลุดออกมาจากปากหยักยิ่งตอกย้ำความจริงได้ดียิ่งนัก บวกกับน้ำเสียงของเขาที่ดูห่างเหินและเย็นชาจนเหมือนเธอกลายเป็นแค่คนเคยรู้จักกับเขาไปเสียแล้ว มันยิ่งทำให้เธอเจ็บแปลบไปหมดทั้งหัวใจจนไม่สามารถจะทนหน้าด้านอยู่ให้เขาเห็นหน้าต่อไปได้อีก
 
ไม่มีอีกแล้วคนที่เคยรักกัน….ไม่มีอีกแล้วคืนวันที่แสนหอมหวาน….ไม่มีอีกแล้วกับเส้นทางที่เคยเดินไปด้วยกัน
 
“ทำอะไร”
 
            เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อจู่ๆร่างเล็กก็เดินไปยังตู้เสื้อผ้าและหยิบกระเป๋าเดินทางออกมาเปิดกลางแผ่หลาอยู่บนพื้น ก่อนที่มือเรียวจะรวบชุดที่แขวนอยู่ในตู้มาไว้ในกระเป๋าจนหมด ทำเอาคนกำลังมึนงงต้องรีบก้าวฉับมากระชากแขนนิ่มไม่ให้เธอเก็บข้าวของได้อีก
 
“ผมถามว่าทำอะไร!” ชายหนุ่มถามอีกครั้งด้วยเสียงเข้มห้วน
 
“เก็บของค่ะ” หญิงสาวตอบออกมาเสียงหนัก ก่อนที่เธอจะสะบัดแขนให้หลุดจากเงื้อมมือของเขาและหันมาเก็บข้าวของของตัวเองต่อ
 
“ทำไม! จะหนีผมไปอยู่กับไอ้คนข้างบ้านแล้วหรือไงถึงได้เก็บข้าวของอย่างนี้น่ะ” คำพูดถากถางของเขาทำให้ใบหน้าหวานต้องหันขวับมามองใบหน้าคมด้วยแววตาตัดพ้อระคนน้อยใจในทันใด
 
“ใช่ค่ะ! ดาจะหนีคุณ….แต่ดาไม่ได้จะไปอยู่กับคุณไมเคิลหรอกนะคะ ดาจะกลับประเทศไทยค่ะ!”
 
                คำประกาศกร้าวของคนตรงหน้าทำเอาวิลเลียมถึงกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ หัวใจดวงแกร่งหล่นวูบไปจนถึงตาตุ่ม เหมือนมีคนมาดึงให้มันหลุดลอยไป เหมือนมีใครเอาหอกแหลมมาทิ่มแทงใจจนมันเจ็บแปลบไปหมดทั้งทรวง
 
เมื่อรู้ว่าเธอคิดจะหนีจากเข้าไปจนไกลแสนไกลอย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอจะกลับมาหาเขาอีก!
 
“ผมไม่ให้คุณไป!” ร่างใหญ่รีบปรี่เข้าไปยื้อยุดของที่อยู่ในมือเรียวไว้เพื่อไม่ให้เธอเก็บเข้ากระเป๋าได้ หากแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆเช่นกัน
 
“หยุด….เดี๋ยวนี้นะ….คุณวิล!”
 
                เสียงหวานบอกกับอีกฝ่ายพลางพยายามขัดขืนไม่ให้เขาแย่งของในมือไปได้สำเร็จ ร่างสองร่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนข้าวของหล่นกระจายเต็มพื้นไปหมด หญิงสาวรีบก้มเก็บของที่ตกหน้าตาตื่นทำให้ชายหนุ่มต้องรีบก้มเก็บตามไปด้วย แล้วก่อนที่มือเรียวจะทันได้เก็บของชิ้นสุดท้าย มือแกร่งของคนไวกว่าก็คว้ามันไปต่อหน้าต่อตาเสียก่อน แล้วเธอก็แทบจะช็อคเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เขาถือนั้นมันคือถุงใส่ยาคุมกำเนิดของเธอ!
 
“นี่อะไร” วิลเลียมถามคนตรงหน้าเสียงเข้ม ก่อนที่เขาจะหยิบซองยาในถุงออกมาดูเมื่อไม่มีคำพูดไหนหลุดลอดออกมาจากปากอิ่มฉ่ำ เขาจ้องมองมันตาเขม็ง อ่านข้อความตามฉลากทุกตัวอักษร ก่อนจะเงยหน้ามามองใบหน้าหวานที่ซีดเผือดลงด้วยแววตากราดเกรี้ยว “ผมถามว่านี่อะไร!”
 
“ยะ….ยาคุมกำเนิดค่ะ” กานดาก้มหน้าตอบออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆจนเสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย
 
“คุณทานมัน….โดยที่ไม่คิดแม้แต่จะบอกผมให้รู้สักคำอย่างนั้นน่ะเหรอ” ชายหนุ่มแยกเขี้ยวถามออกไปด้วยอารมณ์โกรธที่วิ่งพุ่งพล่านไปทั่วกายใหญ่จนเขาแทบจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ ทำให้ร่างเล็กต้องรีบถอยกรูดไปยืนชิดกำแพงเพื่อให้อยู่ห่างจากเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้
 
“คือดาจะบอกคุณแล้วนะคะ แต่มันก็มีเรื่องให้ดาไม่ได้บอกคุณทุกที ดาขอโทษค่ะคุณวิล” หญิงสาวรีบแก้ต่างจนลิ้นแทบจะพันกันไปหมด หากแต่คำแก้ตัวนั้นทำให้คนฟังถึงกับต้องส่ายหน้าด้วยความเอือมละอาเธอจนเกินทน!
 
“หึ….คุณนี่หาข้ออ้างได้ตลอดเลยนะ” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบจนคนได้ยินถึงกลับเย็นวาบไปทั้งตัว
 
“จริงๆนะคะคุณวิล ดาไม่ได้โกหก”
 
“โกหก!!!!”
 
                เสียงตะคอกดังลั่นไปทั่วห้องนอนสีหวานจนร่างบางต้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจและหวาดกลัวจนตัวแทบสั่น หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำและโครมครามจนแทบออกมานอกอก ณ เวลานี้คนตรงหน้าของเธอช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน ดวงตาแดงก่ำที่มองเธอด้วยแววตาวาวโรจน์บ่งบอกให้รู้ว่าเขาโกรธเธอจนสุดขีด ใบหน้าหล่อเหลาที่กลับกลายเป็นเหี้ยมเกรียมทำเอาเธอแทบจะพยุงตัวเอาไว้ไม่อยู่ จนเธอคิดอยากจะวิ่งออกไปจากห้องนี้ให้รู้แล้วรู้รอดหากแต่ขาทั้งสองข้างของเธอกลับไม่ยอมขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
 
                ร่างกำยำย่างสามขุมไปหาร่างบอบบางที่ยืนแข็งทื่อไม่กล้าจะขยับไปไหน ความหวาดกลัวที่มีอยู่เต็มหัวใจส่งผ่านออกมาทางแววตาจนชายหนุ่มสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน หากแต่มันไม่ทำให้ความโกรธเกรี้ยวที่มีอยู่ภายในกายลดน้อยลงเลยสักนิด เขากลับยิ่งรู้สึกโกรธเธอมากเข้าไปอีกเมื่อเธอก็รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าถ้าหากเขาจับเรื่องนี้ได้เข้า....เขาจะโกรธเธอมากแค่ไหน!
 
“ไม่อยากมีลูกกับผมขนาดนั้นเลยหรือกานดา” เสียงเหยียบเย็นถูกส่งมาอีกครั้งจนร่างบางเริ่มจะสั่นขึ้นมาเสียแล้ว
 
“ดา….ดา….” เสียงหวานได้แต่เรียกชื่อตัวเองซ้ำๆ คำตอบทุกอย่างดูเหมือนจะเหือดหายไปเสียหมดเพราะความกลัว
 
“ทำไมไม่ตอบล่ะ! คุณแก้ตัวเก่งนักไม่ใช่เหรอ”
 
               กายแกร่งประชิดกายสาวจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน ปากหยักเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดุกร้าว มือหนาข้างหนึ่งช้อนคางให้ใบหน้าหวานเชิดขึ้นและบีบแก้มนิ่มไว้ดั่งคีมเหล็กที่ไม่มีวันทำให้คลายออกได้ จนตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บร้าวกรามไปหมดจนแทบอยากจะกรีดร้องออกมา
 
“มีเรื่องไหนที่คุณปิดผมอีกบ้าง….มีอะไรที่ผมยังไม่รู้อีกฮะ!!!” ชายหนุ่มแผดเสียงใส่หญิงสาวอย่างสุดเสียงจนดวงตากลมต้องหลับตาปี๋เนื้อตัวสั่นเทิ้มไปหมดด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
 
                วิลเลียมมองคนตรงหน้าด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งโกรธเกรี้ยวที่เธอกล้าปิดบังเรื่องต่างๆจากเขามากมายขนาดนี้ ทั้งเสียใจและน้อยใจที่เธอไม่อยากมีลูกกับเขาถึงขึ้นแอบไปซื้อยาบ้านั่นมาทานโดยไม่บอกเขาเลยสักคำ ทั้งรู้สึกสงสารและนึกโมโหตัวเองอยู่ไม่น้อยที่ทำให้เธอกลัวจนตัวสั่นขนาดนี้
 
                เธอไม่รู้เลยหรือว่าเขาอยากจะสร้างครอบครัวกับเธอมากแค่ไหน ครอบครัวเล็กๆ….ที่มีเพียงเธอ เขา และลูกๆที่น่ารัก จริงอยู่ที่เขากับเธอยังไม่ได้ทำอะไรให้ถูกต้องตามประเพณีแบบที่ควรจะเป็น แต่ในอเมริกาคู่รักส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกันจนมีลูกมีหลานก่อนแต่งด้วยซ้ำ บางคู่เขาก็ไม่ได้เข้าพิธีจนตายจากกันไปเลยก็มี หรือว่าเธอกลัวว่าจะต้องมาติดแหงกอยู่กับเขาดั่งนกถูกขังอยู่ในกรงหากว่าเราสองคนมีลูกด้วยกัน หรือว่าเธอไม่เชื่อมั่นว่าเขาจะดูแลเธอไปจนตลอดรอดฝั่งตราบเท่าชีวิตจะหาไม่
 
หรือเป็นเพราะหัวใจของเธอไม่ได้อยู่กับเขาแต่เพียงผู้เดียว!
 
“ว๊าย!!!”
 
                หญิงสาวอุทานออกมาเสียงหลงเมื่อกายสาวถูกเหวี่ยงลงบนเตียงนุ่มอย่างเต็มแรงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ความรู้สึกเจ็บจุกทำเอาเธอต้องงอตัวและนำมือกุมท้องเอาไว้อย่างแนบแน่น ใบหน้าสวยเหยเกเพราะรู้สึกจุกท้องจนไม่มีแรงที่จะดิ้นหนีไปไหนได้ ดวงตาคมร้ายมองคนที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงก่อนที่กายใหญ่จะโถมเข้าหากายเล็กและคร่อมร่างเธอเอาไว้พลางจับขึงให้เธอนอนหงายหันมาประจันหน้ากับเขา ความหวาดกลัวยิ่งทวีคูณมากขึ้นพร้อมกับความหวั่นวิตกที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร จนมันฉายผ่านดวงตาใสให้คนที่กำลังกลายร่างเป็นซาตานร้ายชะงักงันไปชั่วครู่เพียงเท่านั้น!
 
“ผมไม่มีวันยอมให้คุณไปจากผม….และไม่มีวันยอมให้คุณตกไปเป็นของคนอื่น….ไม่มีทาง!”
 
               ปากหยักกระซิบข้างหูนวลด้วยน้ำเสียงที่วางอำนาจและดุดัน ก่อนจะเลื่อนมาหอมแก้มนุ่มที่แดงช้ำจากแรงบีบเสียฟอดใหญ่จนกายสาวต้องสั่นสะท้านเพราะความรู้สึกหวิววาบอย่างน่าประหลาด ก่อนที่ปากอุ่นซ่านจะไล้มาขบเม้มและดูดดึงไปตามซอกคอขาวนวลอย่างแรงจนกลายเป็นรอยจ้ำแดงที่ยากจะลบเลือน มือข้างหนึ่งเลื่อนมาเค้นคลึงอกหนั่นแน่นอย่างไม่เบามือนักจนหญิงสาวต้องกัดปากตัวเองไว้แน่นเพราะความเจ็บ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็จับแขนเรียวตึงเอาไว้ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนเลยก็ตาม
 
               ชายหนุ่มฉีกกระชากคอเสื้อชุดเดรสของหญิงสาวที่เป็นกระดุมให้ขาดออกจากกันอย่างแรงจนเธอต้องกรีดร้องออกมาเบาๆด้วยความตกใจ อกนวลขาวที่โผล่พ้นบราลูกไม้สีชมพูตัวหวานจนเกิดครึ่งปรากฏต่อดวงตาคมที่ฉายแวววาววับทันทีเมื่อเห็นมัน เลือดร้อนสูบฉีดไปทั่วร่างกายจนทำให้เขาตื่นตัวไปทุกส่วนสัดโดยเร็วพลัน กายกำยำเริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาบ้างเพราะความต้องการที่พุ่งพรวดพราดขึ้นมาอย่างไม่อาจจะบังคับและยับยั้งได้เลยจริงๆ
 
               ริมฝีปากอุ่นซ่านจาบจ้วงหน้าอกงามอย่างหื่นกระหาย เขาซุกไซร้ไปตามเนินอกอย่างร้อนแรง มือหนาทั้งสองกอบกุมดอกบัวงามให้เบียดเสียดกันไปมาจนทำให้ยอดถันโผล่พ้นบราแสนสวย ลิ้นอุ่นๆถูกลากวนรอบยอดอกช้าๆก่อนจะขบเม้มอย่างหยอกเย้าจนทำให้ร่างบางถึงกลับต้องเกร็งตัวและบิดไปมาเพราะความเสียวซ่าน ปลายนิ้วอีกข้างก็นวดคลึงยอดปทุมถันที่ว่างเว้นอย่างหมั่นมือก่อนที่จะลูบไล้ไปตามเอวเล็กอันน่าทะนุถนอม
 
หากแต่ความนุ่มนวลกลับกลายมาเป็นความเร่าร้อนและรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งในทันตา เหมือนดั่งว่าซาตานร้ายถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ!
 
“อื้อ!!”
 
                หญิงสาวกัดปากร้องออกมาด้วยความเจ็บตรงบริเวณเนินอกเพราะถูกปากหยักดูดเม้มอย่างแรงจนเป็นรอยจ้ำเต็มไปหมด มือแกร่งที่เคยสัมผัสเนื้อนุ่มอย่างเบาบางก็กลับกลายเป็นหน่วงหนักจนเกิดเป็นรอยช้ำตามจุดต่างๆที่เขาสัมผัส หากแต่คนใต้ร่างกลับยังคงนอนนิ่งเฉยปล่อยให้คนบนร่างทำตามใจอย่างไม่แม้แต่จะคัดค้านหรือขัดขืน เหมือนดั่งว่ายอมให้เขาเอาคืนกับความผิดที่เธอทำไว้อย่างสาสม เหมือนดั่งคนที่ยอมจำนนและยอมสิโรราบต่อเขาแต่โดยดี
 
                หากแต่ยิ่งทำให้เธอเจ็บใจของเขามันก็ยิ่งเจ็บกว่า หากแต่ยิ่งทำให้เธอรวดร้าวกายของเขามันก็ยิ่งรวดร้าวกว่าเธอเป็นหลายเท่า ถึงแม้เขาจะพยายามสลัดความรู้สึกนี้ทิ้งไปและเพิ่มข้อหาให้กับเธอสักแค่ไหนแต่มันก็ไม่ได้ผลเลยสักนิด ยิ่งเมื่อได้เห็นหยดน้ำตาที่ไหลรินก็ยิ่งทำให้หัวใจของเขามันอ่อนฮวบลงจนลืมความโกรธเสียหมดสิ้น
 
เหมือนดั่งว่าทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเธอคือตัวเขา เหมือนดั่งว่าหัวใจของเขามันหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ จนมิอาจจะปล่อยให้ซาตานแสนชั่วร้ายมาทำลายร่างกายและจิตใจของเธอได้อีก….  
 
“ผมขอโทษ….”
 
                คำขอโทษถูกเอ่ยออกมาอย่างสั่นเครือและแหบพร่า พร้อมกับร่างกำยำที่ทรุดตัวลงดั่งคนไร้เรี่ยวแรง ใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ฉายแววไปด้วยความโศกเศร้าซุกซบลงตรงบ่าเล็กที่เปลือยเปล่าเหมือนเด็กๆ หัวใจดวงแกร่งเต้นรัวเร็วจนกายแกร่งต้องหอบหายใจเล็กน้อยไม่แพ้กับหัวใจดวงเล็กกว่าที่เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะไม่แพ้กัน
 
“คุณวิล….”
 
                กานดาเรียกคนบนร่างอย่างตื่นๆเมื่อเธอรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่อยู่ตรงบริเวณบ่าข้างที่เขาซบ หากแต่ใบหน้าหล่อคมกลับไม่ยอมเงยหน้ามาสบตากับเธอเลยสักนิด จนเธอต้องขยับตัวและจับเขาพลิกให้เป็นฝ่ายนอนหงายและให้ตัวเธออยู่ด้านบนแทน ดวงตาหวานจ้องสบกับดวงตาคมที่แดงก่ำหนักกว่าเก่า มือเรียวเอื้อมมาสัมผัสแก้มสากอย่างแผ่วเบาแล้วเธอก็ต้องอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงความชื้นจากแก้มนั้น ก่อนที่เธอจะฝังจูบลงบนแก้มทั้งสองข้างของเขาให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยคำที่ทำให้หัวใจดวงแกร่งพองโตขึ้นมาในบัดดล
 
“ฉันจะเป็นของคุณ….และฉันจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไปค่ะคุณวิล ฉันสัญญา”
 
                กล่าวจบริมฝีปากอิ่มสวยก็ฝากฝั่งจุมพิตแสนนุ่มหวานลงบนริมฝีปากอุ่นหยักให้คนใต้ร่างรู้สึกอุ่นซ่านไปทั่วทั้งกายและใจในทันที จูบแสนหวานถูกเคล้าคลึงให้เป็นรักที่หวานหอม กายทั้งสองเหมือนลอยละลิ่วอยู่บนปุยเมฆขาวบนท้องฟ้าสีใส หัวใจที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวหลุดลอยไปกับความรักที่โอบกุมไว้ดั่งเป็นเกาะป้องกันชั้นดี เพื่อไม่ให้สิ่งใดมากรีดกลางระหว่างใจให้ขาดวิ่นได้อีกต่อไป….
 
                จูบอันแสนหวานเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนเมื่อลิ้นทั้งสองหยอกล้อและเกี่ยวรัดกันอย่างพิสมัย ร่างใหญ่พลิกร่างขึ้นคร่อมร่างเล็กไว้พลางนำมือลูบไล้ไปตามส่วนสัดที่ได้รูป ก่อนที่มือหนาข้างหนึ่งจะเลิกกระโปรงเดรสขึ้นจนมันมากองอยู่ใต้ฐานอก ก่อนจะค่อยๆกระตุกให้ชั้นในสีหวานล่นลงมาจนอยู่เหนือเข่ามล ปากหยักถอนจูบออกพลางไล้จุมพิตไปทั่วคอระหงลงมาจนถึงอกอวบงามที่เต่งตึงรอรับสัมผัสหวามจากเขาอยู่ก่อนแล้ว
 
                ลิ้นร้อนไล้โลมยอดปทุมถันอย่างนุ่มนวล หากแต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนจนเสียงหวานต้องครางออกมาอย่างสุดจะกลั้น ก่อนที่กายกำยำจะเลื่อนตัวให้ต่ำลงมายังหน้าท้องแบนราบขาวนวลที่กำลังกระเพื่อมเพราะแรงหอบหายใจของร่างบาง พลางวนริมฝีปากไปทั่วหน้าท้องและขบกัดมันอย่างหมั่นเขี้ยวเล็กน้อยจนคนโดนกระทำถึงกลับสะดุ้งเพราะความเสียววาบวิ่งพล่านไปทั้งตัว
 
“คะ….คุณวิล….”
 
                หญิงสาวครางเรียกคนบนร่างเสียงกระเส่าเมื่อปากอุ่นเลื่อนมาขบเม้นตุ่มไตสีเรื่อจนเธอต้องเกร็งตัวแข็งไปหมดเพราะความเสียวซ่าน ลำนิ้วแกร่งถูกส่งเข้ามารุกล้ำโพรงกุหลาบฉ่ำอย่างล้ำลึกแบบที่เธอไม่ได้ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ ทำให้กายสาวต้องหอบหายใจอย่างรัวเร็วเพราะความตื่นตัวที่เขามอบให้มันแทบทำให้เธอเต้าไต่ไปถึงฝั่งฝันในบัดดล
 
                กายสาวบิดเกร็งไปมาเมื่อจังหวะเข้าที่เชื่องช้าแต่เน้นลึกเริ่มเร่งจังหวะเป็นรัวเร็วและเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น ลิ้นร้อนลองลิ้มชิมรสหยาดน้ำผึ้งหวานที่ถูกกลั่นออกมาจากโพรงสวรรค์อย่างหลงใหล ความเป็นชายที่เป่งบวมคับแน่นอยู่ภายใต้กางเกงเนื้อดีเริ่มจะเจ็บปวดเมื่อความต้องการอยากจะปลดปล่อยดำเนินมาถึงขีดสุดที่จะทนไหว หากแต่เขายังคงใจเย็นขยับนิ้วและโรมรักด้วยลิ้นร้อนให้เธอต่อไป จนร่างสวยเริ่มเข้าไปใกล้ถึงจุดหมายร่างใหญ่จะรีบปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองออกก่อนจะรีบฝากฝังความเป็นชายลงในกายสาวทันที
 
                ความล้ำลึกอันแสนจะอึดอัดทำให้กานดาต้องสำลักความลึกนั้นออกมาเป็นเสียงครางแหลมแสนบาดใจ สะโพกใหญ่แช่นิ่งไว้สักพักก่อนที่เขาจะค่อยๆเคลื่อนตัวไปช้าๆและเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นเมื่อคนใต้ร่างเริ่มผ่อนคลาย กายสองกายสอดประสานเข้าหากันอย่างรู้ใจ พายุสวาทโหมลุกฮือเข้าไปใหญ่เมื่อใจสองใจเอาแต่พร่ำเพรียกเรียกหาแต่กันและกัน
 
               สงครามสวาทแห่งรักเกิดขึ้นภายในห้องสีหวานที่ร้อนระอุอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างส่งพลังให้แก่กันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร สองมือเกาะกุมกันไว้มั่นอย่างไม่มีใครสามารถมากระชากให้หลุดออกจากกันได้ เหมือนกับสองกายที่หล่อหลอมเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันจนตราบที่ฟ้าจะสลาย โลกจะมลาย และตราบชั่วนิจนิรันดร์….
 
ทัณฑ์สวาทอันหอมหวาน….ดั่งเป็นยานอนหลับที่ทำให้คนโดนวางหลงใหลไปกับความฝัน….หลงใหลไปกับความงดงามที่ไม่จีรัง….เพราะเมื่อตื่นจากฝัน….ความจริงที่โหดร้ายก็พลันเข้ามาเยือน….   
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ใครว่าผู้ชายร้องไห้ไม่เป็น กร๊ากกกก  
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา