เดชแม่ยาย

9.3

เขียนโดย ชนบท

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 23.54 น.

  7 ตอน
  7 วิจารณ์
  27.09K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ผู้ใหญ่บ้านนางรอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมตื่นขึ้นมาในยามเช้าที่สดใส  หลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย  ผมแต่งตัวง่ายๆมานั่งที่ศาลาหน้าบ้าน  สายใจ แม่บ้านทรงโตเดินนำกาแฟพร้อมขนมโปรดมาวางให้ที่โต๊ะหินอ่อน แล้วผมก็เหม่อมองดูหมู่บ้านจากตรงนี้พลางจิบกาแฟไป  นี่คือสิ่งที่ผมทำประจำทุกเช้า ทุกบ่าย  และทุกวัน กาลเวลาเปลี่ยนไป สรรพสิ่งรอบกายเปลี่ยนตาม สังขารร่วงโรยไปตามวัย แต่หัวใจของผมยังคงเฝ้ารอ...รอให้เธอกลับมา....สร้อย...ผมเหม่อมองไปที่ถนน  หมายใจให้เธอเดินกลับมา  มาหาผมพร้อมรอยยิ้ม  แต่ก็ยังไม่มีวี่แววใดๆ  ผมต้องทนฟังคำพูดของเจ้าคมที่พร่ำกรอกหูผมทุกวันให้ลืมเธอ  ให้ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่  ให้ผมยอมรับการเปลี่ยนแปลง  แต่บางสิ่งสำหรับบางคนอาจดูเป็นเรื่องง่ายและทำได้ง่าย ทว่ามันกลับยากเย็นจนยากจะทำได้สำหรับบางคน  เช่นเรื่องของผม ที่จะทำใจให้ลืมสร้อย.....19 ปี  ดูมันจะเนิ่นนานสำหรับบางคน  แต่สำหรับผมมันกลับดูสั้นเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวันวาน ภาพต่างๆของสร้อยยังแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ  ผมไม่อาจลืมเธอ  หรือไม่อาจจะหยุดที่จะรักเธอได้เลยจริงๆ.....

 

“พี่ไม่ออกไปไหนรึวันนี้?”สายใจแม่บ้านทรงสะบึ้มถามผม

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

“เห็นเมื่อวานพี่กลับมาหน้าตาสดชื่น  ไปทำอะไรมารึ?”

“เปล่า?ก็เหมือนทุกวัน”

“ไปเที่ยวกับสาวๆมาใช่ไหม?”สายใจมองยิ้มๆ

ผมนั่งเฉย...ไม่ตอบอะไร สายใจมองอยู่ครู่เมื่อเห็นว่าผมไร้อารมณ์ไม่สนใจอยากจะคุยก็เดินเข้าบ้านไป  ผมนั่งมองไปเรื่อยเปื่อย พลันก็นึกถึงสาวน้อยคนเมื่อวาน”โสภาค่ะ....เรียกโสเฉยๆก็ได้ค่ะ...”คำพูดของเธอยังก้องอยู่ในสมองของผม  กลิ่นกายที่หอมหื่นคุ้นเคยนั่น  หน้าตารอยยิ้มช่างคร้ายๆกับใครบางคน  แต่ไม่ใช่สร้อย  แววตาขี้เล่น รอยยิ้มที่หวานและชื่นใจที่ได้เห็น อื่ม..ระหว่างที่สร้อยยังไม่กลับมาสักที ผมน่าจะทำอะไรเล่นๆบ้างดีกว่า แม่สาวน้อยคนนี้ก็น่าสนใจ แค่เจอเธอยังพาจิตใจของผมล่องลอยได้ น่าจะมีอะไรให้ค้นหามากกว่านั้น  ทำอะไรเล่นแก้เซ็งระหว่างรอสร้อยกลับมาดีกว่า......

 

....เจ้าคมถูกโทรตามมาหาผมที่ร้านของเจ๊พลอย  ร้านอาหารตามสั่งที่หน้าตลาดแต่จัดร้านกึ่งคาราโอเกะแบบบ้านนอก ผมนั่งรอสักครู่เจ้าคมก็มาปรากฏตัว

“เรียกผมมาหานี่มีเรื่องชั่วๆเอ้ย...มีเรื่องอะไรจะปรึกษาครับพี่?”

เจ้าคมถามผมทันทีที่นั่งลงร่วมโต๊ะกับผม

“เอ่อ....ก็เรื่อง....เอ่อ....เมื่อวานนี้แหละ.....เอ่อ....มึงจำได้ไหม?.....เอ่อ....”

“โอ๊ะ...พี่เอ้ย?  เป็นอะไรไปนี่ ติดอ่างตั้งแต่เมื่อไหร่. เรื่องเมื่อวาน....เอ...เมื่อวานนี้......อ่อ.....”

เจ้าคมดุผมที่พูดติดอ่าง  แต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อวานมันก็ยิ้มมองผมแบบเจ้าเล่ย์

“จะถามผมเรื่องอีหนูตัวน้อยๆคนนั้นหรอ...อะ..อะ...อะ.....จะเล่นเด็กเรอะพี่.....คุกน่ะ....อยากเสี่ยงเรอะ....”

เจ้าคมถามล้อๆ

“โธ่....ไอ้วรนุชคม ทีเมื่อก่อนมึงจัดหาผู้หญิงให้กูไม่เห็นมึงพูดคำนี้....กูเรียกมึงมาปรึกษาให้หาทางช่วย  กูแค่อยากจะ เอ่อ...กูอยากจะ....เด็กคนนั้น...ว่ะ....”

“อยากจะเอาเด็กคนนั้น?...”เจ้าคมถามตรงๆ

“ไม่ใช่...กูแค่อยากรู้จัก  อยาก...เอ่อ....”ผมพูดไม่ออก  รู้สึกเขินอายถ้าจะพูดถึงเด็กคนนี้  ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยากจะเอาใครคนไหนก็สั่งเจ้าคมไปติดต่อมาให้ได้ไม่เกินมืด  เพียงเงินมาทุกคนที่หมายตาก็ผ้าหลุด  แต่กับเด็กคนนี้  เธอทำให้ผมรู้สึกมากกว่าจะร่วมรักกับเธอ.....

“โธ่พี่?...เด็กสาวสมัยนี้นะพี่  ไม่ใช่เด็กสาวสมัย 20 ปีที่แล้วนา  พี่นี่ตกยุคไปแล้ว  ยุคของพี่ สาวๆรักเดียวใจเดียว ไม่จำเป็นไม่มีผัวซ้ำ และถูกใจรักจริงถึงให้ สมัยนี้แค่มองตาถูกใจก็ชวนกันไปโจ๊ะแล้ว ยิ่งมีเงินถึงไม่ต้องพูด  ถ้าจ่ายหนัก  แม่ถ่างขาจับใส่ให้เองเลย  ผมว่าถ้าพี่อยากจะ....”

“พอ...พอ...พอ...ไอ้คม  มึงหยุดพูด เรื่องอย่างนั้นกูไม่อยากฟัง..”ผมยกมือห้ามเจ้าคม”กูเรียกมึงมานี่  กูอยากจะจีบเด็กคนนั้นว่ะ  มึงคิดว่าพอมีทางไหม?”

“โคตรจะมีทางเลยพี่...มีอะไรล่ะที่เด็กคนนั้นจะปฏิเสธพี่”

“กูแก่กว่าเขาตั้งรอบกว่านะ?”

“แต่พี่มีเงิน  มีชื่อเสียง เรื่องอายุไม่ใช่ปัญหา”เจ้าคมเอาข้อเด่นของผมลบข้อด้อยทันที

“แล้วมึงว่าอย่างกูถ้าไปจีบเขา  เขาจะสนใจกูไหม?”

“โฮ้...พี่จะไปเสียเวลาจีบทำไม?  เอางี้ ถ้าพี่อยากเอาเขาจริงๆ ผมจะไปติดต่อเอามาให้ ว่าแต่สู้เท่าไหร่?”

“ไอ้วรนุชหน้ามืด?  มึงนี่มันคิดแต่จะเอาเงินทุ่ม  เคยอยากได้หัวใจเขาบ้างไหม?”

“พี่นี่ตกยุคจริงๆ  เด็กคนนั้นพี่ตีค่าสูงเกินไปแล้ว  พี่ไม่สงสัยเหรอ  ว่าทำไม? เด็กนั่นถึงมาที่นี่ เด็กนั่นอาจจะหากินในกรุงเทพฯจนปรุแล้วก้อได้  เลยเดินสายมาหากินกับพวกเศรษฐีบ้านนอก  เป็นหลานเจ้าชมจริงหรอ พี่ก็รู้? ไอ้ชมมันเคยมีญาติที่ไหน และดูหน้าตาผิวพรรณ  คนล่ะเหง้ากันเลย  ไม่แน่...ไอ้ชมมันอาจพามาหากินเองก็ได้..”

ผมส่ายหัวมองหน้าเจ้าคม”เรื่องวรนุชอย่างนี้มีมึงคนเดียวที่คิดได้  ไปว่าเขาซะเสียหาย  มึงสืบข้อมูลของเขามาดีแล้วรึ”

“ผมไม่ต้องสืบก็ดูออก  เมื่อวานผมเห็นเด็กคนนั้นเล่นหูเล่นตาแพรวพราวกับพี่  จริตจะก้านยั่วยวนพี่เต็มที่ อย่างพี่ไม่ทันหรอก  ระวังเถอะ พี่ไม่เคยเจอเด็กหลอก  ถ้าเจอแล้วจะรู้ว่ามันร้ายขนาดไหน?  ขอเตือน...”

“ทำอย่างกับมึงเคย.....กูไม่อยากคุยกับมึงแล้ว  ชวนมาปรึกษาเสือกพูดให้กูใจฝ่อ  กูแค่รู้สึกว่าเด็กนั่น  ถูกชะตา และที่สำคัญ  เด็กนั่นทำให้กูคิดถึงใครบางคน  เหมือน...กูว่าน่าจะคล้ายๆนะ...”ผมบอกเจ้าคมและคิดคำนึงถึง  ว่าเด็กคนนี้การพูดจาและท่าทางเหมือนใครอีกคนหนึ่ง แต่นึกไม่ออก

“พี่จะบอกว่าเด็กคนนี้เหมือนสร้อยหรอ?  แต่ผมว่ามีแค่บางส่วน  แต่ว่าสร้อยไม่ได้ตัวเล็กอย่างนี้นี่  ผมประมาณว่าจบม.6 อายุ 17 – 18น่าจะสูงกว่านี้  นี่คงสูงประมาณ 160ได้ สร้อยตอนอายุเท่านี้ตัวใหญ่กว่าเยอะ”เจ้าคมช่วยออกความเห็น

“เขาอาจเป็นเด็กเรียนก็ได้  เลยทำให้การเติบโตด้านร่างกายด้อยไปแต่ไปเติบโตทางสมองแทน”

“โธ่พี่...มองแต่แง่ดี  พี่จำไม่ได้หรอ  ว่าผู้หญิงพอโดนเจาะไข่แดงไปแล้วจะหยุดโต  เด็กนั่นอาจโดนตั้งแต่อยู่ม.ต้นแล้วก็ได้  ตัวเลยหยุดโต ตัวเลยเตี้ยแค่นั้น....”เจ้าคมขัดขึ้นมาทำเอาผมใจหายเสียวแป๊ปๆ

“มึงนี่...พูดแต่ละอย่าง...ไม่เคยเข้าหูกูเลย  จ้องแต่จะให้เขาโดนอย่างเดียว”ผมชักหงุดหงิดกับการให้คำปรึกษาของเจ้าคม

“ทำไมพี่?  ถ้าอยากล่อเด็กคนนั้นจริงๆแล้วทำไมพี่ต้องมากเรื่องด้วย  อย่างพี่ถ้าอยากจะล่อเขาจริงๆ  มันไม่ยากและไม่ต้องมาคิดมากเลยเดินเข้าไปถามตรงๆ  ว่าหนูจะเอาเท่าไหร่?  รับรองไม่เกินสามหมื่นต่อครั้ง ราคานี้ขนาดนางงามจังหวัดแล้วนะ”

“เฮ้อ...มึงนี่หนอ....เอะอะจะให้เอาเงินชื้ออย่างเดียวเลย เมื่อวานกูลองหยั่งเชิงดูนิดๆแล้วว่าอยากช่วยออกค่าเล่าเรียนให้  กูเห็นไอ้ชมมันว่าถ้าเด็กคนนี้ถ้าคิดหาเงินทางนั้นล่ะก้อ  ไม่ต้องมาถึงนี่หรอก  อยู่กรุงเทพฯก็มีคนอยากออกให้เยอะแยะ”

“นั่นไง?ชัดเลยพี่  มันหวังโก่งค่าตัว”

ผมถึงเอามือกุมหัว”นี่มึงมองเด็กคนนั้นด้านนี้ด้านเดียวเลยหรือวะ?”

“ แล้วพี่จะให้คิดด้านไหนล่ะ?  สมัยนี้แล้วนะพี่  เด็กที่พี่เห็นว่าไร้เดียงสาน่ะ  บางทีอาจจะกร้านโลกกว่าที่พี่คิดก้อได้”

“เอางื้ดีกว่าไอ้คม?  มึงกับกูมาพิสูทธ์กัน”

“พิสูทธ์อย่างไง?”เจ้าคมขมวดคิ้วถามผม

“กูจะลองจีบเด็กคนนี้ดู ถ้าเป็นอย่างมึงว่าจริงกูก้อไม่ได้เสียหายอะไร  เสียแค่ค่าตัว แต่ถ้าไม่ได้เป็นอย่างมึงว่า กูก้อจะเก็บไว้เป็นบ้านเล็กของกู  ก็เท่านั้น...”

“ที่แท้พี่นี่มันก็แค่อาการคนแก่เห่อของเล่นใหม่เท่านั้น  คุยกันเสียยืดยาว  สุดท้ายก็สรุปได้แค่นี้  อยากล่อเด็กๆ”

ผมหลบสายตาเจ้าคมที่จ้องมาที่ผมอย่างเจ้าเล่ย์และรู้ทัน

 

ตกเย็นของวันนั้นที่หน้าสำนักงานอบต.  ผมกับเจ้าคมขับรถไปด้วยกัน  แต่แปลกใจที่ไม่เห็นมีร้านขายหมูปิ้ง มองหาจนทั่วก็ไม่มีนอกจากกลุ่มคนที่มาเต้นแอร์โรบิกเพื่อสุขภาพ  ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการออกกำลังกายของชุมชน  แต่วันนี้คนหนาตาผิดปรกติ  และมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มากเป็นพิเศษ  เจ้าคมที่เป็นสารถีให้ผมหาที่จอดรถได้แล้ว  ก็ชวนผมเดินหาร้านหมูปิ้งของโสภา  และได้เจอเจ้าชมกำลังเก็บของอยู่...

“อ้าว?ไอ้ชมขายหมดแล้วหรอ”ผมทักเจ้าชมที่กำลังก้มๆเงยๆเก็บของอยู่

“หมดแล้วพี่...โดนเหมาหมด”เจ้าชมละมือจากการทำงานยืนขึ้นมาตอบผม

“แล้วใครเหมาวะ”

“กำนันเม้งจ๊ะพี่...”คำตอบของมันทำเอาผมชะงัก

“ไอ้เม้งมันเหมาหรอ?  มันมาที่นี่ได้ยังไง?  และมันรู้จักน้องโสด้วยหรอ?”

“จ๊ะพี่...มาถึงเขาก็สั่งยัยโสว่าไม่ต้องขายให้ใคร  มีเท่าไหร่เหมาหมด”

ผมกัดฟันกรอด  หนอยไอ้เม้ง นี่มึงข้ามถิ่นมาจากบ้านยางขาว มาจีบสาวๆของหมู่บ้านกูถึงถิ่นเลยหรือ ไอ้เม้ง มึงจะตามจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหน ทุกเรื่องที่กูจะทำ จะต้องมีมึงโผล่มากวนประสาททุกที ไอ้เม้งหลังจากบ้านของมันถูกปล้นจนหมดตัวเมื่อ 20 ปีก่อน  มันได้ย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านยางขาว  มันไปสร้างอิทธิพลที่นั่น  ฉ้อโกงผู้คนจนร่ำรวยอีกครั้ง  แม้นแป๊ะองจะไปเฝ้าเง็กเซียนนานแล้ว  แต่มันก็สืบสันดานต่ออย่างไม่เปลี่ยนเจตนา  ตอนนี้มันได้เป็นกำนัน  และเป็นโสด เพราะ กิมรั้งเมียของมันได้ตายไปเนื่องจากติดฟังละครวิทยุและเจอละครตื่นเต้นเลยเป็นลมช๊อคตายไป  มันเลี้ยงสาวๆไว้หลายคน  แต่ก็ไม่มีใครอยู่ได้นาน  เพราะสันดานของมันเอาแล้วไม่เลี้ยงดู  แล้ววันนี้มันคงจะมาคิดจีบโสภาแข่งกับผมอีก  แล้วมันอยู่ไหน?....

 

“อ้าว....มาได้อย่างไงเล่า?ผู้ใหญ่คนดัง...”เสียงของไอ้เม้งทักมาทันที 

ผมหันไปก็เจอไอ้เม้งในชุดวอส์ม  มีสมุนเดินตามมาห้า – หกคนกำลังกินหมูปิ้งกันอย่างเอร็ดอร่อย       

“แล้วมึงล่ะมาได้อย่างไง?  ใครจุดธูปเชิญมึงมา?”ผมทักกลับไปแบบเจ็บๆ

“ปากของมึงนี่ไม่น่าอยู่เป็นผู้ใหญ่บ้านมาได้นานขนาดนี้เลย...”มันตอบเสียงเครียดๆ

“อวดร่ำอวดรวยอะไรหนักหนาวะ  มาทำเป็นเหมาหมูปิ้งหมดร้าน จะเอาไปไหว้เตี๋ยไหว้ม่าว์มึงรึไง?”

กำนันเม้งทำหน้าดุ”ไอ้นี่ทะลึ๋ง?ลามปามไปถึงบุพการีที่ล่วงลับ  มึงนี่เอาไว้ไม่ได้แล้ว  เฮ้ย?เด็กๆ”

ลูกน้องของมันทำท่าขยับตัวตามคำสั่ง   แต่ก่อนจะมีเรื่องเจ้าชมรีบมาห้าม

“อย่าเลยครับ?ท่านผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง  ขอร้องละ อย่ามีเรื่องกันเลย ที่นี่กลางชุมชนนะครับ  กำนัน –ผู้ใหญ่ก็โตๆกันแล้ว มามีเรื่องกันไม่อายบ้างรึครับ..เป็นอะไรสองคนนี่เจอกันไม่ได้เลย.”

กำนันเม้งทำท่าฮึดฮัด”ดีนะที่ไอ้ชมเตือนสติ  ไม่งั้นมึงแหลก?”มันยังทำท่าขู่ผม

“มึงพูดอย่างกับกูกลัวมึงตายล่ะ  กูต่างหากที่ต้องบอกอย่างงั้น  แต่วันนี้กูก็ไม่อยากมีเรื่องด้วย  เดี๋ยวน้องโสของกูเห็นแล้วจะหาว่ากูป่าเถื่อน”

“อะไรนะ?ไอ้ผู้ใหญ่  น้องโสของมึง  ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่ามึงพูดผิดหรือเปล่า”กำนันเม้งหัวเราะร่า”น้องโสไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่  แหม...แหม...แหม...แก่จะเป็นลุงของน้องโสแล้ว  เรียกเขาน้อง พูดมาได้ไม่อายปาก”

“แล้วมึงล่ะ  เรียกน้องโสก็ยังไม่อายปากเลย  มึงมันรุ่นปู่เขาแล้ว  นี่มึงก็หวังจะมาจีบน้องโส  ด้วยล่ะสิ ทำเป็นเอาเงินมาทุ่ม แก่จนเหนียงยานแล้วยังมักมากในกาม น้องโสคงจะเอาอยู่หรอก...”

“แล้วมึงหนุ่มกว่ากูตายล่ะ?”ไอ้เม้งยังไม่ยอมลดลา”น้องโสกับกูรู้จักกันมานานแล้วโว้ย  รู้จักจนสนิทกันเลย กูมาหามาคุยด้วยทุกวัน  วันนี้เขายังชวนกูมาเต้น อาราบิก  ออกกำลังกายเลย”

“เขาเรียกแอโรบิกโว้ย ไอ้วรนุชมีเขา  มึงนี่จับสลากได้เป็นกำนันมาหรือเปล่า  เรียกแค่นี้ยังผิดเลย”

“เออ...จะอะไรก็แล้วแต่  แต่วันนี้น่ะ กูจะมาเต้นไอ้อาโรบักอะไรนั่นแหละกับน้องโส  เสร็จแล้วกูจะพาเขาไปกินดินดานด้วยกันสองต่อสองคน...”

“เขาเรียกดินเนอร์  ถ้าไปกินดินดานละก้อ  กูว่าก็น่าจะเหมาะกับมึงน่ะ  ไอ้วรนุชดินโป่ง  แล้วน้องโสเขาบอกเรอะว่าจะไปกับมึงน่ะ?”ผมด่าแล้วถามย้ำกับมัน

“แน่นอน?”ไอ้เม้งตอบยืดๆ”น้องโสไม่เคยปฏิเสธกู”

“กูไม่เชื่อมึงหรอก”

“ไม่เชื่อมึงก้อไปถามน้องโสเองสิ..”มันกอดอกทำท่ากวนๆ

“แล้วน้องโสอยู่ไหน?”

“โน่นไง?”มันชี้ไปบนเวที”นำเต้นโอราบิกอยู่นั่นไง”

 

ผมมองตามที่ไอ้เม้งชี้ไปก็ได้เห็นเด็กสาวในชุดรัดรูปกำลังนำเต้นแอร์โรบิกอยู่บนเวทีข้างๆสำนักงานของอบต. ที่จัดไว้ให้เป็นที่ออกกำลังกายของชาวบ้าน ท่วงท่าของเด็กสาวงดงามตามจังหวะเพลงที่เร้าใจ  มีสาวๆหนุ่มๆเข้าแถวเต้นตาม  และยังมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อีกบางส่วนอออยู่ข้างนอก แอบมองและชื่นชมในทรวดทรงเล็กๆแต่สมส่วนในชุดรัดรูปที่เร้าใจ  เสียงร้องสั่งของโสภากังวานเป็นจังหวะให้คนเต้นตามอย่างสนุกสนาน ร่างน้อยๆชุ่มเหงื่อดูน่ารักไปอีกแบบ  ผมตะลึงมองดูไม่วางตา  ผมรู้สึกว่า จะหลงเสน่ห์สาวร่างเล็กอายุคราวลูกคนนี้เสียแล้ว...

“กูไม่เถียงกับมึงแล้วเสียเวลา  กูไปเต้นดีกว่า  แล้วจะได้ดูหุ่นฟิตแอนฟามของน้องโสใกล้ๆด้วย  กูไปล่ะ”

แล้วไอ้เม้งก็นำหน้าลูกน้องของมันไปแซงแถวข้างหน้าอย่างไม่เกรงใจใครและเต้นตามแบบของโสภาที่นำเต้นอยู่บนเวที ผมได้แต่ยืนกอดอกมองร่างน้อยๆนั้นอย่างชื่นชมและหลงใหล

“อีหนูคนนี้นี่ร้ายและมาแรงจังนะ”เจ้าคมที่มายืนข้างๆผมพูดอย่างขำๆ”แค่เปิดตัวก็ทำเอาสิงห์เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่สองคนจะฆ่ากันตายเพื่อแย่งตัวกันแล้ว”

“เหอะ?เสียให้ใครก็เสียได้  แต่ถ้าเสียทีให้ไอ้เม้งละก้อ  กูยอมไม่ได้ ท่าทางกูจะต้องทุ่มสุดตัว กับอีหนูคนนี้เสียแล้ว  ไม่งั้นกูจะต้องพลาดท่าให้ไอ้เม้งมันมาเยาะเย้ยกูแน่”ผมบอกเจ้าคม ขณะตายังไม่ล่ะจากร่างสาวน้อยในชุดรัดรูปบนเวทีนำเต้น  แหมลวดลายเต้นนี่  ได้ใจจริงๆ ไม่เคยรู้สึกหัวใจคึกคักอย่างนี้มานานแล้ว นานจนจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายมันเมื่อไหร่....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา