Charm Of Love เชื่อมหัวใจให้รวมเป็นหนึ่ง

8.2

เขียนโดย Black_ButterflyZERO

วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.02 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,465 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 23.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) Episode 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

               “พี่ฮะๆ ตื่นสิ ตื่นนนน เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”

               “อือออ อะไรกันออสติน หาวว~”

               “ไปโรงเรียน ไปโรงเรียน”

               แอชชเชอร์ค่อยๆลืมตาแล้วใช้สองแขนพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งและเอนหลังพิงไปกับหัวเตียงพลางขยี้ตา ก่อนจะหันหน้าไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ตรงโต๊ะข้างเตียง

               “นี่มันเพิ่งหกโมงเช้าเองนะออสติน”

               “ไปอาบน้ำสิฮะ วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะได้ไปโรงเรียนนะ”

               “อ่าาา จริงด้วยสินะ  อุ๊ก!”  แอชเชอร์มองออสตินที่กระโดดขึ้นคล่อมบนเตียง  “นายไม่ใช่เด็กแล้วนะ เลิกทำแบบนี้เถอะมันหนักนะ”

               “ไม่หนักซะหน่อย วันก่อนที่ผมเป็นลมอยู่ในสวนพี่ยังอุ้มผมขึ้นมาบนห้องเลย แถมบอกว่าตัวเบาด้วย”

               “นั่นมัน...”

               “ไปโรงเรียนกันเถอะ นะ?”  ออสตินพูดพลางยื่นหน้ามาใกล้ๆ จมูกของเขาสองคนแตะกันเล็กน้อย ก่อนที่ออสตินจะเป็นฝ่ายถอยไปในระยะที่พอให้หายใจสะดวก   “อาหารเช้านี้ผมลองทำซุปครีมข้าวโพดแบบที่พี่ชอบเป็นอาหารเช้าด้วยนะ”

               “อะไรนะ? นี่นายไปที่ห้องครัวมางั้นหรอ!!?”

               “ก็..ก็ใช่ฮะ ผม..”

               “พี่บอกหลายครั้งแล้วใช่มั๊ย? ว่าอย่าไปที่ห้องครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่ครัวไป นายไปที่นั่นมีแต่ควันอาหารที่คลุ้งเต็มไปหมด ไหนจะพวกฝุ่นแป้งทำขนม พวกนั้นอีก”

               “พี่แอชเชอร์ปกป้องผมเกินไปแล้วนะ ผมโตแล้วนะ”  ออสตินมุ่ยหน้าใส่ผมพร้อมกับเชิดหันไปทางอื่น

               “แต่นายยิ่ง..”

               “อ่อนแอง่าย และไม่แข็งแรง ฉะนั้นควรจะอยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกๆ ไม่งั้นอาการของนายจะแย่ลง พี่จะพูดแบบนี้ใช่มั๊ยล่ะ? ผมจำได้จนขึ้นใจแล้วฮะ”

               “ถ้าจำได้ก็ช่วยปฏิบัติตามที่ผมบอกด้วยนะครับคุณออสติน”

               “ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุล่ะฮะ”  ออสตินยิ้มทะเล้นมาให้ผม พร้อมกับจับมือ  “ผมชอบที่สุดเลยเวลาที่ได้จับมือพี่”

               “พี่ก็ชอบนะ”

               “คิกๆ งั้นไปโรงเรียนกันๆ”

               “พี่ไปไม่ได้หรอกนะถ้านายยังนั่งอยู่บนตัวพี่แบบนี้”  แอชเชอร์พูดพลางส่งสายตาบอกออสติน และเหมือนกับว่าเจ้าตัวจะเพิ่งรู้สึก ออสตินปล่อยมือผมและรีบลุกออกไปอย่างไว แอชเชอร์สังเกตุได้ถึงใบหูแดงๆ ของเขาถึงแม้ว่าจะหันหน้าหนีก็ตาม

               วันนี้มาแปลกแฮะ

               “งั้นผมไปรอที่ห้องอาหารนะครับ”

               “อ่า..อื้ม”

               หลังจากที่แอชเชอร์จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ลงไปที่ห้องทานอาหาร ออสตินนั่งรอพร้อมกับอ่านคู่มือนักเรียนที่ผมเพิ่งให้ไปเมื่อคืน แอชเชอร์เดินไปนั่งตรงต่ำแหน่งตรงข้ามกับออสติน พร้อมกับเขาที่เก็บคู่มือนักเรียนใส่กระเป๋าแล้วยิ้มส่งแป้นมาให้

               “ผมรอที่จะเห็นโรงเรียนไม่ไหวแล้วฮะ”

               “นายอาจจะอยากกลับบ้านเลยก็ได้นะ”

               “เหหห ไม่เห็นต้องพูดแบบนั้นเลยนะฮะ พี่ก็รู้ว่าผมรอเวลานี้มานานแค่ไหนแล้ว”

               “ครับๆ แต่ก็อย่าฝืนเรื่องสุขภาพของตัวเองซะล่ะ เข้าใจนะ?”

               “ฮะ!”

               แอชเชอร์กับออสตินก้มหน้าทานอาการเช้าของตัวเองให้เสร็จจะได้ไม่ไปโรงเรียนสาย วันนี้เป็นวันแรกที่ออสตินจะได้ไปโรงเรียนแบบเด็กคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าเขาจะเข้ามาช่วงกลางๆเทอมของปี 2 ก็ตาม เพราะเขาไม่ได้เข้าเรียนมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ระหว่างนั้นแอชเชอร์ก็ใช้หนังสือเก่าๆที่เรียนมาตั้งแต่อนุบาลจนถึงปี 2 ให้เขาได้อ่านและก็กลายเป็นครูส่วนตัวของเขาไปซะแล้ว จนตอนนี้แอชเชอร์ก็อยู่ชั้นปี 3 แล้ว อีกไม่นานก็จะเรียนจบและเข้าไปทำงานในบริษัทของคุณพ่อ ระหว่างนั้นคนที่คอยดูแลบริษัทก็คืออาของแอชเชอร์เอง

               ตั้งแต่วันที่คุณพ่อกับคุณแม่เสียแอชเชอร์ตั้งใจที่จะไม่บอกออสติน แต่ก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ และแอชเชอร์ก็จำได้ขึ้นใจเลยว่าหลังงานศพของคุณพ่อกับคุณแม่ ออสตินขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง เขาทานอาหารได้น้อยกว่าผิดปกติและไม่พูดกับใครประมาณเดือนกว่าๆ มีแต่แอชเชอร์เท่านั้นที่เขาเปิดใจ หลังจากนั้นก็ผ่านมา 4 เดือน ออสตินก็กลับมาเป็นคนเดิม ช่วงนั้นแอชเชอร์กังวลเรื่องสุขภาพของเขาเอามากๆเลยล่ะ

               ส่วนตอนนี้เรื่องของออสตินนั้น แอชเชอร์ไม่อยากให้เขาออกไปข้างนอกเลยจริงๆ ทั้งเรื่องอากาศและสภาพแวดล้อมมันมีผลกับออสตินมาก แต่ถึงอย่างนั้นแอชเชอร์ก็ไม่สามารถปล่อยให้เขามีโลกอยู่เพียงแค่ห้องสี่เหลี่ยมที่มีหนังสือมากมาย และหน้าต่างที่เป็นตัวกลางในการเรียนรู้โลกภายนอกของเขา

               “ว้าวว~ โรงเรียนล่ะ!”  ออสตินพูดอย่างตื่นเต้น พลางลดกระจกรถลง  “ดูนั่นสิฮะพี่ มีคนเยอะแยะเต็มไปหมดเลย”

               “นายชอบที่นี่รึเปล่าล่ะ?”

               “ชอบสิฮะ ชอบมากๆเลย”

               “ดีแล้วล่ะ”

               โรลส์รอยซ์หรูสีดำคลับจอดที่หน้าประตูรั้วของโรงเรียนลอสซิสแกนซ์ คนขับรถก้าวลงมาพร้อมกับเดินไปเปิดประตูให้ผมกับออสตินลงไป เพียงแค่ไม่กี่นาทีทั้งสองคนก็ดึงความสนใจจากนักเรียนที่กำลังพากันเดินเข้าไปในโรงเรียน นั่นไม่ใช่เพราะรถหรูที่พวกเขาได้เห็น แต่เป็นเพราะแอชเชอร์กับออสตินที่เป็นจุดความสนใจของคนทั้งโรงเรียน

               แอชเชอร์ก้าวเดินเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับจับมือออสตินที่ตอนนี้กำลังรู้สึกกลัวต่อสายตาทุกคนที่จ้องมองมา แอชเชอร์บีบมือออสตินเป็นสัญญาณว่าไม่เป็นไร ออสตินเงยมองหน้าผมพลางถอนหายใจพรืดใหญ่ อีกไม่นานก็จะได้เวลาเข้าห้องเรียนแล้ว แต่ผมก็เป็นห่วงออสตินมากจนไม่ได้กลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง และพากันมานั่งเงียบๆที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตึกเรียน

               “ไม่เป็นไรนะ?”

               “ฮะ แต่ว่านะทำไมคนพวกนั้นต้องมองเราและหันไปพูดอะไรกันก็ไม่รู้”

               “แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าโรงเรียน ไม่ต้องไปใส่ใจนะพี่จะอยู่ข้างๆนายแบบนี้”  แอชเชอร์กระชับมือที่พวกเขาจับกันให้แน่นขึ้นอีก  “อีกไม่กี่นาทีจะเข้าห้องเรียนแล้ว พี่จะพาไปส่งที่ห้องนะ”

               “ฮะ”

               ตามทางเดินในอาคารเรียนที่ไม่ค่อยมีคนเพราะพากันทยอยเข้าเรียนกันหมดแล้ว ออสตินได้อยู่ห้อง 2-A ซึ่งอยู่ทางด้านอาคารฝั่งตะวันออกชั้นที่ 2 (ตัวอาคารฝั่งตะวันออกจะเป็นของนักเรียนชั้นปี 2 ทั้งหมด ส่วนปี 1 อยู่อาคารฝั่งเหนือ ปี 3 อยู่อาคารฝั่งตะวันตก) ถึงแม้ว่าออสตินจะไม่ได้สอบเข้าโดยตรง แต่คะแนนเฉลี่ยในแบบทดสอบของเขาก็ถือว่าท็อปสำหรับชั้นปี 2 มันก็เลยง่ายที่จะเข้ามาเรียนในกลางเทอมแบบนี้

               “ออสติน...?”  แอชเชอร์หยุดเดิน แล้วหันไปหาออสตินที่กำลังตื่นเต้น จนกลัวก้าวขาไม่ออก  “ไหนว่าอยากจะมาโรงเรียนไง?”

               “ก็อยาก...แต่ผม...ผม...”

               “ไม่เป็นไรหน่าๆ เดินเข้าไปพร้อมกับพี่นะ ^^”

               “ฮะ...”  ออสตินกระชับมือที่จับกันอยู่ให้แน่นขึ้นและเดินไปด้วยกัน จนหยุดอยู่ที่หน้าห้องเรียน 2-A

               แอชเชอร์ไม่ปล่อยให้ออสตินได้เตรียมตัวเตรียมใจ เพราะรู้ดีว่าถ้าออสตินตื่นเต้นมากไปมีงอแงกลับบ้านแน่ๆ เลยจัดการเปิดประตูเข้าไป ทำให้สายตาของคนทั้งห้องหันมาจ้อมมองเป็นจุดเดียว

               “ขออนุญาติครับอาจารย์”  แอชเชอร์เอ่ยเสียงเรียบตอนที่เดินเข้าไป พลางทำหน้านิ่ง ผิดกับออสตินที่ไปยืนหลบอยู่ข้างหลัง อาจารย์ที่ดูเหมือนกำลังรอคอยก็ยิ้มรับ พร้อมกับถอยออกมาให้แอชเชอร์มายืนที่หน้าห้อง  “ผมแอชเชอร์ เลอแวงค์คัวล์ ส่วนคนที่อยู่ข้างหลังของผมคือ...”

               “กรี๊ดดดด!! พี่แอชเชอร์มีสองคนล่ะ!”  ไม่ทันที่แอชเชอร์จะได้แนะนำอะไร เสียงจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในห้องก็ดังขึ้นมา  “หน้าเหมือนกันมากเลยค๊าาา~”

               “อะแฮ่ม!”  อาจารย์กระแอ่ม พลางเหลือบมองเด็กหญิงอย่างคาดโทษ ทำให้เธอเงียบไป  “เชิญต่อเลย”

               “ขอบคุณครับ คนที่อยู่ข้างหลังของผมชื่อ ออสติน เลอแวงค์คัวล์ พวกเราสองคนเป็นแฝดกันอย่างที่เห็นครับ”

               “แล้วพวกเธอสองคนจะย้ายมาเรียนที่ห้องนี้งั้นหรอ?”

               “คนที่จะย้ายมาไม่ใช่ผมครับ แต่เป็นน้องชายของผมเอง”

               “แต่อายุของพวกเธอสองคนก็น่าจะเท่าๆกันนะ มาลดชั้นเรียนแบบนี้จะดีหรอ?”

               “เป็นการเริ่มต้นพื้นฐานครับ เพราะว่าวิชาบางตัวของชั้นปีสามออสตินคงจะไม่เข้าใจ และไม่มีพื้นฐานมากพอ ฉะนั้นผมคิดว่าให้เขาอยู่ที่ชั้นนี้ดีแล้วครับ”

               “แอชเชอร์...”  ออสตินกระซิบเสียงเบาขณะที่ก้มหน้าหลบอยู่ข้างหลังแอชเชอร์

               “ออสติน อย่าหลบแบบนี้นะ ออกมายืนดีๆเลย”  ว่าจบก็จับแขนออสตินแล้วดึงให้มายืนข้างๆ  “นายจะต้องอยู่ที่ห้องนี้แล้วนะ ทักทายเพื่อนๆหน่อยสิ”

               “.....”  ออสตินมองหน้าแอชเชอร์สลับกับมองคนในห้องเรียน  “สวัสดี...ครับ...”

               “งั้นก็...”  อาจารย์ชะเง้อหน้ามองหาที่นั่งให้ออสติน ก่อนจะเจอที่ว่างข้างๆกับผู้ชายผมสีไวน์แดง  “เธอไปนั่งข้างๆ วัลดัสล่ะกันนะ”

               “พี่ไปก่อนนะออสติน แล้วเจอกันตอนพักเที่ยงนะ พี่จะมารับนาย ^^ สัญญาเลย”  แอชเชอร์ยื่นนิ้วก้อยให้ออสติน แล้วส่งยิ้มให้

               “สัญญาแน่นะ” 

               “อื้อ ^^

               “ฮะ!”  ออสตินยื่มนิ้วก้อยไปเกี่ยวตอบ ทั้งสองทำท่าทางราวกับไม่สนใจสายตาทุกคู่ในห้องที่กำลังจ้องมองมา

               “พี่ไปก่อนนะ”

               แอชเชอร์ปล่อยมือที่จับแขนออสติน แล้วเดินออกไปจากห้องเรียน ออสตินจ้องมองแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไป ภายในใจก็อยากจะตามไปด้วยแต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายเลยได้แต่ยืนอยู่ที่เดิมจ้องมองแอชเชอร์ที่เดินจากไป

               ไม่ใช่ว่านี่จะเป็นครั้งแรงที่พวกเขาสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันเสียหน่อย ถ้าเป็นเมื่อก่อนออสตินก็ต้องอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียวระหว่างที่แอชเชอร์ไปโรงเรียน และรอคอยให้แอชเชอร์กลับมาหาไวๆ แต่ถ้าแบบนี้ก็ได้มาโรงเรียนด้วยกันทุกวัน ทานข้าวกลางวันด้วยกัน และเจอหน้ากันได้

               “โย่!”  ผู้ชายผมสีไวน์แดงที่ชื่อวัลดัสเอ่ยทัก ขณะที่ออสตินกำลังลดตัวนั่งบนเก้าอี้ของโต๊ะเรียนที่อยู่ข้างๆเขา  “ฉันชื่อวัลดัส สเปนเซอร์ อายุเท่าๆกับนายแหละแต่ฉันเรียนซ้ำชั้นปีหนึ่ง เรามาเป็นเพื่อนกันนะ”

               “ยินดีที่ได้รู้จัก...”  ออสตินตอบเสียงเรียบ พลางมองรอยยิ้มสดใสที่วัลดัสส่งมาให้  “ฉันออสติน เลอแวงค์คัวล์”

               “นายนี่หน้าเหมือนแอชเชอร์สุดๆ เลยนะ ฉันตกใจมากเลยตอนที่พวกนายสองคนเดินเข้ามาในชั้นเรียนพร้อมกันน่ะ”

               “ทุกคนก็บอกแบบนี้”

               “ถ้าไม่เข้าใจอะไรตรงไหนก็ถามฉันได้นะ แล้วนี่นายมีหนังสือเรียนรึยัง?”

               “มีแล้ว”

               “ดีเลย ฉันไม่ได้เอาอะไรมาเลยอ่ะ งั้นขอยืมดูด้วยคนนะ”

               “ห๋า?”  ออสตินมองวัลดัสด้วยสายตาปนดูถูกนิดๆ ผู้ชายคนนี้ท่าทางก็เหมือนพวกเด็กไม่ตั้งใจเรียน แต่กลับได้อยู่ห้องดีๆ ก็นึกว่าภาพลักษณ์กับนิสัยคงจะต่างกัน แต่ที่ไหนได้เหมือนกันไม่มีผิด

               “ต่อไปนี้เรามาเป็นเพื่อนกันนะ ^^

               “.....”  ออสตินทำท่าไม่สนใจกับประโยคเมื่อกี๊นี้แล้วหยิบหนังสือในกระเป๋าออกมาวางไว้บนโต๊ะ คนอย่างเขาน่ะไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนหรอก มีแค่แอชเชอร์คนเดียวก็เกินพอแล้ว

 

               “นี่ๆ ไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันนะ”

               “ไม่ ฉันกำลังรอแอชเชอร์”

               “แต่นี่ก็ผ่านมา 15 นาทีแล้วนะ ถ้านายไม่รีบเดี๋ยวช่วงพักเที่ยงก็หมดหรอก”

               “เรื่องของฉันสิ”  ออสตินเดินหนีวัลดัสแล้วออกจากห้องเรียนไป มันก็จริงที่ผ่านมาแล้ว 15 นาที แต่แอชเชอร์สัญญาไว้แล้วว่าจะมารับไปทานข้าวเที่ยง เพราะสัญญากันไว้ก็เลยต้องรอ...

               “ดูเหมือนว่าพวกที่อยู่สภานักเรียนจะยุ่งกันนะ”  วัลดัสวิ่งมาแล้วหยุดเดินอยู่ข้างๆออสตินที่ไม่รู้ว่าจะเดินไปไหน แต่คนข้างๆก็มีทีท่าว่าไม่อยากฟัง  “สงสัยคงจะทานข้าวกันอยู่ในห้องสภานักเรียนแล้งแหงเลย”

               “.....”

               “นายก็ต้องทานข้าวคนเดียวซะแล้วล่ะนะ”

               “.....”

               “ฉันไปทานข้าวเป็นเพื่อนนายก็ได้นะ จะได้พาชมโรงเรียนไปด้วยเลย ดีป่ะ?”

               “แล้วสภานักเรียนเกี่ยวอะไรกับแอชเชอร์กันล่ะ?”  ถึงแม้ว่าไม่อยากจะพูดแต่ก็รำคาญคนข้างๆเกินทน

               “นี่นายไม่รู้หรอว่าแอชเชอร์เป็นรองประธานนักเรียนน่ะ”

               “รองประธาน...งั้นหรอ...”  นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขารู้เพราะว่าแอชเชอร์ไม่ได้เล่าอะไรพวกนี้ให้เขาฟังเลย

               “ช่ายยย~ เป็นรองประธานมาตั้งแต่ปีสองแล้ว จนตอนนี้ก็ยังอยู่ตำแหน่งเดิม เป็นคนที่มีความสามารถมากและยังมีความรับผิดชอบดี เลยได้ถูกมอบหมายงานจากอาจารย์หลายคน พอๆกับประธานนักเรียนเลย สุดยอดไปเลยเนอะ อีกอย่างนะงานที่มีอยู่ก็เยอะ ไม่รู้ว่าเอาเวลาไหนไปจัดการกับการเรียนกัน สอบก็ได้ท็อปมาตลอด ฉันนี่โคตรอิจฉาเลย”

               “.....”  ออสตินไม่ตอบอะไรได้แต่ฟังวัลดัสพูดเพราะอยากรู้

นี่แสดงว่าตลอดเวลาแอชเชอร์ก็ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย แถมยังตอนเลิกเรียนแล้วก็ยังมาสอนหนังสือให้อีก แล้วก็ต้องไปทำงานเอกสารของสภานักเรียนจนดึกดื่น พอถามก็บอกว่าเป็นการบ้านทบทวนบทเรียน ออสตินคิดได้ดังนั้นก็รู้สึกผิดจนพูดไม่ออกเลย

               “อ่ะ! นั่นแอชเชอร์นิ!”

               “...!!”  ออสตินรีบหันมองไปยังตำแหน่งที่วัลดัสชี้ ก็พบว่าแอชเชอร์กำลังเดินมาทางพวกเขาสองคน และก็เหมือนทุกครั้งที่แอชเชอร์จะส่งยิ้มมาให้เขาเสมอ

               “สงสัยคงรีบเคลียร์งานแล้วมาหานายแน่ๆ”

               “ขอโทษที่ทำให้รอนานนะออสติน เราไปทานข้าวกันเถอะ”  แอชเชอร์คว้ามือออสตินไปจับ แล้วก็เห็นว่ามีใครบางคนยื่นอยู่ด้วย  “โทษที ไม่ทันเห็นน่ะว่านายมีเพื่อนอยู่ด้วย”

               “ไม่ใช่เพื่อนซะหน่อย...”

               “เอ๊ะ?”

               “ไปเถอะฮะ”  ออสตินออกแรงดึงแอชเชอร์ให้เดินออกไปด้วยกัน และทิ้งวัลดัสที่ทำหน้าจ๋อยไว้คนเดียว

               “ทำแบบนี้จะดีหรอ?”  แอชเชอร์ถามขึ้นขณะที่กำลังต่อแถวซื้ออาหาร

               “ผมมาเรียนก็ไม่ต้องการเพื่อนหรอก แค่พี่ก็พอแล้วฮะ”

               “อย่างน้อยก็น่าจะทำความรู้จักกันไว้นะ วัลดัสก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ”

               “พี่รู้จักด้วยหรอ?”

               “อื้ม เพราะว่าเขาเคยเป็นคณะกรรมการตอนเรียนอยู่ปีหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว”

               “คนแบบนั้นอ่ะนะเป็นคณะกรรมการ ท่าทางอย่างกับเด็กไม่ดี แถมไม่เอาหนังสือเรียนมากอีกนอกจากการ์ตูนบ้าบออะไรนั่นก็ไม่รู้ แถมยังมาวุ่นวายกับผมจนน่ารำคาญ พูดมากอีกด้วย”

               “ฮ่าๆ ดูเหมือนว่านายจะได้เพื่อนแล้วสินะ ^^

               “ใช่ซะที่ไหนกันล่ะฮะ (-_-^)

               “ ^^ โอ๊ะ! ถึงคิวเราแล้วแล้ว”  แอชเชอร์ยุติการคุยกับออสตินแล้วรีบหันไปสั่งอาหารเพราะคนต่อคิวยังมีอีกเยอะ  “คริสพี เชดดาร์ ชิกเก้นครับ แล้วก็ สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า อย่าล่ะหนึ่งชุดครับ”

               “ผมสั่งเองได้หน่า พี่ไม่ต้องสั่งให้ผมหรอกนะ”

               “ถ้าให้นายสั่งเองกว่าจะได้กินกันก็หมดคาบพักแล้ว แต่ล่ะเมนูเนี่ยของโปรดทั้งนั้นเลยไม่ใช่หรอ? พี่ก็เลยเลือกของที่นายชอบทานมากที่สุดมาให้ไงล่ะ”

               “.....”  ออสตินแอบหน้าแดงเล็กน้อยที่พี่ชายของเขารู้ใจเขามากขนาดนี้  “วันอื่นผมสั่งเองนะ”

               “ครับๆ ^^”  ยืนรอรับอาหารไม่นานก็มาเสิร์ฟอยู่ตรงหน้าแล้ว ทั้งสองรับอาหารที่สั่งแล้วเดินไปหาโต๊ะนั่งทานอาหารด้วยกัน

               พอหมดเวลาพักแอชเชอร์ก็ขอแยกตัวไปก่อนเพราะมีงานที่สภานักเรียนที่ต้องทำอีกเยอะ ออสตินเลยเดินกลับห้องเรียนเพียงคนเดียว แต่ระหว่างทางก็เจอวัลดัสเลยได้เดินมาด้วยกัน

               “อาหารของโรงอาหารอร่อยป่ะ?”

               “ก็ดีนะ”

               “นี่ๆ เลิกเย็นชาใส่ฉันเถอะนะ นะๆ มาเป็นเพื่อนกันเถอะ”

               “ฉันไม่เห็นอยากจะมีเพื่อนเลย แต่แอชเชอร์คนเดียวก็พอแล้ว”

               “นายนี่ท่าทางจะติดพี่นะ แอบคิดอะไรรึเปล่าเนี่ยย~”  วัลดัสพูดหยอกขำๆโดยไม่ได้คิดอะไร แต่หารู้ไม่ว่าไปแทงใจคนที่เดินอยู่ข้างๆ เสียแล้ว

               “คนอย่างนายจะไปรู้อะไร!”  ออสตินพูดเพียงเท่านั้นก็รีบวิ่งเข้าห้องเรียนไปทันที ทิ้งให้วัลดัสยืนงงอยู่ตรงนั้น

               คาบบ่ายมีวิชาพละซึ่งไม่ได้ระบุเอาไว้ในตารางสอนเนื่องจากเปลี่ยนคาบ ตามจริงพละจะต้องเรียนวันพรุ่งนี้แต่ถูกย้ายมาเรียนวันนี้แทน ออสตินซึ่งได้ถูกแจ้งล่วงหน้าก็เลยไม่มีชุดพละมาเปลี่ยนเลยได้แต่นั่งมองเพื่อนๆในห้องเล่นกีฬากันอยู่ข้างสนาม อีกอย่างออสตินก็ไม่สามารถทำกิจกรรมกลางแดดแรงๆแบบนั้นได้อีกด้วย

               “น่าเบื่อจังแหะ อยากจะไปหาแอชเชอร์จังเลย”  ออสตินบ่นอย่างเบื่อหน่าย สายตาก็เหลือบไปเห็นวัลดัสที่กำลังเล่นบอลอยู่ที่สนาม พอวัลดัสเห็นว่าออสตินกำลังมองอยู่ก็โบกไม้โบกมือให้ออสติน แต่ก็ถูกเมินหน้าหนี  “เก่งกีฬาแต่การเรียนไม่ได้เรื่องแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ...”

               แอชเชอร์ที่กำลังทำงานอยู่ห้องสภานักเรียนชั้นบนของอาคารก็มองเห็นออสตินผ่านหน้าต่าง ท่าทางกำลังเบื่ออย่างเต็มที่เลยสินะ คงจะอยากกลับบ้านหรือไม่ก็มาหาแอชเชอร์แน่ๆ คิดแบบนั้นก็อดที่จะแอบลอบยิ้มอยู่คนเดียวไม่ได้

               “แอชเชอร์นายยิ้มคนเดียวแบบนั้นไม่ขนลุกนะ”

               “เรื่องของหน่า”  แอชเชอร์มุ่ยหน้าให้กับประธานนักเรียนผู้มาดขรึม “ว่าแต่นายเถอะเซนน์ งานเอกสารที่กองบนโต๊ะนั่นกำลังรอให้นายตรวจสอบอยู่นะ”

               “ชิ! อาจาย์พวกนั้นเห็นว่าสภานักเรียนทำงานดีหน่อยก็เอาภาระที่ตัวเองควรจะรับผิดชอบโยนมาให้เราหมดเลยเนี่ยนะ แล้วพวกคณะกรรมการนักเรียนไปไหน ฉันไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว”

               “อาจารย์บอกว่ามีประชุมที่นอกโรงเรียนน่ะ”

               “ดีเนอะแค่ไปประชุมเอง แต่เรานี่วันทั้งวันก็เจอแต่กองเอกสาร”

               “อย่าบ่นมากเลยหน่า รีบๆทำเถอะจะได้เสร็จไวๆ วันนี้นายนัดกับคู่หมั้นไว้ไม่ใช่หรอ? ไปสายเดี๋ยวโดนงอนนะ”

               “ปล่อยไว้งั้นแหละ”  แอชเชอร์ยิ้มให้กับคำตอบของเซนน์ ถึงเซนน์จะพูดแบบนั้นก็เหอะแต่พอถึงเวลาก็รีบกลับสุดๆเลย  “แล้วตรงนั้นมีเรื่องอะไรให้นายยิ้มนักยิ้มหนานะ”

               “ไม่ต้องลุกมาเลยนะ”  ถึงแม้ว่าจะพูดห้ามยังไง แต่คนที่ถูกห้ามก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟังเลยสักนิด  “เหหห...มาส่องรุ่นน้องสาวๆปีสองนี่เอง”

               “ไม่ใช่นะ! พอเลยๆ นายไปไกลฉันเลยนะเซนน์”  แอชเชอร์พูดพลางดันเซนน์ให้เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แต่กลับโดนรู้ทัน  “กลับไปทำ...”

               “อ่อๆ น้องชายนายนี่เอง หน้าเหมือนกันชะมัด”

               “เราเป็นแฝดก็ต้องหน้าเหมือนกันเป็นธรรมดาสิ”

               “คงจะป๊อปในหมู่ผู้หญิงแน่ๆ เผลอๆ คงจะมีเด็กผู้ชายด้วยก็ได้เนอะ?”

               “อย่ามายุ่งกับน้องคนอื่นได้มั๊ยนะ ไปรับผิดชอบงานตัวเองนู่น!!”

               “ครับๆ ทราบแล้วครับท่านแอชเชอร์”  เซนน์ยกมืออย่างยอมแพ้เมื่อเห็นว่าแอชเชอร์เริ่มโกรธ แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองดังเดิม สองคนนี้พออยู่ด้วยกันก็จะเข้ากันได้ดีเลย เซนน์ปกติจะเป็นคนที่เย็นชา และทำหน้านิ่งอยู่เสมอ แต่จริงๆแล้วที่ทำแบบนั้นก็เพราะว่าจะได้เพิ่มความน่าเชื่อถือในภาพลักษณ์ประธานนักเรียน

               แอชเชอร์หันไปให้ความสนใจกับเอกสารที่ต้องทำต่อ แต่ก็ยังแอบมองออสตินเป็นระยะๆ จนคาบวิชาพละที่ออสตินเรียนหมดไป เขาถึงให้ความสนใจกับงานสภานักเรียนได้อย่างเต็มที่

 

 

               ออดของโรงเรียนดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว ออสตินเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเพื่อที่จะเดินไปหาแอชเชอร์ที่ห้องสภานักเรียน เพราะถามมาจากคนในห้องเกี่ยวกับห้องสภานักเรียนเลยได้แผนที่มา

               “จะไปหาแอชเชอร์หรอ?”

               “อืม”

               “ไปด้วยคนได้ป่ะ?”

               “ทำไมฉันต้องในนายไปด้วยล่ะ”

               “ก็คนนอกเข้าห้องสภานกเรียนไม่ได้นะ”

               “แล้วนายล่ะ?”

               “ฉันเป็นขอยกเว้นน่ะ”

               “ฉันเป็นน้องแอชเชอร์ ยังไงแอชเชอร์ก็ต้องให้เข้าไปอยู่แล้ว”

               “นั่นสินะ...”

               ทั้งสองเดินมาที่ห้องสภานักเรียนด้วยกันถึงแม้ว่าออสตินจะไม่เต็มใจให้วัลดัสมาด้วยก็เถอะ แต่สุดท้ายก็ทนรำคาญไม่ไหวเลยให้ตามมาด้วยกันจนได้

               “มาพบใครครับ?”  ใครคนหนึ่งเดินมาเปิดประตูเมื่อถูกเคาะประตูเรียก คาดว่าน่าจะเป็นคนของสภานักเรียน  “เอ๊ะ? แอชเชอร์?”

               “ผมออสติน น้องชายแอชเชอร์ครับ”

               “อ่อๆ ขอโทษด้วยนะ ถ้ามาพบแอชเชอร์เขาไม่อยู่หรอก”

               “ไปไหนครับ?”

               “จู่ๆ ก็วิ่งออกไปก่อนจะถึงห้องสภานักเรียนซะอีก”

               “รู้มั๊ยครับว่าเขาไปไหน?”

               “ไม่รู้สิ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ มีงานค้างไว้ต้องทำน่ะ”

               “ครับ..ขอบคุณครับ”  ออสตินทำหน้าจ่อย ทั้งที่ตั้งใจมาพบแต่กลับไม่อยู่ ไปไหนกันนะ

               “กลับบ้านกันเถอะ”

               “อื้อ...”

               “แย่แล้วววว!! มีคนกำลังโดดตึกที่อาคารใหญ่ล่ะ!”  เสียงหนึ่งดังขึ้นตรงทางเดิน ท่านกลางนักเรียนที่กำลังทยอยออกจากโดรงเรียนต่างก็พากัยวิ่งตามเสียงนั้นจนวุ่นวาย

               นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ!!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา