องค์ชายหน้านิ่งกับเจ้าหญิงจอมจุ้น 당 신 을 사 랑 합 니 다.

9.7

เขียนโดย Ahmei

วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.00 น.

  5 บท
  6 วิจารณ์
  8,281 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557 13.22 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) วัง ทอน ฮุก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

“จะๆพาฉันไปไหนถ้าจะสำภาษณ์ก็ตรงนี้เลยสิ ฉันไม่ไปด้วยหรอกนะ”

“เชิญขอรับ”

อ้าวพูดไม่รู้เรื่องรึไงว่า....

เขากำลังถกชายเสื้อขึ้นรึว่าจะเอาปืนขึ้นมาขู่ฉันสงสัยเจ้าหนี้แม่แน่ๆ นี่คงไม่ใช่ Super man ฉันเหรอนะ

พรึ่บ....ฉันกระโดดขึ้นหลังรถพร้อมกับหุบป_กทันที นั่งนิ่งๆทำตัวเบาๆแล้วเราจะรอด

ปั๊ง....แล้วรถก็เคลื่อนที่ออกไปปานความเร็วแสง ฉันหันไปมองข้างหลังยังเห็นคันเหมือนกันตามมาอีกคัน

ภายในรถมีคนขับ1คน และคนนั่งข้างๆอีก 1 คนแต่งกายด้วยสูตดำสนิททุกคนนั่งนิ่งไม่มีใครกระตุกกระดิก

ฉะฉันโดนลักพาตาต่อหน้านักข่าว.....คนพวกนั่นจะช่วยเรารึเปล่านะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ฉันแอบเห็นคนนั่งข้างๆเหลือบมองฉันผ่านกระจกแว๊บนึง

“พวกนายจะพาฉันไปไหน เรียกค่าไถ่เหรอ อย่าเสียเวลาเลยครอบครัวฉันไม่มีเงินเหรอกนะ”

“...............”

“หรือว่าเป็นพวกนักข่าวที่คิดจะเอาข่าวกับฉันเพียงสำนักเดียวสินะ เฮอะ พวกนายนิเห็นแก่ตัวจริง”

“................”

“ถึงยังไงซะพวกนายก็จะไม่ได้อะไรจากฉันไม่ว่าจะเป็นเงินหรือความรู้สึกอับอายที่พวกนายอยากจะสำภาษณ์นะ”

ตุ๊บ!.....

O_O

โทรศัพท์หล่นจากกระเป๋ากางเกงของคนนั่งข้างๆถึงมันจะเป็นแค่โทรศัพท์แต่นั้นก็ทำให้หัวใจของฉันหล่นไปอยู่ที่ปลายเล็บขบได้เลยนะนั่น

ฉันหยุดพูดเลยทันทีคราวนี้สาบานได้ว่าเงียบจริงๆ

จนในที่สุดรถเคลื่อนที่เข้ามาในสวนสาธารณะ???? ไม่สิไม่ใช่สวนสาธารณะ สวนสาธารณะไม่มีคนแต่งตัวเหมือนแม่บ้านเต็มไปหมดอย่างนี้เหรอก...คนสวนก็เยอะ และที่สำคัญในสวนสาธารณะไม่มีโบสถ์แต่นั้นไม่ใช่นั้นไม่ใช่โบสถ์แต่นั้นมันคืออออออออออออออออออ

“วังทอน ฮุก!!!!!!!!!!!!!!!”

ฉันเผลอดพูดออกไปเสียงดังทำเอารถสะดุดกึ๊กเพราะคนที่ขับตกใจเสียงฉัน

“พาฉันมาที่นี้ทำไหม”

“..............”

“ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะลง”

ฉันคว้ามือไปจับประตูรถ

ครืดดดดดดดดดดดดด

ไอ้บ้าเร่งรถทำไหม ฉันเลยปล่อยมือทันทีตัวฉันไปติดกับกระจกรถด้วยความแรงที่รถแล่น

กึก

รถหยุดลงตรงหน้าประตูขนาดใหญ่บิ๊กบึ้ม

ก๊อก

ชายที่นั่งรถมากับฉันเปิดประตูรถให้....

ฉันจะลงไปดีรึเปล่านะดูคนพวกนี้ท่าทางไม่ไว้วางใจซะเท่าไหร่เลย ถึงแม้จะแต่งตัวดีก็เถอะ

“เชิญเถอะขอรับ”

ดูพูดสิ ชิ เออๆๆลงก็ได้

ฉันเดินลงจากรถมองไปข้างหน้าด้วยความตกใจในความเว่อร์วังอลังการของสิ่งมหัศจรรย์ในสถาปัตยกรรมวังของเกาหลีที่ใหญ่คับฟ้า ในความคลาสสิกบวกกับยุโรป

แต่สิ่งที่ไม่ทันสังเกตคือต่อหน้าฉันมีคนยืนเฝ้าเป็นแถวยาวไปจนถึงประตูเป็นแม่บ้านในชุดประจำชาติเกาหลี

“เชิญขอรับ”

อยู่ๆลุงแก่ๆคนนึงก็เดินมาจากด้านหลังพร้อมบอกให้ฉันเดินเข้าไปด้านใน ฉันก้าวเท้าอย่างเก้ๆกังๆในความประหม่า พร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากแล้วเดินตามลุงคนนั้นเข้าไป

ในขณะที่ฉันเดินผ่าน สองขนาบข้างคือแม่บ้านก็ก้มหัวลงคำนับฉัน!!! มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแปลกประหลาดเหลือแสนในความสับสนฉันก้มหัวคำนับแม่บ้านพวกนั้นแทบไม่ทัน

“เชิญทางนี้ขอรับ”

แล้วลุงก็พาฉันเดินลึกเข้าไปในพระราชวังที่ลึกมากขึ้นจนมาหยุดที่ประตูไม้สักบานใหญ่บานหนึ่งที่สูงกว่าตัวฉันถึง 3 เท่าแล้วลุงก็เปิดประตูออกปรากฏชาย 1 คน และผู้หญิง1 คน ที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะขนาดใหญ่

“เชิญครับ”

ฉันสงสัยว่าลุงคนนี้พูดอะไรไม่เป็นเหรอนอกจากคำว่า’เชิญครับ’

ฉันค่อยๆเดินเข้ามาด้านในด้วยการก้าวเท้าที่สำรวมที่สุดและเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันเดินมาหยุดอยู่ข้างๆผู้หญิงวัยค่อนข้างสูงวัยที่แต่งกายด้วยชุดเกาหลีพื้นบ้านใบหน้าราบนิ่งราวกับหุ่น เขาไม่ได้มองฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ในข้างๆกันนั้นปรากฏ.....

‘เจ้าชายเย็นชา’

เขามองมาที่ฉันด้วยสายตานิ่งงันไม่ได้แสดงอาการใดๆ เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีแดงไม่ได้เช็ตผม ผมสีบรอนด์ทองของเขายังดูราบเรียบแม้ไม่ได้ถูกตกแต่งเขายังคงมองฉันอยู่อย่างนั้น

“นั่งสิ”

เสียงผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะสั่ง

ฉันก้มหัวให้กับเขาแล้วค่อยๆดึงเก้าอี้ออกเบาๆก่อนจะบังคับตูดให้นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเจ้าชาย

ฉันรู้สึกกดดันไม่น้อยที่จะต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ นี่มันเรื่องอะไรกันฉันเข้ามาที่นี่ทำไหมแล้วพาฉันมาพบใคร???แล้วทำไมต้องมาพบเจอกับเจ้าชายที่นี่ด้วย หัวใจของฉันตอนนี้มันอยู่ไม่เป็นสุขเอาซะเลยมันต้องการกระโดดออกจากอกมาดิ้นตรงโต๊ะเสียข้างนอกให้ได้

ฉันละสายตาจากโต๊ะแล้วมองไปด้านข้างที่ดูเหมือนจะมีใครกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่โดยที่ฉันยังไม่ทันสังเกต

“...............”

O_O มะๆๆๆๆแม่??????????????? พ่อ ทงแฮ ทุกคนมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงกันพระเจ้าช่วย

ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองที่กำลังนั่งอึ้งกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ลำพังเห็นเจ้าชายนี่ก็อึ้งพอแล้ว ไหนจะยังมาเห็นแม่กับพ่ออีกมันยิ่งทำให้ฉันน็อคไปเลย

“หนูใช่ไหมอึน แทยอน”

ฉันละสายตาจากแม่เมื่อคำถามหนึ่งถูกถามขึ้นจากคนหัวโต๊ะ

“ใช่ค่ะ”

แล้วเขาก็หันมามองที่ฉันทำให้ฉันต้องรีบก้มหัวลง

“เธอคงไม่รู้จักฉันสินะ”

“หามิได้เพค่ะฝ่าบาทลูกหม่อมฉันต้องรู้จักพระองค์แน่นอน”

เสียงแม่พูดขึ้น....แต่หนูไม่รู้จักเขานิไม่เคยเห็น

“จริงเหรอ”

เอ่อ....ความลำบากใจเข้าเกาะกุม...หนูจะไปรู้จักเขาได้ยังไง

“เปล่าค่ะหนูแค่ไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร”

O_O สีหน้าของแม่ดูถอดสีไปเลย

“ฮึ”

เสียงนี้เป็นของเจ้าชายเสียง ฮึ นี่จำได้แม้ไม่ได้มองหน้าไม่ใช่แค่เสียงนะแต่ยังทำหน้าเบือนใส่อีก

“....ไม่เป็นไรหรอกมันไม่แปลกหรอกที่เธอจะไม่รู้จักฉัน ฉันไม่ได้ว่าราชกิจมาเกือบ10ปีแล้ว มีแต่ประธานาธิบดี”

หรือว่าคนนี้จะคือออออออออออออออออออ

“พระมเหสีซอฮยอน อี้ ฟาน ที่ 9”

ฉันรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือใครท่านคือพระมารดาของเจ้าชายนั่นเอง ฉันไม่น่าเลยยัยแทยอนคนโง่

“โปรดทรงประทานอภัยในความโงเขลาของหม่อมฉันด้วยเพค่ะที่ไม่รู้ว่าฝ่าบาทคือใคร”

“หึ ไม่เป็นไรหรอกก็ฉันพูดไปแล้วนิ”

ฉันไม่กล้าแม่แต่จะเงยหน้ามองพระองค์ ถ้าเป็นไปได้อยากจะแทรกแผ่นดินหนีในความอับยศแก่แผ่นดิน

“เงยหน้าขึ้นสิ”

O_O ฮื่อ... งะเงยหน้าต่อหน้าพระองค์นี่นะ

ฉันพยายามเงยหน้าขึ้นช้าๆตามคำสั่งของพระองค์

“หน้าตาน่ารักดี....อายุเท่าไหร่”

“18 เพค่ะ”

“งั้นเหรออายุเท่าคริสเลยหนิ”

พระมเหสีทรงมองไปทางด้านเจ้าชาย ที่กำลังนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาที่กำลังมองมาทางฉัน

“เรียนที่ไหนเหรอ”

“โรงเรียนMath ดงกู เพค่ะ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา