FICTION หล่อวายร้ายกับนายน่ารัก [WONKYU]

9.3

เขียนโดย LuckyLovery

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.02 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  37.66K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) chapter 43 หล่อวายร้าย กับนายน่ารัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                 ร่างบางนอนดูละครหลังข่าวอยู่บนเตียงอย่างสบายใจหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ร่างสูงที่เดินสโลสเลเข้ามาก็เข้ามาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงดึงผ้าห่มผืนหนาที่ คลุมตัวร่างบางออก แล้วรั้งเจ้าตัวเข้าไปกอดก่อนจะจูบปิดปากไม่ให้ร่างบางตั้งตัว

 

           “อื้อ... ~”มือ เล็กพยายามผลักออกแต่ก็ไม่เป็นผล จนโดนปอกเปลือกจนหมดตัวไม่เหลือเปลือกห่อหุ้มกายให้อบอุ่น แต่กลับเป็นคนที่กำลังนอนทับอยู่ส่งความอบอุ่นมาให้จนร้อนไปหมดทั้งกาย

           “อ่ะ....”เสียงหวานครางออกมาเมื่อโดนแทรกกายเข้าหาทั้งที่ยังไม่ได้เตรียม พร้อมดี ก่อนจะต้องรับแรงอารมณ์หื่นของคนที่นอนทับอยู่ด้านบน

 

 

                      แบบนี้เขาควรจะนอนหลับไปก่อนไม่ควรจะดูละครใช่หรือไม่? ไม่รู้ว่าสามีไปหื่นที่ไหนมา มาถึงก็เล่นไม่ปรึกษากันก่อนแบบนี้ มันทำให้เขาเจ็บตัวเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นก็ยังนอนเฉยๆ ให้คนตัวโตได้ทำอะไรตามใจหลังจากอดอยากมานานเกือบสองเดือน

 

                      ขาเรียวยกขึ้นเกี่ยวสะโพกที่ขยับเข้าหาอย่างต่อเนื่อง นอนนิ่งให้คนตัวยักษ์แทะเล็มด้วยริมฝีปากไม่หยุดหย่อน นัวเนียไปแทบจะทุกซอกทุกมุม จนเสียงครางหวานดังออกมาเบาๆ มือเล็กโอบกอดคนด้านบนลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้าง ร่องกระดูกสันหลังจนเสียววาบไปทั้งกาย

 

 

                         จนสุดท้ายสวรรค์ก็อยู่แค่เอื้อม เมื่อร่างสูงได้รับการปลดปล่อยจนร่างบางรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมา ก่อนร่างสูงจะถอนตัวออกและทิ้งตัวลงนอนข้างๆ มองหน้าหวานที่ชื้นเหงื่อเล็กน้อยก็รั้งเข้าไปจูบซับอย่างอ่อนโยน

 

          “ดีมั้ย?”คำถามจากปากหยักเอ่ยออกมา

          “ดีสิ่ แต่จะดีกว่านี้ ถ้าให้ฉันพร้อมมากกว่านี้ เจ็บรู้มั้ยเนี่ย”ร่างบางว่าหน้าบูด ร่างสูงยิ้มกว้างก่อนจะรั้งร่างบางเข้าไปจูบอีกรอบ ถอนปากออกมาได้ก็ถามคำถามเดิม

          “ดีมั้ย?”

           “ดี....”ร่างบางยิ้มขำ ไม่รู้ว่าคนข้างตัวเป็นอะไร ทำตัวแปลกๆ ตั้งแต่เข้ามาในห้องแล้วจัดการเขาแล้ว “เป็นอะไร หืม”ร่างบางถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงทำตัวแปลกประหลาด

           “ปล่าว แค่คิดถึงสัมผัสของนาย”ร่างสูงบอก แล้วลุกขึ้นก้มตัวลงไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งเอาไว้มาให้ร่างบาง เพราะเขากลัวว่าจะอดใจไม่ไหวอีกรอบ คยูฮยอนลุกขึ้นนั่งมองคนตัวโตไม่ได้หยิบเสื้อผ้าในมือใหญ่ที่กำลังยื่นส่งมา ให้เขาอยู่

           “คิดถึงแล้วกอดฉันแค่ครั้งเดียวเองเหรอ”ร่างบางว่าอย่างเชิญชวน ร่างสูงทำท่าลังเลจนร่างบางเริ่มบึ้ง อุส่าปล่อยตัวปล่อยใจขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมทำ หรือว่า...

           “กลัวฉันโกรธเหรอ”ร่างสูงพยักหน้ารับตามจริง ร่างบางยิ้มน้อยๆ ก่อนจะรั้งร่างสูงเข้ามาจูบเสียเอง จากท่าทางเด็กๆ ที่เห็นเมื่อไม่กี่วันมานี้ กลายเป็นแม่เสือสาวหิวโหย

 

 

                     แต่ต่อให้กลายเป็นเสือสาวยังไง ก็ยังอยู่ภายใต้ร่างสิงโตเจ้าป่าอยู่วันยังค่ำ จวบจนรุ่งสาง....

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                      แสงแดดยามเช้าส่องผ่านเข้ามาภายในห้องนอนกว้างที่ไม่ได้ปิดม่านจนเจ้าของ ห้องเริ่มรำคาญเพราะแสงแดดแยงตา รบกวนการพักผ่อนที่พึ่งได้รับเมื่อไม่ถึงสองชั่วโมงที่ผ่านมา ร่างสูงใหญ่ที่นอนก่ายอยู่ข้างกายลุกขึ้นเดินงัวเงียทั้งที่โป๊เปลือยไปปิด ม่านกันแสงที่ประตูระเบียงและหน้าต่าง ก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงนอนก่ายคนตัวบางอีกครั้ง

 

 

                     ตื่นขึ้นมาอีกรอบก็เกือบบ่ายโมง เลยมื้ออาหารไปสองมื้อ ร่างบางลุกขึ้นนั่งหน้ายุ่งทั้งที่หลับตาอยู่อย่างนั้นไม่อยากจะลุกออกจาก เตียงด้วยความเกียจคร้าน   

      

          “ซีวอน บ่ายโมงแล้ว ตื่นไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อย”ร่างบางร้องเรียกและสะกิดคนที่นอนหลับอุตุ อยู่ข้างกาย ร่างสูงคิ้วขมวด พลิกตัวหงายขึ้น ลืมตามองคนที่สะกิดยิกๆ ก็รั้งเข้ามากอดจนแทบจะจมไปกับอกแกร่ง ปากหยักจูบแก้มนวลไปฟอดใหญ่

          “อื้ม ~....อีก ห้านาทีนะ”ร่างบางทิ้งตัวลงนอนทับคนที่ขอเวลา แล้วหลับตาลง เพราะตัวเองก็เพลียเหมือนกัน แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามีนัดกับคุณป้าว่าจะไปเดินห้างด้วยกัน

           “ซีวอน ฉันมีนัดกับคุณป้า เดี๋ยวมานอนต่อนะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นงึมงำ ก่อนจะพยายามดึงตัวเองลุกขึ้น ร่างสูงจึงปล่อยแขนออก

           “ไปไหน”เสียงทุ้มเอ่ยถาม

           “ไปห้างซื้อของ”ร่างบางบอกก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินตัวปลิวเปลือยเข้าห้อง น้ำไป ร่างสูงมองตามก็ยู่ปากเข้าหากันแล้วลุกขึ้นเดินตามร่างบางเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเช่นกัน

 

 

                     ไม่รู้ว่าร่างสูงเหลือแรงมาจากไหนไม่พ้นเล่นรักกันในห้องน้ำยามบ่ายอีกรอบ กว่าจะออกมาได้ก็เกือบชั่วโมง

 

 

 

 

 

                       ร่างบางเดินออกมาจากห้องเห็นคุณป้าสั่งเด็กรับใช้ให้ทำความสะอาดบ้านอยู่ก็ ยิ้มออกมาแล้วเดินเข้าไปกอด หอมแก้มเสียฟอดใหญ่

 

          “อ่ะ...คุณหนูตื่นแล้วเหรอคะ หิวมั้ยคะ”ร่างบางพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามคุณป้าเข้าครัวไปนั่งรออาหารหอมๆ ยั่วน้ำย่อย

 

 

                       ร่างสูงที่เดินตามลงมาทีหลังไม่เห็นร่างบางก็ถามเด็กๆ ที่ทำความสะอาดอยู่ถึงได้เดินตามเข้าครัวไปด้วยอีกคน มาถึงก็เห็นร่างบางนั่งมองคุณป้าทำมื้อบ่ายให้

 

          “ไหนบอกจะไปห้าง ไปกินที่นู่นก็ได้นะ”ร่างสูงว่า ร่างบางส่ายหน้า

          “อาหารในห้างจะอร่อยกว่าทำเองได้ไง”ร่างบางบอกแล้วส่งยิ้มหวามเยิ้มให้เพราะ ยังไม่ตื่นดี ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งลงข้างๆ แล้วรั้งศีรษะร่างบางมาซบไหล่กว้าง

 

 

 

          “เสร็จแล้วค่ะ”รอไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกลิ่นหอมๆ ก็ลอยอบอวนอยู่ตรงหน้า ร่างบางยิ้มกว้างขอบคุณคุณป้าก่อนจะลงมือเขมือบมันด้วยความหิวเพราะเสีย พลังงานไปเยอะ ร่างสูงเห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบน้ำมาให้

          “คุณป้าครับ ผมทานข้าวเสร็จเราออกไปข้างนอกกันเลยนะครับ เดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน”คุณป้ารับคำยิ้มๆ ร่างบางฉีกยิ้มสวยส่งให้ จนคุณป้าอดยิ้มตามไม่ได้ก่อนจะเดินออกไป

          “ซีวอน กินนี่สิ่ อร่อย”ร่างบางบอกแล้วเอาส้อมจิ้มขึ้นมายื่นส่งให้ ร่างสูงอ้าปากรับอย่างว่าง่าย

           “อืม อร่อย แต่จะอร่อยกว่านี้ถ้า...”เว้นว่างแล้วรั้งคอร่างบางเข้าหา จูบปิดปาก ร่างบางที่ไม่ทันตั้งตัวก็ดิ้นพราดๆ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมอ่อนให้คนตัวโตได้จูบให้สมใจ

           “อื๊อ..พอแล้ว เดี๋ยวใครมาเห็น”ร่างบางว่า ผละร่างสูงให้ออกห่างหน้าแดง ซีวอนยิ้มขำ ก่อนจะก้มลงกินข้าวของตัวเองอย่างอารมณ์ดี

           “ถ้าอยู่บ้านพี่มินโฮ...นายไม่พ้นโดนเม้งแน่ซีวอน”ร่างบางว่า เพราะมินโฮค่อนข้างที่จะหวงน้องอยู่พอสมควร ถ้ามาเห็นอะไรแบบนี้คงช็อก ลากร่างสูงออกไปโยนนอกบ้านโดยไม่สนใจว่าจะเป็นน้องเขย ถึงแม้ว่าจะแต่งงานเป็นสามีภรรยามีลูกโตจนสุนัขเลียก้นจะไม่ถึงแล้วก็ตาม เพราะกำลังกินข้าวอยู่มันเป็นการรบกวนทางสายตาให้คนที่แฟนไม่ยอมแต่งงานเป็น เมียให้ได้อิจฉา

           “ใจร้าย พี่ท็อปไม่เห็นโหดแบบพี่ชายนายเลย”

           “พี่มินโฮไม่ได้ใจร้าย อย่ามาปรักปรำนะ”ร่างบางแย้งขึ้น ใครมาว่าพี่ไม่เคยได้ ร่างบางจะต้องแย้งขึ้นมาก่อนทุกที

            “ไม่ได้ปรักปรำ แต่แหม เราแต่งงานกันแล้วนะ”

           “นั่นแหละ ก็นะ...พี่ดาเฮไม่ยอมแต่งงานด้วยก็เลยอิจฉาน้อง”ร่างบางพูดกลั้วหัวเราะ สุดท้ายก็ไม่พ้นนินทาพี่ตัวเอง

            “ฉันจะโทรไปบอกพี่มินโฮ ว่านายว่าพี่เขาน่ะ”

            “บอกเลย...”ร่างบางท้าทาย เพราะรู้ว่าพี่ชายไม่กล้าทำอะไรอยู่แล้วแค่เรื่องเล็กๆ ขำๆ กันเอง เพราะใช่ว่ามินโฮไม่เคยจะนินทาเขาให้พี่ท็อปฟัง (- -‘) ถ้าทะเลาะกันโดนอย่างมากก็หยอกเล่นด้วยการขังเอาไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน หนึ่งวันเต็มๆ (- -) ไม่เจอหน้าใครนอกจากแม่บ้านที่เอาอาหารเช้า กลางวัน เย็นมาให้...

            “เคยโดนพี่ชายทำโทษบ้างมั้ย”ร่างสูงถามด้วยความอยากรู้เพราะดูแล้วสองพี่ น้องนี่เหมือนจะไม่เคยทะเลาะกันด้วยซ้ำ มีแต่ตามใจกับตามใจ

            “เคยสิ่ ตอนนั้นก็อยู่ม.ต้นแหละ พี่ท็อปก็เรียนจบแล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า ความคิดไม่ตรงกันเพราะเขาไปอยู่เมืองนอกมาก็ซึมซับอะไรมาเยอะโดยที่เรายัง เหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทะเลาะกันแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่อยู่บ้าน พี่มินโฮจับฉันขังไว้ในห้องมืดๆ ฉันร้องไห้จนสลบไปเลยหล่ะ ตื่นมาอีกทีก็เห็นพี่ท็อปโดนคุณพ่อตีด้วยไม้เรียว ฉันกลัวมากเลยหล่ะ”ร่างสูงตั้งใจฟังที่ร่างบางเล่าให้ฟังอย่างต่อเนื่อง

           “แล้วนายทำไงล่ะ โตแล้วยังโดนไม้เรียวอยู่อีกเหรอ”ร่างสูงถามเพราะเขาถูกเลี้ยงมาแทบจะเหมือน ผู้หญิงไม่เคยแม้แต่จะโดนไม้สะกิด ร่างบางพยักหน้ารับ

            “คุณพ่อเป็นคนไม่ค่อยตามใจใครนะ โดยเฉพาะกับลูกตัวเอง ก็นะ...ฉันก็รักพี่เหมือนกัน ทะเลาะกันจะเป็นจะตายสุดท้ายก็โดนไม้เรียวอันนั้นแหละฟาดเข้าที่กลางหลังเลย ก็ตัวฉันเล็กกว่าพี่มินโฮตั้งเยอะ พี่มินโฮโดนฟาดก้นแต่ฉันนี่สิ่ แค่ไปยืนใกล้ๆ ไม้ก็ลงกลางหลังพอดีเด๊ะ”ว่าจบก็หัวเราะร่าเริง “คุณแม่ก็ตกใจตอนที่เห็นฉันล้มลงไปเลยล่ะ มันเจ๊บ เจ็บ แต่ฉันก็ยังกอดพี่มินโฮไม่ปล่อยร้องไห้ไม่หยุดเลยหล่ะ”นึกถึงตัวเองตอนนั้น ก็อดขำไม่ได้ ถึงแม้ในตอนนั้นจะขำไม่ออกก็ตาม

           “ฉันชักจะอิจฉานายแล้วสิ่ รักพี่ถึงขนาดยอมเจ็บตัวเพื่อไม่ให้พี่โดนตีเนี่ย ถึงจะไม่ใช่พี่แท้ๆ ก็เถอะ”

           “อิจฉาทำไม...ฉันก็ยอมได้ทุกอย่างเพื่อนายเหมือนกัน”ร่างบางพูดอ่อมแอ่มเคอะเขิน ร่างสูงยิ้มแก้มปริ

            “เล่าต่อสิ่”ร่างสูงตัดบทเมื่อเห็นร่างบางม้วนตัวเองอยู่อย่างนั้น

           “ก็...คุณพ่อดึงฉันออกจากพี่มินโฮ แต่ฉันไม่ยอมจนคุณพ่อต้องขู่ว่าจะตีพี่อีกถ้าไม่ปล่อย ก่อนจะพาไปทายา แล้วท่านก็ถามว่า...แบบนี้จะทะเลาะกันทำไม เมื่อผลสุดท้ายที่ออกมาก็ทิ้งกันไม่ได้อยู่ดี...ฉันก็เงียบ พี่มินโฮก็เงียบมองหน้ากันเอง พี่มินโฮก็บอกขอโทษฉันก่อน หลังจากนั้นมาเราแทบจะไม่เคยทะเลาะกันเลย อย่างมากถ้าทะเลาะกันอีกก็สบัดหน้าหนีปรับอารมณ์ตัวเอง ไม่ถึงห้านาทีก็มาคุยกันใหม่”ร่างบางว่า ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆ

           “ใจเย็นขึ้น?”ร่างบางพยักหน้ารับ “ตอนนั้นพี่ท็อปไปไหนล่ะ ไม่มาช่วยนายน่ะ”ร่างสูงถามอย่างอยากรู้

            “พี่ท็อปไปมหาวิทยาลัย ฉันป่วยคุณแม่เลยให้หยุด หลังจากนั้นก็เลยไข้ขึ้นอีกรอบ”ร่างบางพูดกลั้วหัวเราะ แต่อยู่ๆ ก็นิ่งเงียบหน้าเศร้า จนคนฟังแทบจะปรับอารมณ์ไม่ทัน “นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณพ่อสอนฉันกับพี่มินโฮ ฉันยังจำได้ดีเลยว่าฉันร้องไห้มากแค่ไหนตอนที่ท่านเสีย”ร่างบางว่าน้ำตาคลอ ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็รั้งเข้ามากอด ลูบหลังปลอบโยน

           “ไม่เป็นไรนะ”ร่างบางพยักหน้ารับ

            “คุณพ่อประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตอนกลับจากต่างประเทศ คุณแม่ที่สุขภาพไม่ค่อยดีก็ทรุด เข้าโรงพยาบาล และท่านก็อยู่กับฉันแค่ตอนที่ฉันเรียนจบม.ปลายพอดี จนสุดท้ายก็มาเจอคนใจร้ายที่ชื่อชเว ซีวอน”ร่างบางเล่าให้ฟังถึงอดีตที่เขาเคยเจอมา อยากให้ร่างสูงรู้เรื่องของเขาบ้าง เพราะเขารู้เรื่องของซีวอนมาเยอะแล้ว แต่ไม่เคยเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังเลย

            “คนหล่ออย่างฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นวายร้ายที่ใจร้ายทำร้ายใครซะหน่อย ก็นายมันน่ารัก ฉันเลยต้องฉุด”ร่างสูงเปลี่ยนเรื่องไม่ให้ร่างบางพูดถึงพ่อกับแม่ที่เสียไป แล้ว กลัวร่างบางจะซึมเศร้า

           “ไอ้บ้า.....หลงตัวเอง”ร่างบางว่าแล้วก็ยิ้มออกมาได้ ผละออกมากินข้าวต่อ ร่างสูงยิ้มตาหยีส่งให้เมื่อเห็นว่าร่างบางยิ้มแล้ว

           “ก็จริงนิ่”

            “นายมันบ้า...ไปพูดกันดีๆ ก็ได้นิ่”ร่างบางว่า

            “ถ้าฉันเจอนาย แล้วไปขอนายเป็นแฟนทั้งที่เราไม่รู้จักกันเนี่ย นายจะยอมมั้ยล่ะ”ร่างสูงว่า ร่างบางนึกคิดถึงเมื่อก่อนว่าถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นแล้วเขาจะทำยังไง นั่นสิ่ เขาจะยอมเป็นแฟนกับคนไม่รู้จักเหรอ

            “ไม่รู้จัก แต่อย่างน้อยก็ได้ศึกษากันบ้าง ถ้าเราได้รู้จักกันบ้างนายอาจจะไม่ถูกใจฉันก็ได้”ร่างบางบอก แต่ร่างสูงกลับส่ายหน้า

            “ฉันไม่เคยพาใครไปที่คอนโด คนที่จะเข้าไปเหยียบห้องฉันได้ถ้าไม่ใช่ลูกน้องต้องเป็นคนพิเศษ...และนายก็ เป็น...คนแรก ที่ฉันเห็น...แล้วอยากใช้ชีวิตด้วย”ร่างสูงบอก เพราะหลังจากที่เสียใจจนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน ร่างบางเป็นคนแรกที่เขาเห็นแล้วรู้สึกเหมือนเคยผูกพันธ์ ถึงแม้วิธีจะผิดมากไปหน่อยก็ตามที่เอาอารมณ์ดิบรุนแรงของตัวเองเป็นที่ตั้ง คยูฮยอนได้ยินแบบนั้นก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง

           “ถ้านายคิดแบบนั้นจริง...เข้ามาทักดีๆ ก็ได้นิ่นา ฉันก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง แค่ไม่มีใครเข้ามาในชีวิตแค่นั้นเอง แล้วนายก็เป็นคนแรก ฉันอาจจะรักนายตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอก็ได้...แต่สุดท้ายนายก็รวบหัวรวบหาง ฉันโดยที่เรายังไม่รู้จักกัน ถ้าฉันไม่ท้อง นายจะญาติดีกับฉันมั้ยซีวอน”ร่างบางว่าเพราะแบบนี้มินโฮกับท็อปถึงเป็นห่วง เขาเวลาจะคบใคร และยิ่งเป็นแฟนคนแรกก็ยิ่งห่วงกลัวว่าเขาจะเสียใจ ก่อนจะถามในประโยคสุดท้าย ร่างสูงส่ายหน้า

           “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก...ต่อให้นายไม่ท้อง ฉันก็จะรักนาย แต่ตอนนั้นฉันแค่สับสนตัวเอง ไม่รู้ว่าควรจะปรับตัวเข้าหายังไง มันก็เลยเป็นแบบนั้น นายก็เลยเจ็บตัวเพราะฉันซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วฉันก็โกรธเพราะพี่ทึกไม่เคยว่าฉันต่อหน้าคนอื่น มันก็เลยพาลใส่ไปหมด ฉันขอโทษนะคยู”ร่างบางส่ายหน้ายิ้มว่าไม่เป็นอะไร... ”ผลสุดท้าย ตอนที่นายยอมรับว่าท้อง ฉันตกใจเพราะฉันกลัว ว่าเหตุการณ์มันจะซ้ำรอย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงฉันคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ไม่ได้เอาคำที่นายเคยพูดให้ฉันเจ็บมานั่งคิดจนกล้าที่จะยอมรับแล้วไปขอนายแต่งงาน”

 

 

                     ร่างบางยิ้มรับทุกคำพูดที่ร่างสูงพูด เขาไม่โกรธ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว และคุณลีกับคุณนายคิมก็สอนเขาไว้เสมอ...รู้จักให้อภัย แล้วเราจะมีความสุข...

 

           “สิ่งที่มันผ่านมาแล้ว นายได้แก้ไขอนาคตให้มันดีขึ้น ฉันไม่มีวันโกรธนายได้ลงเลยซีวอน”ร่างบางว่า ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูงที่อ้าแขนรับเขาเสมอ หน้าหล่อซบไหล่เล็ก รับกอดที่ร่างบางมอบให้

           “กินข้าวเถอะนะ เพิ่มพลังหน่อยแล้วไปซื้อของกัน”ร่างบางบอกก่อนจะผละออกมองหน้าหล่อที่ส่งยิ้มอ่อนๆ ให้อยู่ตรงหน้า

           “รู้มั้ย ยิ่งนายไม่เคยโกรธ มันก็ยิ่งตอกย้ำความเลวของฉัน”

           “คิดมากน่า กินข้าวเถอะนะ”ร่างบางบอก แล้วตักข้าวยื่นส่งไปให้ ร่างสูงยิ้มรับ แล้วให้ร่างบางป้อนอยู่แบบนั้น

 

 

 

 

 

                    หลังจากที่พอจะรู้เรื่องส่วนตัวของกันและกันเพิ่มมากขึ้น ก็กินข้าวจนอิ่มแล้วออกไปหาคุณป้าเพื่อออกไปเดินห้างในย่านนี้ ถึงห้างร่างบางก็พาคุณป้าเข้าไปเลือกซื้อของมีคนช่วยถือของหน้าหล่อเดินตาม หลัง ร่างสูงอดยิ้มให้กับอาการร่าเริงของร่างบางไม่ได้

 

            “คยู เอามานี่”ร่างสูงร้องบอก แล้วคว้าถุงอีกถุงในมือเล็กมาถือ แต่ร่างบางส่ายหน้าเพราะที่ซีวอนถืออยู่ก็หนักแล้ว

            “ไม่เป็นไร นายหนักแล้ว”ซีวอนเองก็ใช่ว่าจะฟัง ดึงไปถือจนได้ ร่างบางมองหน้าหล่อที่ส่ายไปมาก็ใจอ่อน

             “ก็ได้..”ว่าจบก็ยิ้มสวยไปให้ ก่อนจะเดินต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยหรือหมดแรง

 

 

 

 

                      กว่าจะช็อปปิ้งเสร็จก็เกือบเย็นหมดตังค์ไปเกือบล้านวอน คนจ่ายก็คือชเว ซีวอน ที่ร่างบางห้ามแล้วบอกว่าจะจ่ายเองก็ไม่ฟัง แต่แค่นี้ขนหน้าแข้งคงไม่ล่วงหรอกเพราะเงินเดือนที่ได้มาแต่ละเดือนใช่ว่าจะ น้อยเสียเมื่อไร

 

 

 

                      กลับถึงบ้านร่างบางก็ลากร่างสูงขึ้นไปบนห้องทันที พร้อมกับถุงบางอย่างในมือ ร่างสูงถึงกับงงแต่ก็เดินตามขึ้นห้องอย่างว่าง่าย

 

           “มีอะไรเหรอ”

           “ฉันซื้อนี่มาให้”มือเล็กส่งถุงในมือให้ ซีวอนรับมาแต่ก็ยังไม่ได้เปิด

            “ของเล่นเหรอ”

            “บ้า...”เสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ที่ร่างบางตอบสนองเร็วขนาดนั้น

            “ก็นึกว่าของเล่น หรืออะไรตื่นเต้นมาให้ดู”ร่างบางยู่หน้าใส่

            “ของตัวเองเสื่อมแล้วรึไง ถึงจะให้ซื้อของเล่นให้น่ะ”ย้อนถามคนตัวโต ร่างสูงยิ้มกรุ่มกริ่มตอบ

            “แล้วเมื่อคืนนายว่ามันเสื่อมหรือยังใช้งานได้ดีล่ะ”ย้อนกลับเช่นกัน ร่างบางแลบลิ้นใส่อย่างน่ารัก เลยโดนคว้าคอมาจูบ

            “อื๊อ...ก็ดี”หลุดออกมาได้ก็ตอบเสียงเบาด้วยความเขิน ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเปิดถุงที่ร่างบางส่งให้เมื่อครู่ดูของด้านในว่ามันคืออะไร เมื่อเห็นสิ่งของที่อยู่ในถุงก็ยิ้มออกมา

            “ชอบมั้ย ฉันตั้งใจเลือกให้เลยนะ”บอกแล้วกางออกให้ดู ซีวอนพยักหน้ารับ หยิบเสื้อที่มือเล็กมาดู เสื้อเชิ้ตสีดำผ้าเนื้อดีแบรนด์ดังที่ร่างบางตั้งใจเลือกให้อยู่ตรงหน้า

            “ชอบสิ่ ขอบคุณนะ”ร่างบางยิ้มกว้างออกมาเมื่อร่างสูงบอกว่าชอบ เพราะเขาตั้งใจเลือกให้เป็นพิเศษ ขนาดว่าพี่ชายยังไม่เคยได้แบบนี้

            “รักนายจังเลยอ่ะ คิกคิก”ร่างบางว่าก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูงจนหงายหลังลงบนเตียงกว้าง

            “รักมากมั้ย?”ร่างบางพยักหน้ารับพร้อมกับหอมแก้มกร้านไปทั้งสองข้าง เท่านั้นซีวอนก็ยิ้มแก้มแทบปริพลิกตัวร่างบางให้อยู่ใต้ร่างตัวเอง

            “มากเลยเหรอ”ร่างบางพยักหน้ารับอีกครั้ง “ฉันก็รักนายมากเหมือนกันนะ”ร่างสูงบอกจบก็จูบริมฝีปากบางหนักหน่วง ลิ้นร้อนดูดดุนริมฝีปากบางจนเปิดออกรับเรียวลิ้นที่กำลังไล่หาความหวาน เกี่ยวกะหวัดกันไปมา แขนล่ำโอบเอวบางเข้าหาตัวแนบชิด มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังบางเบาๆ ให้ขนลุกเล่น

            “อื้ม...~”ร่าง บางเบียดตัวเข้าหาสัมผัสที่คุ้นเคย และได้รับความอบอุ่นจนรุ่มร้อนอยู่เสมอ มือเล็กปัดป่ายไปที่กางเกงผ้าเนื้อดีของคนด้านบนจนโดนสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภาย ใน จึงสัมผัสให้ร่างสูงรู้สึกดีบ้าง

            “ดี...อ่า”เสียงทุ้มเอ่ยบอกเมื่อโดนขย้ำจากมือเล็กที่กำลังซุกซน ปากหยักจูบไล่ซุกไซร้ซอกคอขาวเนียน ก่อนจะขบไปที่หูของร่างบางหยอกเอิน

            “ซีวอน”เสียงหวานสั่นด้วยแรงอารมณ์เอ่ยเรียกคนด้านบนให้ได้ยิน ร่างสูงครางอือตอบรับแต่หน้าหล่อกลับไม่ได้หยุดทำหน้าที่สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของภรรยาสุดที่รัก

 

 

                     เมื่อเห็นว่าซีวอนรับรู้แล้วว่าเขาเรียกเมื่อครู่จึงผลักร่างสูงออก เมื่อเล็กหยุดทำหน้าที่จนคนโดนกระทำหยุดชะงักกึกทันที ตาคู่โตสบตาคมหวานเยิ้มพรางยิ้มหวานยั่วยวนส่งให้ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหู ให้คนตัวโตอ้าปากค้าง

 

            “ฉันรักนายนะ แต่....ช่วยตัวเองไปก่อนก็แล้วกัน ฉันเหนื่อย”ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องพร้อมกับจูบลาเบาๆ ที่แก้มกร้าน ทิ้งเอาไว้เพียงสิงโตหื่นอารมณ์ค้างนอนนิ่งแข็งทื่ออยู่บนเตียงอ้าปากค้าง มือใหญ่ทำท่าควักมือเรียกคนที่เดินออกไปไม่หันหลังกลับมาแต่ก็ค้างอยู่อย่าง นั้นจนเสียงประตูปิดลงไป

             “อ่า....ให้ตายเถอะ แกล้งฉันอีกแล้วนะคยูฮยอน คืนนี้จะไม่ปล่อยให้นอนเลยคอยดูสิ่”ร่างสูงสบทกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นจาก เตียงเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย

 

 

 

 

 

                                                  ..........................

 

 

 

 

 

                         ร่างสูงเดินสำรวจบ้านหลังใหญ่โอ่อ่าไปทั่ว จนได้ยินเสียงดังกุกกักออกมาจากห้องๆ หนึ่งเหมือนไม่เคยมีคนเข้ามา จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นประเปิดแง้มอยู่เล็กน้อย มือใหญ่เปิดอ้าให้กว้างขึ้น             

 

            “คยู...ทำไรน่ะ”เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่ ร่างบางหันมาเห็นก็ลุกขึ้นยืน มือเล็กถือกรอบรูปขึ้นมาดูก็น้ำตาไหลกอดกรอบรูปเอาไว้แน่น ซีวอนที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจเดินเข้ามาหา

            “ฮึก...”

            “คยูร้องไห้ทำไม มีอะไรบอกฉันสิ่”ร่างสูงถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะรั้งร่างบางเข้ากอด “ไม่ร้องนะ มีอะไรบอกฉันสิ่ หืม”ตาคมมองไปรอบๆ ห้องมีแต่รูปเต็มไปหมด ทั้งที่ใส่กรอบเอาไว้อย่างดีและในอัลบั้มภาพถ่าย ก็พอเข้าใจแล้วว่าคยูฮยอนเป็นอะไร

             “ไม่ร้องนะ คุณพ่อคุณแม่รู้ท่านจะเสียใจนะ”ร่างบางพยักหน้ารับ พรางเช็ดน้ำตาไปด้วย ร่างสูงผละออกส่งยิ้มให้ มือใหญ่ยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน

 

 

                    ร่างบางก้มหน้ามองรูปในกรอบด้วยสีหน้าเศร้า นิ้วเรียวไล้ไปตามกรอบเบาๆ ก่อนจะเอาไปตั้งไว้ที่เดิม

 

            “ฉันเคยเห็นรูปนี้อยู่ที่บอสตัน”เสียงหวานเอ่ยขึ้นเสียงสั่น “ตอนนั้นยังไม่ได้ย้ายกลับมาที่เกาหลีถาวร คุณพ่อให้ฉันกับคุณแม่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนกลับมาที่นี่ แต่ฉันไม่เคยรู้ว่าคุณพ่อจะเอากลับมาด้วย”ร่างสูงส่งยิ้มให้ แล้วเดินเข้ามาหา “มันเป็นรูปสุดท้ายที่พวกเราได้ถ่ายด้วยกัน”ร่างบางบอก เพราะในรูปเขายังตัวเล็กมาก อายุแค่แปดขวบ

            “รูปสุดท้าย แต่นายก็มีความสุขไม่ใช่เหรอ”ร่างสูงถาม เพราะเขาเห็นเด็กในรูปนั่นยิ้ม เป็นยิ้มที่ดูยังไงก็ไม่มีความเศร้าแฝงอยู่เลยแม้แต่น้อยนิด คยูฮยอนพยักหน้ารับ

            “ใช่ มีความสุขมากเลยหล่ะ แต่ฉันก็พึ่งมาเจอมันตอนนี้ และไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในบ้านมีห้องนี้อยู่ด้วย”ร่างบางบอก แล้วเดินไปดูรูปอื่นที่ติดอยู่ตามผนังห้อง แต่ละรูปที่อยู่บนนั้นมีแต่รูปที่มีแต่รอยยิ้ม

            “แล้วนายเข้ามาได้ยังไง”ร่างสูงถามด้วยความสงสัย

             “ฉันเข้ามาในห้องทำงานของคุณพ่อ ที่นายเดินเข้ามานั่นแหละ นายเห็นรูปใหญ่ๆ นั่นมั้ย”มือเล็กชี้ไปที่รูปใหญ่ที่ตั้งติดอยู่กับพื้น

            “ประตูเหรอ?”ร่างบางพยักหน้ารับ

            “ฉันแค่เอามือแตะ อยู่ๆ มันก็เลื่อนเปิดออก”ซีวอนพยักหน้ารับเข้าใจ เดินไปดูที่ประตูกลไกที่ร่างบางว่า

            “มันดูจากอะไรถึงเปิดออกมานะ”ร่างสูงสบทออกมาอย่างสงสัย เพราะถ้าประตูตั้งเอาไว้แบบนี้ คนนอกไม่น่าเข้ามาได้ และเขาเองก็คิดว่าถ้าเขามาเปิดเองก็คงเปิดไม่ได้เช่นกัน

            “ฉันไม่รู้เหมือนกัน”ร่างบางที่ได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยแบบนั้นก็ตอบ ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้น

            “มันต้องมีอะไรซักอย่าง นายลองถามอาชินดงสิ่”ร่างบางพยักหน้ารับ แต่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้

             “แต่คุณอาไม่น่าจะรู้ ไม่อย่างนั้นคงบอกฉันว่ามีห้องนี้ตั้งนานแล้ว”ร่างสูงทำท่าคิด แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หาคำตอบได้ คนที่ตอบได้ก็....ไม่อยู่เสียแล้ว

            “เก็บเอาไว้เป็นความลับก็แล้วกันนะ”คยูฮยอนยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหยิบกรอบรูปที่เอาไปตั้งเมื่อครู่ออกจากห้อง ทำให้ร่างสูงต้องเดินตามออกไป ยังไม่ทันได้ออกจากห้องทำงาน เสียงประตูกลไกนั่นก็ปิดลงร่างสูงหันหลังกลับไปมองอย่างตกใจ

             “คยูฮยอน เดี๋ยวสิ่...”ขายาวรีบก้าววิ่งออกไปจากห้องนั้นตรงเข้าห้องตัวเองตามร่างบางไปทันที

 

 

 

 

 

            “จะเอาไปติดมุมนั้นเหรอ ไม่สวยเลย”ร่างสูงที่เดินตามาเห็นร่างบางกำลังจะติดกรอบรูปกับผนังห้องก็บอก

             “เหรอ แล้วตรงไหนดีล่ะ เอาแบบที่เห็นชัดๆ เป็นที่สะดุดตา”ร่างสูงยิ้มก่อนจะชี้ไปทางโต๊ะคอมพิวเตอร์

             “สะดุดตาก็ตรงนั้น ฉันหมายถึงว่าเวลาทำงานได้มองเห็นรูปนั้นจะได้มีกำลังใจไง”ร่างบางยิ้มรับ แล้วเอาไปติดที่เดียวกับที่ร่างสูงว่า แต่เหมือนความสูงจะไม่อำนวย คนตัวโตจึงต้องเดินไปคว้ามาติดให้ พร้อมกับให้ร่างบางดูทิศด้วยว่าตรงหรือยัง

 

 

                    ร่างบางคอยบอกระยะให้ร่างสูงจนติดได้ตรงแล้วก็ยิ้มออกมา ซีวอนที่เห็นแบบนั้นก็พลอยยิ้มไปด้วย

 

            “ฉันเคยเห็นคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะ”ร่างสูงบอก คยูฮยอนพยักหน้ารับ เขาจำได้ว่าซีวอนเคยบอกก่อนจะออกจากโรงพยาบาลไม่กี่วัน

            “ตอนที่นายเห็น ท่านเป็นยังไงบ้าง”ร่างบางถาม ตาคู่โตมองรูปตรงหน้าด้วยความคิดถึงคนที่อยู่ในรูป

             “ท่านดูดีมากเลยหล่ะ น่าจะอายุประมาณฉันตอนนี้ถ้ายังเป็นคนที่มีชีวิตอยู่บนโลก คุณแม่นายสวยมากเลยนะ”มือใหญ่ยกขึ้นลูบหน้าหวานเบาๆ “นายเหมือนคุณแม่มากเลยรู้มั้ย”ร่างสูงว่า พรางมองไปที่รูปที่ติดอยู่บนผนัง

            “อย่างนั้นเหรอ....ถ้าพวกท่านยังไม่ไปไหน ฉันก็อยากจะเจอซักครั้ง”เสียงเริ่มสั่นของร่างบางบอกซีวอนได้อย่างดีว่าคยู ฮยอนคิดถึงพ่อกับแม่แค่ไหน ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ได้เป็นคนที่เลี้ยงร่างบางมาจนโตขนาดนี้ก็ตาม

             “ท่านอาจจะกำลังมองนายจากที่ใดที่หนึ่ง แล้วก็อาจจะกำลังยิ้มอยู่ก็ได้”ร่างบางยิ้มน้อยๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น...

 

 

 

 

.................................................................................................................

 

            

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา