FICTION หล่อวายร้ายกับนายน่ารัก [WONKYU]

9.3

เขียนโดย LuckyLovery

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.02 น.

  23 chapter
  1 วิจารณ์
  37.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) chapter 41 รู้ตัวว่างี่เง่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

               ร่างสูงนั่งยิ้มกับไอโฟนหลังจากที่วางสายไปแล้ว อย่างน้อยร่างบางก็ยังโทร.หาเขาบ้าง ยอมคุยกับเขาดีๆ ยอมบอกว่าคิดถึง แล้วแบบนี้เขาจะน้อยใจได้ลงเหรอ เขารู้ว่าคยูฮยอนเครียด เลยเกิดอาการนอยด์ไม่อยากทำอะไรขึ้นมาในตอนนั้น นี่ก็เกือบเดือนแล้ว ผ่านการสอบมาเรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็ยังไม่อยากไปรบกวนร่างบาง อยากให้เจ้าตัวพร้อมเสียก่อน

 

           “คุณซีวอนคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”เลขาหน้าห้องโฟนอินเข้ามาข้างใน ร่างสูงตอบรับให้เข้ามาได้เพราะตอนนี้เขายังว่างอยู่

 

 

                 ประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ร่างสูงจำได้ดี และไม่มีวันลืม ร่างสูงนิ่งตกใจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนผายมือให้นั่งที่โซฟาตามมารยาท

 

            “ฉันได้ยินว่าคุณมาทำงานที่นี่ เลยแวะมาหา รบกวนเวลางานรึปล่าวคะ”เธอถามขึ้น

            “ไม่ได้รบกวน แต่ผมว่าคุณกลับไปเถอะนะเยจิน”ร่างสูงบอกไม่อยากสบตา ทำไมอะไรๆ ก็ต้องมาสุมอยู่ในตอนนี้ ทำไมมันมีแต่เรื่องไม่จบสิ้นเสียที

            “ฉันแค่อยากเจอคุณบ้าง อย่างน้อยเราสองคนก็ยังเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอคะ”เธอว่า ร่างสูงถอนหายใจออกมา

            “ใครบอกคุณว่าผมทำงานอยู่ที่นี่”ร่างสูงถามด้วยความข้องใจ เธอยิ้มออกมา

            “อเล็กซ์...เขาบอกว่าได้เจอคุณที่นี่”ได้ยินแบบนั้นร่างสูงก็ถอนหายใจออกมา อีก ทำไมเพื่อนเขามันเป็นคนแบบนี้ ก็รู้ว่ามันเคยเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับเยจิน

            “ผมว่า ถ้าคุณไม่มีธุระสำคัญ คุณกลับไปเถอะนะ ผมต้องทำงาน”ร่างสูงพูดจาห่างเหินจนเธอเริ่มหน้าเสีย เยจินลุกขึ้นเดินมาหาร่างสูงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานแล้วหย่อนก้นลงนั่งตรง ข้าม

            “พูดกับฉันเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เหรอคะ”

            “คุณคิดว่ามันยังเหมือนเดิมอยู่อีกเหรอ คุณเองที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ แล้ววันนี้คุณมาขอให้ผมปฏิบัติกับคุณเหมือนเมื่อก่อน คุณคิดว่าผมทำได้อย่างนั้นเหรอเยจิน”ร่างสูงว่า

            “ที่คุณทำไม่ได้เพราะคุณไม่คิดจะทำต่างหากล่ะคะซีวอน”เธอว่า ร่างสูงมองเยจินด้วยสายตาเศร้าอย่างที่เคยเป็น มือเรียวคว้ามือใหญ่ที่จับปากกาด้ามสวยมากุม ร่างสูงแกะออก

           “ถ้าคุณคิดจะกลับมาทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม คุณกลับไปเถอะนะ ผมมีครอบครัว มีคนต้องดูแล เราไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้อีก กลับไปเถอะนะเยจิน คุณอย่าทำให้ผมลำบากใจที่จะคุยกับคุณอีกเลยนะ”ร่างสูงว่าจบก็เดินไปเปิด ประตูเหมือนจะไล่ให้เธอกลับไปเร็ว เขาไม่อยากคุย ไม่อยากเจอ ถึงแม้ว่าเรื่องมันจะผ่านไปนานแล้ว แต่ความทรงจำที่ผู้หญิงคนที่เขาเคยรักมากที่สุดทำกับเขาไว้มันฝังลงไปในจิตใจจนยากจะแก้ได้

 

 

 

            “คุณซีวอนมีแขกอยู่ค่ะคุณคยู อีกซักครู่นะคะ”เลขาสาวหน้าห้องบอกร่างบางที่มาหาร่างสูงถึงที่โรงแรม เพื่อที่จะมาทำเซอร์ไพรส์ให้ร่างสูงแปลกใจ แต่กลับมีแขกจึงรออยู่หน้าห้อง

            “ไม่เป็นอะไรครับ เดี๋ยวผมรออยู่ตรงนี้”เธอยิ้มรับ แล้วพาร่างบางไปนั่งรอที่โซฟา หาน้ำมาให้ดื่มตามปกติ ร่างบางนั่งรออยู่ตรงนั้น

 

 

 

                   ประตูบานใหญ่เปิดออกทำให้ร่างบางยิ้มออกมาได้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อคนที่เดินออกมาจากห้องเป็นคนที่ทำให้สามีเขาเคยเกือบ ตายมาแล้ว ตาคู่โตมองทั้งสองที่เดินออกมาจากห้องไม่วางตา หญิงสาวพยายามที่จะคุย แต่ซีวอนก็ยังคงปฏิเสธ ร่างบางยืนมองท่าทางของทั้งสอง มองดูท่าทีร่างสูงที่มีให้กับเยจินอยู่ที่โซฟา

 

            “คุณกลับไปเถอะนะ แล้วคุณอย่ามาที่นี่อีกเลย”เสียงทุ้มเอ่ยบอก

            “ซีวอนคะ...ฉันไม่สามารถเป็นเพื่อนคุณได้เลยเหรอ ไหนคุณบอกว่าเราจะเป็นเพื่อนกันไงคะ”เธอรั้งร่างสูงเอาไว้ไม่ให้เข้าห้อง เลขาสาวเห็นแบบนั้นก็ทำมือให้ร่างสูงเห็นว่ามีคนรออยู่

 

                     ร่างสูงหันไปเห็นก็เริ่มหน้าเสียที่ร่างบางกำลังจ้องมาทางที่เขายืนอยู่ ถึงแม้จะดีใจที่ร่างบางมาหาแต่ตอนนี้เขากลับเสียใจที่สุดที่ร่างบางมาเห็น เขาในตอนนี้

 

            “เยจิน คุณกลับไปเถอะนะ”ร่างสูงว่าจบก็เดินไปหาร่างบางที่รออยู่ที่โซฟา เธอมองตามก็เข้าใจ แต่ก็ยกยิ้มออกมา แล้วเดินตามร่างสูงมาที่ร่างบางยืนอยู่  “คยู...มาได้ยังไง”

            “มาเซอร์ไพรส์มั้ง”ตอบจบก็นั่งลงตามเดิม มองร่างสูงตาขวาง มาเซอร์ไพรส์ แต่โดนเซอร์ไพรส์ซะเอง

             “สวัสดีค่ะ”เยจินทักทายร่างบางเป็นมารยาท ร่างบางส่งยิ้มให้

            “สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันนาน สวยขึ้นนะครับ”ร่างบางว่า เธอยกยิ้ม ก่อนจะนั่งลงตรงข้าม ร่างสูงยืนมองอยู่ก็เห็นว่าท่าทางจะไม่ดี เพราะอีกซักพักคงจะมีระเบิดลงถ้าเยจินยังไม่ยอมกลับบ้าน

            “ไม่ได้เอาก้นออกมาจากห้องรึไง”เสียงหวานเอ่ยขึ้นว่าคนที่ยืนค้ำอยู่ ร่างสูงนั่งลงข้างๆ ร่างบาง แต่เจ้าตัวก็ขยับหลบ

            “คุณมาทำงานที่นี่นานแล้วเหรอคะ”เยจินถามร่างบางที่ยิ้มให้อยู่ตรงหน้า

            “ผมไม่ได้มาทำงานหรอกครับ มาเรียนต่อ แล้วก็มาดูแลธุรกิจของตัวเองด้วย”ร่างบางบอกอย่างไม่สนใจอะไร ร่างสูงนั่งฟังก็นั่งเงียบๆ ไม่กล้าเอ่ยปาก

            “ธุรกิจ?”

            “โรงแรมนี้ไงครับ ที่คุณนั่งอยู่ โรงแรมของผมเอง”เธอยิ้มเจื่อน เมื่อมากระตุกหนวดแมวถึงถิ่น ร่างบางเองก็ไม่ได้มีอาการอะไร เพียงแค่ยิ้มออกมาเหมือนไม่มีความรู้สึกโกรธ โมโห หรืออะไรเลยแม้แต่น้อยที่ทำให้เธอคิดว่าร่างบางจะหึงสามี

            “แล้วคุณเยจินมาทำอะไรเหรอครับ”ร่างบางย้อนถาม พรางหันไปมองหน้าร่างสูงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

            “ก็มาหาซีวอนน่ะค่ะ ฉันเห็นว่าเขาทำงานที่นี่ก็เลยมาเยี่ยมเยียนตามประสาเพื่อน”เธอบอก ร่างบางกระตุกยิ้มเย็น

            “มาเยี่ยมเยียนตามประสาเพื่อน หรือว่ามาหาเผื่อว่าจะได้เพื่อนกลับไปเป็นผัว...เอ๊ย สามีครับ...อ๊ะ ต้องขอโทษที่ผมเป็นคนพูดตรงไปหน่อย แต่ยังไงผมคงยกให้ไม่ได้หรอกนะครับ เมื่อคุณทิ้งเขาแล้ว ผมก็เลยต้องพาเขามาดูแลต่อ แต่อาจจะดูแลดีไปหน่อย ก็เลยทำให้มีแมลงวันหัวเขียวมาตอมเยอะ”ร่างบางจิกทั้งผัวทั้งอดีตเมียของผัว ร่างสูงหน้าเจื่อนไม่ต่างจากเยจิน ไม่คิดว่าร่างบางจะปากร้ายขนาดนี้ เขาไม่เคยเจอร่างบางอยู่ในโหมดนี้มาก่อน

            “คยูฮยอน”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อเยจินหน้าหงิกไปแล้วเถียงไม่ออก ร่างบางหันไปมองตาขวาง

            “ทำไม หรือเป็นเรื่องจริง ถ้าคิดจะกลับไปก็คิดให้ดีนะ โดนทิ้งมาอีก ฉันไม่สงเคราะห์เหมือนที่ผ่านมาแล้วนะ”ร่างบางว่ายกยิ้มร้าย ทั้งสองคนที่ได้ยินแบบนั้นก็สะอึก เยจินมองร่างบางด้วยสีหน้าไม่พอใจ

            “คุณคยูคะ..”

            “คุณกับผมไม่ได้สนิทกัน เรียกชื่อเต็มจะดีกว่านะครับ แล้ววันนี้ไม่เลี้ยงลูกอยู่บ้านเหรอครับ ระวังลูกจะคิดว่าแม่ไม่อยู่ด้วยเพราะออกมาเที่ยวตามหาพ่อให้ลูกนะครับ”ร่าง บางแทรกขึ้น เธอทำปากมุบมิบ ไม่พอใจเป็นอย่างมากที่โดนร่างบางเสียดจนเจ็บไปหมด

             “คะ...เอาเป็นว่า ฉันไม่ได้จะมาแย่งสามีคุณ ฉันกับซีวอนเป็นเพื่อนกัน งั้นวันนี้ฉันขอตัวก่อน ซีวอนคะ ฉันไปก่อนนะคะ บายคะ”เธอบอกจบก็ลุกพรวดพราดออกไป ร่างบางกระตุกยิ้มเย็นแล้วส่งสายตาทะมึนไปให้คนที่นั่งอยู่ข้างกาย

            “เซอร์ไพรส์นะ”ว่าจบร่างบางก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที ไม่สนใจคนที่นั่งมองตาค้าง กว่าร่างสูงจะรู้สึกตัวร่างบางก็ลงลิฟท์ไปแล้ว จึงได้แต่วิ่งตามออกไป

 

 

            “คยูฮยอน หยุดก่อน”ร่างสูงวิ่งตามออกมาคว้าแขนเรียวเอาไว้ก่อนที่ร่างบางจะขึ้น แท็กซี่ไปเสียก่อน คยูฮยอนหันมามองหน้าเล็กน้อย

            “ว่ามา...”

            “เยจินแค่มาหาฉัน แต่ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดนะ”ร่างสูงแก้ตัว ร่างบางหัวเราะออกมาแล้วส่ายหน้า

            “ฉันยังไม่ได้คิดอะไรเลยนะซีวอน ฉันเชื่อใจนาย”ร่างบางว่าจบก็ดึงแขนออก แล้วถอนหายใจออกมา มองหน้าหล่อที่คิดถึงอยู่ทุกวัน ก่อนจะเป็นคนที่ดึงร่างสูงเข้าไปกอดเสียเอง

            “ขอบคุณนะคยู ฉันคิดถึงนายทุกวันเลยนะ”ร่างสูงว่า กอดร่างบางจนแทบจะจมไปกับอก คยูฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะสะอื้นออกมาเพราะความเหงา ร่างสูงเห็นแบบนั้นก็กอดแน่นกว่าเดิม มือใหญ่ลูบหลังบางเบาๆ ก่อนจะพาหลบออกไปที่อื่นเพราะยืนกันอยู่หน้าโรงแรม

            “ขอโทษนะ ที่ฉันทำแบบนี้ ทำให้นายต้องคิดมาก”ร่างบางบอก ร่างสูงส่ายหน้า หน้าหล่อก้มลงจูบริมฝีปากบางเบาๆ

            “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจนายนะคยู ฉันเข้าใจ ฉันก็เคยเป็นแบบที่นายเป็น ไม่ต้องร้องไห้นะ”ร่างบางพยักหน้ารับ

            “ไปหาข้าวกลางวันกินกันดีกว่านะ หิวแล้วสิ่ กินข้าวคนเดียวมาตั้งนานไม่อร่อยเลย”ร่างสูงเริ่มอ้อน ร่างบางยิ้มออกมากับความขี้อ้อนของคนตรงหน้าก็ยอมพยักหน้ารับ

 

 

 

                   ร่างสูงพาร่างบางเดินมาที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนข้างโรงแรมที่เขาเข้าไปนั่ง กินประจำ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้ร่างบางนั่งลงก่อนจะอ้อมไปนั่งตรงข้าม แล้วเริ่มสั่งอาหาร

 

            “ปากร้ายนะ จิกได้แม้กระทั่งผัวตัวเอง”ร่างสูงว่าหน้างอ ร่างบางหัวเราะคิกออกมา

            “ฉันก็ไม่ได้อยากจะทำหรอกนะ ถ้าเมียเก่าของผัวไม่ตามมาตอแย ยอมอยู่ฝ่ายเดียวมันก็ไม่ใช่เมียหลวงน่ะสิ่ ฉันไม่ใช่นางเอกในละครน้ำเน่าจะได้มัวแต่นั่งร้องไห้เพราะเมียเก่าของผัวจะ มายึดผัวคืนเหมือนในละคร พอดีฉันเป็นเมียหลวง จำเอาไว้ เมียหลวงอย่างฉันจิกได้จิก ตบได้ตบ ระวังไว้ให้ดีก็แล้วกัน”ร่างบางว่า ร่างสูงเริ่มเกิดอาการกลัว หน้าเจื่อน เพราะร่างบางไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ฮึดขึ้นมา

            “แรงนะตัวเธอ”ร่างบางหัวเราะหึออกมา

            “ฉันก็ไม่ได้ทำไมหรอกนะ แต่ถ้ามาหยามกันแบบนี้ ผู้หญิงฉันก็ไม่สนใจหรอก ฉันไม่ทำใครก่อน แต่อย่ามายุ่งก็แล้วกัน ฉันจับนั่งยางเผาไม่เหลือซากแน่”ร่างบางพูดสีหน้าจริงจัง เอาจริงอย่างที่ร่างสูงไม่เคยเห็น แล้วแบบนี้ชเว ซีวอนจะไปไหนพ้น

            “เมื่อก่อนนายไม่เป็นแบบนี้”ร่างสูงว่า เพราะเมื่อก่อนที่เริ่มรู้จัก ร่างบางจะเป็นคนใจเย็น ไม่หือไม่อือกับใคร ไม่สู้คน แถมยังยอมอะไรง่ายๆ อ่อนไหวเสียด้วยซ้ำ

             “เพราะ ใครล่ะ ฉันไม่ทำอะไรให้เสียเกียรติเสียชื่อเสียงหรอก อย่างน้อยฉันก็จะไม่ทำกิริยาต่ำให้คนอื่นด่าฉันได้ก็พอ”ร่างบางถาม ร่างสูงมองแล้วยกนิ้วชี้เข้าหาตัวเองว่าเป็นเพราะเขาเหรอแต่ก็เข้าใจที่ร่าง บางพูด คยูฮยอนยกยิ้มออกมาเพียงเท่านั้นไม่ได้ตอบ

             “นายทำให้ฉันเป็นแบบนี้เองนะซีวอน เพราะเสน่ห์เหลือล้นของนายน่ะ ถ้าฉันนิ่งก็เท่ากับเสียผัวให้คนอื่นสิ่”ร่างสูงหัวเราะออกมากับคำพูดนั้น

             “เอาน่า ฉันไม่มีใครหรอก อย่างมากก็เข้ามา แล้วก็ผ่านเลย ฉันไม่สนหรอกนะ มีนายอยู่ทั้งคน จะมีคนอื่นได้ยังไงกัน”ร่างสูงว่า ถ้าเกิดเขาทำแบบเมื่อตอนที่ควงสาวเดินหน้าโรงแรม ไม่โดนร่างบางตัดเลยหรือไงกัน สงสัยว่าเรื่องของเยจิน ร่างบางจะจริงจังจนฆ่าแกงได้โดยไม่สนใจใคร แบบนี้เขาเรียกว่าหึงรึปล่าวนะ

            “พูดเหมือนไม่เคยทำ”ร่างบางดึงมือที่โดนกุมอยู่ออกแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ ร่างสูงยิ้มเจื่อน

            “หึงอ่ะดิ่”

            “ใช่ หึงมากด้วย”ร่างบางว่า ร่างสูงยิ้มก่อนจะหัวเราะคิกออกมา เพราะร่างบางมักจะปากแข็งไม่ยอมพูด

            “หึงมากๆ นะ ฉันชอบ”

            “โรคจิต”ด่าจบ อาหารก็มาวางลงบนโต๊ะ ทั้งสองคนนั่งกินข้าวด้วยกัน คุยกันอย่างออกรส เพราะเป็นครั้งแรกในรอบเดือนที่ร่างบางมาหา มาให้เห็นหน้า

 

 

 

                                                  ..............         

 

 

 

 

            “ทำไมคุณเยจินเธอถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น”ร่างบางถามขณะที่ร่างสูงขับรถมา ส่งที่คอนโด เพราะเท่าที่เคยเจอ เยจินคนก่อนกับตอนนี้เหมือนต่างกันสุดขั้ว ทั้งที่เมื่อก่อนดูเป็นคนเรียบร้อยเขาจึงยิ้มรับเสมอ แต่เมื่อเที่ยงที่เขาเห็นเหมือนเธอจะเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ไม่น่าคบสัก เท่าไร ร่างสูงส่ายหน้าไม่รู้เหมือนกัน

            “ฉันเองก็ไม่รู้ เห็นเพื่อนฉันบอกว่าเธอเลิกกับสามีแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะกลับมาหาฉัน”ร่างสูงบอก

            “อ้อ แล้วน้องจินยองล่ะ”

            “อยู่กับพ่อเขามั้ง ฉันก็ไม่ได้สนใจตอนที่เพื่อนบอกมาเลยไม่ค่อยรู้รายละเอียด เราอย่าพูดถึงเยจินเลยนะ ตอนนี้เราอยู่กันสองคน คนอื่นไม่เกี่ยว”ร่างบางพยักหน้ารับ แล้วเอนหลังนั่งเงียบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                    ร่างสูงขึ้นมาส่งร่างบางบนห้อง มือใหญ่จับมือเล็กเดินมาตลอดทางไม่ได้ปล่อยออก จนถึงหน้าห้อง ถึงได้คลายมือออกพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ

 

            “ดูแลตัวเองดีๆ นะ”เสียงทุ้มเอ่ยบอก ยกมือเล็กขึ้นจูบเบาๆ มองหน้าหวานไม่วางตา จนร่างบางต้องหลบตาไปเอง

            “ฉันขอเวลาอีกหน่อยนะ ขอโทษด้วย”ร่างบางบอกเสียงเบา กลัวว่าร่างสูงจะน้อยใจ เขารู้ว่าไม่ควรทำแบบนี้ แต่เขาก็ยังไม่พร้อม

            “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าพร้อมเมื่อไร บอกฉันนะคยู...ฉันจะรอนายเสมอ”ร่างบางพยักหน้ารับ พร้อมกับเข้ากอดร่างสูง ก่อนจะผละออกแล้วหันไปเสียบคีย์การ์ดเข้าห้อง ร่างสูงดึงคีย์การ์ดออกให้ใส่รหัสให้ถูกต้องก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

             “กินข้าวให้ตรงเวลานะรู้มั้ย ดูแลตัวเองดีๆ ฉันจะไม่รบกวนเวลาของนายนอกจากนายจะโทรมาหา ฉันจะรีบรับทันที มีอะไรก็บอกนะ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว”ร่างบางพยักหน้ารับ

             “อย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กได้มั้ย”ร่างบางว่าหน้าบูดคล้ายจะร้องไห้ ร่างสูงเห็นแบบนั้นก็ดันหลังให้เข้าไปในห้อง

             “ล็อคห้องให้ดีนะ อย่าเปิดให้คนแปลกหน้าล่ะ”ว่าจบก็งับบานประตูปิดลง ไม่ทันให้ร่างบางได้พูดอะไรต่อเพราะกลัวจะทนไม่ไหวเพราะความคิดถึง ไม่อยากเห็นร่างบางร้องไห้

 

 

 

                    ร่างสูงยืนพิงประตูอยู่ด้านนอกไม่ต่างจากร่างบางที่ยืนพิงประตูอยู่ด้านใน ห้อง ก่อนจะนั่งลงไปกับพื้น ร้องไห้ออกมาเสียงเบาไม่ให้คนข้างนอกได้ยิน เพราะรู้ว่าร่างสูงยังไม่ไปไหน

 

            “ฉันขอโทษ ซีวอนฉันขอโทษ”เสียงหวานเอ่ยเสียงเบาสั่นเครือ นั่งกอดตัวเองอยู่อย่างนั้น

 

 

 

                    ร่างสูงกระพริบตาถี่เพื่อกักเก็บน้ำตา ก่อนจะมองไปตามทางข้างหน้าแล้วก้าวเดินออกไปเรื่อยๆ ปากหยักยกยิ้มกับตัวเองให้กำลังใจตัวเองเหมือนตอนที่รู้สึกท้อแท้ รอเวลาให้ร่างบางรู้สึกดีขึ้น เขาเชื่อว่าอีกไม่นานร่างบางต้องยอมให้เขากลับเข้ามาอีกครั้ง

 

 

 

 

 

                                     ...............................

 

 

 

 

                     ร่างบางนั่งจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเพื่อกลับเกาหลีในช่วงปิดเทอม ถึงแม้ว่าเวลาจะเพียงไม่กี่วันก็ตาม เขาไม่ได้บอกซีวอน ไม่อยากให้เป็นห่วงเขามากกว่านี้ จัดกระเป๋าเสร็จก็เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะออกไปสนามบิน ยังเหลือเวลาอีกหกชั่วโมง

 

            “ซีวอน...ฉันออกไปเที่ยวซักอาทิตย์นะ แล้วจะรีบกลับ”ร่างบางพูดกับคนปลายสายเสียงเบา เมื่อร่างสูงรับรู้จึงวางสาย

 

 

                       ร่างบางทำท่าจะออกไปหาอะไรกินลองท้องแต่ก็มีบางอย่างที่ตัดสินใจไม่ได้ จนในที่สุดก็เดินวนอยู่แต่ในห้องจนไม่ได้ออกไป มือเล็กเลื่อนไอโฟนเลือกค้นหาบางอย่างอยู่ในนั้น จนในที่สุดก็ยิ้มออกมาเมื่อเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้าง...ตั๋วเครื่องบินยังไม่เต็ม

 

             “กลับมาหาฉันที่คอนโดตอนนี้หน่อยนะ เอากระเป๋าเสื้อผ้ากลับมาด้วย”เสียงหวานเอ่ยเท่านั้นก่อนจะวางสาย

 

 

 

 

 

...............

 

 

 

 

 

                      สองคนสามีภรรยากลับมาเกาหลีไม่ได้บอกใครล่วงหน้า นั่งรถแท็กซี่ไปที่ร้านดอกไม้ที่จากมานานหลายเดือนด้วยความคิดถึง มือใหญ่จับมือเล็กกุมไม่ยอมปล่อยตั้งแต่ที่ร่างบางบอกให้กลับไปที่คอนโดและ เก็บเสื้อผ้ามาด้วย ร่างสูงรั้งศรีษะร่างบางให้เอนซบไหล่ แขนล่ำโอบไม่ห่าง

 

            “ขอบคุณที่ไม่ทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวอีกนะคยู”เสียงทุ้มเอ่ยบอก ร่างบางยิ้มอ่อนๆ เท่านั้น เป็นการตอบรับ

 

 

 

 

                       เมื่อถึงบริษัททั้งสองคนก็ลงจากรถเดินตรงไปที่ร้านดอกไม้ พร้อมลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบไม่ใหญ่มากไปด้วย กระชับแว่นตาและหมวกให้เข้าที่ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กัน มือทั้งสองจับกันไม่ยอมปล่อย พากันเดินตรงไปที่ร้าน เปิดประตูเข้าไปกลิ่นหอมชวนฝันก็ลอยเข้าจมูก

 

 

                                                  กรุ๊งกริ๊งๆ

 

 

                        ร่างบางยิ้มออกมาพรางสูดกลิ่นหอมของดอกไม้ มองไปรอบร้านก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อยนอกจากดอกไม้ที่เยอะ ขึ้นจากเดิมอยู่มาก คยูฮยอนหันไปยิ้มให้คนข้างๆ

 

            “รับช่อดอกไม้อะไรดีคะ”เสียงของมิยองดังออกมาให้ทั้งสองได้ยิน ร่างบางจับแว่นให้เข้าที่และเดินไปที่เคาน์เตอร์พรางหยิบแคตตาล็อกขึ้นมาดู ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้คนตรงหน้า

            “ไม่ทราบว่านี่ใช่ร้านวอนน่าบีมั้ยครับ”เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นก่อนเจ้าตัว จะถอดแว่นออก มิยองเงยหน้าขึ้นจากบัญชีมองคนถามด้วยความสงสัยก่อนจะยิ้มออกกว้างออกมา อย่างดีใจ กำลังจะเอ่ยปากเสียงดังร่างบางก็ทำท่าจุ๊ปากจนเธอแทบจะหุบไม่ทัน ร่างสูงมองก็หัวเราะออกมาเบาๆ มิยองก้มศีรษะให้ ร่างสูงเองก็ตอบกลับเช่นกัน

 

 

                        ร่างบางเดินไปหาเรียวอุคที่นั่งเคลียร์ลิสรายชื่อที่ลูกค้าสั่งเอาไว้คิ้ว ขมวด อาจเป็นเพราะร่างเล็กนั่งหันหลังให้จึงไม่เห็นคนที่เดินมาหา

 

             “ขอโทษนะครับ ที่นั่งไม่พอ ผมขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ”เสียงหวานเอ่ยขึ้น เรียวอุคได้ยินก็พูด แต่ด้วยความที่กำลังดูงานอยู่จึงไม่ได้เงยหน้ามอง

              “ได้ครับ เชิญเลยตามสบาย”เสียงเล็กเอ่ยบอก ร่างบางยู่หน้าที่เรียวอุคยังคงก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ร่างบางหันไปมองร่างสูงที่นั่งอยู่ก็ย่นหน้าใส่ แล้วนั่งลงตรงหน้าเรียวอุคพอดีเด๊ะ จ้องมองจนคนที่นั่งอยู่ก่อนเริ่มรู้สึกตัวว่ามีคนมองก็เงยหน้าขึ้น

              “คุณจะมองผมอีกนานมะ.....คยูฮยอน!!”คน ตัวเล็กทำท่าจะเอ่ยถาม แต่ก็ต้องเรียกเสียงดังเมื่อเห็นว่าใครมานั่งอยู่ตรงหน้า ร่างบางหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางงงงวยของเรียวอุคก็จะเข้าไปกอดด้วยความคิด ถึง

              “ผมคิดถึงเรียวมากๆ เลยนะครับ”ร่างบางว่า เรียวอุคยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ กอดร่างบางตอบทันทีด้วยความคิดถึงเช่นกัน

              “มาได้ยังไง ทำไมไม่โทรมาบอกว่าจะมา ผมจะได้เตรียมอะไรเอาไว้ให้”ร่างบางรีบส่ายหน้า แล้วให้เรียวอุคนั่งลงเหมือนเดิม แต่ด้วยความสงสัยเพราะตอนที่กอดเรียวอุคแล้วมันแปลกๆ จึงเอ่ยถาม

              “เรียวท้องเหรอครับ”ร่างเล็กพยักหน้ารับ เท่านั้นร่างบางก็ยิ้มกว้างทันที แทบจะกระโดดโลดเต้น เรียวอุคหัวเราะออกมาเบาๆ

               “ซีวอนๆๆๆ เรากำลังจะมีหลานๆ”เสียงร่างบางร้องออกมาอย่างดีใจ ร่างสูงที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะกับท่าทางดีใจของร่างบาง เรียวอุคที่เห็นร่างสูงก็ก้มศีรษะให้เป็นการทักทาย

              “ทานอะไรกันมารึยังครับ ไปทานข้าวด้วยกันนะครับ อีกสิบนาทีพี่เยซองคงจะลงมา”เรียวอุคเดินไปบอกทั้งสองที่ยังกอดกันกลมอยู่ ที่โซฟารับแขก ร่างบางรีบพยักหน้ารับ

             “ดีใจด้วยนะเรียวอุค”

              “ขอบคุณครับคุณซีวอน”เรียวอุคก้มศีรษะให้อีกครั้ง ก่อนจะให้พนักงานหาน้ำมาให้ทั้งสอง แต่ร่างสูงขอตัวขึ้นไปบนตึกเสียก่อน ให้ร่างบางรออยู่ที่นี่ พนักงานทุกคนต่างเข้ามารุมล้อมร่างบางยิงคำถามจนแทบจะตอบไม่ทัน ทำให้ร่างบางยิ้มไม่หุบเพราะความคิดถึงของทุกคน

 

 

                      เยซองที่เดินเข้ามาในร้านในเวลาปกติเห็นพนักงานต่างกรูกันเข้าไปอยู่กระจุก เดียวก็งง มองหน้าเรียวอุคที่นั่งยิ้มอยู่ที่โซฟา

 

             “อะไรกันครับหนูเรียว”เรียวอุคหันไปยิ้มให้คนถาม

             “ไปดูเองสิ่ครับ”เยซองพยักหน้ารับ เพราะเห็นเรียวอุคยิ้มไม่หุบก็สงสัย เยซองสะกิดพนักงานจนพวกเธอแยกย้ายกันออกไป เห็นร่างบางนั่งยิ้มค้างอยู่ก็ยิ้มออกมา

              “คุณหนู...”

              “พี่เยซอง ^0^ สวัสดีครับ”ร่างบางยืนขึ้นยิ้มตาหยีน่ารักส่งให้ เยซองหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะถามสารทุกข์สุกดิบกันด้วยความคิดถึง

 

 

 

 

                        ร่างสูงเดินขึ้นตึกไปพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี พนักงานใบบริษัทที่เห็นแบบนั้นก็ก้มศีรษะทักทายกันเพราะไม่ได้เจอร่างสูงนาน มาก ตั้งแต่รถคว่ำจนไปอเมริกา ยิ่งวันนี้ร่างสูงแต่งตัวชิวๆ ไม่ได้ใส่ชุดทำงานก็ยิ่งทำให้ราศีความหล่อแผ่กระจายไปทั่ว มาถึงหน้าห้องทำงานเห็นยองอานั่งก้มหน้าก้มตาทำงานก็ยิ้ม

 

              “ขอโทษนะครับ ผมมาหาคุณอีทึก ไม่ทราบว่าอยู่มั้ยครับ”เอ่ยเสียงทุ้มนุ่ม ยองอาเงยหน้าขึ้นมาเห็นก็ตกใจแต่ก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่เจ้า นายกลับมา

              “คุณซีวอน สวัสดีค่ะ คุณอีทึกอยู่ข้าในค่ะ เชิญเลย”

              “สวัสดีครับ สวยขึ้นนะครับ”ร่างสูงบอก เธอยิ้มเขินก่อนจะเปิดประตูให้ร่างสูงเข้าไปด้านใน ซีวอนที่เห็นพี่ชายทำงานหน้าเครียดก็ยิ้ม เดินเข้าไปหา

 

               “คุณยองอามีเอกสารอะไรอีกรึปล่าวครับ”เสียงอีทึกดังขึ้นถามคนที่เปิดประตู เข้ามา เพราะเขาบอกเลขาเสมอว่ามีเอกสารด่วนให้เข้ามาได้เลยไม่ต้องเสียเวลาเคาะ ประตู แต่คนที่โดนถามกลับเงียบกริบ ยืนมองคนเป็นพี่ทำงานด้วยสายตาอ่อนโยน จนอีทึกคิ้วขมวดเงยหน้าขึ้นมามอง

               “มีเอ..ก......ซีวอน น้องมาได้ยังไง”อีทึกลุกพรวดก่อนจะรีบออกจากเก้าอี้มากอดร่างสูงด้วยความคิด ถึง ซีวอนยิ้มกว้างกอดอีทึกตอบแน่นจนแทบจะจมลงไปกับอก

              “คิดถึง เลยบินมาหาครับ”ร่างสูงว่า อีทึกคลายกอดออก มือบางลูบไปทั่วตัวของน้องชาย ดูสภาพดูรูปร่าง ดูความเปลี่ยนไป แต่ก็ยังเหมือนเดิม

              “กินข้าวมารึยัง ผอมลงรึปล่าวทำไมหน้าซูบลงแบบนี้”ร่างสูงยิ้มรับกับคำถามของอีทึก

              “ยังเลยครับ กะว่าจะมาชวนพี่ไปกินข้าว แล้วเราค่อยคุยกันนะ”อีทึกพยักหน้ารับ แล้วรีบไปเคลียร์เอกสารบนโต๊ะให้เรียบร้อยก่อนจะพากันออกไป....

 

 

 

 

                                           ....................................

 

 

 

 

                       ร่างบางนั่งรอคุณสามีอยู่ที่ร้านดอกไม้ ช่วยพนักงานจัดดอกไม้อย่างที่อยากทำมาหลายเดือน เรียวอุคก็นั่งมองพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ ที่เห็นร่างบางกำลังยิ้มมีความสุขแบบนั้น

 

            “คยูครับ ไปทานข้าวกันเถอะ”เรียวอุคร้องบอก ร่างบางวางมือจากช่อดอกไม้ตรงหน้าหันมายิ้มให้เรียวอุค แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้กำลังจะเดินตามเรียวอุคออกไปนอกร้านอีทึกก็วิ่งตึกๆ เข้ามาเหมือนเด็กๆ กอดร่างบางหมับด้วยความคิดถึง

            “คยูฮยอน!!....คิดถึงมากๆ เลย”

            “ผมก็คิดถึงพี่ครับ”ร่างบางกอดตอบ ก่อนอีทึกจะผละออกมองหน้าน้องให้เต็มตา ร่างบางยิ้มสวยให้อย่างเคย ร่างสูงที่เห็นอย่างนั้นก็รออยู่นอกร้าน และเดินไปทักทายเยซองที่อยู่ด้านนอกเช่นกัน

 

             “ผมจองร้านอาหารเอาไว้นะครับ”เยซองบอก ร่างสูงพยักหน้ารับ แล้วพากันเดินไปที่รถ คุยกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือน

 

 

 

 

 

 

                                        ร้านอาหาร

 

                      คังอินพาเด็กๆ เข้ามาในร้านหลังจากไปรับมาจากที่โรงเรียนทั้งลูกชายและคู่หมั้นตัวน้อยที่ ตัวแทบจะติดกันทั้งวัน มาถึงทั้งหมดก็รออยู่ที่ห้องวีไอพีแล้ว พร้อมกับอาหารมากมาย คังอินทักทายร่างสูงกับร่างบางเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงบ้าง

 

            “เด็กๆ สวัสดีคุณน้าก่อนครับ”ร่างหนาบอกเจ้าลูกหมีตัวอวบกับอึนจองที่วิ่งเข้ามาหาร่างบางตั้งแต่เห็นหน้า

             “แม่คยู อึนจองคิดถึง”ยัยหนูพูดเสียงเจื้อยแจ้ว ร่างบางทั้งกอด หอมแก้มเสียฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงลูกสาวคนสวย แล้วจับให้นั่งตักกินข้าวด้วยกัน

            “ไหนดูซิ ลูกสาวแม่คยูโตเป็นสาวแล้ว”ร่างบางว่าพร้อมรอยยิ้ม อึนจองคล้องคอร่างบางหอมแก้มแล้วยิ้มตาหยี

             “สวัสดีครับคุณน้าคยู คุณน้าซีวอน”ยองซูก้มศีรษะทักทายร่างบางก่อนจะยิ้มกว้าง มือเล็กยกมือลูบผมเบาๆ

             “ยองซูนั่งตรงนี้เลยครับลูก”อีทึกบอก ยองซูก็ทำตามอย่างว่าง่าย

             “แล้วนี่โซอึนไปไหน ไม่มาด้วยเหรอ”อีทึกถามเพราะไม่เห็นหน้าหลานสาวตัวน้อยที่มักจะเกาะอยู่ไม่ ห่าง ร่างบางหันไปมองร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ

             “ผมให้ไปอยู่กับคุณแม่ที่แคนาดาครับ คยูเรียนหนัก ผมเองก็ทำงาน ก็เลยไม่มีเวลาเลี้ยงเอง ฝากคุณอาชินดงก็เกรงใจน่ะครับ”ร่างสูงตอบ อีทึกพยักหน้ารับแต่ก็คอยสังเกตอาการแปลกๆ ของน้องชายแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

              “งั้นเรากินข้าวกันเถอะ ป่านนี้หลานในท้องหิวแย่แล้ว”อีทึกบอก ทุกคนเองเห็นด้วยเพราะเลยเวลาบ่ายมาแล้ว

             “อึนจอง ยองซูทานเยอะๆ นะครับ”ร่างบางบอก เด็กๆ พยักหน้ารับ

             “ไม่พยักหน้าสิ่คะน้องอึนจอง”ยัยหนูโดนเยซองดุไม่ให้พยักหน้า ถึงได้เอ่ยปากออกมา ร่างบางก็ไม่ได้ว่าอะไร เด็กน่ารักแบบนี้เรื่องแค่นี้เล็กๆ น้อยๆ เขาไม่ถือ

             “อย่าไปดุแกเลยน่า นิดหน่อยเอง”ร่างสูงบอกเยซองที่นั่งอยู่ข้างๆ เยซองเพียงแค่ยิ้มไม่ได้ตอบอะไร

 

 

             “ตอนนี้เรียวท้องกี่เดือนแล้วครับ”ร่างบางถามเรียวอุค หลังจากนั่งกินข้าวกันมาซักพัก เรียวอุคเงยหน้าขึ้นเมื่อป้อนข้าวให้ยัยหนูแล้ว

             “จะสี่เดือนแล้วครับคยู”

             “แล้วทำไมไม่มีใครบอกผมเลยอ่ะ ดูสิ่ รู้สึกว่าอะไรๆ มันก็เซอร์ไพรส์ไปซะหมด”อดที่จะแขวะร่างสูงไม่ได้ ถึงแม้คนอื่นจะไม่รู้ก็ตามแต่ชเว ซีวอนนี่สะดุ้งน้อยๆ เมื่อถูกพาดพิง

             “พวกเราแค่อยากให้แปลกใจเฉยๆ แบบว่ากลับมาจากอเมริกา อยู่ๆ ก็มีเด็กตัวเล็กๆ ที่ไหนก็ไม่รู้มาวิ่งเล่นอยู่ในร้าน”คังอินว่า ทุกคนพยักหน้าเสริมทับ ร่างบางยู่หน้าเล็กน้อย แล้วก็ก้มไปคุยกับลูกสาวคนโปรด

             “น้องอึนจอง หนูจะมีน้องแล้วดีใจมั้ยคะลูก”เสียงหวานเอ่ยถาม ยัยหนูก็ยิ้มหน้าบานไม่ตอบอะไร คุยกันกุ๊กกิ๊กอยู่อย่างนั้นจนทุกคนที่มองอยู่ยิ้มตาม

 

 

 

 

 

                        กว่าจะกินข้าวเสร็จก็บ่ายสองกว่าแล้วแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองนักเจอกัน อีกครั้งในช่วงค่ำที่บ้านชเว คังอินขับรถมาส่งร่างสูงและร่างบางที่บ้านหลังจากให้ให้เยซองพาอีทึกกับ เด็กๆ กลับบริษัทด้วย

 

            “มีปัญหาอะไรกันรึปล่าว ฉันเห็นนายสองคนไม่ค่อยคุยกันเลยนะ”คังอินถามอย่างสงสัยเพราะนั่งเงียบในรถ มาตลอด มีเพียงเสียงแอร์ดังเท่านั้น ปกติทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันแทบไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกันนักหนา อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงยังมีเรื่องให้คุยได้ตลอด แต่วันนี้กลับเงียบกริบ ร่างสูงส่ายหน้า

             “ปล่าวหรอกครับพี่คังอิน หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน นั่งเครื่องบินมายังไม่ได้กลับบ้านเลย เพลียนิดหน่อยน่ะครับ”ร่างบางปฏิเสธเพื่อไม่ให้คนรอบข้างเป็นห่วง ถึงแม้จะมีปัญหาจริง แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร และมันไม่ใช่เรื่องซะด้วย เขางี่เง่าเอง

             “อืม ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว อ่ะถึงแล้ว เข้าบ้านไปนอนพักซะล่ะ”คังอินจอดรถที่หน้าบ้านหลังใหญ่โตพร้อมกับช่วยยก กระเป๋าลงจากรถให้

             “ขอบคุณนะครับพี่ที่มาส่ง ขับรถดีๆ นะครับ”ร่างบางก้มศีรษะให้ คังอินโบกมือว่าไม่เป็นอะไร ก่อนจะออกรถไปจากบ้านชเว

 

 

 

 

                        เสียงรถหน้าบ้านทำให้คุณป้าแม่บ้านต้องเดินออกมาดู เมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองของเธอก็เข้ามากอดให้หายคิดถึง ร่างบางเองเมื่อเห็นหน้าคุณป้าก็แทบจะร้องไห้ ก่อนที่คุณป้าจะปล่อยทั้งสองไปพักผ่อน

 

             “นายนอนที่ห้องของนายก็แล้วกันนะ เดี๋ยวฉันจะไปนอนอีกห้อง”ร่างบางบอก ร่างสูงหน้าเสียเพราะตอนมาก็มาดีๆ แต่อยู่ๆ ทำไมจนกระทั่งป่านนี้ร่างบางถึงยังไม่ยอมนอนห้องเดียวกับเขา

             “ทำไมล่ะคยู..”ร่างสูงถามน้ำเสียงเริ่มน้อยใจ ชวนเขามาแต่กลับปล่อยให้เขานอนคนเดียว ร่างบางส่ายหน้าไม่มีคำตอบ ก่อนจะลากกระเป๋าเข้าไปอีกห้องที่ถัดจากห้องของอีทึก ร่างสูงยืนมองตามก็หน้าเศร้า เมื่อเห็นว่าร่างบางปิดประตูไปแล้วจึงเดินเข้าห้องตัวเองไปนั่งเหี่ยวอยู่บน เตียง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                        ช่วงเย็น

 

                        อีทึกมาที่บ้านชเวก่อนคนอื่นเห็นน้องที่สองคนนั่งเงียบไม่พูดจาก็เกิดอาการ งง เดินไปหาร่างสูงที่ยืนนิ่งมองร่างบางที่นั่งเงียบอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น

 

             “ซีวอน ทำไมไม่เข้าไปล่ะ”มือบางสะกิดน้องชายแล้วเอ่ยขึ้น ร่างสูงสะดุ้งน้อยๆ หันมองหน้าพี่ชายหน้าเศร้า

             “ไม่มีอะไรครับ”อีทึกคิ้วขมวด ลากน้องชายตัวเองเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น ก่อนจะมองหน้าร่างบางที่นิ่งไม่แพ้กัน ไม่ยอมพูดอะไร

             “เป็นอะไรกัน พี่เห็นตั้งแต่บ่ายแล้วนะ มีอะไรทำไมไม่คุยกันล่ะ โตๆ กันแล้ว”อีทึกว่า ร่างบางมองหน้าสวยของคนพี่ด้วยสายตาเศร้า

             “ไม่มีอะไรครับ”ตอบเหมือนกันที่ร่างสูงพูดเมื่อครู่เด๊ะ อีทึกส่ายหน้า

             “ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด พี่ไม่ยุ่งก็แล้วกัน พี่แค่เป็นห่วง เราสองคนน่ะโตๆ กันแล้ว มีอะไรก็พูดกัน ไม่ใช่หมางเมินใส่กันแบบที่พี่เห็นอยู่ตอนนี้”อีทึกว่าจบก็เดินเข้าครัวไป ช่วยคุณป้าทำมื้อเย็น ร่างบางมองหน้าร่างสูงก่อนจะร้องไห้ออกมา

             “ฉันขอโทษนะซีวอน ฉันแค่คิดถึง...ลูก”ร่างบางบอกเสียงเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป ร่างสูงได้ยินแบบนั้นก็หลับตาลง เขารู้ว่าร่างบางคิดถึงลูกที่เสียไป เขาน่าจะดึงร่างบางเอาไว้ไม่ให้กลับมาที่นี่จริงๆ คิดผิดที่ตามมาด้วยไม่ยอมรั้งร่างบาง แค่ไม่คิดว่ามันจะทำให้กลับมานึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ แบบนั้นอีกเพราะร่างบางอยู่อเมริกาไม่เคยมานั่งเงียบคิดถึงลูกแบบนี้นอกจาก ที่โกรธหรืองอนเขา

             “เฮ้อออ”อีทึกที่แอบมองอยู่ก็ส่ายหน้า ก่อนจะรีบเข้าห้องครัวเมื่อเห็นว่าร่างสูงเดินเข้ามา

 

 

            “พี่ครับ คุณป้าครับ ผมช่วย”ร่างสูงบอกเพราะไม่อยากนั่งเฉยๆ ให้คิดมาก

             “มาสิ่คะ”คุณป้ายิ้มตอบรับ ร่างสูงเดินเอื่อยๆ ไปยืนมองผักก็จ้องมันอยู่อย่างนั้นจนอีทึกงง เดินเข้ามาหาเขย่าแขนเบาๆ

            “เป็นอะไร ผักมันมีอะไรรึไง มองมันอยู่ได้”ร่างสูงส่ายหน้า แล้วหยิบมันขึ้นมาล้างเหมือนคนอาการเหม่อลอยจนอีทึกทนไม่ไหว ระเบิดออกมาเพราะน้องมีอะไรก็ไม่ยอมพูดเอาแต่เก็บเงียบแบบนี้ปัญหามันจะมี ทางออกได้อย่างไร

            “มีอะไรทำไมไม่พูด ออกไปนั่งข้างนอกเลยป่ะ เห็นแล้วรำคาญ”อีทึกว่า คุณป้าที่หันหลังให้ก็ตกใจ

            “คุณหนูคะ เป็นอะไรคะ พูดกันดีๆ สิ่คะ”อีทึกยู่หน้าไม่สบอารมณ์

            “คุณป้าก็ดูซีวอนสิ่ครับ เป็นแบบนี้แล้วเมื่อไรคยูฮยอนจะยอมคุยด้วย มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ”

             “ก็เพราะผมกับคยูไม่ได้คุยด้วยกันดีๆ มาเดือนกว่าแล้วไงครับ เราแยกกันอยู่เดือนกว่าแล้ว แล้วที่โซอึนไปอยู่กับคุณแม่ก็เพราะสาเหตุนี้ เข้าใจแล้วใช่มั้ย อย่าถามผมอีกเลยนะ”ร่างสูงโผล่งออกมาก่อนจะวางผักลงแล้วเดินออกไปข้างนอก อีทึกตกใจที่ได้ยินแบบนั้นไม่ต่างจากคุณป้า

 

 

 

 

 

 

 

 

                      ร่างบางที่ยืนอยู่ข้างนอกได้ยินก็สะอื้นออกมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากอยู่ด้วยหรือให้ซีวอนอยู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร รู้ตัวว่างี่เง่า แต่...เขาก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ซีวอนฟังยังไง มันถึงออกมาเป็นแบบนี้

 

 

                        อีทึกที่เดินตามน้องชายออกมาเห็นร่างบางยืนน้ำตาไหลอยู่ข้างนอกก็สงสาร

 

            “อย่าร้องไห้สิ่คยู ทำไมมีเรื่องอะไรไม่คุยกัน เป็นสามีภรรยากันอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน เรื่องแค่นี้เองคุยกันสิ่ ไม่ใช่ต่างคนต่างแยกกันออกมาแบบนี้ แล้วสุดท้ายน้องโซอึนล่ะ ต้องแยกจากพ่อแม่เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนั้นเหรอ”อีทึกเตือนสติ ร่างบางสะอื้นออกมาให้ได้ยิน

             “ผมรู้ว่าผมงี่เง่าใส่เขา ตอนนั้นผมแค่คิดว่าอยากให้เขารับรู้ว่าบ้างว่าตอนที่เขาเอาเปรียบผม ผมรู้สึกยังไง แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่ ผมรู้ว่าเขาเครียด แต่ผมแค่คิดถึงลูก ไม่ได้ตั้งใจจะให้เขารู้สึกแย่แบบนั้น”เสียงหวานสั่นเครือ

             “แล้วทำไมไม่บอกซีวอนล่ะ มีอะไรก็ปรึกษากันสิ่ ซีวอนเองก็โตกว่า เขาให้คำปรึกษาได้ มีอะไรก็บอกเขาถามเขาอย่าเก็บเงียบไม่พูดจาแบบนี้ มันไม่ช่วยแก้ปัญหา แล้วอีกอย่างซีวอนน่ะไม่ได้โกรธคยูหรอกที่เป็นแบบนี้ ไม่ต้องร้องไห้นะ พี่รู้ว่าเขาเข้าใจว่าคยูรู้สึกยังไง แต่ก็แค่น้อยใจที่คยูมีอะไรไม่ยอมพูดกับเขา เหมือนเขาไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวให้คำปรึกษาอะไรไม่ได้”ร่างบางพยักหน้ารับ

            “ผมขอโทษ...”อีทึกส่ายหน้า

             “ไม่ต้องขอโทษพี่หรอก ตามซีวอนไปเถอะ เดินออกไปไหนแล้วก็ไม่รู้”ร่างบางพยักหน้ารับ แล้วรีบเดินออกไปข้างนอก พอดีกับที่ฮันคยองเดินเข้ามากำลังจะทักร่างบางด้วยความคิดถึง แต่เจ้าตัวกลับวิ่งออกไปทั้งหน้าแดงๆ เหมือนพึ่งร้องไห้มาแบบนั้น มือที่ยกขึ้นจะทักทายกลับค้างอยู่อย่างนั้น

 

 

             “ฮัน ไม่เข้าไปล่ะ แล้วเมื่อกี้ฮยอกเห็นคยู”ฮันคยองพยักหน้ารับ เอามือลงวางข้างตัวเหมือนเดิม แล้วอุ้มเจ้าตัวเล็กมาจากฮยอกแจ

            “ผมก็งง เมื่อกี้เห็นคยูเหมือนจะร้องไห้น่ะครับ”ฮันคยองว่า ฮยอกแจเองก็ทำหน้างงใส่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรพากันเดินเข้าไปในตัวบ้านทักทายเจ้าของในครัว

 

            “ตัวเล็กมาแล้ว...หลับหรือยังสุดหล่อ คุยกับ...เอ่อ...ป้าหน่อยเร็วครับ”เสียงสดใสของอีทึกดังออกมาจากห้องครัว เรียกรอยยิ้มให้คนที่อยู่ในบ้านได้ทันที หลังจากเครียดมาซักพัก

 

 

 

 

           “ซีวอน นายอยู่ไหน”เสียงหวานเอ่ยเรียกร่างสูงที่ไม่รู้ว่าเดินไปไหน ร่างบางเดินหาอยู่ในสวนแต่ก็เจอร่างสูงนั่งอยู่ที่ชิงช้าตัวใหญ่ที่เขาสองคน มานั่งด้วยกันบ่อยๆ

 

 

                  ร่างบางเดินเข้าไปกอดคนตัวโตจากด้านหลังพร้อมกับซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง แล้วร้องไห้สะอื้นออกมา ร่างสูงที่นั่งนิ่งก็ทนไม่ไหว ผละร่างบางออกแล้วลุกขึ้นคว้าร่างบางมากอดซบอก

 

           “อย่าร้องไห้สิ่ ฉันไม่โกรธนะ ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่านายคิดถึงลูก ฉันก็คิดถึงเหมือนกัน ไหนๆ ก็กลับมาแล้วพรุ่งนี้เช้าเราไปหาเขาก็ได้”เสียงทุ้มเอ่ยปลอบ ร่างบางพยักหน้ารับกับอกแกร่ง

            “ฉันขอโทษที่มีอะไรไม่พูดกับนาย ทั้งที่นายรอฟัง รอให้คำปรึกษามาตลอด”ร่างสูงส่ายหน้า มือใหญ่ลูบหลังบางเบาๆ

             “ช่างมันเถอะนะ แค่ตอนนี้นายยอมบอกฉัน ฉันก็ดีใจแล้ว”ร่างสูงว่า ก่อนจะผละออก มือใหญ่เช็ดน้ำตาออกมาให้ ส่งรอยยิ้มให้ร่างบางมั่นว่าเขาไม่ได้โกรธ

             “ไม่สวยเลยดูสิ่ จมูกแดงหมดแล้ว”ร่างบางย่นปากเข้าหากันจนโดนร่างสูงจูบ มือใหญ่รั้งคอร่างบางเข้าใกล้ จูบอ่อนโยนที่ไม่ได้ทำมานานในรอบเดือน แขนเรียวคล้องคอแกร่งรับจูบอ่อนโยนของคนตรงหน้า ไม่มีสอดแทรกชอนไช มีเพียงแค่ริมฝีปากแตะกัน แตะย้ำๆ หลายครั้งเท่านั้น

            “ฉันขอโทษที่ทำให้รู้สึกแย่”ร่างบางบอกทั้งที่หน้าของทั้งสองแทบจะชนกัน ร่างสูงก้มหน้าให้หน้าผากชนกันแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้

            “ขอโทษมากี่ครั้งแล้ว หืม”ร่างบางยู่ปาก

            “รู้รึยังล่ะ ว่าตอนนั้นที่ฉันถามนายว่าขอโทษมากี่ครั้งแล้ว ฉันรู้สึกยังไง”ถามย้อน กลับกลายเป็นร่างสูงที่ยู่ปากแทน

            “คนสวยปากร้าย...”ว่าจบก็จูบริมฝีปากบางเบาๆ

            “ก็เพราะนายนั่นแหละ”ดีกันได้ก็ปากดีใส่กันอีกตามเคย ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยกันทั้งคู่ ร่างสูงรั้งร่างบางเข้ามากอดอีกครั้งด้วยความรัก แขนเรียวยกขึ้นโอบกอดตอบด้วยความรู้สึกเดียวกันที่ต่างคนต่างมีให้กัน

            “ง้อเสร็จก็ต้องทำลูกสิ่”อยู่ๆ เสียงทุ้มก็เอ่ยออกมา ร่างบางผละออกเดินหนีเข้าบ้าน เพราะปกติง้อกันทีไรไม่เคยออกห่างจากเตียง แต่คราวนี้เหมือนฉ่อยจะปากพร่อยพูดออกไปทำให้ร่างบางเดินหนี แต่อยู่ๆ คำพูดที่ลอยตามหลังมาของร่างบางก็ทำให้ร่างสูงยิ้มกว้าง

             “คืนนี้ค่อยว่ากัน....”

 

 

 

 

 

 

                      ร่างบางเดินเข้ามาในบ้านไปล้างหน้าล้างตาให้สะอาดก่อนจะเข้าไปที่ห้องนั่ง เล่นที่เพื่อนๆ พี่ๆ เริ่มทยอยกันมาแล้ว พอเห็นร่างบางก็แทบจะกระโดดเข้าใส่ไม่ต่างจากเจ้าตัว

 

             “คิดถึงจังเลย”ฮยอกแจ ซองมิน ดงเฮ สามสาว? ตระกูลลีเข้ากอดร่างบางจนเป็นก้อนเดียวกัน ไม่สิ่ เหลือลีเดียว คือลีดงเฮ ที่กลับมาใช้สกุลเดิมเมื่อหลายเดือนก่อน

             “ฮยอกครับ อย่ากระโดดสิ่ครับ เด็ยวเจ็บท้องอีกนะ”ฮันคยองเตือนเพราะฮยอกแจก็ซนเหมือนเด็กซะเหลือเกิน เคยกระโดดกอดเขาแบบนี้ตอนที่เขากลับจากที่ทำงานเพราะคิดถึงเลยทำให้เจ็บท้อง ไปเกือบสิบนาที ตอนนั้นแผลผ่าตัดก็ยังไม่หายดีเท่าไร ฮยอกแจผละออกมายิ้มสวย

             “เป็นยังไงบ้าง เรียนหนักมั้ย”ซองมินถามขึ้น ร่างบางพยักหน้ารับ

             “เหนื่อยมากเลยครับ แต่ก็ต้องอดทน”ร่างบางว่า ยิ้มหวาน ก่อนทั้งสี่จะพากันไปนั่งที่โซฟา ฮีชอลที่ได้ยินเสียงก็เดินออกมาดูเพราะเจอร่างสูงแล้วเมื่อครู่ที่เดินกลับ เข้าห้องครัวไป พอเห็นร่างบางก็ส่งยิ้มให้ คยูฮยอนลุกขึ้นก้มศีรษะให้เป็นการทักทาย ฮีชอลรวบตัวเข้ามากอดด้วยความคิดถึง

            “สวยขึ้นเยอะนะเรา”คำทักทายของฮีชอลทำให้ร่างบางเบ้ปาก

             “พี่อ่า...ใจร้าย”ฮีชอลหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะขอตัวลากฮันคยองเข้าครัวไปเพื่อไปช่วยกันปรุงอาหารรสเลิศต้อนรับน้อง กลับบ้าน ถึงแม้จะกลับมาแค่ช่วงเวลาไม่นานก็ตาม

 

 

 

 

 

 

...................................................................................................

 

            

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา