I HATE U MY TWIN 3P [TAO X KAI X CHAN]

10.0

เขียนโดย ploykailu

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.58 น.

  5 chapter
  2 วิจารณ์
  37.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 18.24 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) I HATE U MY TWIN - Four

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

I HATE U MY TWIN

CHAN X KAI X TAO

Four

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผมกำลังมองผ่านหน้าต่างห้องประฐมพยาบาลไปยังหน้าต่างห้องเรียนตึกฝั่งตรงข้าม มองไปที่กล่องช็อกโกแล็ตที่ห่อด้วยกระดาษสีชมพูลายน่ารักหวานแว๋วสวยงามที่วางทิ้งไว้ที่โต๊ะนักเรียนที่ติดกับหน้าต่าง จ้องมันอยู่แบบนั้นอย่างไม่วางตารอให้ใครบางคนมาเห็นมัน ส่วนตัวผมก็นอนเอกขเนกมือพ่ายศรีษะกระดิกเท้าอย่างสบายที่เตียงในห้องหลังจากที่โดดเรียนวิชาพาละในช่วงเช้า

 

 

 

 

 

 

 

“เมื่อไหร่แม่งจะมาว่ะ เดี๋ยวก็มีหมาคาบไปแดกก่อนหรอก ช้าแม่งชิบหาย”จากใบหน้าที่เรียบเฉยเริ่มปรากฎความว้าวุ่นใจชายหนุ่มร่างกำยำในชุดเสื้อเชิ้ตธรรมดากับรองเท้าNike air yeezy สบถด้วยความหัวเสีย เขาใจเย็นมานานพอแล้วใจจดใจจ่อรอแล้วรอเล่าสิ่งที่วางทิ้งไว้ก็ยังไม่ปรากฎผู้รับ ไม่รู้ว่าคนๆนั้นจะเรียนวิชาอะไรทำไมถึงยังไม่ขึ้นมาบนห้อง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กูให้เวลามึงสามนาที..สัสเอ้ยขึ้นมาสิว่ะ!!”เขากำลังเหมือนคนบ้าเข้าทุกที หึ..กำลังหวังในสิ่งลมๆแล้งๆถึงคนๆนั้นจะมาเห็นบางทีอาจจะเอาช็อกโกแล็ตกล่องนั้นไปทิ้งก็ได้

 

 

 

 

 

...แต่เขาก็ยังจะหวัง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กจะรู้หรือป่าว แต่ขอแค่ให้เขาได้ทำมัน...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1..2..สะ..

ชายหนุ่มนับอยู่แบบนั้นแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อร่างบางคุ้นตาปรากฏขึ้น ชายหนุ่มลุกขึ้นไปยังขอบหน้าตากระจกสีชา มองทุกการเคลื่อนไหวของร่างบาง มองมือเรียวที่ลงมือหยิบกล่องช็อกโกแล็ตนั้นด้วยความมึนงงและสงสัยมองแลซ้ายขวาหาที่มาที่ไปด้วยความเลิกลั่กซึ่งจื่อเทาเห็นแล้วต้องหลุดอมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว โดยไม่ทันสังเกตบุคคลที่เข้ามาใหม่เลยสักนิดเดียว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ปัง!!แม่ง!!เอาให้คนอื่นเฉยเลย สัสเอ้ย มึงจะมีน้ำใจไปไหนว่ะเหี้ยจง!!”เขากำลังเหมือสาวน้อยที่แอบเอาของไปให้กับคนที่แอบรักที่รอลุ้นผมจนตัวโก่ง ซึ่งผลที่ออกมาในครั้งแรกกับไม่เป็นผลสะแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทำอะไรอยู่หรอคะเทาๆ?”ชายหนุ่มหันควับเมื่อถูกเรียกจากบุคคลไม่ทราบที่มาที่ไป หันหลังกลับมาก็เจอกับร่างเพียงระหงของหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสั้นจู๊ดสีชมพูอ่อนยืนพิงโต๊ะอยู่ด้วยท่าทางยั่วยวน ใบหน้าเรียวสวยรูปไข่จมูกโด่งอย่างคนยุโรปที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางยี่ห้อดีขับให้เจ้าหล่อดูโดดเด่นชวนมอง กำลังยิ้มเล่นหูเล่นตาเชิญชวน เทาที่อารมณ์หงุดหงิดคลายสีหน้าลงแล้วกระตุกยิ้มตรงมุมปากไล่สายตาโลมเลียร่างสาวเจ้าด้วยความต้องการ ตาคมมองตามทรวดทรงองเอวที่ดูจะน่าอึดอัดเป็นพิเศษที่สองเต้าประทุมถัน สาวเท้าเดินเข้าไปหาแล้วจับกลีบขาเรียวทั้งสองข้างแยกออกจากกันโดยไม่กลัวว่าร่างตรงหน้าจะเกิดความกลัวตกใจเลยสักนิด แทรกร่างกายกำยำเข้าไปในนั้นจนร่างทั้งสองแนบชิดด้วยความคุ้นเคย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เทาคะ..เทายังไม่ตอบจีซ่าเลยนะว่ากำลังทำอะไรอยู่?”ใบหน้าสวยนิ่วหน้าน้อยๆอย่างไม่จริงจังนัก ยกมือทั้งสองข้างขึ้นคล้องคอแกร่งของชายหนุ่มดึงเข้ามาให้แนบชิดมากยิ่งขึ้นไม่รู้สึกรู้สากับมือสากหนาที่กำลังฟ้อนเฟ้นบั้นท้ายแล้วลามไล่เข้ามาภายในกระโปรงผ้าสั้นก่อนจะถลกมันขึ้นไปค้างเติ่งที่เอวคอดเผยให้เห็นซีทรูสีแดงตัวเล็กที่กำลังจะถูกถอดทิ้งไปหลังจากนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จะอยากรู้ไปทำไม ไม่มีอะไรหรอกหน่า มาสนุกกันเถอะสาวน้อย!!”เทาว่าปัดๆก่อนจะประทับริมฝีปากไปที่หัวไหร่เนียนขาวอมชมพูไล่ริมฝีปากไปเรื้อยๆจนไปถึงต้นคอปรายคางและริมฝีปาก

 

 

 

 

 

 

 

“อื่อ..ทะ..เทา..อืม..”หญิงสาวเผยอปากรับจูบดูดดื่มจากชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์ โต้เรียวลิ้นตอบกลับไปอย่างเจนโลกครางอื่อในลำคอก่อนจะนำมือบอบบางมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วด้วยความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นของทั้งสองเหมือนน้ำมันกับไฟที่บรรจบพบเจอกันทีไรก็ติดง่ายแผดเผาทุกอย่างจนหมดสิ้น โดยไม่คำนึงถึงสถานที่ว่ากำลังเล่นรักกันที่ไหน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เหี้ยจงมึงให้กูจริงหรอ กูแกะแล้วนะเว้ย มาเสียดายทีหลังกูไม่ให้หรอกนะ”ริวหรือริวอีจิเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่หอบสังขารมาเรียนที่ไอร์แลนด์ว่าขึ้นพรางเหน็บกล่องช็อกโกแล็ตไว้ที่รักแร้อย่างหวงแหน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เออ..แดกๆไปเหอะมึง กูไม่รู้เหมือนกันว่าแม่งใครมาวางไว้ผิดโต๊ะ”ผมว่าออกไปแล้วหัวเราะแห้งๆ แปลกดีอยู่ๆก็มีกล่องช็อกโกแล็ตสีทุเรศตามาวางไว้ที่โต๊ะผมพอถามหาเจ้าของหรือคิดไปอีกแบบว่าอาจจะมีคนให้ผิดโต๊ะกับเพื่อนคนอื่นๆในห้องก็ไม่มีใครยอมรับหรือรู้รายละเอียดสักคน จนในที่สุดช็อกโกแล็ตกล่องนี้ก็ตกเป็นของไอริวเพื่อนผมไปโดยปริยาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แหม่มึงพอกลับมาจากเที่ยวหนนี้มึงดูจะทิ้งนิสัยห่วงของฟรีไปสะสนิทเลยนะมึง เมื่อก่อนเห็นของฟรีเป็นไม่ได้”ไอริวมันว่าอย่างล้อเลียนผมทั้งๆที่ในปากมันมีช็อกโกแล็ตเต็มปากฟันดำปริ๊ดปี๋โคตรตลกเลย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แหวะมึงน่าเกลียด เคี้ยวให้หมดก่อนดิ ไอที่กูให้มึง มึงอย่าคิดนะว่ากูรักมึงหรือเลิกนิสัยชอบของฟรี ที่กูให้มึงก็เพราะว่ากูกลัวว่าไอช็อกโกแล็ตนี้จะมียาพิษน่ะสิฮ่าฮ่าฮ่า”ผมหัวเราะเสียงดังจนก้องไปทั่วโถงทางเดินแต่ก็ทำเอาไอริวหุบปากแล้วรีบคายช็อกโกแล็ตในปากทิ้งอย่างทันทีจนมันสำลัก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ่ยๆกูล้อเล่น..เอ่าน้ำๆดื่มสะมึง”ผมยังหัวเราะมันไม่หยุดพรางยื่นขวดน้ำให้ไอริวที่ไอหน้าดำหน้าแดงอยู่ที่ระเบียงโถงทางเดิน ผมผละใบหน้าจากไอริวอยู่ๆสายตาของผมก็มองไปที่ตึกฝั่งตรงข้ามเห็นไอเทาที่เดินออกมาจากห้องประฐมพยาบาลพร้อมๆกับคุณครูสาวสวยของไฮสคูลแห่งนี้อาจารย์จีซ่าซึ่งเธอเป็นที่หมายปองของลูกศิษย์และคณะครูผู้ชายที่หวังจะได้แอ้มเธอสักครั้งแต่ถ้าใครได้มาเห็นภาพนี้คงต้องพับความหวังเก็บลงลิ้นชักกันทั้งนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไอเหี้ยเอ้ย..ขนาดครูยังไม่เว้น!!”ผมว่าออกมาสายตาก็จ้องอยู่แบบนั้นมือที่ลูบหลังให้ไอริวอยู่ก็ถูแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ของผม ไม่รู้ว่าเป็นอะไรพอเห็นไอเทาของมันก็ขึ้นโดยปริยายจนไอริวร้องท้วงด้วยความเจ็บ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัสมึง!!จะลูบหลังหรือมึงจะฆ่ากู..ไอเหี้ย!!”ไอริวมันตะคอกผมสะเสียงดังแต่ผมก็ไม่มีกระจิตกระใจจะว่ามันหรอกแต่สายตาและสติของผมไปกับไอเทาที่เดินหายไวๆไปจากสายตาผมแล้ว หลังจากที่กลับมาจากเกลนดาลอร์ทผมกับไอเทาหรือไอชานก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยเจอหน้ากันที่บ้านก็เหมือนไม่เจอเหมือนจะต่างคนต่างอยู่กันไปแล้วถึงเรื่องราวในคืนนั้นจะตามหลอกหลอนผมอยู่ ไม่มีการลวนลามหรือการพูดจาส่อแบบนั้นอีกซึ่งมันก็ให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นแต่มันเหมือนจะคาดๆหายๆยังไงไม่รู้แต่ช่างเถอะเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วชีวิตผมจะได้สงบสุขสักที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แกร่ก!!”เสียงกงลูกโซ่ดังกระแทกกันจนเกิดเป็นเสียง ชายหนุ่มที่กำลังพ่นควันบุหรี่อยู่ด้วยท่าทางสบายๆบนดาดฟ้าต้องเหลียวไปมองกับผู้มาใหม่อย่างทันทีและก็ไม่ใช้ใครที่ไหนคนๆนั้นก็คือเพื่อนต่างแม่ที่หายหน้าไปในช่วงหลังๆ สำรวจร่างสูงของชานยอลที่ไม่มีส่วนไหนผิดปกติสักนิดนอกจาก..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นิ้วมึงไปโดนอะไรมาทำไมถึงพันพราสเตอร์ไว้แบบนั้น?”เทาตวัดสายตาไปที่นิ้วมือทั้งสิบของชานยอลที่มีพราสเตอร์ติดแผลพันไว้หมดทุกนิ้ว ชานยอลที่จะมีแต่ใบหน้ายิ้มแย้มสดใสและพูดมากช่วงนี้ดูห่อเหี่ยวและหมดแรงพร้อมกับดวงตาหมองคล่ำอย่างกับหมีแพนด้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กูมีเรื่องที่ต้องทำว่ะ เลยดูเหนื่อยๆหน่อย จะลงทุนจริงๆจังๆสักทีคราวนี้กูต้องทุ่มสุดตัว มึงก็ด้วย”มันตอบผมแล้วดึงบุหรี่ผมไปสูบอย่างถือวิสาสะ ควันสีเทาจางๆลอยไปตามอากาศหายลับตาไปจนหมดสิ้น ผมหันหลังพิงกับลูกกงแล้วเปรยตาไปมองไอชานนิดๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เรื่องอะไร?”ผมถามมันออกไปกับสิ่งที่มันเกลิ่นขึ้นชวนเอาให้ผมงง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่า..ก็เรื่องที่จะจีบจงอินจริงๆจังๆไงมึง คราวนี้กูจะเอาจริง”มันตอบผมแล้พ่นควันบุหรี่ออกมา สายตาของมันจ้องมองออกไปเบื้องหน้าไม่จดจ่อกับสิ่งใดเป็นพิเศษ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“หึ!!กูคิดว่ามึงแค่จะจีบเพื่อหลอกฟัน หวังเอาแล้วถีบหัวส่งเท่านั้น”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เหี้ย!!อย่าบอกนะว่ามึงไม่จริงจัง สัสเทานี่มึงกำลังคิดจะทำอะไรของมึงอยู่”ไอชานมันมองผมทันควันตาโตๆของมันดูตกใจจนดูยั่งกับนกฮูต

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แล้วมึงคิดว่าไง..”ผมย้อนถามมัน มองดูไอชานสูบควันพิษเข้าปากอีกรอบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กูคิดว่ามึง ก็คิดกับจงอินไม่ต่างจากกู มึงอย่าลืมสิถึงมึงกับกูจะไม่ได้เป็นลูกแม่เดียวกันแต่กูก็ดูความคิดความรู้สึกมึงออกว่ามึงคิดยังไง ปากมึงอาจจะไม่ตรงกับใจ แต่การกระทำของมันมันฟ้อง”ผมเพิ่งเห็นมันพูดมีสาระมีแง่ให้คิดก็วันนี้แหละ นอกจากเรื่องที่มันมักชวนผมไปล่อหญิงหรือทำสิ่งชั่วๆมักมีให้เห็นบ่อยๆแต่โหมดนี้ผมไม่เคยเห็นจากมันเลย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ขนาดนั้นเชียว หึ!!กูนึกว่ามึงจะสนใจแต่หม้อสาวไปวันๆ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮ่าฮ่าผิดแล้วไอเท๊า มึงประเมินกูต่ำเกินไป”มันว่าแล้วหัวเราะออกมาตามแบบฉบับของมัน ซึ่งทำเอาผมต้องหัวเราะไปกับมันด้วย เห็นมันเป็นแบบนี้ไม่คิดว่ามันจะสนใจความรู้สึกคนอื่นเป็นด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“หมู่นี้มึงหายไปบ่อยๆหลังเลิกเรียนหรือตอนเที่ยงไม่ค่อยได้ไปที่ผับหลังเลิกเรียนด้วยกันเลยมึงหายไปไหนกันแน่?”ผมถามมันในสิ่งที่ค้างคาใจผมก็ช่วงนี้มันหายหน้าไปจริงๆจนผมชักเป็นห่วงกลับบ้านทีก็สามสี่ทุ่มแทบทุกวัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กูตอบไม่ได้ รอให้กูมั่นใจกว่านี้ก่อนเถอะเดี๋ยวกูบอกมึงแน่”ไอชานมันพูดแล้วทิ้งก้นบุหรี่ลงกับพื้นซีเมนต์แล้วขยี้จนก้นบุหรี่แบนแนบติดกับพื้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ่อะ!!ทำตัวแปลกๆนะมึง เอออย่าลืมละ”ผมตอบมันไปจนในที่สุดก็อยู่ในความเงียบอีกครั้ง สายลมพัดมาปะทะหน้าอย่างแรงไรผมปริวไปตามแรงลมพัดหน้าให้ความสดชื่น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ใกล้เลิกเรียนแล้ว กูต้องรีบไปอย่ากลับดึกและอย่าหลีสาวมากนะมึง มึงอย่าลืมว่าตอนนี้มึงต้องทำอะไร”ไอชานพูดทิ้งท้ายแล้วมันก็เดินออกไปทันที ผมก็เข้าใจในสิ่งที่มันพูดแต่ผมก็ใช้วิธีของผมแต่ถึงมันจะขรุขระแต่ผมคิดว่ายังไงสักวันผมจะต้องเอาชนะใจมันในแบบของผมได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอิน ขอบใจมากนะที่อยู่ทำความสะอาดช่วย ไม่มีจงอินมันต้องไม่เสร็จแน่ๆ”รีเบอต้าเพื่อนสาวในห้องผม เธอเป็นผู้หญิงเรีบยร้อยและเรียนเก่งถึงแม้เธอจะเรียนเก่งแต่ก็มีเพื่อนในห้องเรียนบางกลุ่มแอนตี้เธอรังแกเธออยู่บ่อยๆทำให้รีเบอต้าไม่ค่อยมีเพื่อนและมักเก็บตัวเงียบ ใครๆหลายคนมักบอกว่าเธอเป็นลูกเป็ดขี้เหล่แต่สำหรับผมแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่บอบบางและจิตใจดีอย่างกับนางฟ้า ผมจะไม่ปฏิเสษเลยว่าเธอสเป็คผม..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เพื่อเป็นการขอบคุณจงอิน ฉัน..ฉันขอเลี้ยงข้าวขอบคุณจงอินได้มั๊ย?”ผมหันไปมองรีเบอต้าอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าเธอจะกล้าเอ่ยถามออกมาเธอดูขี้อายมาก ผมได้แต่มองแพรผมเป็นลอนๆสีทองอ่อนๆของเธอที่มันช่างดูสวยและสุขภาพดี เธอก้มหน้าไม่แม้ที่จะมองหน้าผมด้วยซ้ำผมอยากรู้เหมือนกันว่าที่พื้นมันมีดีอะไร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อืมจะดีหรอ?..อืม..ได้สิตกลง ว่าแต่..ที่พื้นมันมีอะไรดีกว่าหน้าหล่อๆของฉันฮ่ะบอกหน่อย?”ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆยิ้มอ่อนโยนที่ทำเอารีเบอต้ากระตุกด้วยความตกใจเซถอยหลังจนผมต้องรีบคว้าที่ข้อมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เป็นอะไรมากรึป่าวรีเบอต้า?..เออฉันขอโทษ!!”ผมรีบปล่อยมือออกจากข้อมือของเธอ เมื่อรู้ว่ามันไม่สมควร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มะ..ไม่ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกขอบใจจงอินมากนะ งั้นไปกันเถอะพอดีว่าป้าของฉันมีร้านอาหารแถวๆนี้ฉันจะได้พานายไปเลี้ยงขอบคุณไง”เธอว่าแล้วยิ้มเหนียมอายหันหลังก้าวเดินออกจากโรงเรียนไปพร้อมๆกัน ซึ่งตอนนี้ก็เลยสี่โมงเย็นไปแล้ว ถนนที่ไม่รู้ว่าวันไหนจะไม่คึกคักไปไหน ร้านรวงต่างๆเริ่มเปิดไฟนีออนป้ายร้านจนให้ความสว่างไปทั่วบริเวณหน้าร้านผู้คนที่สัญจรกลับบ้านหลังเลิกงานต่างจับจ่ายซื้อของเดินกันขวักไขว่แออัดเบียดเสียดกันจนเกือบเดินไม่ได้ ทำเอาชายหนุ่มกับหญิงสาวที่เดินคู่กันมาอย่างจงอินและรีเบอต้าต้องเบียดเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้ ร่างกายแนบชิดใบหน้าที่เสมอชิดกันทำให้ทั้งสองสบตากันอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาสีฟ้าที่มีแต่ความโศกเศร้ากำลังวูบไหวบ้างก็หลุบลงต่ำเมื่อเขาจ้องมอง แล้วก็เงยขึ้นมามองเขาใหม่และจงอินสังเกตว่าเพื่อนร่วมห้องคนนี้กำลังหน้าแดง

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ะ!!จงอิน!!”หญิงสาวร้องอุทานออกมาเมื่อโดนกระแทกอย่างแรงจากด้านข้างจนเซถลาออกไปจากจุดที่จงอินกำลังยืนอยู่โดนเบียดออกไปเรื้อยๆ ซึ่งรีเบอต้าก็ร้องเรียกจงอินอยู่แบบนั้น ร่างสาวน้อยกำลังหลงหายปะปนไปกับผู้คนจงอินเห็นศีรษะสีทองอ่อนๆของรีเบอต้าอยู่ไกลๆพยายามเรียกหาและยื่นมือออกไปเพื่อให้เธอคว้าเอาไว้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“รีเบอต้า!!!”แต่ก็เป็นไปได้ด้วยความยากลำบากเมื่อผู้คนไม่คิดที่จะลดน้อยลงเลย จงอินพยายามที่จะคว้ามือของหญิงสาวไว้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอิน!!”

 

 

 

 

 

 

 

“รีเบอต้า!!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เหลือเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อื่อ..อึ้ม!!รีเบอต้า!!/จงอิน!!”ในที่สุดจงอินก็สามารถคว้ามือของเธอไว้ได้ทั้งสองกุมมือกันแน่นๆหอบเหนื่อยอยู่ตรงทางเท้าที่ผู้คนเริ่มทยอยออกไปจนเริ่มบางตาแล้วโดยที่ทั้งคู่ยังไม่ปล่อยมือออกจากกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แฮ่กๆ..คนเยอะชะมัดไม่รู้ว่ามาจากไหน เบียดกันสะจนเกือบหายใจไม่ออก”จงอินยังหอบเหนื่อยแล้วนั่งลงที่ม้านั่งริมทางลากหญิงสาวให้มานั่งด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฉันอ่อนแอชะมัดเรื่องแค่นี้ก็ดูแลตัวเองไม่ได้ ถ้าไม่ได้จงอินฉันต้องโดนเบียดจนไปกองที่พื้นแน่ๆ”หญิงสาวยังโทษตัวเองพรางหอบไปด้วยทั้งคู่มองหน้ากันแล้วเป็นจงอินที่ยิ้มออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิ อย่างน้อยฉันก็อยู่ตรงนี้ช่วยเธอแล้วไง ฉันหิวแล้ววันนี้ใช้พลังงานไปเยอะ รีบไปที่ร้านป้าเธอเถอะ”จงอินออกปากชวนแล้วยิ้มจริงใจให้อีกทีหนึ่งทำเอาหญิงสาวใจเต้นแรงหน้าที่แดงจากการหอบเหนื่อยอยู่แล้วแดงเข้าไปอีก ชายหนุ่มจะรู้รึป่าวนะว่ายิ่งทำแบบนี้ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกดีจนบอกไม่ถูก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อื่ม..เออ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อะไรหรอ?”จงอินทำหน้างงอยู่ๆคนที่จะเดินนำไปกับหยุดเดินอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไอนี่...”รีเบอต้ายกข้อมือขึ้นมาชูมือน้อยๆที่ถูกกุมด้วยมือหนาของจงอินแล้วก้มหน้าเขิน จงอินที่เห็นแบบนั้นก็ปล่อยเลยตาม ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ยอมปล่อยออก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอาแบบนี้แหละ ฉันกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อกี้อีก”เท่านั้นก็ทำเอาทั้งสองหันหน้าหนีกันไปคนละทางหลบสายตาซึ่งกันและกันด้วยความเขิน อยู่ๆจงอินก็ร้อนที่หน้าจนเหมือนมีไฟลนทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นเลยสักนิด นี่เขาเป็นอะไร?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ่ยไอน้องคิดยังไงถึงอยากมาเรียนทำอาหาร?”ชายหนุ่มที่กำลังจะเด็ดผักใส่ตะกล้าเงยหน้าขึ้นมองไปยังชายวัยรุ่นตอนปลายที่มีรูปร่างสูงใหญ่มีเครานิดๆใต้คางจนดูเหี้ยมโหดไม่มีเค้าของพ่อครัวเอกของร้านเลยสักนิดกำลังท้าวคางมองดูเขาอยู่ทั้งๆที่เวลานี้น่าจะไปทำงานของตน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จะอยากรู้เรื่องของผมไปทำไม?”เขาเอ่ยถามพรางเด็ดผักไปด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่า!!ก็..อยากรู้อ่ะเพราะอายุเท่านี้น่าจะไปหลีหญิงหรือไม่ก็หางานอย่างอื่นทำเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปไม่ใช่มาเรียนทำอาหารแบบผู้หญิงแบบนี้”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ่าว..แล้วผู้ชายเรียนทำอาหารไม่ได้รึไงขนาดพี่ยังเรียนเลย?”ผมถามออกไปแล้วหยุดการเด็ดผักไว้เท่านั้นในขณะที่คนอื่นๆภายในครัวกำลังวุ่นวาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ก็ใช่..แต่ไม่ใช่ตอนอายุเท่านี้ นอกจากทำเซอร์ไพร์สาว!!”จากที่กำลังจะก้มหน้าเด็ดผักต่ออันเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ตาโตๆที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นมากกว่าไข่ห่านสิบเท่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า..ทายถูกใช่มั๊ยละ เฮ้อ!!ก็มีแค่นี้ละน้าเด็กสมัยนี้มันรักใครมันก็ทุ่มสะจริงจังทำโน้นนี้ให้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็เลิกกันอยู่ดี หน้าตาน้องไม่ค่อยจะเป็นพวกรักแฟนไรงี้เลย”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โห..พี่อ่ะเห็นหน้าตาแบบนี้ ผมก็มีคนที่ผมรักจริงหวังแต่งกับเขาเหมือนกันนะ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮ่าฮ่า..ใครว่ะคนที่โชคร้ายคนนั้น”ว่าแค่นั้นชายหนุ่มก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้คนที่นั่งเด็ดผักอยู่สาบส่งตามหลัง

 

 

 

 

 

 

 

 

“เออ พี่หล่อตายแหละ..สัส!!”ผมรวบผักทั้งกำมาเด็ดหัวพรวดเดียวด้วยความหงุดหงิดก่อนจะโดนเรียกตัวจากพ่อครัวใหญ่ที่กำลังผัดอาหารอยู่อีกมุมหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่า!!เอาไปเสิร์ฟให้ลูกค้าโต๊ะสิบหน่อย”เสียงพ่อครัวใหญ่ในชุดสีขาวเอ่ยขึ้นแล้วยื่นถาดอาหารที่มีอาหารน่าตาน่าทานมาให้เขาไปเสิร์ฟ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เร็วๆอย่าทำให้เสียงเรื่องละ”เสียงกำชับหนักแน่นชานยอลพอรับถาดอาหารมาได้ก็จ้องหน้าพ่อครัวอยู่แบบนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่า!!ไปสิชักช้า!!”ชานยอลต้องรีบถือถาดอาหารออกไปตามคำสั่งด้วยความมึนงงเพราะปกติหน้าทีของเขาก็อยู่แค่ในครัว เพราะเขามาทำอาหารไม่ได้มาเป็นเด็กเสิร์ฟ

เสียงผู้คนที่ต่างเข้ามาทานอาหารในร้านค้าแห่งนี้มากหน้าหลายตาจนชานยอลที่ไม่เคยออกมาเสิร์ฟต้องยืนงงมองหาโต๊ะลูกค้าเป้าหมายอยู่เป็นสามสี่นาที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ่ย!!มัวทำอะไรอยู่ว่ะ ยืนขวางทางอยู่ได้!!”ร่างของชานยอลถูกดันให้ไปอีกทางถาดอาหารที่ถืออยู่เกือบหกลงพื้น

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัสจะรีบไปไหนว่ะ แม่ง!!”ชานยอลเอ่ยออกมาด้วยความหัวเสียแล้วกราดสายตาไปทั่วเพื่อหาโต๊ะลูกค้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แม่งแล้วโต๊ะสิบมันอยู่ไหนว่ะ?..เหี้ยเอ้ยกูลืมถาม”ชานยอลอยากตบกระบาลตัวเองป่านนี้เขาต้องโดนด่าไล่หลังแล้วแน่ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไอน้องหลบไปสิเกะกะ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เพ่ง!!”คราวนี้จานที่นอนเรียงสลวยสวยงามตกลงกระทบพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆจากชายคนหนึ่งที่เดินผ่านเขาไปด้วยความเร่งรีบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ะไอ่น้องพี่ขอโทษ พี่ไม่เห็น”ฝรั่งตาน้ำข้าวที่กำลังคุยโทรศัพท์ไปด้วยว่าขึ้นอย่างขอไปทีและไม่แม้จะชายตามอง ชานยอลก้มเก็บเศษจานแตกที่พื้นด้วยความเร่งรีบแต่ก็ต้องร้องลั่นเมื่อมือที่กำลังรวบเก็บเศษจานถูกเท้าของชายคนนั้นเหยียบจนมือหนาแนบติดไปกับพื้นร้านและไม่คิดที่จะเดินกับมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ชานยอลกัดฟันกรอดเดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนที่จะมีความอดทนสูงมาฝึกทำอาหารแบบนี้ถูกกดขี่ก็เกินพอแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แม่งเอ้ย คิดหรอว่ากูจะให้มึงหนีไปง่ายๆกลับมารับผิดชอบเดี๋ยวนี้นะมึง!!”ชานยอลเดินเร็วๆไปคว้าเข้าที่บ่าของชายคนนั้นให้หันมาคุยให้รู้เรื่องกับตน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มึงจะหนีไปไหน รับผิดชอบเดี๋ยวนี้”ชานยอลว่าออกมาเสียงดังจนภายในร้านจ้องมาที่ร่างสูงของทั้งสอง

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ่าวไอ่น้องพูดแบบนี้มันก็สวยสิ น้องทำจานแตกเองมาโทษพี่ได้ไง”ชายคนนั้นว่าออกมาไม่รู้สึกรู้สากับการกระทำเลยสักนิด ชานยอลเม้มริมฝีปากแน่นโกรธจนสันกรามขึ้นนูน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เกิดอะไรขึ้นหรอครับคุณ?”เสียงที่ดังแหวกผู้คนออกมาไม่ได้ทำให้ทั้งสองผละออกจากกันเลยสักนิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มันอะไร?”ชายในชุดสูทวัยกลางคนว่าขึ้นจ้องสำรวจชานยอลและมองไปยั่งลูกค้าที่โดนชานยอลคว้าบ่าไว้อยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

“ก็อะไรสักอีกละ ก็พนักงานของคุณมาเสียมารยาทกับผม มาตู่ว่าผมทำจานพวกนี้แตกทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด”ชายคนนั้นโบ้ยอย่างหน้าด้านๆจนชานยอลหวอพูดไม่ออก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่แค่พนักงานในครัว นี่ใครให้มายุ่งย่ามอะไรหน้าร้าน!!”แทบเป็นเสียงตวาดทำเอาบริเวณนั้นเงียบทุกสายตากำลังจับจ้องดูพวกเขาอยู่อย่างสนใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทางด้านจงอินเมื่อเดินมาถึงหน้าร้านก็พบกับความผิดปกติเลยบอกให้รีเบอต้าหันเข้าไปดูในร้านด้วยความสงสัย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมคนในร้านถึงมุงกันแบบนั้น?”ทั้งสองมองหน้ากันแล้วเป็นจงอินที่ตัดสินใจผลักประตูร้านเข้าไปดู

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ผมเองครับคุณจอรน์นี่ คือ..ช่วงนี้ลูกค้าเยอะและเด็กเสิร์ฟของเราไม่พอผมเลยเรียกให้หมอนี่มาช่วยเสิร์ฟ”พ่อครัวคนนั้นเล่าออกมาตามความจริงแล้วก้มหน้าลงด้วยความกลัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ใครใช้ให้คุณทำแบบนี้ หึเห็นมั๊ยว่าไอพนักงานหลังครัวพวกนี้จะมาทำให้ร้านเราเสียหายได้ คุณก็รู้หนิ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ครับ..ผู้จัดการผมขอโทษ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ่าวๆแล้วคุณจะปล่อยพนักงานไร้มารยาทคนนี้ไว้แบบนี้หรอ?..คุณต้องจัดการให้ผมนะ”ชายคนนั้นพูดแล้วสะบัดมือของชานยอลออกจากบ่าขยับสาบเสื้อด้วยท่าทางที่เหนือกว่าชานยอล

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ผมต้องขอโทษแทนคุณด้วยนะครับเผอิญว่านี่เป็นพนักงานใหม่แต่ผมจะไม่ปล่อยไว้หรอกครับ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ่าวเหี้ยมึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง?”ชานยอลที่อดมานานเอ่ยขึ้น ถ้าเขาสัดหมัดใส่ไอผู้จัดการคนนี้ได้เขาทำไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“หุบปากฉันไม่เอาเรื่องแกที่ทำจานฉันแตกก็บุญแล้ว ต่อไปนี้ฉันไล่แกออก!!!”ชานยอลอึ้งจ้องหน้าชายสูงวัย ความอดทนขาดสะบั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัสพวกมึงคิดว่ากูอยากทำงานที่นี่นักหรอสัส เห็นๆอยู่ไอเหี้ยนี่มันทำจานแตก แต่ไม่มีใครทำอะไรมันสักคนโคตรยุติธรรมเลยว่ะ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“หุบปากของแกแล้วออกไปจากร้านฉันสะ!!”ชายคนนั้นเอ่ยไล่แล้วจ้องชานยอลด้วยความเกี้ยวโกรธ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เออ..กูไปแน่สัสแต่ก่อนไปกูขอเอาเลือดปากไอเหี้ยนี่ออกก่อนเถอะ!!”ว่าแค่นั้นชานยอลก็ไม่รีรอพุ่งตรงเข้าไปสัดกำปั้นใส่หน้าชายคนที่ก่อเรื่องคนนั้นทันที จนร่างชายคนนั้นล้มลงกับพื้นร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ยช่วยด้วย!! ช่วยผมด้วยไอบ้านี่มันชกผม..โอ๊ย!!!”ชานยอลอยากเอาโล่ให้กับผู้ชายคนนั้นแต่เสียงผู้จัดการที่ร้องเรียกให้พนักงานแคชเชียร์โทรแจ้งตำรวจมาก็ทำเอาเขาอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัส..อย่าให้กูได้พบได้เจอคนเหี้ยๆอย่างพวกมึงเลย!!!”ชานยอลพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้ววิ่งออกไปจากร้านอย่างรวดเร็วแต่เสียงที่เอ่ยเรียกไว้ก็ทำเอาชายหนุ่มชะงัก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัสชาน!!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอิน!!!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มึงมากับกู!!”ชานยอลลากจงอินออกมาจากร้านพร้อมกันโดยที่รีเบอนต้าร้องเรียกไล่หลังด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มันอะไร?มึงมาอยู่ที่นี่ได้ไง?แล้วเมื่อกี้มึง?../อย่าเพิ่งพูดอะไรได้มั๊ยไปจากที่นี่ก่อนแล้วกูจะเล่าให้มึงฟัง”ชานยอลเอ่ยขึ้นโดยที่มือยังกุมมือของจงอินไว้อยู่ ทีแรกก็ทั้งทุบทั้งดิ้นข่วนมือหนาให้ปล่อยแต่จนแล้วจนรอดชานยอลก็ลากจงอินไปด้วยกันอย่างสมบูรณ์ จนเข้ามาในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เหี้ย!!กูเหนื่อยแล้วมึงจะลากกูไปไหน..สัสกูไม่ได้ปอดใหญ่เหมือนมึงหรอกนะเว้ย!!”ผมร้องท้วงแล้วยืนหอบตัวโยนลิ้นห้อยมองไอชานที่ยังไม่แสดงอาการอะไรสักนิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โทษที มึงเป็นอะไรมากรึป่าว กู../มึงอธิบายมาเดี๋ยวนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มึงไปทำงานในร้านอาหารนั่นทำไม?”ผมจ้องหน้าคนตัวเล็กที่หายหอบบ้างแล้ว จ้องผมเขมึงน่ากลัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เออ..ไม่บอกได้มั๊ยมันเป็นความลับน่ะ..”ผมหัวเราะแห้งๆแล้วเกาท้ายไทด้วยความเขินๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แล้ว..นี่อีกมือมึงไปโดนอะไรมาฮ๊ะไอเชี่ยชาน?”ผมร้องลั่นจับมือหนาๆของมันขึ้นมาดูก็ปรากฎพลาสเตอร์ที่ติดพันรอบนิ้วทั้งหมดของมัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คือ..จะว่ายังไงดีละ มะมีดบาดมือน่ะ”ผมตอบออกไปรู้สึกดีใจที่ไอจงอินมันเป็นห่วงผมอยู่ สีหน้าของมันตอนนี้ดูจริงจังแต่สำหรับผมมันน่ารักมาก และบ่งบอกว่ามันยังสนใจแคร์ผมอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มึงกำลังจะทำอะไรกันแน่?!!”ไม่รู้ว่าผมจะตอบมันยังไงได้แต่ก้มหน้าบิดซ้ายขวาด้วยความเขิน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มึงจะปัญญาอ่อนอีกนานมั๊ย?บอกกูมาสัส”ผมไม่คิดว่าหายหน้ากันไปนานมันจะสมองกลับหรือเป็นผลพวงจากการที่มันไม่ได้ลวนลามผมเป็นอาหารหล่อเลี้ยงสมองกันแน่มาเจอมันคราวนี้มันดูเคะสาวแตกไปสะแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ก็..กูไปเรียนทำอาหารมาสัส..เพื่อมึงเพื่อมึงได้ยินมั๊ย..กูทุ่มสุดตัวเพื่อเรียนทำอาหารให้ว่าที่เมียในอนาคตกินอ่ะ!!”ผมถึงกับเอ๋อแดกนี่มันพูดว่าอะไรนะ มันไปเรียนทำงานอาหารเฮอะ!!เพื่อผม ผมอยากหัวเราะเป็นภาษามายา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มึงจะไปเรียนทำอาหารเพื่อกูทำไม นี่มึงบ้าปละ?”ผมหัวเราะหึๆมองหน้าเอ๋อๆของมันที่หลุบตาลงต่ำไม่กล้าที่จะสู้ตาผม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ก็..กูไม่รู้ว่าจะจีบมึงด้วยวิธีไหนนี่หว่า เลยคิดว่ากูจะไปเรียนทำอาหารเพื่อมาเซอร์ไพร์มึง ให้มึงประทับใจ มึงรู้มั๊ยระยะหลังๆมานี่กูเกือบลงแดงตายเพราะไม่ได้ลวนลามได้กอดได้จับตัวนิ่มๆของมึง แต่เพราะว่ากูได้สัญญากับมึงไว้แล้วว่ากูจะทำให้มึงชอบกูให้ได้โดยที่กูไม่ต้องลวนลามมึงกูก็ต้องทำตามนั้น มึงรู้แบบนี้แล้วมึงห้ามบอกใครน่ะเว้ยว่าป๋าชานยอลหน้าหม้อหล่อกระชักใจสาวมาทำอะไรหนอมแน่มแบบนี้ ”ผมจ้องเข้าไปในดวงตาคมที่มีความวูบไหว ผมก็เพิ่งเห็นไอชานยอลโหมดนี้มันดูแตกต่างจากไอชานคนเดิมมันดูน่ารัก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ที่มึงพูดมาแม่งเลี่ยนว่ะ..หึหึหึแต่มึงคิดหรอว่ากูจะตกหลุมที่มึงขุดไว้ง่ายๆกูไม่ใจอ่อนหรอกสัส ต่อให้มึงไปหัดทำอาหารเป็นชาติกูก็จะไม่ใจอ่อนให้มึง”ผมหันหลังตอนนี้หน้าผมร้อนเป็นไฟอดยิ้มกับคำพูดของไอชานไม่ได้ มันมีความสุขที่มันพยายามทำขนาดนี้เพื่อผม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กูรักมึงจริงๆนะสัส..ถ้ากูไม่รักมึงจริงกูไม่ทำขนาดนี้หรอก ที่กูทำก็ขอแค่มึงเห็นในสิ่งที่กูทำมีค่าบ้าง และยอมรับความรักและหัวใจของกูเร็วๆ”วลีสุดท้ายมันเข้ามาประชิดตัวผมกระซิบลงข้างๆหูด้วยเสียงอันเซ็กส์ซี่ทำเอาผมต้องหันหน้าควับด้วยความตกใจทำเอาจมูกของผมชนกับจมูกของไอชานยอลอย่างจัง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กู..ขอมัดจำได้มั๊ย..ทีนึ่ง!!”มันว่ายิ้มๆเจ้าเล่ห์มองลงมาที่ริมฝีปากของผมโดยที่ใบหน้าของเรายังไม่ผละออกจากกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัสปล่อยกู!!”ผมขึ้นเสียงแข็ง แต่มันก็ไม่ยอม แขนแกร่งทั้งสองข้างตวัดอ้อมมากอดรวบผมทั้งตัวให้ไปประชิดมัน นี่ผมยอมมันง่ายไปมั๊ย?ทุกคน...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทีนึ่งมึง..นะ”มันไม่พูดพร่าม ผมกำลังจะร้องท้วงมันแต่มันก็ประทับริมฝีปากของมันลงมาแล้ว

 

 

 

 

 

 

“อื่อ!!สัส..อืมม”ในที่สุดริมฝีปากนุ่มหยุ่นของผมก็ตกเป็นของไอชานเรียบร้อย ลมหายใจของผมถูกช่วงชิง ไอชานมันไม่เหมือนไอเทาก็ตรงที่ไอเทามันมักจะชวยจูบผมแบบไม่ทันตั้งตัวแต่ไอยอลมันเหนือล่ำกว่านั้น มันค่อยระเรียดริมฝีปากของผมอย่างนิ่มนวลค่อยๆใช้ริมฝีปากที่ช่ำชองของมันเผยอริมฝีปากของผมจนในที่สุดลิ้นของมันก็สามารถสอดแทรกเข้ามาเกี่ยวลิ้นของผมได้สำเร็จ กว่าจะถอนจูบออกก็เนิ่นนานท่ามกลางเสียงนกร้องภายในสวนสาธารณะที่เงียบสงบไร้ผู้คน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 TBC......

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา