I HATE U MY TWIN 3P [TAO X KAI X CHAN]

10.0

เขียนโดย ploykailu

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.58 น.

  5 chapter
  2 วิจารณ์
  37.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 18.24 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) I HATE U MY TWIN - Three

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

I HATE U MY TWIN

CHAN X KAI X TAO

Three

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ่าว จงอินลูกไปไหนมาน่ะฮ่ะแม่เป็นห่วงแทบแย่ ออกไปไหนมาฮื่ม?”ผมหยุดอยู่ตรงหน้าประตู ภายในห้องรับแขกของบ้านมีแม่กับพ่อใหม่ของผมกำลังนั่งโอบกันหน้าเตาผิงไฟแต่ก็ต้องผละออกมาเมื่อผมวิ่งเถลิดถล่าเข้าไป ผมเดินเข้าไปหาแม่นั่งลงที่ว่างข้างๆที่แม่นั่งอยู่ โดยที่พ่อใหม่ของผมขอตัวลุกออกไปปล่อยให้ผมอยู่กับแม่เพียงสองคน

 

 

 

 

 

 

 

“แม่ครับ!!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮื่ม!เป็นอะไรหรือป่าวถึงได้มากอดแม่เป็นเด็กๆไปได้”แม่ดึงผมออกมาจ้องหน้า ผมที่ยังมีแววของความตื่นตระหนกอยู่ ท่านไม่เข้าใจกับการกระทำของผมที่อยู่ๆก็เข้ามากอดท่านอย่างไม่มีสาเหตุ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ผม..ผมหนาวฮ่ะผมอยากให้แม่กอด เราไม่ได้กอดกันแบบนี้นานแล้วนะฮ่ะ”สิ่งที่ลูกชายสื่อนางเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร บางทีลูกชายอาจจะรู้สึกไม่สบายใจและอีกนัยน์หนึ่งลูกชายคนนี้ของนางกำลังอึดอัด หลังจากที่หย่าร้างกับสามีเก่าได้กว่าสี่ปีเจมี่หรือคิมเจมีก็ตัดสินใจหอบลูกชายวัยสิบหกมาอาศัยอยู่ที่ไอร์แลนด์และได้พบกับอีริคที่เป็นคนเกาหลีมาทำงานอยู่ที่นี่เช่นกันเพราะความที่เป็นคนเอเชียเหมือนกันทำให้ทั้งสองสนิทกันจนในที่สุดตัดสินใจคบหาดูใจกันนานถึงสามปีทั้งที่เจมี่กูรู้อยู่แล้วว่าอีริคมีลูกชายอยู่แล้วกว่าสองคนและได้ตกลงแต่งงานกันในหนึ่งปีให้หลัง

 

 

 

 

 

 

 

บางทีลูกชายของนางอาจจะต้องการความรักความอบอุ่นที่หลังๆมานี้นางปล่อยปละละเลยให้ความสนใจสามีใหม่มากว่า แต่ถ้าเทียบความรักความหวังดีที่มีให้กับลูกชายนางยังให้ลูกชายได้มากกว่าหลายร้อยพันเท่านัก

 

 

 

 

 

 

 

“กอดแม่แล้วมีอะไรจะสารภาพกับแม่รึป่าว?”นางถามลูกชายอีกครั้งผละใบหน้ามามองใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาของลูกชายวัยสิบแปดคนนี้ ที่มีเคร้าโครงใบหน้าของสามีเก่าของนางอยู่ด้วยความรักใคร่กอดลูกชายตัวผอมบางจนร่างกายแนบชิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แม่ฮ่ะ..ถ้าคนไม่ดีชอบทำร้ายจิตใจของแม่มารักแม่และมักทำให้แม่เสียใจอยู่เรื้อย แม่จะรักเขาคนนั้นมั๊ยฮ่ะ?ถ้าเขาทั้งตื้อแม่ทำสารพัดว”

 

 

 

 

 

 

 

“อืม..จะว่าไงดีละลูก ถ้าเขาไม่ดีจริงๆแม่คงต้องไล่เขาออกไปให้ห่างจากตัวแม่ แต่ถ้าเขายังไม่เลิกและยังตื้อเราอยู่แบบนั้น แม่คิดว่าสักวันแม่คงต้องแพ้ใจตัวเอง เพราะบางทีคนที่ไม่ดี แต่ที่เขาทำไปอาจจะมีเหตุผล อยากให้เราสนใจ บางทีความจริงแล้วเขาอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ถ้าเราลองเปิดใจรับเขาสักครั้ง..ว่าแต่ลูกเถอะนึกยังไงถึงถามแม่แบบนั้นฮึ่ม?..หรือว่าลูกแม่กำลังมีคนตามจีบ”ผมรีบมองหน้าแม่ทันทีใบหน้าที่ยังสวยใสอยู่นั้นมองผมด้วยความจับผิดแต่ก็ยังยิ้มหวานอ่อนโยนไม่ให้รู้สึกถึงความกดดัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่อ..ผม..ไม่มีฮ่ะ!!ไม่มีผมแค่อยากถามแม่เฉย!!”ผมรีบตอบรัวเร็วจนแม่อดยิ้มกับท่าทางของผมไม่ได้ ก่อนที่แม่จะรวบเอวผมเข้าไปกอดอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอิน..ลูกจะรักใครชอบใครแม่ไม่ว่า เพราะมันเป็นสิทธิ์ของลูก แต่คนๆนั้นลูกต้องหมั่นใจและแน่ใจว่าคือคนที่ลูกรักเขามากที่สุดเพราะคนเราไม่อยากเสียใจกับการกระทำของตัวเองหรอกลูกคงเห็นตัวอย่างมาแล้ว”ผมพยักหน้ารับแล้วแม่ของผมก็ก้มลงมาจูบที่หน้าผากมนของผมเบาๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แม่รักลูกนะจงอินลูกคือดวงใจของแม่ไม่มีสิ่งไหนจะมาเทียบเท่า”

 

 

 

 

 

 

 

“ผมก็รักแม่ครับ!!”ผมกอดแม่ให้แน่นที่สุด หลังจากที่ผมลืมตาดูโลกขึ้นมาผมก็เจอหน้าแม่อันเป็นที่รักคนแรก แม่ที่เลี้ยงดูผมมาด้วยความรักแต่ผมก็รู้สึกเคืองน้อยๆที่ท่านจะมีพ่อใหม่ให้กับผมแต่อะไรที่ทำให้แม่มีความสุขผมก็ยอม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เทาลูก มาจากไหนหรอจ๊ะ ตอนที่อยู่ที่กองไฟแม่ก็ไม่เห็นเรา?”ผมผละอ้อมกอดออกมา ใช้สายตามองไปยังไอเทาที่มันเข้าบ้านตามหลังผมนิดๆ

 

 

 

 

 

 

 

“ผมไปเดินเล่นมาฮ่ะคุณแม่”เฮอะดูมันทำเสียงได้เคะมากตอแหลเอ้ย ผมถลึงตาใส่มันโดยที่แม่ไม่เห็นโดยที่มันยังส่งยิ้มพิมพ์ใจมาให้แม่ผมอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นหรอจ๊ะ ดึกแล้วขึ้นนอนเถอะจ๊ะพรุ่งนี้อย่าลืมเรามีกิจกรรมกันแต่เช้านะจ๊ะต้องนอนพักเอาแรง”

 

 

 

 

“ครับผมเข้าใจแล้ว!!”มันยังยิ้มไม่หุบ ผมมองดูแล้วแอบทำน่าสะอิสะเอียนใส่มัน ไม่รู้ว่าผมจะกระชากหน้ากากมันได้ยังไงให้ทุกคนรู้ว่ามันน่ะโคตรจะร้ายกาจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ดึกแล้วพาน้องขึ้นนอนด้วยนะจ๊ะ แม่ไปก่อนละ”แม่ผมยิ้มหวานแล้วตบไหร่ผมเบาๆออกเดินไปเมื่อวางระเบิดให้ผมเสร็จ

 

 

 

 

 

 

 

“แม่!!”ผมอุทานเบาๆมองหลังที่หายไวๆไปข้างบนของแม่ด้วยความอยากจะบ้าตาย แล้วหันมามองไอแพนด้ายักษ์ที่ยืนกอดอกเข้าสูโหมดตัวตนของมันจริงๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แค่นี้ถึงกับให้แม่โอ๋ กลัวกูขนาดนั้นรึไง?”มันยิ้มเยาะเย้ย ผมกัดฟันกรอกจ้องมัน ถ้าตาผมมีรังสีการทำลายล้างไอเทาตรงหน้านี่แหลกเป็นจุนไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

“กูไม่ได้กลัวมึง กูง่วงขอตัว!!”ผมเดินกระแทกเท้าขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วจะอยู่ทำไมละเปอร์เซ็นที่ผมจะไม่เสี่ยงถูกมันจับกัดยิ่งมีน้อยๆอยู่ไหนจะที่สร้างเรื่องไว้เมื่อกี้อีกห่างมันไว้ดีที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอิ๊นนนนนนน!!!!”ผมเบิกตากว้างรีบบิดลูกบิดห้องนอนให้เร็วที่สุดก้าวเท้าเข้าห้องงับบานประตูลงกลอนห้อง ก็ต้องสะดุ้งถอยหลังจากแรงปะทะจากภายนอกเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอเอ๋อจอมกวนประสาทไอเชี่ยชานยอล

 

 

 

 

 

 

“มึงเข้ามาในห้องกูทำไมออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!”ผมออกปากไล่ไอชนยอลที่มันเข้ามากอบกุมมือผมแล้วจับผมพลิกซ้ายขวาสีหน้าของมันดูวิตกกังวลจนเกินเหตุ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่เป็นห่วงแทบแย่ หายไปดื้นๆแบบนี้พี่เป็นห่วงนะอย่าทำแบบนี้อีกรู้มั๊ย”

 

 

 

 

 

 

“อ่ะ..อื่อ..ไอชานยอลกูหายใจไม่ออก..ตุบๆ!!”ผมทุบหลังมันรัวๆก็มันรวบร่างของผมเข้ามากอด กอดแน่นจนผมจุกไปหมดแล้ว ไหนจะร่างกายของมันไม่รู้ว่ามันรู้จักหนาวบ้างมั๊ย แค่ท่อนบนผมก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆแล้วมันจะอยากโชว์หุ่นไปถึงไหนว่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ปล่อย!!!ถ้าไม่ปล่อยกูถีบ!!”ผมเอ่ยขู่มันมันก็รีบปล่อยผมทันที ทันทีที่เป็นอิสระผมก็กอบเกยลมหายใจเข้าปอด หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่งตัวเหี้ยไรของมึงเนี่ย หนาวจะตายชัก”ผมอดว่ามันไม่ได้ก็มันอยู่ในชุดวันเกิดครึ่งท่อน ไอนี่ดีหน่อยไม่เหมือนไอเทาอะไรๆมันก็จะเอาผมอย่างเดียว เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่พูดดีๆกับมันสักครั้งจะพูดดีๆหน่อยมันก็จะชวยกอดชวยจูบผมอยู่เรื้อย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ก็พี่กำลัง จะอาบน้ำน่ะ น้องจงอินอาบด้วยกันรึป่าว เดี๋ยวพี่ถูหลังให้”

 

 

 

 

 

 

 

 

“ถูให้พ่อมึงสิ ออกไปได้แล้วกูจะนอน”ผมเอ่ยปากไล่ด้วยความรำคาญเต็มทีทั้งหงุดหงิดทั้งอยู่ในอารมณ์ที่ใครก็ยากจะเข้าใจ กำลังจะดุนหลังมันออกไปแต่ไอชานยอลก็หันมากุมมือผมอีกทั้งน้ำเสียงจริงจังนั่นของมันทำให้ผมต้องหยุดนิ่งมองใบหน้าคมหล่อขี้เล่นซุกซนที่สาวใดเห็นรอยยิ้มขี้อ้อนของมันต้องตกหลุมรักมันทั้งนั้นเสียอยู่อย่างมันหื่น!! หื่นแบบเนียนๆอย่าคิดนะว่าผมจะไม่รู้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่พี่มีเรื่องจะอธิบายให้จงอินฟัง พี่รักจงอินคนเดียวนะที่พี่เหลวไหลไปบ้างนอกกายบ้างแต่พี่ก็ไม่นอกใจจงอินนะ ทั้งช่วยตัวเองอึ๊บสาวพี่ก็จะคิดถึงหน้าจงอินตลอด เพราะฉะนั้นพี่อยากให้จงอินเข้าใจไว้จะได้ไม่เข้าใจผิดพี่”มันยังทำหน้าตาบ๋องแบ๋วจนผมส่ายหัวด้วยความเออ..พูดไม่ออก รู้แค่ว่าผมกำลังมาคุ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัส..อยากทำอะไรก็ทำเลยเว้ย!!กูไม่เอากับพวกมึงด้วยแล้ว ออกไปปปปปปปปปปปปป!!!!! ”

 

 

 

 

 

 

 

“ผลั่ก”

 

 

 

 

 

 

 

 

“อั่ก!!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอิ๊นนนนนนถีบพี่ทำไมพี่เจ็บนะ....”ผมกุมสมองด้วยความปวดหัวยืนพิงกรอบประตูโดยที่มีเสียงโหยหวนของไอชานยอลอยู่เบื้องหลังประตู นี่ผมต้องทนอยู่กับไอพวกนี้ไปนานถึงไหนแต่ละคนจะให้ผมไว้วางใจอยู่ใกล้ไม่ได้เลยสักคน ผมไปทำอะไรให้พวกมันถึงได้คิดกับผมแบบนี้

 

 

 

 

 

 

 

โอ๊ยยยยยผมอยาก จะ บ้า ตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอาละทุกคนเตรียมของพร้อมหมดทุกคนแล้วใช้มั๊ย?เพราะหลังจากนี้เราจะต้องเดินป่าตลอดทั้งวัน ใครที่มีโรคประจำตัวหรือของสำคัญอะไรก็เตรียมให้พร้อมจะได้ไม่ลำบากทีหลัง กว่าจะกลับก็คงพรุ่งนี้”เสียงพ่อใหม่ของผมกำลังประชาสัมพันธ์ ขณะที่เราจะออกเดินป่ากัน ทุกคนกำลังตรวจเช็คสัมภาระต่างๆอยู่ที่หน้าบ้านพักตากอากาศในยามเช้าตรู่ซึ่งอากาศยังหนาวและมีหมอกบ้างเล็กน้อยแต่ก็ทำเอาผมที่ไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่เพราะเมื่อคืนก็ตากน้ำค้างจนรู้สึกว่าจะไม่สบายนิดๆสังเกตได้จากน้ำมูกที่ไหลซึมออกมาอยู่เรื้อยๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ชานคะช่วยไอด้าถือกระเป๋าหน่อยนะคะ ไอด้าถือไม่ไหวหนั๊กหนัก นะคะ”น้ำเสียงอ้อนๆที่ใครได้ยินก็ต่างต้องวิ่งเข้าไปช่วยทันทีอย่างไม่รีรอของสาวเจ้าที่เริงรักกับพี่เขาไปเมื่อคืน เจ้าหล่อนอยู่ในชุดแจ๊คเก็คแขนกุดหนังสีดำสวมทับเสื้อแขนเดี่ยวกับกางเกงเอวต่ำขาสั้นจู๊ดลายเสือดาวยั่วสวาศ ยั่วสวาศตายละฮึย!!จนเห็นช่วงขาขาวเรียวยาว แต่สำหรับจงอินแล้วนี่มาเดินป่านะไม่ได้มายั่วผู้ชายไหนจะกระเป๋าพวกนั้นอีกที่เจ้าหล่อนขนไปยังกะย้ายบ้าน แต่ถ้าจะพูดแบบนั้นใส่สาวเจ้าไปมีหวังเขาต้องโดนจิกตาอาฆาตหนักกว่านั้นอาจจะโดนดักตบโทษฐานปากหมาใส่เจ้าหล่อนอย่างไม่รู้ตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮัดเช่ย!!!”ผมรีบปิดปากทันทีพร้อมๆกับสูดน้ำมูกไปทีนึงก็ทำเอาทุกสายตาหันมาจ้องผมเป็นตาเดียว โดยเฉพาะไอเทาที่กำลังจะหยิบเป้สะพายใส่บ่า

 

 

 

 

 

 

 

 

“ว๊าย!!ชานคะทำแบบนี้กับไอด้าได้ไงคะไอด้าเจ็บน๊ะ!!!”ชานยอลทิ้งกระเป๋าใบเท่าบ้านลงกับพื้นโดยที่ไม่มองเลยว่าจะไปโดนเท้าใครเข้า วิ่งปรี่เข้ามาดูน้องชายสุดที่รักด้วยความเป็นห่วงสุดหัวใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่!!น้องจงอินเป็นหวัดหรอ แล้วแบบนี้จะเดินทางได้ไง กินยารึยัง?ตัวร้อนรึป่าว?ไหวมั๊ย?”ผมแทบอยากจะให้มันหยุดพูดก็แค่จามผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยถามยังกับผมกำลังจะตาย

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ย กูเอ้ยผมไหว ผมโอเคฮ่ะ”ผมตอบละล่ำละลักไปทำหน้าเจือนๆแต่ไอชานยอลก็ยังไม่เลิกมันเอามือมาแตะหน้าผากผมจับโน้นจับนี่จนมารู้ทีหลังว่ามันลวนลามผมก็ตอนที่มันร้องบอกทุกคนแหละครับมันจับแก้มก้นฮ่ะ..

 

 

 

 

 

 

 

O.O!!มันจับแก้มก้นผมไอ่....ผมต้องกลืนคำนั้นลงคอจะพูดออกมาได้ไงละถ้าขืนพูดมีหวังหวอทั้งกลุ่มแน่ และคนที่อายไม่ใช่ไอเหี้ยนั่นหรอกแต่เป็นผม..ผมเองที่อายความเสียเปรียบได้เปรียบโคตรเหลื่อมล่ำกันเลย

 

 

 

 

 

 

“แม่เจมี่ฮ่ะ น้องจงอินไม่สบายมากให้พักอยู่บ้านดีกว่านะครับเดี๋ยวผมดูแล เพื่อเป็นการไม่ให้ทุกคนลำบากเพราะน้องจงอินป่วย”มันทำหน้าตาได้จริงจังจนผมเกือบจะเคริ้มแต่เฮ่ยไม่นะกูไม่อยู่กับมึงหรอกไอเอ๋อไอหื่นหลบใน

 

 

 

 

 

 

 

 

“แม่..ผมไม่เป็นไรผมเดินป่าไหว มาเที่ยวทั้งทีจะให้ผมมานอนอุดอู้ที่บ้าน ผมไม่เอาหรอกผมจะไปด้วย!!”ผมยืนยันเสียงแข็งสะบัดร่างกายจากการเกาะกุมจากไอชานเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าผมสามารถเดินป่าได้จนถึงจุดหมายถึงจะรู้สึกเวียนหัวก็เถอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไหวจริงๆหรอจ๊ะจงอิน ถ้าไม่สบายมากๆแม่ว่าลูกน่าจะพักผ่อนที่บ้านอย่างที่พี่เขาบอก/ไม่เอา!!”เกือบเป็นเสียงตะคอกทำเอาทุกคนที่มองผมอยู่แล้วมองผมเข้าไปอีก ไม่เด็ดขาดให้ผมอยู่ก็เท่ากับฝากเนื้อกวางไว้กับสิงโต

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่ ตัวลูกลุมๆมากนะแม่กลัวว่า.../แม่ครับแต่ผมอยากไปให้ผมไปเถอะนะครับ”ผมอ้อนวอนหัวแข็งเต็มที่อ้อนแม่จนแม่ ไม่รู้ว่าแม่จะใจอ่อนให้ผมไปรึป่าวก็ไม่รู้ผมลงทุนทั้งกอดทั้งโอบแม่เลยละไม่อ่อนก็ให่รู้ไป

 

 

 

 

 

 

 

 

“นะๆนะครับแม่นะครับ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอาไงดีคะคุณ ฉัน...”แม่ผมหันไปปรึษาพ่อใหม่ผมทำตาปริบๆส่งไปให้ เห็นใจผมเถอะผมไมอยากอยู่กับลูกพ่อ..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ผมว่าให้ลูกไปดีกว่านะคุณมาเที่ยวทั้งทีจะให้ลูกเราอยู่บ้านแบบนี้ได้ไง”ผมพยักหน้างึกๆผมรักพ่อใหม่ก็วันนี้แหละ ผมยิ้มแปร้นใส่แม่หลังจากที่แม่ละใบหน้ามาจากพ่อใหม่ของผม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ่อ..ก็ได้จ๊ะแต่แม่คงปล่อยให้ลูกเดินป่าคนเดียวไม่ได้หรอก ”แม่เว้นช่วงไปแล้วมองไปทางไอเทาไอชานยอลซึ่งมันทำเอาผมเสียวสันหลังยังไงไม่รู้สิครับเหมือนมีลางร้ายพวยพุ่งออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เทาชานยอลระหว่างเดินป่าแม่ของฝากให้เราช่วยดูแลน้องด้วยนะจ๊ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เปรี้ยง!!!!!!!!!

ผมถึงกับเอ๋อแดกมองหน้าแม่แบบทันใด ไม่นะแม่ทำไมต้องเป็นพวกมันผมดูแลตัวเองได้แม่ทำแบบนี้ถึงกับฆ่าผมทางอ้อมเลยนะนั่นน่ะ โอ๊ย!!!!คราวนี้ผมหมดตูดแน่ดูสายตาพวกมันสิมองผมอย่างกับจะเขมือบผมทั้งตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ครับ!!/ครับ!!”ทั้งสองเสียงทุ้มตอบรับพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียงไม่ได้นัดหมายสีหน้านิ่งๆของพวกมันแบบนั้นผมรู้ดีว่าพวกมันกำลังลิ่งโลดดีใจแต่ผมกับเหมือนต้นไม้เฉาตายเหมือนถูกหักขายังไงยังงั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นไอด้าเดินไปดูแลจงอินเป็นเพื่อนด้วยอีกคนนะคะ”ยัยหน้าปลาลูกคอกเสนอหน้ามาแล้วเข้ามาค้องแขนไอเทาเหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ที่ผมเห็นแล้วอดอยากแขะไม่ได้แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้มันเสียภาพพจน์ ได้แต่เดินกระแทกไหร่เอาเทาเดินปึงปังนำหน้าออกไปในขณะที่ขบวนเดินป่าของพวกเราเริ่มออกเดินทางแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอินนนรอพวกพี่ด้วยสิเดินเร็วจัง”เสียงไอชานยอลมันร้องตะโกนขึ้นขณะที่ผมกำลังเดินมาระธอน?นำหน้าไอเทาไอชานยอลหลายสิบก้าว มันวิ่งหลุนๆมาเดินเทียบเท่ากับผมส่วนไอเทาแบกเป้สัมภาระต่างๆทั้งของผมไอชานและของไอด้าโดยมีแม่สาวเสือดาวเดินค้องแขนคุยกันกระหนุงกระหนิงกันอยู่รั่งท้าย ส่วนสาเหตุที่ไอเทาเป็นคนแบกกระเป้ทั้งหมดเพราะไอชานบอกว่าไอเทามันถึกปล่อยให้มันถือไปส่วนผมก็สบายเดินชมนกชมไม้ถ่ายรูปธรรมชาติจากกล้องตัวใหม่ที่เพิ่งอ้อนแม่ได้มาสดๆร้อนๆเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไปไกลๆกูได้มั๊ยกูจะถ่ายรูป”ผมออกปากไล่โดยที่ตาก็อยู่ที่เลนส์กล้องนิ้วกดชัตเตอร์รัวถ่ายดอกไม้ สัตว์แปลกตาต่างๆที่ไม่ได้เห็นง่ายๆในเมืองแต่ก็ยังมีตัวมารผจญมาขัดเสนอหน้าทุกที่ที่เลนส์กล้องผมกราดไป แอทใส่กล้องเหมือนมันอยากให้ผมถ่ายมัน จนมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัส!!จะมัวหวานอะไรกันอยู่ เดี๋ยวก็เดินไม่ทันพวกข้างหน้าหรอกกูเหนื่อยพวกมึงก็เสือกให้กูแบกอยู่คนเดียวโคตรเห็นแก่ตัวเลยว่ะสัสเอ้ย!!”เสียงไอเทา ผมลืมบอกไปหลังจากที่ผมทำใจเดินทางร่วมกับพวกไอเทาไอชานไอด้านเอ้ยไอด้าสี่คนเดินท้ายสุดในกลุ่มจนตอนนี้ก็ไม่เห็นพวกข้างหน้าแล้วแต่ไม่เป็นอะไรหรอกครับเพราะพวกเราพอรู้จุดที่จะไปกันอยู่เลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ แต่เสียงที่โอดครวญเมื่อกี้ทำเอาผมต้องละกล้องออกจากใบหน้า

 

 

 

 

 

 

“ตัวมึงก็ออกจะใหญ่แต่ทำไมแรงน้อยจังว่ะ ไม่ได้เรื่อง!!”ผมกระแหนไปทีหนึ่งแล้วยกกล้องเตรียมที่จะถ่ายอีกแต่ก็ต้องชะงักกับวลีต่อไปของไอเทาที่ทำเอาผมต้องหันควบไปมองหน้าหื่นๆของมันทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มึงพิสูจน์แล้วหรอว่าแรงกูเยอะหรือแรงกูน้อย มึงรู้ได้ไง?”มันยิ้มแบบที่คิดว่าหล่อแต่ทำเอาผมสยองต้องรีบห้ามทับก่อนที่มันจะหื่นใส่ผมอีกจนกู่ไม่กลับ

 

 

 

 

 

 

 

“พอๆกูคนป่วยนะเว้ยหลีกไปกูจะเดินทางต่อแล้ว”ผมก้มหน้าเดินจะเขินก็ไม่ใช่แล้วผมเป็นอะไรแต่ก็เอาเถอะผมไม่ได้เขินก็แล้วกันแค่รู้สึกร้อนที่หน้าอย่างรุนแรง เดินจ่ำเท้าออกไปทันทีโดยทิ้งไอสองเกลอไว้เบื้องหลังกับยัยปลาลูกคอกที่ทำหน้าสงสัยระหว่างประโยคสนทนาของผมกับไอเทาอยู่มั๊งแต่ช่างเถอะผมไม่สนใจหรอก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สัสเทามึง มึงเห็นเมื่อกี้มั๊ยแม่งกูเพิ่งเคยเห็นน้องจงอินเขินก็วันนี้แหละ น่ารักว่ะถ้าน้องเขายืนเขินแบบเมื่อกี้อีกห้าวิกูจับทำเมียแล้ว”ชานยอลกระซิบกระซาบที่ใบหูของพี่น้องต่างแม่ขณะที่มองแผ่นหลังของน้องชายไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“หึ..เย็นไว้ไอชานรอให้ถึงคืนนี้ก่อนเดี๋ยวกูหาอะไรให้มึงเล่นสนุกๆโดยที่มึงต้องชอบจนลืมไม่หลง”เทายิ้มร้ายมองตามร่างบางที่ยังปั้นหน้ายิ้มให้กับการถ่ายรูปจนไม่สังเกตถึงลางอันตรายที่จะคืบคลานเข้ามาหาตัวสักนิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่เทากับชานคุยอะไรกันหรอคะ?”ไอด้าแทรกขึ้นทำเอาสองหนุ่มขยับออกห่างจากกันทันที ก่อนที่จะปั้นหน้าหรอหราแยกย้ายกันออกไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ป่าวหนิไม่มีอะไร เดินทางต่อเถอะ”เทาพูดแค่นั้นก่อนจะยิ้มหล่อแบบกว้างๆไปให้แล้วโอบไหร่สาวเจ้าด้วยความอามรณ์ดี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ว๊าวววว   ̴ สวยจัง..”จงอินยืนท้าลมท้าแสงแดดยามพระอาทิตย์ตกดินที่หน้าผาสูงชัน เบื้องล่างเป็นทะเลสาบที่ตั้งบ้านพักตากอากาศไกลออกไปจนเห็นอยู่ลิบๆตา ภาพหมู่นกที่กำลังบินกลับเข้ารัง สายลมหนาวๆที่พัดมาต้องหน้าเอื่อยๆให้ความหนาวเย็นแก่ใบหน้าแต่ก็รู้สึกสดชื่นหายเหนื่อยจากการเดินเขามาหลายกิโล ภูเขาในเดือนกุมภาช่างดูแห้งแล้งและมีเกล็ดหิมะอยู่บ้างแต่ก็สวยไม่ต่างจากหน้าฝนที่ภูเขาจะกลายเป็นสีเขียวขจีทั้งทิวเขา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อย่างนี้ต้องถ่ายไว้สักหน่อยแล้วเอาไว้ไปอ้างเพื่อนที่โรงเรียน”ชายหนุ่มหยิบกล้องที่ห้อยอยู่ที่คอขึ้นมากดชัตเตอร์ ตามองที่เลนส์กล้องเมื่อได้มุมที่ต้องการ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอิน!!!!!/เฮ่ย!!!”

 

 

 

 

 

 

“จงอิน..”ร่างบางเซถลาจะล้มแต่ก็ถูกรวบไว้ด้วยมือหนาเข้าที่เอวบาง ความตกใจจากที่โดนทำลายสมาธิทำให้ร่างบางหลับตาแน่นมือที่ยกขึ้นเกาะที่คอเสื้อคนที่ช่วยไว้แน่น จนลืมไปว่าคนตรงหน้าเป็นใคร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไอ่..เทา!!!ปล่อยกูไอเหี้ย!!”ผมร้องลั่นหลังจากที่ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของใครในลักษณะไหน หัวใจเต้นแรงเลือดภายในกายสูบฉีดหายใจหอบถี่ก้มหน้าไม่แม้ที่จะสู้หน้าไอเทาสักนิดทั้งๆที่ผมควรจะด่ามันที่มันแต๊ะอึ่งผม

 

 

 

 

 

 

 

 

“มึง..มะมึงมากะ..กอดกูทำไม?”ผมละล้าละลักถามมันทั้งๆที่สายตายังจ้องที่พื้นหินตรงหน้าผา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทำไมกูต้องกอดมึง เมื่อกี้มึงจะล้มกูก็เข้ามาช่วยหรือมึงคิดว่ากูจะเข้ามาลวนลามมึง กูไม่ได้หื่นขนาดนั้นหรอกนะไอจงอินกูช่วยมึงนะเว้ย”ไอเทามันพูดแบบที่ทำเอาผมเกือบซาบซึ้งแต่ขอโทษมันยังพูดไม่จบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ ถ้ากูพูดแบบนี้มึงคงไม่เชื่อฮ่าฮ่า..งั้นเอาใหม่เออกูก็แค่อยากกอดมึง ไม่ๆมากกว่านั้นถ้ามึงยอม คืนนี้ให้กูซั่มนี่แหละที่กูต้องการจากตัวมึงไอจงอิน!!”ผมมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากที่ซาบซึ้งในน้ำใจมันที่เข้ามาช่วยหายแวบไปหมดสิ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ให้ปลาดุกมีเกล็ดก่อนเถอะสัสแล้วกูจะอ้าขาให้มึงเอา”

 

 

 

 

 

 

 

“เชี่ย!!!!”

ผมหัวเราะหึๆในลำคอมองคนตัวเล็ก?น่ารักยกนิ้วกลางในด้วยความไม่โกรธผมกำลังมีความสุข ได้กวนประสาทมันทำให้มันหน้างอแล้วรู้สึกโลกบิดๆเบี้ยวๆของผมนี้จะเป็นสีบานเย็นมากขึ้นจากการบ่มเพาะของผม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้เรามาถึงจึงจุดหมายแล้วคือหน้าผาแห่งนี้แหละครับที่เราจะมามันสวยมากจนผมอยากไปนั่งมองวิวตรงหน้าผานานๆแต่ก็ทำไม่ได้ก็ไอชานไอเทากับยัยไอด้านั่นกำลังถ่ายเซลก้ากันอยู่ ส่วนผมก็มานั่นก่อยช่วยแม่เตรียมอาหารสำหรับคืนนี้หลังจากที่สร้างเต็นท์เสร็จจนเวลาผ่านพ้นไปในช่วงหัวค่ำพวกเราทั้งหมดมารวมตัวกันที่กองไฟหลังจากที่แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวที่น้ำตกใกล้ๆหน้าผาประมาณสามสี่ร้อยเมตร แต่สิ่งที่ทำเอาผมปุเลี่ยนและกลืนเนื้อปลาเผาไม่ลงก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าสองตัวนั่นที่กำลังอ้าปากรอรับเนื้อปลาย่างจากแม่สาวข้างกายที่ไปไหนๆก็ขาดกันไม่ได้สักทีเห็นแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

“เครือสายตาเว้ย..ฮึ่ย!!!”ผมสบถออกมาโดยที่ไม่คิดจะให้ใครสนใจ พวกมันเป็นใครถึงจะให้ผมมาจะเป็นจะตายไปกับพวกมันด้วยฝันไปเถอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

“เจมี่ดูสิลูกฉันยัยไอด้าดูจะเข้ากับพวกลูกชายเธอได้ดีนะ ดูสิสนิทกันกลมเกลียวเชียว”เพื่อนแม่เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางยิ้มแย้มทำเอาผมมองหน้าควับถ้าใครจะว่าผมไร้มารยาทก็เถอะเมื่อกี้ผมเกือบสำลักเนื้อปลา ถ้าจะบอกว่าลูกคุณแม่เข้ากับพี่ชายผมเข้ากันได้ดีเลยละชนิดที่ว่าเข้าหน้าเข้าหลังแทงไปถึงปอดแล้วมั๊งป่านนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ลูกส่วนเธอก็น่ารักนะแบบนี้ต้องมีการพัฒนาความสัมพันธ์แน่เลยดูลูกฉันจะชอบลูกเธออยู่นะโดยเฉพาะจื่อเทาเขาดูจะเป็นที่สนใจของลูกสาวเธอน่าดู”

 

 

 

 

 

 

 

 

“แอะๆแคกๆ”ไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าเสียงใครผมอดไม่ไหวจริงๆ หึอย่าว่าแต่เหมาะสมเลยครับคู่นี้ยิ่งกว่าเหมาะสมอีกได้กันผมคงขำตาย ดีเหมือนกันจะได้ออกไปจากชีวิตผม

 

 

 

 

 

 

ผีเน่ากับโลงผุฮ่าฮ่าฮ่า....

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เป็นอะไรมากรึป่าวลูก?”ผมหันควับหุบยิ้มแห่งความชั่วร้ายไว้ใต้ใบหน้าเอ๋อๆ แล้วหันไปมองหน้าแม่ที่มีสีหน้าของความเป็นห่วงผมที่ผมสำลักเอ้ยไอเมื่อกี้นี้

 

 

 

 

 

 

“ป่าวครับ..ผมโอเค”ผมยิ้มกว้างแต่แม่ก็ไม่เชื่อผมท่านเดินเข้ามามืออังที่หน้าผากพร้อมกับร้องอุทานเบาๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่น่ะหรอว่าไม่เป็นอะไรตัวลุมๆแบบนี้ถ้าแตกน้ำค้างนานๆแม่กลัวว่าลูกจะไม่สบายเข้าไปอีกไปนอนพักผ่อนที่เต็นท์เถอะลูก..นะ”ผมมุ้ยหน้าส่ายหัวดิกไม่เอานี่เพิ่งจะสองทุ่มผมยังไม่ง่วงสักหน่อยแม่จะมาบังคับผมไม่ได้นะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่เอาผมยังไม่ง่วงและผมก็สบายดี”ผมคว้าหลังมือแม่ออกมาจากหน้าผากของตัวเองทันที ดื้นดังเต็มที่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอินอย่าดื้นกับแม่นะ ลูกยิ่งสบายง่ายๆยู่ด้วยเกิดเป็นอะไรขึ้นมากลางป่าแบบนี้ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่”แม่ผมขึ้นเสียงทำเอาเพื่อนแม่ต้องเข้ามาห้ามทับก่อนจะเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา

 

 

 

 

 

 

 

“เจมี่ใจเย็นๆก่อนนะ จงอินเชื่อแม่เถอะนะไปนอนพักผ่อนนะลูกอย่าดื้นกับแม่เลยนะ”ผมมุ้นหน้าเป็นครั้งที่สองคราวนี้ไม่ต้องให้มีเสียงไล่ผมก็พร้อมที่ลุกออกไปทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอิน!!”นางเอ่ยตามลูกชายที่ลุกเดินเร็วๆออกไปด้วยความเป็นห่วง เดิมทีนางก็ไม่อยากบังคับแต่เพราะร่างกายของลูกชายที่ไวต่อสภาพอากาศง่ายเลยทำให้จงอินป่วยง่ายเลยต้องดูแลเป็นพิเศษ และนางหวังว่าการกระทำนี้ของนางจะทำให้ลูกชายเข้าใจนางกับเหตุผลที่นางทำไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮึย!!!”จงอินทิ้งตัวลงในเต็นท์ที่อยู่ห่างจากกองไฟพอสมควร นั่งกอดเข่าหน้ายุ่งโกรธทั้งหงุดหงิด ไหนจะแม่ที่ไม่เข้าใจ เขาไม่ใช่เด็กอายุสิบสามที่ต้องโอ๋ต้องดูแลแต่นั่นเขาก็เข้าใจถึงความรักความเป็นห่วงแต่อย่าห่วงเขามากได้มั๊ยบางทีตัวเขาก็เหมือนกับทำอะไรไม่เป็นต้องคอยอยู่ในโอวาทของแม่ตลอดจนดูเป็นลูกแหง

 เสียงกีตาร์เสียงร้องเพลงเสียงตบมือเสียงหัวเราะกำลังทำให้จงอินเป็นบ้า เขาต้องมานั่งคุดคู้อยู่คนเดียวทำอะไรก็ไม่ได้ อยากสกีนดังๆด้วยความอัดอั่นก็กลัวว่าคนอื่นๆจะแห่มาดูเขาด้วยความตกใจ ได้แต่นั่งกอดเข่าในความมืดปล่อยจิตใจให้ล่องลอย ดวงตาที่ไม่คิดว่าจะปรือหลับง่ายๆร่างกายที่ไม่คิดว่าหนักอึ้งขนาดต้องเอนกายหลับแต่พอมาเจอบรรยากาศที่เริ่มเย็นลงก็ทำเอาจงอินกระชับอ้อมกอดที่เข่าแน่นซุกใบหน้าลงกับเข่าปรือตาหลับไปโดยที่ไม่รู้เนื้อตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ชู่ว์!!ไอชานยอลมึงเบาๆหน่อยสิว่ะ แม่งตื่นขึ้นมาซวยแย่”ภายในเต็นท์สี่เหลี่ยมแคบๆที่ปรกคลุมไปด้วยความมืดจนไม่เห็นอะไร ได้มีผู้บุกรุกเข้ามาใหม่ถึงสองคนโดยที่คนที่นอนอยู่ไม่รู้ถึงการมาของทั้งสองคนเลยสักนิดกับนอนหลับพริ้มภายใต้ผ้าห่มเนื้อบางจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แม่ง!!ก็กูอดใจไม่ไหวนิหว่าไม่คิดที่มึงชวนกูมายิงกระต่ายจะมาที่นี่”คนที่อยู่ที่ปรายเท้าของร่างบางว่าขึ้นมองตามเรือนร่างด้วยสายตาหื่นกระหาย จะทำการถลกผ้าห่มออกแต่ก็ถูกมือหนาของพี่น้องต่างมารดาห้ามไว้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ใจเย็นสิมึง กูไม่อยากให้มันตื่นขึ้นมาแหกปาก ถ้ามีใครรู้รับรองว่ากูกับมึงไม่รอดหรอก มึงจะเอายังไงไอเชี่ยชาน”จากคนที่ดูจะใจเย็นกว่ากลายเป็นจื่อเทาสะงั้นที่ต้องห้ามทับชานยอล

 

 

 

 

 

 

 

“มึงจะให้กูเอาไง?”ชานยอลถามแล้วมองหน้าเพื่อนในความมืด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ให้กูเริ่มก่อนมึงทีหลัง”

 

 

 

 

 

 

 

“สัส!!ทำเป็นห้ามกูความจริงมึงก็อยากเอาน้องเขาเร็วๆไม่ต่างจากกูหรอกมึง ทำมาเป็นห้ามเหี้ยเอ้ย!!”ชานยอลแขวะเพื่อนบ่นงืมงำจิจ๊ะอยู่คนเดียวโดยไม่สนร่างบางที่นอนหลับอยู่ว่าจะได้ยินหรือรู้สึกตัวหรือไม่ มองดูมือหนาๆอย่างใบพัดของเพื่อนพี่น้องต่างมารดายื่นมาปลดกระดุมเสื้อของน้องชายต่างแม่ช้าๆด้วยใจลุ่นระทึก เสื้อโค๊ดแบบมีกระดุมถูกปลดออกจากรังช้าๆเผยให้เห็นเนื้อหนังขาวๆต่างจากภายนอกโดยสิ้นเชิง ผิวแถวลำคอเนียนสวยน่าสร้างรอยสีกุหลาบ เทาปลดลงมาเรื้อยๆจนเห็นเสื้อกล้ามสีขาวที่ร่างบางสวมใส่ทับในไว้เท่านั้นแล้วแวกเสื้อที่ถูกปลดกระดุมออกจนคราวนี้เห็นร่างกายด้านในได้อย่างไม่มีสิ่งปิดบัง ทำเอาชายหนุ่มกลัดมันทั้งสองมองไล่สายตาโลมเลียจนคิดว่าน่าจะทะลุเนื้อผ้าชิ้นสุดท้ายออกไปได้เอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โคตรเนียนเลยว่ะ กูเพิ่งเห็นเต็มๆตาก็วันนี้ แม่งให้กูแอบดูตอนอาบน้ำตั้งนาน เร็วๆดิไอเทามึงชักช้ากูจัดการเองนะมึง”ชานยอลเอ่ยเร่งรู้สึกจะหงุดหงิดกับอาการใจเย็นผิดปกติของจื่อเทาที่ร้อยวันพันปีเห็นเหยื่อไม่เป็นแบบนี้สักราย

 

 

 

 

 

“หึ..ใจเย็นสิมึงกูอย่าอยู่แบบนี้นานๆ ได้อารมณ์ดี”เทาเอ่ยออกมาอย่างใจเย็นขณะที่มือก็ค่อยๆถลกชายเสื้อกล้ามขึ้นทีละนิดเผยให้เห็นผิวสีน้ำผึ้งของคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่เบื้องล่างที่ยังหายใจสม่ำเสมอ ชานยอลพยักหน้ารับรู้แล้วมองตามเรือนร่างบางกลืนน้ำลายด้วยความกระหายอยาก เอื้อมมือออกไปลูบไล้ไปตามผิวเนียนลื่นมือบีบเคล้นตามส่วนเว้าส่วนโค้งจนรู้สึกได้ถึงการหายใจหอบถี่และกล้ามท้องขึ้นเป็นลูกๆจากการสัมผัสร่างกาย จื่อเทายิ้มมุมปากเด็กน้อยไม่ประสากำลังจะหลงลงไปในห้วงเหวแห่งกามโลกีที่เขาจะค่อยๆสร้างมันขึ้น

 จงอินรู้สึกได้ถึงความไม่สบายตัวอากาศภายนอกรู้สึกว่าจะลดลงต่ำแต่ทำไมอุณหภูมิภายในร่างกายกับสูงขึ้นและความรู้สึกโหวงๆที่ท้องน้อยนี้เกิดขึ้นกับเขาได้ยังไง ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาปรับสายตาที่พร่ามัวไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหนแต่เสียงที่ได้ยินแว่วๆข้างหูนี้มันคืออะไร ทันทีที่รู้สึกสงสัยกับความผิดปกติของร่างกายจงอินลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องร้องลั่นเมื่อรู้ว่าที่ร่างกายเป็นแบบนี้เพราะเกิดจากอะไร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ่ยพวกมึง!!!!”จงอินถอยล่นไปอยู่อีกมุมหนึ่งของเต็นท์มองพี่ทั้งสองด้วยความตกใจแล้วสำรวจดูร่างกายตัวเองที่เสื้อผ้าถูกปลดกระดุมออกไม่เหลือสักเม็ด ความโกรธแล่นลิ้วรีบตวัดชายเสื้อเข้าหาร่างกายทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พวกมึงทำเหี้ยอะไร แล้ว แล้วเข้ามาในนี้ได้ไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!”จงอินว่าขึ้นมองไปยังพี่ชายสองคนที่คนนึ่งยังนิ่ง ยิ่งทำให้จงอินกลัวมากขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

“กูไม่คิดว่าพวกมึงจะทำแบบนี้ไอพวกเหี้ย เลวที่สุด!!!”จงอินเอ่ยออกมาด้วยความเสียใจและผิดหวังและยิ่งเกลียดพี่ชายสองคนมากขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จงอินยอมเป็นของพวกพี่เถอะนะ พี่สัญญาว่าได้จงอินแล้วจะดูแลจงอินเป็นอย่างดี”ผมมองหน้าไอเอ๋อชานยอลเหมือนมันจะไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดยังพูดหน้าได้ตายแล้วยังขยับเข้ามาหาผมเรื้อยๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มึง!!อย่าเข้ามานะ!!พวกมึงทำแบบนี้ไม่ได้!!”ผมถอยไปชิดกับเต็นท์มากขึ้นแล้วกระชับสาบเสื้อเข้าหาตัวเองด้วยความกลัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“หึ..ไอชานกูว่าอย่ามัวพร่าทำเพลงเลยว่ะ จัดการเลยดีกว่า”ไอเทามันพูดแล้วยกยิ้มหื่นตรงมุมปาก ส่วนไอชานยอลไม่ต้องพูดถึงมันเลียริมฝีปากแล้วเตรียมปลดกระดุมเสื้อออกละเม็ด

 

 

 

 

 

 

 

“สัส!!อย่านะมึง!!อย่าเข้ามานะ!!”ผมคว้ากระบอกไฟฉายที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นเตรียมพร้อมฟาด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“หึ แค่นั้นมึงจะทำอะไรพวกกูได้ ยอมพวกกูสะเถอะรับรองว่ากูจะดูแลมึงเอาเช้าเอาเย็นไม่ให้มึงคลานลงเตียงเลยละ”

 

 

 

 

 

 

“สัส!!ไอลามก ในสมองพวกมึงคิดเป็นแต่เรื่องพวกนี้รึไง อย่า!!”ผมร้องลั่นเมื่อพวกมันกระโจนหาผม ผมก็เอี้ยวตัวหลบไปได้อย่างหวุหวิดแต่ก็มาเจอไอเทาที่นั่งดักรอท่าผมอยู่แล้วทำให้ผมไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มึงอย่าหนีพวกกูเลย ยอมพวกกูก็สิ้นเรื่อง”มันพูดผมเม้มริมฝีปากแน่น

 

 

 

 

 

 

 

“กูไม่ยอมมึงเด็ดขาดให้ตายยังไงกูก็ไม่ยอม ไอพวกเปรต กูเกลียดพวกมึ๊งงงงงงงงงงงงงงงง”ไอเทามันรวบตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดพร้อมกับไอชานที่เข้าประกลบที่ด้านหลังของผมทำให้ผมตกอยู่ในวงล้อมของพวกมันอย่างช่วยไม่ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไอเทาคราวนี้มึงได้สมใจอยากแน่”ไอเทามันพูดกับไอชาน ผมที่นอนอยู่ตายล่างดิ้นพล่านพยายามจะหาทางหนี แต่ร่างกายที่ล่ำสันของพวกมันทำให้ผมตะเกี๋ยตะกายได้ยากลำบาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พวกมึ..อื่อ..”ไอเทาจู่โจมจูบรวดเร็วจนผมที่นอนดิ้นอยู่ไม่ทันตั้งตัว เบิกตากว้างทุบอกของมันรัวๆ ส่วนไอชานก็ก้มลงมาไซร์จูบไปตามซอกคอและร่างกายของผมอย่าหื่นกระหาย เรี่ยวแรงที่ของผมหดหายไปหมดแขนไอจะดันพวกมันออกก็ตกหยวบอ่อนระทวยไปหมด หูตาอื่ออึง นี่ผมไม่รอดจริงๆแล้วใช่มั๊ย....

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

...ฮึก...น้ำตาของผมไหลออกมาช้าๆแล้วค่อยๆเปร่งเสียงสะอื้นออกมาทำเอาพวกมันที่หาเศษหาเลบกับร่างกายของผมหยุดชะงัก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอาเลยสิหยุดทำไม พวกมึงต้องการร่างกายของกูอยู่แล้วไม่ใช่หรอ หึถึงพวกมึงจะได้ร่างกายกูแต่อย่าหวังเลยว่าจะได้หัวใจกู!!!”ผมพูดออกไปแบบนั้นเสียงร้องไห้ดังแรงขึ้น ปล่อยร่างกายที่เสื้อผ้าหลุดลุ้ยไปแล้วไว้แบบนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กู...”ไอชานยอลเป็นคนพูดขึ้น มันทำหน้าสลดและรวบร่างของผมขึ้นมากอด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่ขอโทษจงอิน พี่ขอโทษ พี่ผิดไปแล้วอย่าพูดแบบนี้เลยนะ”มันใช้สรรพนามใหม่กับผมแต่ผมก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้านมัน

 

 

 

 

 

 

 

 

“หึ..ปล่อยกูเกียดพวกมึง!!”ผมย่ำชัดแล้วดันอกแกร่งๆของมันออกผมมองไปที่ไอเทาที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่รักจงอินมากนะ อย่าทำแบบนี้เลยพี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำร้ายจงอินแบบนี้แล้ว”มันยังพูดไม่หยุด ผมปล่อยให้มันพูดไปเรื้อยๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

“ปากมึงก็บอกว่ารักกู แต่ควาจริงแล้วมึงไม่ได้รักกูเลยสักนิดเดียว สิ่งที่มึงต้องการก็แค่ร่างกาย/ไม่ใช่!!พี่รักจงอินจริงๆ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ถ้ามึงรักกูจริงๆมึงก็พิสูจน์สิๆว่ามึงรักกูด้วยหัวใจ ทำให้กูเห็นความรักของมึงไอชายยอล”ผมว่าออกมา ไอชานผละผมออกแล้วมองหน้าผมด้วยควาจริงจัง

 

 

 

 

 

 

 

“มะมึง..ไม่โกรธกูใช่มั๊ย..ได้!!พี่จะพิสูจน์ไอเทาก็ด้วย”ผมหันไปมองไอเทาที่ยังเงียบแล้วผมก็โดนเอาชานรวบกอดอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่มีข้อแม้พวกมึงต้องไม่ลวนลามกูอีก และจะใช้วิธีที่ถูกต้องเท่านั้น”ผมย้ำชัดไอชานมันพยักหน้าเข้าใจต่ไอเทาก็ยังเงียบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่ตกลงตามที่จงอินขอ แต่อย่าร้องไห้แบบนี้อีกรู้มั๊ยพี่ใจไม่ดีเลย”มันยิ้กว้างแต่ผมก็ยังตีหน้าเครียดอยู่ตามองไอเทา ไม่รุ้ว่าทำไมถึงต้องมองมันและในที่สุดคนที่เงียบมานานก็พูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แล้วมึงต้องให้หัวใจพวกกูไอจงอิน!!!”ผมมองไปที่ไอเทาพร้อมๆกับไอชานยอลผมไม่ตอบคำถามมันไม่กล้าแม้จะสบตามันด้วยซ้ำได้แต่ก้มหน้าอยู่ในอ้อมกอดไอชานอยู่แบบนั้น ไม่ณุ้ว่าความรู้สึกของผมตอนนี้เป็นเช่นไรแต่ผมคงยังลังเล และเกิดความรู้สึกหลากหลาย เอาเป็นว่าผมคงต้องรอดูพวกมันไปก่อนดูพวกมันพิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วผมสัญญาว่าถึงวันนั้นวันที่พวกมันทำให้ผมรักพวกมันจริงๆผมจะให้หัวใจพวกมันหมดทั้งดวง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 TBC....

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา