[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  110.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

86) [Episode 7 :: Dream Special] :: 둘 ::

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 7 Dream Special

::  ::

 

            “อ้าว! พวกเธอมาทำอะไรกันตรงนี้เนี่ย”  ดูจุนทักเมื่อเปิดประตูเข้ามาเจอวิลล่า หยาและดอกหลิวนั่งอยู่หน้าชั้นวางรองเท้า

            “ว่าไง คิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย ^^”  ดงอุนยื่นหน้าเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้มเพื่อทักทายแฟนของเขา แต่กลับทำให้เขาหุบยิ้มลงแทบจะทันทีเมื่อวิลล่าโผเข้ากอดเขาไว้แน่นพร้อมกับก้อนสะอื้นที่ถูกปล่อยออกมา

            “วิล...เป็นอะไร”  ดงอุนถามพลางกอดวิลล่าไว้แน่น เขาเริ่มรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ดีซะแล้ว

            “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า”  ดูจุนหันไปถามหยาที่ยังดูมีสติมากกว่าคนอื่นๆ เพราะเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นตอนนี้เองว่าดอกหลิวก็กำลังร้องไห้อยู่เหมือนกัน หยาไม่ตอบอะไรแต่ยื่นจดหมายและภาพนั้นให้ดูจุนดูด้วยมือที่สั่นเทา น้ำตาหยดแรกไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่หลากหลายเกินบรรยาย

            บีสท์เวียนกันอ่านจดหมายจนครบทุกคน ดูจุน โยซอบและฮยอนซึงคลั่งจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อมองเห็นภาพของคนที่พวกเขารักนอนสลบไม่ได้สติอยู่ที่ไหนสักแห่งที่พวกเขาคิดว่าต้องเป็นที่ที่ไม่ปลอดภัยแน่

            “ฉันจะฆ่ามัน!”  ฮยอนซึงขบกรามแน่น

            “พวกเธออยู่ที่นี่นะ พวกเราจะไปเอง”  จุนฮยองบอกผู้หญิงทั้ง 3 คนที่ยังคงร้องไห้อยู่ แต่หยาคัดค้านหัวชนฝาเพราะเธอเองก็อยากไปด้วยเหมือนกัน

            “ฉันจะไปด้วย! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็จะไป ถึงครั้งนี้จะพากันไปตาย...ฉันก็จะไปกับพวกนาย เพราะนั่น...คือเพื่อนรักของฉัน!”

            “ฉันไปด้วย”  ดอกหลิวปาดน้ำตาตัวเองออกจากแก้มอย่างลวกๆ พร้อมกับแววตาที่ฉายออกมาอย่างหนักแน่นในสิ่งที่เพิ่งพูดออกไป

            “วิลก็จะไปค่ะ” 

            “งั้นสรุปว่า...เราจะไปกันทุกคน”  ดูจุนสรุปเป็นการปิดท้ายการสนทนาครั้งนี้

 

            - บริษัท KB Entertainment -

            “สวัสดีค่ะ ติดต่ออะไรคะ”  พนักงานต้อนรับยิ้มให้เมื่ออธิสกับปลายฝนเดินเข้าไปหา

            “มาพบคุณมินนาค่ะ”  ปลายฝนบอก แต่พนักงานต้อนรับกลับขมวดคิ้วอย่างงงๆ เพราะเท่าที่เธอทราบ ‘มินนา’ ในบริษัทนี้มีอยู่หลายคนทีเดียว

            “เอ่อ...คุณคิมมินนา ผู้จัดการวงบีสท์น่ะครับ”  อธิสบอกรายละเอียดเพิ่มเติม

            “อ๋อค่ะ นัดไว้ไหมคะ”

            “ไม่ได้นัดค่ะ”

            “งั้นรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะขอต่อสายไปก่อนว่าคุณมินนาว่างไหม”

            พนักงานต้อนรับคนนั้นกดโทรศัพท์ตามหมายเลขภายในอาคารประมาณ 4 ตัวแล้วรอสายสักพัก เธอทำแบบนี้ประมาณ 3 ครั้งแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าปลายสายจะตอบรับอะไรกลับมาเลย ปลายฝนจึงยิ่งร้อนใจขึ้นไปอีกเพราะหากคุณมินนาร่วมมือกับคุณมะนาวจริง บีสท์ที่กลับมาถึงเกาหลีแล้วต้องไม่ปลอดภัยแน่ๆ

            “โอ้ย! คุณคะ ขึ้นไปเลยไม่ได้หรอ!!”  ปลายฝนร้องขึ้นมาอย่างร้อนใจ

            “ไม่ได้จริงๆ คะ ตอนนี้คุณมินนาอาจจะไม่ว่างก็เลยไม่ได้รับสาย กรุณารอข้างล่างสักครู่นะคะ ดิฉันจะรีบเรียนให้คุณมินนาทราบเลย”

            “รอไม่ไหวแล้วคุณ! คนกำลังตกอยู่ในอันตรายนะคะ!!”

            “เอ่อ...เบาๆ ก่อน”  อธิสหันไปแตะต้นแขนปลายฝนเบาๆ เพื่อปรามไม่ให้เธอโวยวายไปมากกว่านี้

            “ผมชื่ออธิสครับ ผมต้องการติดต่อคุณมินนาด่วนเลย”  อธิสยื่นนามบัตรไปให้พนักงานต้อนรับคนนั้น ทันทีที่เธอเห็นตำแหน่งของชายหนุ่มเธอก็ถึงกับค้อมตัวลงอย่างตกใจเลยทีเดียว

            “ถ้าเกิดตอนนี้คุณมินนาไม่ว่าง ผมจะขอขึ้นไปรอเธอด้านบน คงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”

            “มะ...ไม่เลยค่ะ เชิญด้านบนเลยนะคะ”  พนักงานคนผายมือที่สั่นเทาไปที่ลิฟต์ทันที

            “ขอบคุณครับ ^^”  อธิสยิ้มอย่างใจดีไปให้พนักงานต้อนรับ ก่อนจะลากปลายฝนมาที่ลิฟต์พร้อมกับลูกน้องอีก 2 คนที่เดินตามมาไม่ห่าง

            เมื่อมาถึงห้องทำงานของมินนาทั้งสองคนกลับพบว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง เลขาหน้าห้องบอกพวกเขาว่ามินนาไปพบนาบีที่ห้องทำงาน

            ผ่าง!!

            ปลายฝนผลักประตูให้เปิดออกอย่างแรงเมื่อมาถึงห้องทำงานของนาบี ถึงป้ายหน้าห้องจะบอกว่าเป็นถึงรองผู้บริหารค่าย แต่ตอนนี้เธอไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรมอะไรแล้ว ดีซะอีกจะได้เปิดโปงความร้ายกาจของมินนากับมะนาวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!

            “คุณมินนา!!!”  เธอตะโกนลั่นห้องโดยที่อธิสเองก็ห้ามความบ้าดีเดือนของเธอไม่ทัน

            ภายในห้องนาบีและมินนากำลังนั่งหน้าเครียดอยู่บนโต๊ะ พวกเธอกำลังรอการมาของผู้หญิงอีกคนที่ส่งไปทำงานสำคัญ เมื่อประตูเปิดออกพวกเขารีบหันไปมองทันทีเพราะคิดว่าเป็นคนที่กำลังรออยู่ แต่กลับเป็นปลายฝนและอธิสแทน

            “คุณอธิส...ปลายฝน”  มินนาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วมองมาที่ผู้มาเยือน

            ทั้ง 2 คนคงมาเพราะรู้เรื่องอะไรแล้วแน่ๆ...เธอคิด

            “คุณทำแบบนี้ได้ยังไง!”  ปลายฝนพ่นคำถามออกมาทันทีโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว

            “อะไรกัน”  นาบีขมวดคิ้วมองปลายฝนอย่างข้องใจ ว่าเด็กผู้หญิงท่าทางไม่มีมารยาทคนนี้คือใคร และโมโหมินนาขนาดนี้ด้วยสาเหตุอะไร

            “ก็!...”

            “คือ...”  อธิสแตะต้นแขนปลายฝนเอาไว้ก่อนจะพูดแทรกขึ้น  “พวกเรามีเรื่องอยากจะคุยกับคุณมินนาหน่อยน่ะครับ”

            “เรื่องอะไรหรอคะ”  มินนาถาม

            “เรื่องที่คุณกับคุณมะนาว...กำลังทำ”

            “อะไรกัน!...นี่พวกคุณรู้เรื่องแล้วหรอ!”  มินนาอุทานออกมาอย่างตกใจ เธอได้กำชับปลายฝนแล้วว่าอย่าให้ใครรู้เรื่อง แต่ทำไม!...

            “เรารู้ไม่ทั้งหมดหรอกครับ เราก็เลยอยากจะมาถามเพื่อความมั่นใจว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่ ทำไมคุณถึงต้องเจอคุณมะนาวที่เมืองไทยอย่างลับๆ ด้วย”

            “เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของเรานะคะคุณอธิส เพราะฉะนั้นฉันคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะบอกคุณ”  มินนายังคงบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม เพราะเธอไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจากที่เธอสืบประวัติมา ผู้หญิงที่ชื่อปลายฝนคนนั้นก็มีครอบครัวที่กว้างขวางพอๆ กับของขวัญเลยทีเดียว บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป

            “ถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่ผิด...ผมคิดว่าคุณควรจะบอกผมมา”  อธิสเพิ่มความเข้มของเสียงขึ้น ลูกน้องของเขาทั้ง 2 คนจึงเดินเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ กันมินนาและนาบีอย่างรู้งาน

            “นี่คุณอยากรู้ถึงขั้นข่มขู่กันเลยหรอ”  นาบีถามด้วยท่าทางสบายๆ ไม่แสดงความหวาดกลัวต่อการกระทำของผู้มีอิทธิพลอย่างอธิสเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอมั่นใจว่าสิ่งที่เธอ มินนาและมะนาวกำลังทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

            ...ใช่! เธอเองที่เป็นคนสั่งให้มะนาวไปเมืองไทย

            “ผมไม่ได้ตั้งใจอยากจะทำอย่างนั้นครับคุณนาบี แค่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเด็กในสักกัดคุณ และรู้สึกว่าผมก็เป็นสปอร์นเซอร์หลักในช่วงนี้ของเด็กคุณซะด้วย ผมเลยปล่อยให้เรื่องนี้มันผ่านไปง่ายๆ ไม่ได้”

            “แล้วเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับความปลอดภัยของ...คนที่ฉันรักด้วย”  ปลายฝนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง เมื่อนึกถึงใบหน้าและรอยยิ้มที่สดใสของเพื่อนๆ ที่แสนดีอย่าง Lusty และ...กีกวัง

            “ว่าไงคะ...คุณร่วมมือกันทำลายบีสท์! ทำลายลัสตี้ใช่ไหม!!”  ปลายฝนถามออกไปตรงๆ เพื่อให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย แต่คนที่ถูกถามกลับไม่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เธอถามออกมาเลย แค่แปลกใจว่าหญิงสาวเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน

            นาบีเป็นเหมือนแม่ที่ชุบเลี้ยง Beast และ Lusty ขึ้นมาจนกระทั่งโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ ส่วนมินนาก็เป็นเหมือนพี่สาวและเป็นแขนขาให้ Beast เพื่อให้ Beast สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและเป็นไปตามเป้าหมาย ทุกคนที่เธอสงสัยล้วนแต่เป็นคนที่หวังดีกับ Beast และ Lusty ทั้งนั้น

            “ฉันจะทำลายสิ่งที่ฉันปั้นมากับมือได้ยังไงกัน...”  นาบีพูดออกมาในที่สุด  “ฉันคิดว่าหนูคงยังรู้จักพวกเราไม่ดีพอ แต่มันก็ไม่แปลกที่จะสงสัยพวกเราเพราะพวกเราเองที่ทำตัวน่าสงสัย”

            “แล้ว ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงครับ”

            “ที่ฉันต้องสั่งให้มะนาวกับมินนาทำอะไรลับๆ แบบนี้เพราะฝั่งนั้นเขาก็ทำเหมือนกัน”  นาบีเริ่มเล่าด้วยความยินดี  “ฝั่งนั้นที่ฉันว่าคือตัวการใหญ่ที่สร้างเรื่องทั้งหมด...ตั้งแต่ต้น”

            “หลายคนคงคิดว่ามันจะจบตั้งแต่จับซังฮุนและมยองมุนได้เมื่อหลายปีก่อนซึ่งเราก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น แต่พวกเราคิดผิดตัวการยังไม่ถูกจับและจ้องเล่นงานเด็กๆ อยู่ตลอดเวลา”  มินนาเป็นฝ่ายเล่าบ้าง 

            “เกิดเรื่องช่วงแรกๆ เราก็นึกว่าเป็นเรื่องปกติ แต่พอมาหลังๆ เริ่มไม่ใช่เรื่องปกติแล้วเพราะว่ามันออกมาถี่เกิดไปและโจมตีกันแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างตอนที่โยซอบไปรับเฝ้าฝันที่คณะก็มีภาพถ่ายตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันออกมาว่อนเน็ตไปหมด ตอนที่จุนฮยองพาฮยอนอินขึ้นคอนโดก็ยังมีข่าวออกมาอีกทั้งๆ ที่หมอนั่นเป็นคนระวังตัวที่สุดในวงแล้ว”  มินนาหยุดพักเพื่อสูดสายหายใจ ยิ่งเล่าเธอยิ่งรู้สึกว่าเธอไร้ความสามารถจนปกป้องเด็กในความดูแลของเธอไม่ได้เลย

            “ต่อมาก็มีข่าวของวิลล่ากับดงอุนออกมา อันนี้ฉันไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะว่าทั้งคู่ยังเด็ก การระมัดระวังตัวอาจจะน้อยกว่าพี่ๆ แต่เรื่องที่ไอ้เสี่ยงโอวังซองมันจับวิลล่าไปได้ง่ายๆ นี่สิมันต้องเป็นเพราะมีคนช่วยมันแน่ๆ”

            “ฮึ! และไม่ใช่คนอื่นคนไกลซะด้วย”  นาบีพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกด้วยความโกรธ เธอไม่นึกเลยว่าคนที่เธอเอ็นดูจะทำแบบนี้กับเธอได้!

            “คุณหมายถึงใครครับ?”  อธิสถามออกมาในที่สุดเพราะจากที่ฟังเขาคิดว่าต้องเป็นคนในค่ายและใกล้ชิดกับ 2 วงนี้มากแน่ๆ

            “แล้วคุณคิดว่าใครล่ะที่จะสามารถเข้าไปกรีดหมอน โซฟาและเฟอร์นิเจอร์ในห้องของลัสตี้ได้...ใครล่ะที่เป็นคนพยายามเปิดโอกาสให้คุณกับณัชได้รู้จักกัน และใคร...ที่จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้มะนาวยอมให้คุณเข้าใกล้ศิลปินในความดูแลได้มากขนาดนั้นได้ เพราะมะนาวดูแลลัสตี้อย่างกับไข่ในหิน!”  นาบีเกริ่นออกมาโดยใช้เหตุการณ์ที่อธิสเองก็อยู่ร่วมด้วยทุกครั้ง

            งั้นก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ ตอนที่ไปเมืองไทยคราวนั้น คนของโอกังจาแค่เข้าไปค้นของในห้องเท่านั้น แต่คนที่กรีดข้าวของและพังมันจนไม่มีชิ้นดีเป็นฝีมือของคนที่คิดไม่ซื่อพวกนี้นี่เอง!

            “อย่าบอกนะว่า...”  ปลายฝนพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจ...จะใช่คนที่เธอคิดเอาไว้รึเปล่าเธอไม่แน่ใจนัก เพราะจากที่เธอได้กล่าวหามะนาวและมินนาไปเมื่อครู่ มันทำให้เธอไม่กล้าพูดปรักปรำใครอีก

            “งั้นที่คุณมะนาวไปเมืองไทยเพราะว่าสะกดรอยตามคนๆ นี้ไป ใช่ไหมครับ” 

            “ใช่ค่ะ ฉันสั่งให้ตามไปเองเพราะฉันตามสืบมาได้สักพักแล้ว คนนี้น่าสงสัยที่สุด”

            “แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับซอแดอุนรึเปล่าครับ”  อธิสถามเกี่ยวกับข้อมูลที่เขาและปลายฝนเพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ

            “ซอแดอุนคือตัวการหลักของเรื่องนี้”  นาบีตอบกลับเสียงเรียบเพราะเธอรู้มาสักพักแล้วว่าเป็นฝีมือของซอแดอุน ส่วนคนที่ร่วมมือกับเขาเธอก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานนี้เอง ครั้งแรกที่เธอรู้เธอตกใจมากเพราะไม่คิดว่าคนที่ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นอย่างซอแดอุนจะเป็นคนแบบนี้ ทั้งที่เธอให้โอกาสเขามากมายแต่เขาก็ไม่เคยเห็นคุณค่าของโอกาสที่เธอหยิบยื่นให้เลยแม้สักนิดเดียว

            “แล้วคนที่ร่วมมือกับซอแดอุน...ก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ค่ะ”  มะนาวเดินเข้ามาสมทบเพราะเธอยืนอยู่หน้าห้องสักพักแล้ว พนักงานด้านล่างบอกว่าอธิสและปลายฝนพร้อมกับลูกน้องบุกมาที่นี่ เธอจึงอยากประเมินสถานการณ์จากด้านนอกก่อน

            “แล้วมันก็เป็นอย่างที่พวกเราคิดจริงๆ คนที่ร่วมมือกับแดอุนก็คือ...”

 

            - โรงงานของกังจากรุ๊ป -

            ซ่าาา...

            ความเย็นของน้ำที่ถูกสาดที่ใบหน้า ทำให้เภตรา ณัช และเฝ้าฝันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พวกเธอพบว่ากำลังถูกมัดรวมกันบนพื้นของโรงงานแห่งหนึ่งที่รู้สึกคุ้นตา ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ประมาณ 10 กว่าคนกำลังมองมาที่พวกเธออย่างหื่นกระหาย คนเหล่านั้นพวกเธอไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยแต่มีอยู่คนหนึ่งที่พวกเธอรู้จัก...รู้จักดีซะด้วย!

            “ซอแดอุน!”  ณัชเรียกชื่อคนที่เธอรู้จักเพียงคนเดียวพร้อมกับขบกรามแน่น เธอไม่อาจถามออกไปว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงและมันเกิดอะไรขึ้น เพราะการที่เขามาอยู่ตรงนี้ในสภาพที่เธอถูกมัดไว้ มันก็ฟ้องทุกอย่างหมดแล้ว

            “ใช่ฉันเอง”  ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาวทั้ง 3 คนด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ เขาต่างจากตอนที่พวกเธอเจอครั้งสุดท้ายอย่างสิ้นเชิง

            “ทำไม...นายเองไม่ใช่หรอที่ช่วยเราคราวนั้น ทำไมคราวนี้กลับเป็นนายซะเองที่ทำร้ายพวกเรา!”  เภตราถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอจุกเพราะความผิดหวังที่เธออุตส่าห์เคยไว้ใจเขา

            “ไม่ใช่เภ...เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของคราวนั้นหรือว่าคราวนี้หรอก...เพราะว่ามันเป็นตัวฉันเองตั้งแต่ต้นต่างหาก แต่พวกเธอมันโง่เองไงที่เชื่อฉัน ฉันแค่แสดงละครให้พวกเธอดูก็พากันเชื่อเป็นตุเป็นตะ ฮึๆๆ”

            “แสดงว่าที่ผ่านมานายหลอกพวกเรามาตลอดงั้นหรอ”

            “ใช่”

            “ไอ้สารเลว!!!”  ณัชร้องพร้อมกับจะพุ่งเข้าไปหาแดอุน แต่เธอก็ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เพราะถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา

            “เข้ามาหาฉันให้ได้สิณัช ถ้าเธอเข้ามาได้ฉันยอมให้ชกเลย”  แดอุนยื่นแก้มเข้าไปใกล้ๆ ณัชอย่างยียวน พร้อมกับเสียงโห่ฮิ้วอย่างชอบใจของชายฉกรรจ์มากมายที่ยืนล้อมพวกเธออยู่

            “เอาสักทีสิแดอุน ฉันอยากเห็นเนื้อเนียนๆ ขาวๆ ของไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปจะแย่อยู่แล้ว”  หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาพร้อมกับมองร่างที่เปียกโชกของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความกระหายจนต้องกลืนน้ำลายลงคืออึกแล้วอึกเล่า

            “เฮ้ย! ใจเย็นดีวะ งานใหญ่ยังไม่เริ่มสมาชิกวงก็ยังไม่ครบ พวกมันมากันครบวงเมื่อไหร่ฉันจะให้พวกแกเลือกเลยว่าอยากได้คนไหน”  แดอุนหันไปบอกผู้ชายเหล่านั้น

            “แต่ก่อนที่พวกแกจะได้มันต้องผ่านฉันก่อนเว้ย ^_^”  แดอุนยื่นหน้าลงมาใกล้ๆ กับเภตราพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่หญิงสาวเห็นแล้วรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาทันที ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่ได้ช่วยปกปิดปีศาจในใจเขาได้เลย

            ระหว่างที่แดอุนไล่สายตาไปตามใบหน้าเนียนใสของเภตราอย่างสำรวจและค่อยๆ มองต่ำลงมาเรื่อยๆ ตามความอยากของสัญชาตญาณ อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาบิดหูของเขาอย่างแรง ด้วยแรงบิดทำให้เจ้าตัวต้องลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองคนที่ทำร้ายร่างกายของเขาอย่างจำยอม

            “นี่!! มันจะมากไปแล้วนะ เมื่อกี๊นายว่าไงนะ!! ผ่านนายก่อนอย่างนั้นหรอ ห๊ะ!!”  หญิงสาวผู้มาใหม่ออกแรงบิดมากขึ้นเมื่อนึกถึงคำพูดของแดอุนเมื่อครู่

            “โอ้ยๆๆๆ เบาๆ สิที่รัก ฉันพูดเล่นเฉยๆ น่า ฉันไม่นอกใจเธอหรอกฉันรักเธอคนเดียวนะ”  ด้วยน้ำเสียงออดอ้อนของแดอุนทำให้หญิงสาวยอมปล่อยหูของเขาโดยดี

            “พี่!...ไม่จริง...”  เฝ้าฝันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า หลังจากนั้นเธอก็พูดอะไรไม่ออกอีกเพราะเธอรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างขึ้นมาจุกที่คอเอาไว้ แม้กระทั่งการหายใจแต่ละครั้งก็ยังลำบาก ยิ่งคนๆ นั้นมองมาที่เธออย่างไม่ได้รู้สึกรู้สมใดๆ แล้ว มันยิ่งทำให้เธอเหมือนจะขาดอากาศหายใจ!

            “เมื่อไหร่เพื่อนเธอจะมาช่วยเนี่ย ไหนว่ารักกันนักรักกันหนาไง! ช้าจริง!!!”  หญิงสาวกอดอกมองเด็กผู้หญิง 3 คนที่ถูกมัดบนพื้นอย่างเซ็งๆ ในขณะที่หญิงสาว 3 คนนั้นมองกลับไปที่เธอด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป...ทั้งผิดหวัง เสียใจ และเจ็บปวดในคราวเดียวกัน

            คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่เหมือนคนที่พวกเธอเคยรู้จักมาก่อน...สายตาเย็นชา ใบหน้าไร้ความรู้สึกแบบนี้ มันซ่อนอยู่ตรงไหนกัน ทั้งที่รู้จักกันมานานหลายปีแต่ทำไมพวกเธอถึงไม่เคยเห็นมันเลย!

 

 

****************************************************

อัพช้า แถมไรท์ยังโกหกอีกต่างหาก แฮ่ๆ

ไรท์เคยพูดว่าจะมี Special 2 ตอนใช่ไหมคะ (มีใครจำได้ไหมเนี่ย U_U)

แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 3 ตอนแล้วนะ

เอาไว้เจอกันใหม่ตอนที่ 3 และปิดฉากโปรเจ็กต์นี้กันอย่างเป็นทางการค่ะ 

ฝากติดตามด้วยนะคะ 

****************************************************

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา