ประธานตัวร้ายกับหวานใจตัวแสบ

9.8

เขียนโดย African_violet

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 19.56 น.

  31 chapter
  88 วิจารณ์
  44.87K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2563 13.00 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

14)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 14

////พักกลางวัน////

                "ไปกินข้าวกันฟาง"ยัยเฟย์สะกิดฉันยิกๆ ดูท่าทางจะหิวข้าวแล้วละสิ

                "แก้วกับเฟย์ไปก่อนเลย"

                "ทำไมอ่ะ"

                แก้วถามฉันด้วยใบหน้าอยากรู้เต็มที่ แกจะอยากรู้อะไรขนาดนั้นเมื่อเช้าไม่ได้ยินที่อีตาปอบมันประกาศหรือไงว่าถ้าฉันไม่รอมันมีเรื่องแน่

                "เออหน่า"

                "เดี๋ยวนี้หัดมีความลับนะต้องเป็นเรื่องประธานหนุ่มสุดหล่อแน่ๆเลย"

                เฟย?ส่งยิ้มล้อเลียนมาทางฉัน ตั้งแต่เฟย์ไปมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับอีตาเขื่อนนี่เจ้าเล่ห์ขึ้นเยอะเลยนะ ไม่ได้การละเห็นทีฉันต้องแยกน้องเฟย์ที่แสนบริสุทธิ์ออกจากปีศาจร้ายอย่างนายเขื่อนเสียก่อน

                "เฟย์ดูดิคนแถวนี้หน้าแดงใหญ่แล้ว"

                "ก็แดดมันร้อนนนน"ฉันรีบแก้ตัว

                "ฉันด็ยังไม่ได้บอกว่าแกหน้าแดงนิ ร้อนตัวนะคะคนสวย"

                "แก้วอ่ะ"

                "ดีจัง อีกไม่นานเจ้าหญิงนิทราจะได้รับจุมพิตจากเจ้าชายรูปงาม แล้วก็ครองรักกันชั่วนิรันดร์"

                เฟย์ทำหน้าเพ้อฝัน เหมือนกำลังอ่านนิยายน้ำเน่าอยู่  จะว่าไปพอพูดถึงเรื่องจูบทำให้ฉันอดคิดเรื่องวันที่ตัวเองตกน้ำไม่ได้ ก็ตอนที่อีตาปอบมันผายปอดนะ ปากต่อปากเชียวนะ

                "ใครจะไปอยากได้ ครั้งเดียวก็เกินพอหละ"

                "ว่าไงนะ แกเคยจูบกับพี่ป๊อบปี้แล้วหรอ"

                ทั้งแก้วและเฟย์ต่างทำสีหน้าตกอกตกใจไม่แพ้กัน ตายแล้วนี่ฉันพลั้งปากออกไปได้ยังไงนะว่าเคยปากชนปากกับอีตาปอบบ้านั่นมาแล้ว โดนล้อไปอีกสิบชาติแน่เลยT^T         

                "จะบัาหรือไง ผายปอดต่างหาก"

                "แล้วมันโดนปากไหม"

                "โดนT^T"

                อร้ายยยย เขินแทนอ่ะ >///<”ยัยเฟย์ส่งเสียงกรีดร้อง ไม่ต้องเขินแทนหรอกแค่นี้ฉันก็เขินจะแย่อยู่แล้ววววว

                "สาวๆคุยอะไรกันอยู่หรอครับ"

                ป๊อบปี้เดินเข้ามาในห้องโชคดีที่นักเรียนหลายคนเดินออกไปพักกลางวันแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันต้องตอบคำถามจนไม่ได้นอนแน่เลยเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุด

                "เรื่องของคนปอบไม่เกี่ยว"

                นินทาฉันอยู่ละสิ

                รู้แล้วจะถามทำไมย่ะ

                นินทาคนอื่นนิสัยไม่ดี เรื่องเมื่อเช้ายังไม่เคลียร์นะ

                ป๊อบปี้หันมามองฉันด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ยัยแก้วและยัยเฟย์ ทีกับคนอื่นนี้แอ๊บจังนะย่ะทีกับฉันเนี่ยแสดงแต่ด้านมืด

                " แก้วกับเฟย์ไปกินข้าวด้วยกันไหม เขื่อนกับโทโมะคงจะดีใจ เห็นว่าบ่นถึงเธอสองคนตลอดเลย"

                ".////."เฟย์

                "ไอ้เขื่อนมันกล้านินทาแก้วหรอ"

                "นินทากับบ่นว่าคิดถึงมันต่างกันนะแก้ว"

                ฉันส่งยิ้มล้อเลียนให้เพื่อนสาวเป็นการแก้แค้น ชอบล้อฉันกับนายป๊อบปี้ดีนัก

                "ฟางพูดอะไรของแกอ่ะ"

                "5555 หิวข้าวแล้วอ่ะ ไปกินข้าวกันเถอะโอ๊ยย"

                ฉันยันตัวเองขึ้นด้วยความลืมตัวว่าพิการอยู่  เลยโดนความรู้สึกเสียวแปล๊บเข้าเล่นงานที่ขาเต็มๆ

                "ก็บอกว่าอย่าซี้ซั๊วเดินไง"นายปอบทำหน้าจะกินตับฉันอีกแล้วอ่ะ อย่านะเค้ากลัวแล้ว

                "แล้วจะให้คลานไปหรือไง"

                "เดินไม่ได้ก็บอก แค่นั้นเอง"

                พูดจบเขาก็ยกตัวฉันขึ้นจากเก้าอี้ มาอยู่ในวงแขนแกร่ง หมอนี่แอบมีกล้ามด้วยแฮะทั้งกล้ามแขนกล้ามท้อง เฮ้ยทำไมแอบได้ยินคนว่าฉันหื่นอ่ะ

                "////ไม่อายคนอื่นเค้าหรือไง"

                "แก้วกับเฟย์วันนี้ขอยืมตัวฟางหน่อยนะครับ"

                "เอาไปเลยคะ"แก้วพูด "ฝากด้วยนะคะ"เฟย์โค้งซรีษะแล้วจูงมือแก้วเดินออกไป นี่ไม่มีใครสนใจฉันเลยใช่ไหมมมม คอยดูเถอะฉันจะเลิกคบพวกแกเพื่อนทรยศ

                "เฮ้ยย แก้ว เฟย์"

                "จะไปยุ่งกับคนอื่นเขาทำไม ไปกินข้าวกันเถอะ"

                "ไปแบบนี้อ่ะนะ"

                "เออ"

                ทำไมหมอนี่ถึงได้หน้าด้านขนาดนี้นะ อุ้มฉันเดินเข้าโรงอาหารที่มีคนเยอะขนาดนี้ได้ยังไงกัน คนเขามองกันหมดแล้วถึงฉันจะไม่ได้สนใจคนอื่นเท่าไหร่แต่ก็พอมียางอายอยู่นะ

                "ถ้าอายก็เอาหน้าซุกอกฉันสิ"

                "ฝันไปเหอะ ไอ้ปอบ"

                "งั้นเตรียมเป็นข่าวได้เลย"

                ป๊อบปี้ยื่นหน้ามาใกล้จนฉันสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจคนตรงหน้า ไม่ไหวแล้วนะถ้าฉันเลือดกำเดาพุ่งจะทำไงใครใช้ให้หมอนี่หล่อขนาดนี้นะฟางจะเป็นลม

                "เอาหน้าออกไปได้แล้วคนอื่นเค้ามองกันใหญ่แล้วนะ"

                "ช่างสิ ฉันไม่อาย"

                "หน้าด้านซะมัด"

                "อยากให้ด้านกว่านี้ไหม"

                ป๊อบปี้เอาหน้าเค้ามาอีกครั้งและคราวนี้มันใกล้เสียจนปากเราจะชนกันนอยู่แล้ว  ทำแบบนี้ไม่จูบไปเลยหล่ะ>>>คิดในใจไม่กล้าท้ากลัวดดนจูบจริง

                "ไอ้บ้าเอาหน้าออกไปนะ"

                "5555 แกล้งเธอนี่สนุกซะมัดเลยนะ"

"โรคจิต"

                "ถ้าด่าอีกทีจะพ่อจูบโชว์คนทั้งโรงอาหารเลย"

                "เชอะ" ฉันเบือนหน้านี้โดยไม่พูดอะไรกับอีตานี่สักคำ ขู่มาได้ไงว่าจะจูบคนอื่นเขาโรคจิตซะมัดเลย ยี้~

                "เอ้า นั่งอยู่เฉยๆอย่าไปไหนนะ จะกินอะไรว่ามา"

                "อะไรก็ได้"

                "อืม"

                ป๊อบปี้เดินไปซื้ออาหารกลางวันและปล่อยให้ฉันนั่งรออยู่คนเดียว เมื่อกี้คนตรงหน้าฉันคือป๊อบปี้แต่ตอนนี้กลายเป็นนายปริ๊นไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าพ่อพี่ชายไปแล้วน้องชายจะมาแบบนี้

                "นั่งด้วยคนดิ"

                "นั่งซะขนาดนั้นแล้วยังจะถามอีกหรอฮะ"

                "ก็นะ กินอะไรหรือยัง แล้วนี่ขาไปโดนอะไรมา"

                "มาเป็นชุดเลยนะ กินอะไรหน่ะยังไม่ได้กินส่วนขาฉันหกล้ม"

                "อีกแล้วหรอ งั้นรออยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวไปหาอะไรมาให้กิน"

                "เห้ย เดี๋ยววว"

                ฉันส่งเสียงห้ามแต่หมอนั่นก็เดินไปไกลเกินกว่าจะได้ยินให้มันได้อย่างนี้สิ แล้วทีนี้จะกินของพี่หรือว่าของน้อง ฉันว่าไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็คงซวยทั้งนั่นแหละ

                "มาแล้ววว"ป๊อบปี้ & ปริ๊น ไปไม่พร้อมทำไมกลับไมพร้อมฟร่ะ

                จานสลัดผักกับจานผัดผักรวมมิตรสองจานวางอยู่ตรงหน้าฉัน ไอ้พวกนี้มันเห็นฉันเป็นสัตว์กินหญ้าหรือไงถึงได้ซื้อมาแต่ผักคนเขาไม่ชอบกินผักก็ไม่รู้อีก

                “ไม่นึกว่าจะมีคนนั่งด้วย”

                ปริ๊นพูดพร้อมชำเลืองตามองพี่สายตัวเอง ส่วนอีตาปอบก็มองน้องตัวเองไม่วางตาเหมือนกัน เออมองกันเข้าไปถ้ามองตากันแล้วท้องได้เดี๋ยวก็แช่งให้ท้องซะเลย

                “ยัยนี่เดินเองไม่ได้ฉันเลยพามาส่ง”

                “งั้นหรอ”

                สองหนุ่มยังไม่เลิกมองตากัน จะมองไม่ได้ว่าอะไรหรอกแต่ทำไมมันต้องมาจ้องตากันข้ามหัวฉันด้วย มันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเตี้ยยังไงไม่รู้

                “จะมองอะไรกันนักหนา ข้าวหน่ะไม่กินกันหรือไง”

                “ก็กินสิ”

                ทั้งคู่ต่างยื่นจานของตัวเองมาให้ฉันเลือก แหมแอบส่งสายตาข่มขู่กันด้วยแต่เสียใจย่ะฉันไม่กินมันทั้งสองจานอ่ะแหละ ก็บอกแล้วไงว่าไม่กินผัก

                “ไม่กินได้ป่ะ”

                “ไม่ได้”

                ป๊อบปี้และปริ๊นพร้อมใจกันประสานเสียงดัง จนคนที่ไม่ได้สนใจพวกเราเริ่มหันมามองกันเป็นแถบและเหมือนจะลุกลามไปเรื่อยๆ

                “พวกนายจะตะโกนพร้อมกันทำไม”

                “ถ้าเธออยากกินแต่ของไอ้ป๊อบก็บอกได้นะ”ปริ๊นถามเสียงขุ่น

                “หรือในทางกลับกันท่าเธออยากกินของปริ๊นแต่ไม่อยากกินของฉันก็แล้วแต่”

                ป๊อบปี้พูดแล้วจ้องหน้าฉัน แล้วแต่ฉันแล้วพวกนายมาข่มขู่กันทางสายตาทำไมย่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่อยากกินของพวกเขาทั้งสองคนนั้นแหละแต่จะให้ทำยังไงอ่ะ อีกฝ่ายก็ทำเสียงงอนอีกคนก็มองตาขวาง

                “กินก็ได้พอใจหรือยัง”

                ด้วยอารมณ์อะไรไม่รู้ฉันก็เลยตักอาหารทั้งสองจานเข้าปากโดยลืมไปว่าตัวเองกินผักไม่ได้ แล้วถ้ากินละก็ผลมันจะออกมาเป็นแบบนี้

                อุ๊บบบ โอ๊กกก...

                ฉันควานหาถุงหรืออะไรก็ได้ที่จะใส่อ้วก นายปอบที่เหมือนจะรู้สึกตัวก่อนยื่นแก้วน้ำเปล่ามาให้ฉันอ้วกใส่ แหวะนี่ฉันลืมไปได้ยังไงว่าตัวเองกินผักไม่ได้

                “นี่เธอกินผักไม่ได้งั้นหรอ”ปริ๊นถามงงๆ

                “ก็เออนะสิ”

                “แล้วจะกินเข้าไปทำไมห้า”

                ป๊อบปี้ถามโกรธๆ มืออีกข้างที่ไม่ได้ลูบหลังฉันอยู่เขกหัวฉัน อยากจะเถียงเหลือเกินว่าไอ้พี่น้องสองคนไหนที่มันบังคับให้ฉันกิน

                หลังจากอ้วกไปสักพักฉันก็เงยหน้าขึ้นบอกนายป๊อบปี้ที่ยังนั่งอยู่ ส่วนไอ้เด็กปริ๊นแยกไปเรียนแล้วแม้จะทำท่าไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่

“เอ่อ ฉันว่าฉันโอเคแล้วหล่ะ”

                “แน่ใจนะ”

                “อืมมม ฉันอยากเข้าเรียนแล้วหล่ะ”

                “เข้าไปเรียนหรือเข้าไปนอนกันแน่”อีตาปอบแอบจิกกัดฉัน

                “รู้แล้วจะถามทำไมหล่ะ”

                “ก็อยากคุยด้วยนิ”

                อยากคุยด้วยงั้นหรอ >///< ตรงไปนะ เขินอ่ะ

                “แต่ฉันไม่เห็นจะอยากคุยกับนายเลย พาฉันไปส่งที่ห้องได้แล้ว”

                “ครับๆๆๆ เจ้าหญิง”

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา