นิชา กับเรื่องชีวิตความรักของวัยรุ่นในมหาวิทยาลัย
สวัสดีค่ะ! ฉันชื่อ "นิชา" เป็นนักศึกษาปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตอนนี้อายุ 20 ปีค่ะ เป็นคนที่สนุกสนาน ชอบใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างเต็มที่ ทั้งเรียน งานพาร์ทไทม์ และยังสนใจเรื่องความรักกับ ชีวิตรักของวัยรุ่น ในมหาวิทยาลัยเช่นกันค่ะ จริงๆ แล้ว ความรักในมหาวิทยาลัยมันมีหลายมุมมอง หลายประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่ามองมันอย่างไร แต่สำหรับนิชาเอง ความรักในมหาวิทยาลัยเป็นทั้งความท้าทายและความสุขที่มีความหมายมากเลยค่ะ
ถ้าพูดถึงความรักในมหาวิทยาลัย ฉันคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และเติบโตได้มากทีเดียว ความรักในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เรายังไม่ได้มีภาระหน้าที่มากมายเหมือนตอนโตขึ้น เราสามารถใช้เวลาส่วนตัวให้กับคนที่เราชอบได้เต็มที่ ซึ่งมันทำให้เราได้สัมผัสความรู้สึกใหม่ๆ ได้ลองเรียนรู้การเป็นคู่รัก รู้จักการดูแลเอาใจใส่และรับผิดชอบต่อกันในแบบที่ยังไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน ความรักในมหาวิทยาลัยมันก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน เพราะเรายังอยู่ในช่วงวัยที่ไม่แน่ใจว่าความรักนั้นจะไปไกลแค่ไหน หลายๆ คนอาจจะมองว่าความรักในวัยมหาวิทยาลัยเป็นแค่การลองผิดลองถูก เพราะส่วนใหญ่หลายคู่ที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ในช่วงนี้สุดท้ายก็จบลงด้วยความเสียใจ
ในมุมมองของฉันเอง ความรักในมหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่เรื่องของการมีแฟนเพื่อเติมเต็มความเหงา หรือการมีคนอยู่ข้างๆ เพราะมันยังมีเรื่องของการเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมๆ กับคนที่เราเลือกให้เขามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต การมีแฟนในช่วงนี้มันเหมือนการได้มีเพื่อนคนหนึ่งที่สามารถแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ ทั้งเรื่องการเรียน การทำกิจกรรมร่วมกัน หรือแม้กระทั่งการผ่านเหตุการณ์ชีวิตที่ยากลำบากไปด้วยกัน แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องรู้จักแยกแยะเวลาให้ดีด้วยนะคะ ระหว่างการใช้เวลากับคนรักและการใช้เวลาให้กับการพัฒนาตนเอง หรือการดูแลความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ บางครั้งเราก็ต้องให้ความสำคัญกับการเติบโตในชีวิตการเรียนและการสร้างอนาคตมากกว่าการพึ่งพาความรักเพียงอย่างเดียว
อีกหนึ่งมุมมองที่ฉันคิดว่าความรักในมหาวิทยาลัยมีความสำคัญก็คือมันช่วยสอนให้เรารู้จักความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนในแบบที่มันมีทั้งความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ ความรักในช่วงนี้สอนให้เรารู้จักการปรับตัวและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน บางครั้งเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับข้อเสียของคนรักในแบบที่เขาเป็น เพราะไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ และมันก็มักจะมีปัญหาหรือความท้าทายเกิดขึ้นระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความแตกต่างของนิสัย หรือแม้กระทั่งการจัดสรรเวลาในชีวิตที่บางครั้งมันก็ไม่ค่อยลงตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราควรใช้เวลาตรงนี้ในการเรียนรู้และพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ถ้าหากเรามีทัศนคติที่ดีในการเผชิญกับปัญหาต่างๆ และเปิดใจรับฟังกันและกัน มันก็จะช่วยให้ความรักของเรามีความแข็งแกร่งขึ้น
สำหรับการมองความรักในแง่ของความสัมพันธ์ระยะยาวหรืออนาคต ฉันคิดว่ามหาวิทยาลัยเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้เกี่ยวกับความรัก แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ในช่วงวัยนี้เรามักจะมองโลกในแง่ดี และบางครั้งอาจไม่ค่อยคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา ฉันเองก็เคยมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะหวานชื่น แต่สุดท้ายก็ต้องแยกทางกัน เพราะบางครั้งเราอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับความรักในแบบที่มันยาวนานมากนัก หรืออาจจะยังไม่รู้จักการให้พื้นที่ส่วนตัวแก่กันและกันอย่างพอเพียง ซึ่งจริงๆ แล้วนี่คือสิ่งที่ทำให้เราต้องมีการเติบโตและเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในอนาคต หากเราไม่ลองแล้ว เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา
ในส่วนของตัวฉันเอง การที่ได้มีแฟนในช่วงมหาวิทยาลัยถือเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างดีค่ะ แต่มันก็ต้องมีขอบเขตและความเข้าใจในหลายๆ ด้าน เราต้องไม่ให้ความรักมาครอบงำชีวิตจนเกินไป เพราะบางครั้งเราอาจจะลืมเรื่องการดูแลตัวเอง การตั้งใจเรียน หรือการสร้างอนาคตในเส้นทางที่เราเลือก ฉันเชื่อว่าความรักที่ดีควรเป็นความรักที่มีความเข้าใจและให้ความสำคัญกับการพัฒนาเป็นตัวของตัวเองไปพร้อมๆ กับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ในความสัมพันธ์หรือไม่ เราก็ยังต้องเติบโตในฐานะบุคคล
สุดท้ายนี้ ฉันเป็นคนที่มีราศีพิจิกค่ะ ซึ่งในเรื่องความรักก็มีทั้งด้านที่รักจริงจังและมีความภักดีสูง แต่ในเวลาเดียวกันก็จะมีความระมัดระวัง และไม่เปิดใจให้กับคนอื่นง่ายๆ ถ้าไม่ได้รู้สึกว่าเขาคนนั้นคือคนที่ใช่ การรักใครสักคนสำหรับฉันไม่ใช่แค่ความรู้สึกหวานๆ แต่เป็นการยอมรับในตัวตนของกันและกันจริงๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวคนอื่น เพียงแค่ให้ความสำคัญและดูแลซึ่งกันและกันเท่านั้นเองค่ะ
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้