ทำงานอย่างปลอดภัย เลือกอุปกรณ์เซฟตี้ให้ตรงกับงานคุณ
นยุคที่ความปลอดภัยในการทำงานถูกให้ความสำคัญอย่างสูง โดยเฉพาะในสายงานอุตสาหกรรม ก่อสร้าง โลจิสติกส์ หรือแม้แต่การซ่อมบำรุงทั่วไป อุปกรณ์เซฟตี้ (Safety Equipment) กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ แต่การเลือกใช้อุปกรณ์เซฟตี้ให้ “ถูกประเภท ตรงตามงาน” ยิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันอันตรายได้จริงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดความเสี่ยงทางกฎหมายหากเกิดอุบัติเหตุ
บทความนี้จะพาคุณรู้จักกับประเภทของอุปกรณ์เซฟตี้ การเลือกใช้อย่างเหมาะสม พร้อมแนะนำบริการจัดหาอุปกรณ์เซฟตี้คุณภาพมาตรฐานจาก S.T. Intertrade ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมและเครื่องมือช่างครบวงจร
ทำไมต้องใช้อุปกรณ์เซฟตี้ในการทำงาน?
แม้ในบางสายงานอาจดูไม่เสี่ยงมากนัก แต่ความประมาทเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ อุปกรณ์เซฟตี้จึงทำหน้าที่เสมือน “เกราะป้องกัน” ให้กับพนักงาน ซึ่งมีประโยชน์หลักดังนี้:
- ป้องกันอุบัติเหตุจากการตกหล่น กระแทก หรือของมีคม
- ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้า ความร้อน สารเคมี หรือเสียงดัง
- สร้างความมั่นใจในการทำงาน
- สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของกฎหมายแรงงาน
- ลดต้นทุนระยะยาวจากค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชย
อุปกรณ์เซฟตี้มีกี่ประเภท?
อุปกรณ์เซฟตี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามอวัยวะที่ป้องกัน หรือประเภทของงาน เช่น
1. อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ
- หมวกนิรภัย (Safety Helmet): ป้องกันแรงกระแทกจากของตกจากที่สูง เหมาะกับงานก่อสร้าง งานเหมือง และงานภาคสนาม
- หมวกคลุมผม: ใช้ในโรงงานอาหาร หรือห้องคลีนรูม เพื่อรักษาความสะอาด
2. อุปกรณ์ป้องกันดวงตาและใบหน้า
- แว่นตานิรภัย (Safety Glasses): ป้องกันเศษวัสดุ ฝุ่น สารเคมี
หน้ากากป้องกันใบหน้า (Face Shield): ใช้ร่วมกับแว่นตานิรภัย เพิ่มความปลอดภัยจากการกระเด็นหรือแรงดันสูง
3. อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน
- ที่อุดหู / ครอบหูนิรภัย: ลดระดับเสียงในงานโรงงาน งานเจาะ งานเชื่อม
4. อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ
- หน้ากากกรองฝุ่น / หน้ากากกรองสารเคมี: เหมาะสำหรับงานพ่นสี งานในห้องแล็บ งานก่อสร้างที่มีฝุ่นมาก
5. อุปกรณ์ป้องกันมือ
- ถุงมือนิรภัย: มีหลายชนิด เช่น ถุงมือกันไฟฟ้า ถุงมือกันสารเคมี ถุงมือหนังสำหรับงานเชื่อม
6. อุปกรณ์ป้องกันเท้า
- รองเท้านิรภัย (Safety Shoes): มีหัวเหล็ก เสริมพื้นกันลื่น กันน้ำ เหมาะกับงานหนักที่มีโอกาสโดนกระแทกหรือลื่นล้ม
7. อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย
- เสื้อสะท้อนแสง: สำหรับงานกลางแจ้ง หรืองานที่มีรถผ่าน
ชุดคลุมป้องกันสารเคมี / ไฟฟ้า / ความร้อน: สำหรับงานเฉพาะทาง
วิธีเลือกใช้อุปกรณ์เซฟตี้ให้เหมาะกับงาน
การเลือกใช้อุปกรณ์เซฟตี้ต้องอิงจากความเสี่ยงของงานเป็นหลัก โดยมีหลักพิจารณาเบื้องต้นดังนี้
- วิเคราะห์ความเสี่ยงของงาน – งานเกี่ยวข้องกับไฟฟ้า ไฟแรงสูง สารเคมี หรือความสูงหรือไม่?
- เลือกอุปกรณ์ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม – เช่น มาตรฐาน ANSI, CE, มอก. เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ
- ขนาดและความสบาย – อุปกรณ์ต้องใส่ได้พอดี ไม่หลวมหรืออึดอัดจนเกินไป
- วัสดุทนทานและใช้งานง่าย – ลดความยุ่งยากเมื่อต้องใช้งานจริง
- ความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม – เช่น อุปกรณ์กันไฟต้องไม่ติดไฟง่าย หรือกันน้ำหากทำงานในพื้นที่เปียกชื้น
อุปกรณ์เซฟตี้ที่ได้มาตรฐาน ต้องมาจากผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้
การลงทุนในอุปกรณ์เซฟตี้ไม่ใช่แค่การซื้อของราคาถูกที่สุด แต่ควรเลือกซื้อจากผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ และมีความเข้าใจในลักษณะงานอย่างแท้จริง
S.T. Intertrade คือผู้นำด้านการจัดจำหน่าย เครื่องมือช่าง อุปกรณ์เซฟตี้ และเครื่องจักรอุตสาหกรรม ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ
- สินค้ามาตรฐานอุตสาหกรรม
- มีทีมให้คำปรึกษาเรื่องการเลือกอุปกรณ์เซฟตี้
- มีสินค้าหลากหลาย ครอบคลุมทุกประเภทงาน
- จัดส่งทั่วประเทศ รวดเร็ว ทันใจ
- บริการหลังการขายมืออาชีพ
การเลือกใช้อุปกรณ์เซฟตี้อย่างถูกต้องคือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำงานอย่างมืออาชีพ ทั้งช่วยป้องกันอุบัติเหตุ สร้างความมั่นใจ และปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์เซฟตี้ที่ตอบโจทย์ทุกประเภทงาน S.T. Intertrade พร้อมเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยทุกวันทำงาน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร: 099-490-6022
Website: https://www.stintertrade.com/
Facebook: www.facebook.com/stintertrade
Line: @stinter
ที่อยู่ 120/238 ซอย 18 หมู่11 ถ.เทพารักษ์ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้