Microsoft Copilot ใช้ทำอะไรได้บ้าง? ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานยุคใหม่

เมื่อปริมาณงานในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมี “ผู้ช่วย” ที่สามารถร่างเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูล หรือแม้แต่สรุปการประชุมแทนเราได้ จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และนั่นคือเหตุผลที่ Microsoft Copilot กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่หลายองค์กรเริ่มให้ความสนใจ เพราะไม่เพียงแค่ทำงานให้ไวขึ้น แต่ยังช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน และเปิดทางให้เราโฟกัสกับสิ่งสำคัญได้มากขึ้น

Dynamics 365 Finance คืออะไร

Microsoft Copilot คือผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่ Microsoft พัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีของ OpenAI และฝังไว้ในแอปพลิเคชันหลักของ Microsoft 365 เช่น Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ Teams โดยทำงานผ่านอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกับระบบด้วยภาษาธรรมชาติ และให้ Copilot สร้าง วิเคราะห์ หรือสรุปเนื้อหาตามคำสั่งได้ทันที

จุดเด่นของ Copilot คือการเข้าใจบริบทของข้อมูลที่เราใช้งานอยู่จริง เช่น เอกสารใน OneDrive, อีเมลใน Outlook หรือการสนทนาใน Teams ทำให้คำแนะนำที่ได้มีความแม่นยำ และตรงกับสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด

Microsoft Copilot ใช้ทำอะไรได้บ้างในแต่ละแอป

1. Copilot ใน Word

• สร้างเนื้อหาอัตโนมัติจากหัวข้อที่กำหนด
• สรุปเอกสารยาวให้เข้าใจง่าย
• ปรับสำนวนให้เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ
• สั่งให้เขียนใหม่ในสไตล์ที่ต้องการ เช่น สั้น กระชับ หรือละเอียดขึ้น
  
  

2. Copilot ใน Excel

• วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ภาษาแบบมนุษย์ เช่น “หายอดขายรวมของเดือนเมษายน”
• สร้างสูตรอัตโนมัติ
• สรุปแนวโน้ม หรือสร้างกราฟสวยงามจากข้อมูล
• แนะนำข้อมูลผิดปกติในชุดข้อมูลจำนวนมาก
  
  

3. Copilot ใน PowerPoint

• สร้างสไลด์พรีเซนเทชันจากไฟล์ Word หรือหัวข้อคร่าว ๆ
• สรุปประเด็นสำคัญของสไลด์
• ปรับรูปแบบการนำเสนอ เช่น ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น หรือเน้นภาพมากขึ้น
  
  

4. Copilot ใน Outlook

• ร่างอีเมลแบบมืออาชีพจากข้อความสั้น ๆ
• สรุปบทสนทนายาวให้เข้าใจง่าย
• แนะนำการตอบกลับโดยอิงจากบริบท
• ช่วยจัดการอีเมลล้นกล่องอย่างมีประสิทธิภาพ
  
  

5. Copilot ใน Teams

• สรุปการประชุมอัตโนมัติ พร้อม Highlight ประเด็นสำคัญ
• แนะนำ Action Items หรือสิ่งที่ต้องติดตามหลังประชุม
• ดึงข้อมูลจากอีเมล/ไฟล์ที่เกี่ยวข้องในระหว่างสนทนา

ข้อดีของการใช้ Microsoft Copilot

การใช้ Microsoft Copilot ช่วยให้การทำงานภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านการลดภาระงานซ้ำซ้อน เช่น การพิมพ์เอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการร่างอีเมล ซึ่งโดยปกติมักใช้เวลานานและอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย Copilot เข้ามาช่วยให้ขั้นตอนเหล่านี้เร็วขึ้น และแม่นยำขึ้นอย่างชัดเจน

อีกหนึ่งข้อดีที่โดดเด่นคือ Copilot สามารถ เชื่อมโยงข้อมูลภายใน Microsoft 365 ได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel, Outlook หรือ Teams ทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ทันทีจากบริบทที่กำลังทำงานอยู่ เช่น ดึงข้อมูลจากอีเมลเพื่อนำไปเขียนเอกสาร หรือสรุปการประชุมอัตโนมัติจากบทสนทนาใน Teams

นอกจากนี้ Microsoft Copilot ยังช่วยให้ ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงความสามารถด้าน AI ได้ง่าย โดยไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิค เพียงแค่พิมพ์คำสั่งด้วยภาษาธรรมชาติ ก็สามารถขอให้ AI ช่วยเขียน สรุป วิเคราะห์ หรือจัดการข้อมูลได้ทันที

สุดท้าย การทำงานของ Copilot ยังเน้นความปลอดภัยของข้อมูลในระดับองค์กร เพราะทำงานอยู่ภายใต้ระบบความปลอดภัยของ Microsoft ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

สรุป

Microsoft Copilot ไม่ใช่แค่เครื่องมือใหม่จาก Microsoft แต่เป็น “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่เข้ามายกระดับการทำงานของเราให้ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และมีเวลาโฟกัสกับงานที่สำคัญมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานออฟฟิศ ผู้บริหาร นักวิเคราะห์ข้อมูล หรือทีมขาย Copilot ก็สามารถช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และเปลี่ยนการทำงานแบบเดิมให้กลายเป็นประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพ