SDLC กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ ตอบโจทย์ทุกเป้าหมาย

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (513)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:923
เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 21.21 น.

SDLC

 

ปัจจุบันการพัฒนาซอฟต์แวร์ถือเป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยกลยุทธ์และกระบวนการที่เป็นระบบ Software Development Lifecycle หรือ SDLC คือสิ่งสำคัญที่ทำให้การสร้างผลงานซอฟต์แวร์คุณภาพประสบผลสำเร็จ หากใครที่กำลังตามหาวิธีการหรือแนวทางในการพัฒนาซอฟต์แวร์เจ๋ง ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวงจรการพัฒนาระบบ (SDLC) ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้นและสามารถผลิตซอฟต์แวร์ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 


 

มาทำความรู้จักว่า SDLC คืออะไร?

 

SDLC คือ

 

SDLC (Software Development Lifecycle) คือ กระบวนการที่ใช้ในการวางแผน สร้าง ทดสอบ และปรับใช้ซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบและมีโครงสร้าง กระบวนการนี้เปรียบเสมือนแผนที่นำทางที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างซอฟต์แวร์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า มีประสิทธิภาพ และสามารถส่งมอบได้ตรงเวลา

 

หลักการสำคัญของ SDLC คือการสร้างซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพสูง สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ตามเวลาที่กำหนด โดยมีการวางแผนและควบคุมกระบวนการอย่างใกล้ชิดที่เอื้ออำนวยให้นักพัฒนาสามารถเห็นข้อบกพร่องของงานและสิ่งที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งเสร็จสิ้นโครงการ

 


 

SDLC Model แต่ละแบบเป็นอย่างไร?

 

SDLC มี framework ให้เลือกใช้มากมาย โดย SDLC Model แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยสามารถเลือกใช้รูปแบบที่เหมาะสมกับรูปแบบซอฟต์แวร์หรือลักษณะการทำงานของทีมได้ SDLC Model ทั้ง 7 แบบ มีดังนี้

 

  • Agile Model

Agile เป็นโมเดลที่ยืดหยุ่นและเน้นการทำงานแบบวนรอบสั้น ๆ ให้ความสำคัญกับการปรับตัวและการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับโครงการที่ต้องการความคล่องตัวสูง

 

  • V-Shaped Model

V-Shaped Model เน้นการทดสอบควบคู่ไปกับการพัฒนา มีการวางแผนและทดสอบอย่างเป็นระบบในแต่ละขั้นตอน เหมาะสำหรับโครงการที่มีความต้องการทางเทคนิคชัดเจน

 

  • Iterative Model 

Iterative Model มีการแบ่งงวดการทำงานออกเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ โดยแต่ละรอบจะมีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้

 

  • Waterfall Model

Waterfall ถือเป็นรูปแบบการทำงานแบบดั้งเดิมที่เป็นเส้นตรง แต่ละขั้นตอนจะดำเนินการต่อเมื่อขั้นตอนก่อนหน้าเสร็จสมบูรณ์ เหมาะสำหรับโครงการที่มีความต้องการคงที่

 

  • Spiral Model 

Spiral เป็นโมเดล SDLC ที่ผสมผสานระหว่างการออกแบบเชิงเส้นตรงกับการสร้างต้นแบบ เน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับโครงการขนาดใหญ่และซับซ้อน

 

  • RAD Model

RAD Model เน้นการพัฒนาโปรแกรมด้วยความรวดเร็ว ใช้เครื่องมือและเทคนิคที่ช่วยให้พัฒนาซอฟต์แวร์ได้อย่างรวดเร็ว

 

  • Big Bang Model 

จุดเด่นของ Big Bang Model คือการมีความยืดหยุ่นที่สูงที่สุด เหมาะสำหรับโครงการขนาดเล็กหรือโครงการทดลอง ไม่มีกระบวนการวางแผนที่ชัดเจน

 


 

ขั้นตอนการทำงานของ SDLC Model

 

กระบวนการทำงานของ SDLC ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนหลักที่ช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ

 

  • การวางแผน (Planning):

เป็นขั้นตอนแรกที่ทีมจะวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า กำหนดขอบเขตโครงการ ประมาณการงบประมาณ และกำหนดระยะเวลาดำเนินการ

 

  • การวิเคราะห์ความต้องการ (Requirements Analysis):

รวบรวมและจัดทำรายละเอียดความต้องการของผู้ใช้อย่างละเอียด จัดทำเอกสารข้อกำหนดความต้องการ (Requirement Specification)

 

  • การออกแบบ (Design):

นำข้อกำหนดความต้องการมาออกแบบสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ โครงสร้างฐานข้อมูล และส่วนติดต่อผู้ใช้

 

  • การพัฒนา (Development/Coding):

นักพัฒนาเริ่มเขียนโค้ดตามแบบที่ได้ออกแบบไว้ โดยยึดตามข้อกำหนดและมาตรฐานการเขียนโค้ด

 

  • การทดสอบ (Testing):

ตรวจสอบและทดสอบซอฟต์แวร์เพื่อค้นหาข้อบกพร่อง แก้ไขจุดที่มีปัญหา และตรวจสอบความสอดคล้องกับความต้องการ

 

  • การนำไปใช้และบำรุงรักษา (Deployment and Maintenance):

นำซอฟต์แวร์ไปใช้งานจริง พร้อมทั้งให้การสนับสนุนและปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง

 


 

SDLC มีข้อดีอย่างไรบ้าง?

 

SDLC เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ SDLC มีข้อดีมากมายสำหรับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น

 

  • SDLC ช่วยให้ทีมพัฒนาได้วางแผน ทำให้มีแนวทางการทำงานที่เป็นระบบ 
  • มีกระบวนการตรวจสอบและทดสอบอย่างเป็นขั้นตอน ช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มคุณภาพของซอฟต์แวร์
  • ช่วยประมาณการค่าใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงของการใช้งบประมาณเกินความจำเป็น
  • ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ สร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างทีมพัฒนาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  • SDLC Model แต่ละแบบมีความยืดหยุ่นที่สามารถปรับใช้กับโครงการต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
  • ช่วยระบุและบริหารความเสี่ยงตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ

 


 

SDLC แนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ขาดไม่ได้

 

SDLC ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จในปัจจุบัน การเลือกใช้ SDLC Model ที่เหมาะสมจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนา นักวิเคราะห์ระบบ หรือผู้บริหารโครงการ ความเข้าใจใน SDLC จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมืออาชีพ

 


 

แก้ไขครั้งที่ 2 โดย GUEST1649747579 เมื่อ21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 18.49 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา