ปัญหาผิวไหม้แดด ส่งผลกระทบอย่างไรกับผิวบ้าง รักษาให้หายเองได้ไหม?
ผิวไหม้แดดอาการหลังโดนแดดที่สาวๆ กังวล เพราะใช้เวลาฟื้นตัวช้า แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วผิวไหม้แดดสามารถรักษาได้ง่ายกว่าที่คิด มาดูกันว่าผิวไหม้แดดมีสาเหตุจากอะไร ทำอย่างไรไม่ให้อาการรุนแรงไปกว่าเดิม พร้อมแนะนำวิธีรักษาแบบเห็นผลจริง
ผิวไหม้แดดลักษณะเป็นอย่างไร
ผิวไหม้แดดเป็นปัญหาผิวแบบหนึ่งซึ่งมีอาการบ่งชี้หลายแบบต่างกันไปในแต่ละคน ส่วนมากมักพบในลักษณะของผิวเปลี่ยนสีเป็นสีแดง รอยแดงเป็นวงกว้างในบริเวณนอกร่มผ้าที่โดนแดด อาจมีอาการแสบผิวหรือคัน ระคายเคืองร่วมด้วย นอกจากนี้ในบางรายยังพบผิวลอก แผลพุพองเป็นจุดๆ ได้เช่นกัน
ผิวไหม้แดดเกิดบริเวณไหนได้บ้าง?
ผิวไหม้แดดสามารถเป็นได้ทุกตำแหน่งบนร่างกายรวมไปถึงผิวหน้า แต่จะมีความเสี่ยงในบริเวณที่ถูกแสงแดดได้ง่าย เช่น ใบหน้า แขน ขา แผ่นหลัง คอ หรือเท้า อาการผิวไหม้แดดจะยิ่งชัดขึ้นเมื่อโดนแดดในบริเวณผิวที่มีพื้นที่กว้าง หรือตำแหน่งที่พ้นจากเสื้อผ้าเนื่องจากโดนแสงอาทิตย์โดยตรง
สาเหตุของผิวไหม้แดด
ผิวไหม้แดดมีสาเหตุตรงตามชื่อเรียก นั่นคือการโดนแสงแดดเป็นเวลานานนั่นเอง จะยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากในบุคคลที่รับแสง UV โดยตรง ไม่มีการป้องกันด้วยครีมกันแดดหรือสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันผิว ส่วนมากจะเริ่มมีอาการเมื่ออยู่กลางแจ้งเป็นเวลา 2 - 6 ชั่วโมงขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความไวต่อแสงหรือความบอบบางของผิวแต่ละคน
ระดับความรุนแรงของผิวไหม้แดด
ผิวไหม้แดดแบ่งได้ 3 ระดับ ตามลักษณะที่ปรากฏ และความรุนแรงของอาการ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสภาพผิวเฉพาะบุคคล พฤติกรรมการใช้ชีวิต และระดับ UV ช่วงเวลา หรือระยะเวลาในการโดนแดด โดยแบ่งได้ดังต่อไปนี้
- ระดับหนึ่ง
ลักษณะภายนอกของผิวจะยังคงดูเหมือนปกติ มีเพียงรอยแดง หรือความรู้สึกระคายเคืองเล็กน้อย ระยะนี้ผิวยังสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ และจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อมีการดูแลตัวเองร่วมด้วย - ระดับสอง
สังเกตเห็นรอยไหม้บนผิวได้อย่างชัดเจน สามารถเป็นได้ทั้งรอยแดงหรือรอยคล้ำ ร่วมกับอาการบวม แสบ คันรุนแรง หากสัมผัสโดนบริเวณดังกล่าวจะยิ่งรู้สึกเจ็บปวดรุนแรง เป็นระยะที่ผิวเริ่มดูเสีย และใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองนานขึ้น - ระดับสาม
อาการผิวไหม้ชัดเจน ร่วมกับความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนรุนแรง มีตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นบนผิว ระยะนี้เป็นอาการผิวไหม้รุนแรงควรรีบหาวิธีรักษาหรือพบแพทย์โดยด่วน เพื่อป้องกันผลกระทบหรือผลข้างเคียงที่รุนแรง รักษายาก หรือโรคแทรกซ้อนที่จะตามมา เช่น ลมแดด หรือ Heat Stroke
ผิวไหม้แดดอันตรายไหม
ผิวไหม้แดดเป็นอาการที่ไม่อันตราย สามารถรักษาได้ แต่จะส่งผลกระทบกับความรู้สึกและความมั่นใจของผู้มีอาการ เนื่องจากมีแผลพุพอง หรือสีผิวคล้ำเสีย ที่ทำให้เป็นที่สังเกตได้ง่าย รวมไปถึงความรู้สึกปวดแสบปวดร้อน
แต่ผิวไหม้อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้อันตรายต่อร่างกายเพิ่มเติมอย่างโรคมะเร็งผิวหนัง หรือผลกระทบต่อการมองเห็นได้ จากการที่ได้รับรังสีอัลตราไวโอเรตที่ทำร้ายระบบต่างๆ
ผลกระทบที่ตามมาจากผิวไหม้แดด
แม้ว่าผิวไหม้แดดจะเป็นปัญหาผิวที่ก่อความรำคาญใจให้ต้องหาวิธีรักษาแล้ว อาการดังกล่าวยังส่งผลกระทบที่ทำให้ผิวอ่อนแอลงได้ดังนี้
ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน
เมื่อผิวไหม้แดดจะเกิดความแห้งกร้าน หยาบกระด้างตามมาได้ เนื่องจากผิวบริเวณดังกล่าวถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถคงความชุ่มชื้นหรือน้ำหล่อเลี้ยงผิวไว้ได้
ผิวไวต่อแสงมากขึ้น
หลังจากที่ผิวไหม้ไปแล้ว ปราการของผิวจะถูกทำลายลง ส่งผลให้ผิว sensitive กว่าเดิม เมื่อโดนแสงก็จะแสดงอาการได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้ง่ายกว่าเดิมเช่นกัน
ผิวหมองคล้ำลง
ผิวไหม้มักเกิดเป็นหย่อมๆ ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ และยังผิวคล้ำได้ง่ายขึ้นเมื่อพักผ่อนน้อยหรือเจอมลภาวะ จากสาเหตุที่ผิวถูกทำร้ายไปอย่างหนัก
รอยคล้ำ จุดด่างดำ
ผิวไหม้เป็นผลมาจากการโดนแสงอาทิตย์ จึงไม่แปลกเมื่ออาการผิวไหม้มักมาพร้อมรอยคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า และกระ ซึ่งรักษาได้ยากกว่าเดิม
ริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
เมื่อปราการผิวถูกทำลาย โครงสร้างความยืดหยุ่นของผิวก็เสื่อมลงเช่นกัน จึงมีริ้วรอยเกิดขึ้นได้ง่าย รวมไปถึงผิวขาดความกระชับ หย่อนคล้อยได้เช่นกัน
คนที่มีโอกาสผิวไหม้แดดได้มากกว่าปกติ
คนที่มีโอกาสผิวไหม้มักเป็นคนที่มีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการโดนแสงอาทิตย์สูง หรือมีผิวบอบบางอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ได้แก่
- นักกีฬา
- คนที่ทำงานกลางแจ้ง
- คนที่มีผิวบอบบาง ไวต่อแดด
- คนที่พักผ่อนน้อย ผิวขาดเกราะป้องกัน
- คนที่ไม่ทาครีมกันแดด หรือใช้อุปกรณ์ปกป้องผิวจากแสงอาทิตย์
- คนที่ขาดการบำรุงผิวที่เหมาะสม
- คนที่มีอายุที่เพิ่มมากขึ้น
ผิวไหม้แดดหายเองได้ไหม?
ผิวไหม้จะใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวตามระดับความรุนแรงของอาการ หากมีผิวไหม้ระดับหนึ่งก็ยังสามารถหายได้เองภายใน 3 - 5 วันโดยไม่ต้องดูแลรักษามาก แต่หากผิวไหม้มีความรุนแรงระดับสองหรือสามแนะนำให้รักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม เพื่อลดความรุนแรง หรือผลข้างเคียงจากอาการดังกล่าว
เลี่ยงการเกิดผิวไหม้แดดอย่างไรดี?
นอกจากการรักษาผิวไหม้ การป้องกันไม่ให้โดนแดดเผาก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ควรทำร่วมกับการดูแลผิว
สวมชุดที่ปกปิดผิว
- ไม่ควรให้ผิวโดนแดดโดยตรง แต่ควรสวมเสื้อแขนยาว หรือกางร่มทุกครั้งที่ต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ
- ทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง
- ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปสามารถช่วยปกป้องผิวจากแดดได้ ลดโอกาสเกิดผิวไหม้
- งดออกแดดในช่วงที่มี UV แรง
- ช่วงเวลากลางวัน หรือตั้งแต่สายๆ ไปจนบ่ายแก่ๆ เป็นช่วงที่ UV มีความเข้มข้นสูง ควรหลีกเลี่ยงออกแดดในเวลาดังกล่าว
วิธีรักษาผิวไหม้แดด
การรักษาผิวไหม้แดดควรเลือกตามระดับความรุนแรงของอาการ ความต้องการในการรักษา ระยะเวลาที่พึงพอใจ และความสะดวกในการทำ โดยสามารถแบ่งได้ออกเป็นวิธีรักษาแบบธรรมชาติ และหัตถการรักษาผิวไหม้แดดในคลินิก
วิธีธรรมชาติ
งดการสัมผัส แกะ เกา ผิวที่ไหม้แดด
ผิวไหม้ระดับสามมักมาพร้อมแผลถลอกและแผลพุพอง การแกะหรือเกาจะทำให้ผิวถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูผิวได้ช้าลงกว่าเดิม
1. ประคบเย็น
ความเย็นสามารถช่วยลดความระคายเคืองและอาการปวดแสบปวดร้อนของผิวไหม้ได้ ควรใช้ผ้าขาวบางห่อน้ำแข็งแล้วประคบลงบนบริเวณที่มีอาการไหม้ประมาณ 3 - 5 นาที
2. ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์
เมื่อผิวไหม้ ผิวจะถูกดูดความชุ่มชื้นออกไป การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยปรับสภาพผิวให้อาการระคายเคืองลดลง ปลอบประโลมผิว และบำรุงผิวให้ฟื้นฟูตัวเองได้ไวขึ้น โดยเฉพาะมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน ใบบัวบก เป็นต้น
3. ทาว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณที่ช่วยลดการอักเสบ ปลอบประโลมผิว เพิ่มความชุ่มชื้นได้อย่างเร่งด่วน สามารถใช้ว่านหางจระเข้นำมาฝาน ล้างเมือกออก แล้วบดทาบนผิว หรือเลือกเป็นว่านหางจระเข้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็ได้เช่นกัน
วิธีหัตถการรักษาผิวไหม้แดด แบบร่งด่วน
สำหรับคนที่มีความกังวลจากอาการผิวไหม้แดด และต้องการการรักษาแบบเร่งด่วน ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ การทำหัตถการในคลินิกก็ช่วยได้เช่นกัน
1. เลเซอร์หน้าใส
เลเซอร์ผิวหน้าเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหารอยดำ รอยแดง โดยการส่งพลังงานเลเซอร์เปลี่ยนเป็นความร้อนใต้ผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและผลัดเซลล์ผิวได้ ส่งผลให้หลังทำผิวดูกระจ่างใส และดูมีชีวิตชีวาขึ้น ควรเลือกเลเซอร์รุ่นที่เหมาะสม ที่นิยมที่สุดจะเป็น Dual Yellow Laser ที่มีความอ่อนโยน แก้ได้ทั้งรอยดำและรอยแดง
2. ฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใสเป็นการฉีดสารบำรุงผิวลงไปในผิวชั้นกลาง เปรียบเหมือนการบำรุงด้วยสกินแคร์แต่ให้ผลลัพธ์ที่ไวกว่า มีตัวยาให้เลือกหลายแบบ ทั้งเน้นความกระจ่างใส หรือขับสารพิษในผิวก็มีเช่นกัน
3. ฉีดมาเด้คอลลาเจน
มาเด้คอลลาเจนเป็นยี่ห้อหนึ่งของเมโสหน้าใส ใช้เทคนิคในการฉีดที่เฉพาะ คือการฉีด 16 จุดตามตำแหน่งต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้เกิดการขับสารพิษ เหมาะกับคนที่ต้องการปรับผิวให้แข็งแรง ทนต่อมลภาวะได้ดีขึ้น
4. ฉีดรีจูรัน
รีจูรันเป็นตัวยาบำรุงผิวที่ได้จากสารสกัดปลาแซลมอน จึงเหมาะสำหรับฉีดเพื่อปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ลดโอกาสเกิดการแพ้ เนื่องจากเป็นสารสกัดธรรมชาติที่ใกล้เคียงผิวมนุษย์ ให้ผลลัพธ์ในการลดความหมองคล้ำ รวมไปถึงเพิ่มความชุ่มชื้นได้ด้วย
5. ฉีดชาแนล
ชาแนลเป็นตัวยาชนิดหนึ่ง รู้จักกันในชื่อ Filorga ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส โกลว์ และชุ่มชื้น โดยเป็นวิธีแก้ปัญหาผิวไหม้แดดที่เห็นผลได้เร็ว เนื่องจากตัวยามีส่วนผสมของวิตามิน 12 ชนิด ไฮยาลูรอนิค และกรดอะมิโน 23 ชนิด ที่บำรุงผิวได้ดี
6. เทคโนโลยี New Pora Cool
นวัตกรรมฟื้นฟูผิวถูกแดดทำร้ายโดยการใช้วิตามินและแสง LED ส่งให้สารบำรุงลงสู่ผิวได้ดีขึ้น โดยใช้หัวยิงที่ส่งแสง LED สีต่างๆ ที่ให้ผลลัพธ์ต่างกัน อย่างสีน้ำเงินที่ช่วยปรับความกระจ่างใส สีแดงกระตุ้นคอลลาเจน สีเหลืองลดอาการบวมแดง และสีเขียวที่ช่วยลดจุดด่างดำ
7. เติมวิตามินผิว
สำหรับคนที่มีผิว sensitive เกิดอาการผิวไหม้ง่าย วิธีเติมวิตามินผิวก็นับว่าตอบโจทย์ เพราะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ผิวได้รับสารอาหารที่ส่งผลให้ฟื้นตัวได้เร็ว ดูสุขภาพดี กระจ่างใส ผิวนุ่มลื่นขึ้นจากสารบำรุงวิตามินซี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้
สรุป
ผิวไหม้สามารถรักษาได้ และวิธีที่เร่งผลลัพธ์ให้ทันใจที่สุดคือวิธีรักษาด้วยเทคโนโลยีหรือหัตถการในคลินิก แต่ละวิธีจะเหมาะกับบุคคลที่มีสภาพผิวต่างกัน หากได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก็จะได้วิธีที่เหมาะสมได้
ข้อมูลและแหล่งที่มาจาก gangnamconsult
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้