การทำปากกระจับ คืออะไร? อยากได้ทรงปากกระจับสวยๆ ควรเลือกวิธีไหนดี

เทรนด์รูปปากกระจับ ได้รับความนิยมมานาน ซึ่งในปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมอยู่ นั่นก็เพราะว่าเป็นรูปปากที่ชวนมอง มีเสน่ห์ดึงดูด ทั้งในยามปกติ และยามยิ้มแย้ม ดังนั้นบทความวันนี้ จึงนำเสนอวิธีการทำปากกระจับที่เหมาะกับทุกรูปปาก เลือกให้ถูก และเหมาะสม รับรองได้เลยว่า ทำแล้วสวยไม่โป๊ะอย่างแน่นอน

ปากกระจับ คืออะไร

รูปปากกระจับ เป็นลักษณะของริมฝีปากที่โค้งเรียวสวยทั้งริมฝีปากบน และริมฝีปากล่าง คล้ายผลกระจับ และอาจมีมุมปากคล้าย “ปีกนก” ทำให้โดยรวมเป็นรูปปากที่ชวนมอง มีเสน่ห์ และมักเป็นริมฝีปากที่นิยมในผู้หญิง

รูปปากที่เหมาะกับการทำปากกระจับ

การทำปากกระจับ เป็นการเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น สวยงามขึ้น และสร้างความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงล้วนแล้วสามารถทำได้ หากมีเนื้อปากไม่บางจนเกินไป และต้องการให้เป็นทรงมากขึ้น แต่ถ้าหากจะบอกว่าใครที่เหมาะกับการทำปากกระจับ คงต้องเป็นผู้ที่มีลักษณะปากไม่สมดุล และสมควรได้รับการแก้ไข ดังนี้

ปากบนหนา หรือมีลักษณะใหญ่ บวม จนทำให้ไม่เป็นรูปทรง ซึ่งลักษณะปากเช่นนี้หากอยู่ในผู้ชายจะยังไม่ขัดกับโครงหน้า หรือสันกรามที่ชัด แต่หากอยู่ในผู้หญิง จะทำให้ภาพรวมของใบหน้าไม่อ่อนหวาน

ปากคว่ำ มีลักษณะมุมปากคว่ำลง จนทำให้รู้สึกว่ากำลังแสดงสีหน้าเศร้า หรือดูดุ เหมาะกับการทำปากกระจับโดยยกมุมปากขึ้น เพื่อให้ทั้งในเวลาปกติใบหน้าอ่อนโยนขึ้น และเวลายิ้มจะทำให้ยิ้มสวยขึ้น

ลักษณะริมฝีปากที่ดี

การมีรูปทรงริมฝีปากที่สมดุลกันทั้งด้านบนและด้านล่าง ถือว่าเป็นลักษณะของริมฝีปากที่ดี โดยสามารถสังเกตได้ดังนี้

• เนื้อริมฝีปากบนไม่หนาหรือบางจนเกินไป
• เนื้อริมฝีปากล่าง ต้องไม่หนา หรือตกกระทบเนื้อคาง
• มุมปากทั้งซ้ายและขวาต้องยกขึ้น ไม่งุ้มลง
• เนื้อริมฝีปากทั้งหมด ควรเรียบเนียน ชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ไม่มีริ้วรอย
• เนื้อมุมปากไม่คล้ำดำ

รูปทรงปากกระจับ ที่เหมาะกับคนไทย
ใบหน้าของคนเอเชีย ไม่ต้องสร้างมิติให้ชัดเหมือนคนยุโรป ดังนั้นรูปทรงปากกระจับที่เหมาะสมกับคนไทย ก็คือการยกมุมปากขึ้นเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ได้รูปทรงปากกระจับรูปปีกนก จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น

การทำปากกระจับ มีกี่วิธี
เทรนด์รูปปากกระจับ ปัจจุบันได้รับความนิยมทั้งผู้ชาย และผู้หญิง โดยมีเทคนิคการทำ2 วิธี นั่นก็คือ แบบผ่าตัด และ หัตถการความงาม

1. ศัลยกรรมปากกระจับ

เป็นวิธีผ่าตัด โดยการตัดแต่งเอาเนื้อปากส่วนเกินออก และเย็บผิวปากให้ได้รูปกระจับ นอกจากเหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากหนามาก ไม่ได้ทรง และต้องการลดขนาดเนื้อปากให้สมดุลแบบถาวร

ข้อระวังในการศัลยกรรมปากกระจับ

เพราะการศัลยกรรมปาก คือการตัดเนื้อปากออกไปอย่างถาวร ดังนั้นหากเลือกทำกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ และไม่ใส่ดูแลแผลในช่วงพักฟื้น 1 - 2 สัปดาห์แรกหลังทำเสร็จ อาจทำให้เกิดปัญหาดังนี้

• เสี่ยงแผลอักเสบ-ติดเชื้อ อันเกิดได้จากขั้นตอนการผ่าตัด และการดูแลแผลหลังพักฟื้น
• เสี่ยงเกิดรอยแผลเป็น จนทำให้รอยหยักของปากที่ไม่สวย
• เสี่ยงได้รูปปากเบี้ยว ยิ้มแล้วปากผิดรูป หรือเห็นเหงือกเยอะกว่าปกติ

2. ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

เป็นหัตถการเสริมความงามรูปปากที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถปั้นทรงปากและมุมปากได้หลากหลายกว่า อีกทั้งไม่ต้องสูญเสียเนื้อปากจากการผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำเสร็จโดยไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัยสูง ไม่เสี่ยงติดเชื้อจากแผลเย็บ และไม่ก่อให้เกิดรอยแผลเป็นในภายหลัง

ข้อระวังในการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

เหมาะกับคนปากบาง หรือปากไม่หนามาก ที่ต้องการปรับแต่งทรงให้เป็นรูปกระจับ
ผลลัพธ์ไม่ถาวร อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี หากต้องการผลลัพธ์เหมือนเดิม ต้องกลับไปเติมฟิลเลอร์ใหม่อีกครั้ง

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

สำหรับเทคนิคการทำปากกระจับด้วยฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ในปริมาณที่เหมาะสม โดยส่วนใหญ่จะไม่เกิน 1 CC เข้าไปเสริมชั้นผิวหนังปากที่บางให้ได้รูปทรงสวย โดยเติมเต็มได้ทั่วผิวปาก ไม่ว่าจะเป็น ริมฝีปากบน, ริมฝีปากล่าง,เนื้อปาก และมุมปาก

การดูแลตัวเองก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ดังนั้นการเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เพียงแต่ควรระมัดระวังเรื่องดังต่อไปนี้

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

• ศึกษาข้อมูลคลินิก และแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ปากให้ถี่ถ้วน โดยดูจาก รีวิวปากกระจับที่ลูกค้าเคยทำกับคลินิกนั้นๆ และเช็ก
• เสียงตอบรับจากลูกค้าที่เคยทำ
• เข้าปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์
• แจ้งโรงประจำตัว และยาที่ทานอยู่กับแพทย์
• งดผลัดเซลล์ผิวปาก
• งดโดนความร้อน
• หากเป็นแผลบริเวณปาก ควรรักษาให้หายก่อนฉีดฟิลเลอร์

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

• ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและเซตตัวได้ดีขึ้น
• หลีกเลี่ยงให้ผิวปากโดนความร้อนทุกชนิด เช่น แสงแดด, อบซาวน่า, กินอาหารร้อนๆ กินอาหารที่อยู่หน้าเตาร้อนๆ เป็นต้น
• หลีกเลี่ยงการกินอาหารเผ็ดร้อน อันจะทำให้ปากบวมพอง จนอักเสบได้
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง

ฟิลเลอร์ฉีดปากกระจับ เลือกยี่ห้อไหนดี

เพราะปาก เป็นตำแหน่งที่ขยับบ่อย และเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมต้องมีความยืดหยุ่นสูง เนื้อนุ่มและอิ่มฟูพอประมาณ ต้องไม่เป็นเนื้อแข็งเพราะจะทำให้ปั้นทรงยาก และดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่แพทย์แนะนำ ก็ได้แก่ Restylane, Juvederm และ Belotero

ฟิลเลอร์ฉีดปากกระจับ ราคาเท่าไหร่

สำหรับฟิลเลอร์ฉีดปากแต่ละยี่ห้อมีราคาไม่เท่ากัน แต่หากเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 4,000-16,000 บาท ต่อ 1 CC ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละโปรโมชั่นของคลินิกแต่ละแห่ง

ราคาอ้างอิงฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับที่กังนัมคลินิก

• Restylane เริ่มต้น 1cc = 8,623.-
  รุ่นที่แนะนำคือ Restylane Kysse, Restylane Refyne, Restylane Volyme และ Restylane Vital Light
• Juvederm เริ่มต้น 1cc = 10,662.-
  รุ่นที่แนะนำคือ Juvederm Volite, Juvederm Volift, Juvederm Voluma และ Juvederm Ultra Plus
• Belotero เริ่มต้น 1cc = 7,896.-
  รุ่นที่แนะนำคือ Belotero Volume

ทำปากกระจับ เลือกคลินิกไหนดี

หากต้องเลือกคลินิกเพื่อทำปากกระจับ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี เหมาะกับปัญหาพร้อมๆ กับปลอดภัย ไม่เสี่ยงได้รับอันตราย จะต้องเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีชื่อเสียง และสามารถเช็กรีวิวลูกค้าที่เคยเข้ารับบริการได้ อีกทั้งสถานที่ตั้งคลินิกจะต้องเปิดเผย และมีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน อีกทั้งก่อนเข้ารับบริการ สามารถตรวจเช็กฟิลเลอร์ก่อนฉีดจากแพทย์ได้อย่างโปร่งใส

สรุป ทำปากกระจับ เลือกวิธีไหนดีสุด

การทำปากกระจับ หากกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกวิธีไหน ระหว่างการเข้ารับศัลยกรรมผ่าตัด กับการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ จะต้องดูพื้นเดิมของเนื้อปากก่อนว่าเราเหมาะที่จะทำแบบไหน หากพื้นเดิมเป็นคนเนื้อปากเยอะ บวม นูน จนทำให้ดูปากใหญ่ห้อย สามารถแก้ไขได้ด้วยศัลยกรรมผ่าตัดปากกระจับ แต่หากพื้นฐานเป็นคนที่มีเนื้อปากไม่มาก-ปานกลาง และต้องการปรับรูปทรงปีกนกให้มีลักษณะกระจับ ใช้วิธีฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับจะให้ผลลัพธ์ที่ดี ชัดเจนที่สุด

หากใครต้องการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการปรับรูปทรงปากกระจับสามารถอ่านเพิ่มเติม
https://www.gangnamconsult.com/horn-chestnut-shaped-lips/