เคล็ดลับลดถุงใต้ตาบวม ผิวใต้ตาหย่อนคล้อย สำหรับคนที่หน้าดูอดนอน
ปัญหาถุงใต้ตาบวมเป็นอาการที่เกิดได้บ่อยๆ ในคนที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตเร่งรีบ ขาดการดูแลตัวเอง ไปจนถึงคนที่มีอายุเพิ่มขึ้นแล้วเกิดถุงใต้ตาหย่อนคล้อยตามธรรมชาติ
ปัญหาถุงใต้ตาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละคนจึงอาจไม่เหมาะกับการใช้วิธีรักษาแบบเดียวกัน แต่ควรเลือกให้เหมาะกับปัจจัยเฉพาะบุคคล จะมีวิธีไหนที่ช่วยรักษาถุงใต้ตาบวมได้บ้างมาดูกันได้เลย
ลักษณะของถุงใต้ตาบวม
ถุงใต้ตาบวมคืออาการที่บริเวณผิวหนังใต้ตาบวมปูดขึ้นมามากกว่าปกติ เหมือนมีก้อนอยู่ที่ใต้ตา เกิดขึ้นในลักษณะแตกต่างกัน เป็นได้ทั้งอาการชั่วคราวหลังจากตื่นนอน พักผ่อนน้อย หรือมีถุงใต้ตาบวมตลอดวันเลยก็ได้เช่นกันแล้วแต่สาเหตุการเกิด ในหลายเคสพบลักษณะใต้ตาดำหรือริ้วรอยร่วมด้วย
ถุงใต้ตาบวมมีกี่แบบ?
ถุงใต้ตาแบ่งได้เป็น 2 แบบจากลักษณะการเกิด ได้แก่
ถุงใต้ตาเทียม
ถุงใต้ตาเทียม เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อทำพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ส่งผลกระทบกับผิวใต้ดวงตา ทำให้เกิดถุงใต้ตาบวมชั่วคราวในช่วงหนึ่งก่อนจะหายไปเอง
ถุงใต้ตาแท้
ถุงใต้ตาแท้มักเป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะยาว ซึ่งมีผลกระทบมาจากการทำงานของร่างกายที่เปลี่ยนไป อายุมากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวบริเวณดวงตาและถุงไขมันหย่อนคล้อย
ต้นเหตุของถุงใต้ตาบวมมาจากอะไรบ้าง?
สาเหตุของถุงใต้ตาบวมเกิดจากปัจจัย 2 ประเภท สอดคล้องกับประเภทของถุงใต้ตา นั่นคือ ปัจจัยจากความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และปัจจัยจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ถุงใต้ตาจากความเปลี่ยนแปลงร่างกาย
- ระบบต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ
ส่งผลให้เกิดการรวมตัวของไขมันบริเวณใต้ตามากผิดปกติ ถุงใต้ตาคั่งน้ำ ทำให้ใต้ตาดูมีถุงป่องๆ ปูดขึ้นมา - อายุเพิ่มขึ้น
อายุที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้การทำงานของเซลล์ผิวและไขมันเปลี่ยนไป โครงสร้างผิวอ่อนแอส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา
ถุงใต้ตาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- ขยี้ตาบ่อย
การขยี้ตาส่งผลให้หลอดเลือดบริเวณรอบดวงตาขยายทำให้ใต้ตาบวมปูดขึ้นมาได้ - ร้องไห้เยอะ
ในขณะที่ร้องไห้ดวงตาจะผลิตน้ำตาออกมาทำให้ผิวหนังโดยรอบต้องดูดซับน้ำตาเอาไว้ รอบดวงตาจึงมีอาการบวมขึ้นได้ง่าย - พักผ่อนน้อย
เวลาพักผ่อนน้อยร่างกายจะไม่ได้ซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ กระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดซึ่งส่งผลให้เกิดถุงใต้ตานั่นเอง - ดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์สามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะความดันตาลง กลายเป็นถุงใต้ตาได้
ถุงใต้ตาเป็นอันตรายไหม?
ถุงใต้ตาบวมมีสาเหตุการเกิดหลายแบบ ถุงใต้ตาที่เกิดจากปัจจัยภายนอกหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนดึก ร้องไห้หนัก หรืออายุที่เพิ่มขึ้น ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่หากถุงใต้ตามีลักษณะใหญ่มากเกินปกติ มีอาการแดงร่วมด้วย ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการแพ้หรืออักเสบซึ่งเป็นอันตรายได้ ควรพบแพทย์โดยทันทีเพื่อรักษา
ถุงใต้ตาบวมเป็นสัญญาณของโรคอะไรบ้าง?
ถุงใต้ตาบวมที่ดูผิดปกติอาจบ่งบอกอาการของโรคบางชนิดได้ดังนี้
- ภูมิแพ้
ในเคสที่มีถุงใต้ตาพร้อมอาการระคายเคือง แสบ หรือคันตา อาจบ่งบอกได้ถึงอาการภูมิแพ้ได้ ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ฝุ่นควันทั่วไป หรือแพ้อาหาร ตามแต่อาการแพ้ของแต่ละคน - ไทรอยด์ที่ใต้ตา
ใต้ตาบวมปูด ดูตาโปน รู้สึกตาพร่าง่ายเมื่อโดนแสง มองไม่ชัด หรือเห็นภาพซ้อน เป็นอาการที่บ่งชี้โรคตาไทรอยด์ (Thyroid Eye Disease) เกิดจากการมีฮอร์โมนสะสมที่กล้ามเนื้อหลังดวงตาปริมาณมาก ควบคู่กับภาวะเซลล์ไขมันพองตัวจึงส่งผลให้ใต้ตาดูบวมขึ้นผิดปกติ - เยื่อบุตาอักเสบ
คนที่ใต้ตาบวมแล้วมีอาการตาแดง มีหนอง รู้สึกแสบร้อนเหมือนไข้ขึ้นตา เป็นอาการที่บ่งชี้โรคเยื่อบุตาอักเสบซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อที่ต่อมน้ำตาหรือในรูขุมขนได้ - โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในตา
ถุงใต้ตาที่มีการบวมรอบดวงตาทั้งบริเวณชั้นตาและใต้ตาสามารถบ่งชี้โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในตาได้ หากไม่ทำการรักษาอาจรุนแรงขึ้นจนกระทบต่อการมองเห็นได้ - ภาวะไตอ่อนแอ
ถุงใต้ตาบวมสามารถแสดงอาการของโรคไตได้ หากเป็นการบวมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นนานหลายวัน โดยที่ก่อนหน้าเกิดอาการบวมไม่ได้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผล
ถุงใต้ตาบวมแค่ข้างเดียวผิดปกติไหม?
อาการถุงใต้ตาบวมเพียงข้างเดียวเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ หรือเยื่อบุตาอักเสบได้ โดยมีอาการร่วมคือ มีไข้ บวมแดง หรือรู้สึกปวด แนะนำให้พบแพทย์หรือทานยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาให้หาย
มีถุงใต้ตาส่งผลเสียอย่างไร?
การมีถุงใต้ตาแบบทั่วไปที่ไม่ได้กระทบต่อสุขภาพแม้ว่าไม่ได้เป็นอันตราย แต่ก็สามารถส่งผลเสียได้ดังนี้
- ดูสูงวัยขึ้น
- ทำให้เห็นริ้วรอยรอบดวงตาได้ชัดขึ้น
- เสียบุคลิกภาพ เหมือนอดนอน
- แต่งหน้ายากขึ้น ต้องใช้เมคอัพช่วยปกปิด
- ทำให้ขาดความมั่นใจได้
7 วิธีลดถุงใต้ตา เลือกวิธีไหนดี?
สำหรับคนที่มองหาวิธีลดถุงใต้ตาอยู่แนะนำ 7 วิธีต่อไปนี้
1.ประคบใต้ตาด้วยน้ำแข็ง
การประคบเย็น หรือใช้น้ำแข็งประคบใต้ตา เป็นการใช้ความเย็นลดอาการบวมใต้ตา และลดความคล้ำใต้ตาได้ เห็นผลดีกับคนที่มีถุงใต้ตาเทียม เช่น นอนดึก ร้องไห้หนัก หรืออาการตาบวมหลังตื่นนอนได้
2.มาสก์เปลือกตา
การเพิ่มความชุ่มชื้นให้เปลือกตาเป็นวิธีที่ช่วยลดถุงใต้ตาเทียมได้ดี สามารถเลือกใช้มาสก์แบบครีม ผลิตภัณฑ์ดูแลรอบดวงตาที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือเลือกสูตร DIY อย่างมะเขือเทศ แตงกวา ถุงชามาโปะไว้บนเปลือกตา ก็ช่วยลดอาการบวมได้เช่นกัน
3.โบท็อกใต้ตา
โบท็อกเป็นสารที่ช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว เมื่อฉีดบริเวณใต้ตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อถุงใต้ตาหดตัวลง แต่เป็นวิธีที่เห็นผลเฉพาะบริเวณผิวหนังชั้นตื้น ช่วยลดริ้วรอยได้ แต่อาจไม่เห็นผลลัพธ์การลดถุงใต้ตาได้ดีมากนัก
4.ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์เป็นการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิแอซิดเข้าไปปรับสภาพผิวให้ดูเต่งตึง กระชับขึ้น เมื่อฉีดบริเวณใต้ตาจะช่วยทำให้ผิวใต้ตาหย่อนคล้อยดูเรียบเนียน ลดการบวมนูน ใต้ตาดูเต็มขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาจากอายุที่เพิ่มขึ้น
5.Ultraformer III
เทคโนโลยียกกระชับ Ultraformer เป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเข้าไปสลายไขมันใต้ตาเพื่อปรับสภาพให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นผลเรื่องลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้อีกด้วย เป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่กลัวเข็มสามารถทำได้
6.ดูดไขมันใต้ตา
คนที่ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยเพราะมีไขมันสะสมเยอะสามารถรักษาด้วยการดูดไขมันใต้ตาได้ วิธีนี้จะมีการเจาะท่อขนาดเล็กพิเศษเพื่อดูดไขมันออกมา ทำให้มีผลข้างเคียงเป็นอาการบวมช้ำหลังทำ
7.ผ่าตัดถุงใต้ตา
สำหรับคนที่ต้องการวิธีแก้ปัญหาถุงใต้ตาแบบถาวรการทำศัลยกรรมเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สุด มี 2 เทคนิคหลักๆ นั่นคือการกรีดใต้ตานำไขมันหรือเนื้อเยื่อส่วนเกินออก หรือการใช้เลเซอร์เพื่อดูดไขมันออกจากถุงใต้ตา มีขั้นตอนและความซับซ้อนสูง ต้องมั่นใจว่าเลือกทำกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ลดถุงใต้ตาด้วยวิธีไหนเห็นผลไวสุด?
วิธีลดถุงใต้ตาแบบเห็นผลเร็วและคงผลลัพธ์ได้ดีในระยะยาว คือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และการทำ Ultraformer III เนื่องจากเป็นวิธีที่ช่วยปรับโครงสร้างถึงชั้นผิวจึงเห็นผลได้ดี แต่ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ แม้จะไม่ได้คงสภาพถาวรก็นับเป็นวิธีสะดวก เนื่องจากคนไข้ยังสามารถกลับไปทำซ้ำต่อเนื่องเพื่อคงผลลัพธ์ไว้ได้
ทำหัตถการลดถุงใต้ตาพร้อมยกกระชับถุงใต้ตาได้ไหม?
การแก้ปัญหาถุงใต้ตาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สามารถเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีได้ แต่ในบางเคสหากอยู่ภายใต้การดูแลและการแนะนำของแพทย์ก็สามารถเลือกทำหัตถการลดถุงใต้ตาพร้อมการยกกระชับผิวได้
รักษาถุงใต้ตาควรระวังเรื่องใดบ้าง?
กรณีรักษาถุงใต้ตากับคลินิก อันดับแรกควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ เปิดบริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายกำหนด มีการให้ความสำคัญกับความสะอาดและความปลอดภัย ใช้อุปกรณ์และตัวยาที่มีคุณภาพ และมีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเป็นคนทำให้ เพราะใต้ตาเป็นบริเวณที่มีความบอบบาง หากทำอย่างไม่ถูกวิธีก็เสี่ยงเกิดอันตรายได้
หลังรักษาถุงใต้ตาควรดูแลอย่างไร?
เนื่องจากถุงใต้ตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ แม้มีการรักษาด้วยวิธีที่ได้ประสิทธิภาพก็ยังสามารถกลับมาเป็นได้อีกด้วยระยะเวลาที่ผ่านไป ตัวยาหมดสภาพ หรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จึงควรดูแลด้วยวิธีต่อไปนี้เพื่อช่วยคงสภาพการรักษา
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอและเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงความเครียด
- ทาครีมบำรุงผิวรอบดวงตาเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงอาทิตย์โดยตรง รวมทั้งมลภาวะและฝุ่นควัน
สำหรับคนที่เป็นถุงใต้ตาแท้และต้องการรักษาแบบเห็นผล เลือกใช้วิธีการทางการแพทย์จะตอบโจทย์ที่สุด เพราะเป็นการรักษาอย่างตรงจุด แนะนำการยกกระชับ Ultraformer III หรือเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ได้ประสิทธิภาพที่ดี แต่ควรศึกษาคลินิกที่เลือกทำให้ดี เพราะหากได้แพทย์หรือเครื่องทำที่ได้มาตรฐานก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจยิ่งขึ้น
ขอบคุณแหล่งข้อมูลและสาระดีๆจาก
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้