8 ข้อควรรู้ก่อนทำเลสิคที่ไหนดี
ผู้ที่ต้องประสบกับความยากลำบากต่าง ๆ เกี่ยวกับการมองเห็นไม่ว่าจะเป็นค่าสายตาสั้น ยาว เอียง จนจำเป็นต้องใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์เพื่อช่วยให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน แต่ในบางครั้งการใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ก็มีข้อจำกัด เพื่อที่จะรักษาปัญหาสายตาเหล่านี้ เลสิค จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยทำให้ค่าสายตากลับมาเป็นปกติอย่างถาวร แต่ทำเลสิคตาที่ไหนดี ทางบทความได้เตรียม 8 ข้อควรรู้ก่อนทำเลสิคตาที่ไหนดี เพื่อรักษาค่าสายตาได้อย่างปลอกภัยและไม่เป็นปัญหากวนใจอีกต่อไป
การทำเลสิคคืออะไร
การทำเลสิค คือ การรักษาความผิดปกติของค่าสายตาด้วยการผ่าตัดด้วยใช้เลเซอร์ โดยจะใช้เลเซอร์ผ่าชั้นกระจกตาและทำการปรับความโค้งของกระจกตาให้มีรูปร่างที่สมดุลเหมาะสม แล้วจึงทำการปิดชั้นกระจกตาเข้าที่เดิม
เลสิคมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
การทำเลสิคมีอยู่หลายประเภท โดยแต่ละประเภทก็จะมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกทำเลสิคที่ไหนดี ควรพิจารณาถึงประเภทการทำเลสิคที่เหมาะสมกับร่างกายก่อน โดยเลสิคมีหลัก ๆ 4 ประเภท ดังนี้
1. PRK (Photorefractive Keratectomy)
เรียกได้ว่าเป็นการผ่าตัดสายตายุคแรก ๆ โดยใช้แสงเลเซอร์ในการปรับผิวความโค้งกระจกตาโดยตรงแล้วปิดแผลด้วยคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษเพื่อให้แผลสมานตัวและเกิดการสร้างผิวประมาณ 5-7 วันแล้วจึงถอดคอนแทคเลนส์ออก การทำ PRK เป็นการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่มีกระจกตาบาง และไม่ทำให้ฝากระจกตาเคลื่อนเนื่องจากไม่มีการผ่าชั้นกระจกตา แต่มีข้อจำกัดคือมีอาการข้างเคียง เช่น ระคายเคือง ตาไม่สู้แสง และอาการอื่น ๆ เนื่องจากเป็นการรักษาโดยปรับความโค้งของกระจกตาโดยตรงและใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าการทำเลสิครูปแบบอื่น
2. เลสิคแบบใช้ใบมีด(Blade LASIK)
เป็นการผ่าตัดรักษาค่าสายตาโดยใช้ใบมีดเปิดชั้นกระจกตา แล้วนำ Excimer laser เพื่อปรับแต่งความโค้งของกระจกตาให้มีความเหมาะสม จากนั้นจึงปิดชั้นกระจกตาเข้าที่เดิม โดยการผ่าตัดเลสิคแบบใช้ใบมีดใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยอีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายไม่สูง จึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากมีการเปิดชั้นกระจกตาจึงทำให้เกิดแผลบนผิวกระจกตา และหลังการรักษามีโอกาสตาแห้งมาก
3. เฟมโตเลสิค(FemtoLASIK)
เป็นการผ่าตัดเลสิคแบบไร้ใบมีด โดยใช้ Femtosecond Laser เพื่อแยกชั้นกระจกตาแล้วนำ Excimer Laser มาใช้ในการปรับแต่งความโค้งกระจกตาให้มีรูปร่างที่เหมาะสม และทำการปิดชั้นกระจกตา ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้มีความแม่นยำมากกว่าการผ่าตัดเลสิคแบบใช้ใบมีด อีกทั้งแผลที่เกิดจากการผ่าตัดสามารถสมานตัวได้อย่างดี จึงมีโอกาสติดเชื้อน้อย แต่มีจุดด้อยที่ว่ามีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การอักเสบในชั้นกระจกตา กระจกตาหมอก และอื่น ๆ
4. รีเลกส์ สมายล์ (ReLEx SMILE)
เป็นการผ่าตัดเลสิคแบบไร้ใบมีดด้วยเทคโนโลยีสมัยล่าสุด โดยใช้ Femtosecond Laser ในการแยกชั้นกระจกตาเป็นรูปเลนส์แล้วดึงออกผ่านแผลขนาดประมาณ 2-4 มิลลิเมตร เพื่อปรับตัวความโค้งของกระจกตาให้มีความโค้งสมดุล ซึ่งการผ่าตัดประเภทนี้จะใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งแผลจากการผ่าตัดมีขนาดเล็กมากและไม่จำเป็นต้องเย็บปิดแผล จึงทำให้แผลสมานตัวเร็วและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ แต่มีข้อจำกัดที่ว่าไม่สามารถผ่าตัดรักษาสายตายาวได้และมีค่ารักษาสูง
ทำเลสิคที่ไหนดี
การเลือกศูนย์เลสิคเพื่อทำการรักษาค่าสายตาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะดวงตาเป็นอวัยวะบอบบางที่ใช้ในการมองเห็น หากเลือกสถานที่ผิด ก็อาจจะเกิดอันตรายกับดวงตาและการมองเห็นขึ้นได้ ดังนั้นทำเลสิคที่ไหนดี จึงควรพิจารณาจากเกณฑ์ 8 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. โรงพยาบาลหรือศูนย์เลสิคต้องได้มาตรฐาน
มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
โดยต้องแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลในจุดที่สามารถเห็นง่าย และมีรายละเอียดอย่างครบถ้วน
สถานพยาบาลสะอาด มีมาตรฐานความปลอดภัย
เพื่อให้การรักษาเป็นไปได้อย่างปลอดภัย โรงพยาบาลหรือศูนย์เลสิคนั้น ๆ ต้องได้รับมาตรฐานสากล เช่น ISO ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทั้งโลกให้ความสำคัญโดยแสดงถึงคุณภาพและความปลอดภัยภายในองค์กรนั้น ๆ
2. จักษุแพทย์เลสิคที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ทำเลสิคที่ไหนดี จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากจักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความละเอียดอ่อนมาก หากรักษาผิดพลาดอาจจะส่งผลทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
โดยจักษุแพทย์ต้องจบจากสาขาจักษุวิทยาโดยตรง หรือมีความรู้เฉพาะทางทางด้านการแก้ไขสายตาผิดปกติ รวมถึงกระจกตาด้วย นอกจากนี้แล้วควรเลือกจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษาและสามารถตรวจสอบรายชื่อ ประวัติ ได้ด้วย
3. อุปกรณ์ครบ เทคโนโลยีทันสมัย
ศูนย์เลสิคที่ควรเลือกทำเลสิคที่ไหนดี ควรมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาอย่างครบครัน โดยอุปกรณ์เหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอยู่เสมอว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ อีกทั้งควรใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา เช่น ในปัจจุบันเลสิคมีทางเลือกในการใช้เลเซอร์แทนใบมีดเพื่อผ่าตัดชั้นดวงตา ซึ่งการใช้เลเซอร์ผ่าตัดแทนจะมีความแม่นยำ ความปลอดภัย และแผลจากการผ่าตัดด้วยเลเซอร์มีขนาดเล็กจึงทำให้ใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน
4. มีทางเลือกในการทำเลสิคที่หลากหลาย
เนื่องจากในปัจจุบันมีประเภทเลสิคให้เลือกทำการรักษาหลายรูปแบบ หากต้องการเลือกทำเลสิคที่ไหนดี ก็ควรเลือกศูนย์เลสิคที่มีการรักษาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำเลสิคแบบ ReLEx SMILE FemtoLASIK เลสิคดั้งเดิม รวมถึงการทำ PRK เพราะในแต่ละประเภทของเลสิคก็มีความเหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษาที่แตกต่างกัน อีกทั้งการรักษาเลสิคบางประเภทก็จะมีข้อจำกัด ซึ่งทำให้ผู้เข้ารับการรักษาบางกลุ่มไม่สามารถรักษาได้ด้วยเช่นกัน เช่น การทำ ReLEx SMILE ไม่สามารถรักษาผู้ที่มีสายตายาวได้ เป็นต้น
5. ศูนย์เลสิคที่เดินทางสะดวก
สถานที่ตั้งของศูนย์เลสิคก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำหรับการเลือกทำเลสิคที่ไหนดี โดยสถานที่ทำนั้นควรอยู่ใกล้ที่อยู่อาศัยของตนเอง หรือตั้งอยู่ในที่ที่มีขนส่งสาธารณะผ่าน เช่น รถไฟฟ้า รถประจำทาง หรือ รถโดยสาร เป็นต้น
ซึ่งสาเหตุที่ต้องอยู่ในแหล่งที่มีขนส่งผ่าน คือ ในการทำเลสิค อาจจะต้องนัด follow up เพื่อติดตามอาการต่าง ๆ หลังจากการผ่าตัดเลสิคว่าเป็นไปได้ด้วยดีหรือไม่ หรือในบางกรณีที่หลังจากผ่าตัดแล้วเกิดอาการแทรกซ้อนหรืออาการผิดปกติต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมองเห็นขึ้น จะได้วินิจฉัยและเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
6. ราคาค่ารักษาสมเหตุสมผล
เนื่องจากการทำเลสิคมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงควรพิจารณาเลือกศูนย์เลสิคที่มีความเหมาะสมกับงบประมาณที่มี โดยจะต้องเลือกศูนย์ทำเลสิคมีราคาค่ารักษาอย่างสมเหตุสมผลและจะต้องมีการแจ้งราคาค่ารักษาอย่างละเอียด
อีกสาเหตุหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ โปรโมชั่น เพราะโปรโมชั่นจะเป็นสิ่งที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ป่วยได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เช่น การผ่อนชำระ ซึ่งทำให้ผู้ที่ต้องการผ่าตัดเลสิคแต่มีงบประมาณไม่มากสามารถเข้ารับการรักษาได้ หากผู้อ่านกำลังสงสัยว่าทำเลสิคที่ไหนที่ดีที่จะคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่าย ทางบทความได้มีตัวอย่างโปรโมชั่นค่าทำ FemtoLASIK ของทางสมิติเวช ไชน่าทาวน์ เพื่อการพิจารณา
7. มีการดูแลคนไข้ที่ดีทั้งก่อนและหลังการรักษา
ก่อนเข้ารับการรักษา ควรเลือกศูนย์เลสิคที่คอยให้บริการและให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีตอนก่อนการรักษา เพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการรักษารับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง และมีความรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจในการเข้ารับบริการมากยิ่งขึ้น และหลังเข้ารับการรักษาก็ควรมีเจ้าหน้าที่ที่คอยติดตามดูแลอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เกิดอาการแทรกซ้อน จะได้เข้ารับการรักษาโดยด่วน
ดังนั้น ทำเลสิคที่ไหนดี ก็ควรพิจารณาถึงเจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการด้วย เพราะความเชื่อใจ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้การรักษาประสบความสำเร็จ
8. มีรีวิวเคสการรักษาที่น่าเชื่อถือ
ก่อนที่จะเข้ารับบริการต่าง ๆ นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว การค้นหารีวิวเคสการรักษาของศูนย์เลสิคนั้น ๆ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะการอ่านรีวิวผู้ที่เข้ารับการรักษาในสถานที่นั้น ๆ จริงหมายถึงว่าสถานที่นั้นมีการดำเนินการรักษาอย่างไร รักษาได้ผล มีความปลอดภัย รวมถึงมีการให้บริการที่เหมาะสมหรือไม่ เรียกได้ว่าการรีวิวจะเป็นตัวที่ช่วยตัดสินใจอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้
โดยเฉพาะการทำเลสิคมีความเสี่ยงกับดวงตาเป็นอย่างมากหากได้รับการรักษาอย่างไม่ถูกต้อง กรณีที่ศูนย์เลสิคมีรีวิวเคสรักษาที่มีความน่าเชื่อถือ ก็จะช่วยผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกทำเลสิคที่ไหนดีรู้สึกมีความไว้วางใจในสถานที่รักษานั้น ๆ มากยิ่งขึ้น
เลสิคในกรุงเทพมีที่ไหนบ้าง
สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตา ต้องการให้สายตากลับมามองเห็นได้ชัดเหมือนปกติจากการที่มีสายตาสั้นกรรมพันธุ์ ภาวะทางค่าสายตาต่าง ๆ การทำเลสิคก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากแล้วจะทำเลสิกที่ไหนดีที่ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาได้อย่างดี มีรีวิวเคสชัดเจน ที่สำคัญอยู่ในกรุงเทพจะมีที่ไหนบ้างดังนี้
- โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น
- โรงพยาบาลยันฮี
- โรงพยาบาลพระรามเก้า
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
- โรงพยาบาลลาดพร้าว
- โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
- โรงพยาบาลวิภาวดี
- โรงพยาบาล ตา หู คอ จมูก
- โรงพยาบาลกรุงเทพ
การทำเลสิค ราคาเท่าไหร่
เลสิกที่ไหนดีและการทำเลสิคส่วนมากจะราคาเท่าไหร่ ราคาของการทำเลสิคจะขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาล แต่ละค่าสายตาของคนไข้ด้วยเพราะจะต้องใช้วิธีรักษาหรือเทคนิคที่แตกต่างกันออกไปและแล้วแต่โปรโมชั่นในขณะนั้นโดยสมิติเวช ไชน่าทาวน์ได้จัดทำแพ็กเกจทำเลสิคสำหรับผู้ที่ต้องการรักษามาในราคาพิเศษได้แก่
- วิธีรักษาแบบ ReLEx® SMILE ในราคาพิเศษ 88,000 บาทจากปกติ 120,000 บาทที่จะรักษาค่าสายตาสั้นได้สูงสุดถึง 1,000 และค่าสายตาเอียงอยู่ที่ 500
- วิธีรักษาแบบ Femto-Lasik ในราคาพิเศษ 55,000 บาทจากปกติ 79,000 บาทที่จะรักษาค่าสายตาสั้นได้สูงสุดถึง 1,300 และค่าสายตาเอียงอยู่ที่ 500 โดยอยู่กับความหนาของกระจกตา
- วิธีรักษาแบบ Lasik ในราคาพิเศษ 37,000 บาทจากปกติ 54,000 บาทที่จะรักษาค่าสายตาสั้นได้สูงสุดถึง 1,300 และค่าสายตาเอียงที่ 500 โดยอยู่กับความหนาของกระจกตาคนไข้ด้วย
- วิธีรักษาแบบ Photorefractive Keratectomy ในราคาพิเศษ 35,000 บาทจากปกติ 54,000 บาทที่จะรักษาค่าสายตาสั้นของคุณที่สูงสุด 500 และค่าสายตาเอียงอยู่ที่ 500 เหมาะกับผู้ที่มีกระจกตาบางโดยเฉพาะ
การเตรียมตัวก่อนเริ่มต้นทำเลสิคและมีข้อควรปฏิบัติหลังจากการทำเลสิคอย่างไร
การเตรียมตัวก่อนเริ่มทำเลสิคต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างนอกจากศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เลสิกที่ไหนดีแล้วยังต้องรู้จักการเตรียมตัวก่อนทำเลสิคด้วยโดยเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสอบถามเพื่อความแน่นอน ชัดเจนว่าจะทำเลสิคประเภทไหนและต้องเตรียมตัวอย่างไรโดยส่วนมากแพทย์จะแนะนำการเตรียมตัวก่อนทำเลสิคและมีข้อควรปฏิบัติหลังจากการทำเลสิคดังนี้
- งดใส่คอนแทคเลนส์และงดแต่งหน้าบริเวณดวงตาก่อนเข้ารับการทำเลสิค
- ไม่ใช้น้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยทาก่อนการทำเลสิค
- ควรสวมเสื้อที่ถอดง่ายมีกระดุมเพราะจะได้ไม่กระทบบริเวณรอบดวงตาเวลาถอดเสื้อ
- ควรมีญาติมาดูแลหลังทำเลสิคและไม่ควรขับรถมาเองเนื่องจากจะมองเห็นไม่ชัดหลังผ่าตัดในช่วงแรก
- ถ้ารู้สึกผิดปกติก่อนเข้ารับการรักษาเช่น คันบริเวณรอบดวงตา รู้สึกระคายเคืองและปวดตา ปวดหัวเป็นไข้ให้แจ้งล่วงหน้าก่อนเข้ารับการรักษา
- งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนเข้ารับการทำเลสิคเพราะจะมีผลในขณะผ่าตัด
- หลังจากการทำเลสิคห้ามขยี้ตาโดยเด็ดขาดและในขณะที่นอนหลับควรครอบตาด้วยฝาปิดตาเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์เพื่อป้องกันการเผลอขยี้ตาเวลานอนหลับ
- ไม่ควรให้น้ำไหลเข้าตาเวลาอาบน้ำถ้าจะสระผมแนะนำให้สารผมที่ร้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- เช็ดทำความสะอาดดวงตาเช้า-เย็นด้วยน้ำเกลือเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- ควรเตรียมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงที่จะมาทำร้ายดวงตาหลังการผ่าตัดและหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นเวลา 1 เดือน
- หลังจากการทำเลสิคไม่ควรแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตาเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- ไม่ควรใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ จากการดูโทรศัพท์หรือใช้คอมพิวเตอร์
- งดสูบบุหรี่และกินอาหารปิ้งย่างเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพราะควันจะระคายเคืองแก่ดวงตาได้
- ออกกำลังกายได้แต่ไม่หนักมากและควรระวังไม่ให้เหงื่อไหลเข้าตา
- มาตามนัดทุกครั้งเพราะหากมีการผิดปกติหรือปวดตาแพทย์จะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ข้อสรุป
สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสายตาอย่างถาวร มักจะตั้งคำถามว่า ทำเลสิคที่ไหนดี ซึ่งการทำเลสิคนั้นนอกจากจะต้องคำนึงถึง 8 ข้อแนะนำที่ได้อธิบายไว้ในข้างต้นแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจทำเลสิค ทางบทความขอแนะนำว่าควรเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและรับการตรวจสุขภาพตาก่อน ว่าร่างกายของตนเองเหมาะกับการทำเลสิคประเภทไหน เนื่องจากเลสิคแต่ละประเภทก็จะมีข้อจำกัดแตกต่างกันออกไปซึ่งบางคนอาจจะไม่สามารถเข้ารับการรักษาด้วยการทำเลสิคได้ และหลังจากพิจารณาแล้วจะได้เตรียมการวางแผนการรักษาต่อไปเพื่อให้ดวงตากลับมามองเห็นได้อย่างปกติและปลอดภัย
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้