5 ขั้นตอนเตรียมความพร้อมก่อน กู้ซื้อบ้าน อนุมัติง่ายขึ้นแน่นอน

สำหรับใครที่กำลองวางแผนว่าจะซื้อบ้าน หรือซื้อคอนโด แม้เงินเดือนจะเข้าเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดและเตรียมเอกสารทุกอย่างครบถ้วนก็ใช่ว่าจะผ่านอนุมัติอย่างที่ใจต้องการ วันนี้เรามี 5 เช็คลิสต์ขั้นตอนก่อนกู้บ้าน ผ่อนคอนโดเดือนละ 5000 กรุงไทยแนะนำมาฝากกัน

• ตรวจสอบสถานะทางการเงิน

เริ่มต้นขั้นตอนแรกในการ กู้ซื้อบ้าน คือการตรวจสอบสถานะการเงิน ขั้นตอนสำคัญที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม แต่การตรวจสอบสถานะการเงินของตัวเองจะช่วยให้รู้ว่าปัจจุบันตัวเองมีรายได้สุทธิต่อเดือน หนี้สิน และมีเงินเหลือต่อเดือนเท่าไร ซึ่งจะช่วยให้ผู้กู้จัดการปิดยอดหนี้ที่มีอยู่และประเมินความพร้อมในการชำระหนี้ในอนาคตได้ง่ายขึ้น

• สร้างความน่าเชื่อถือทางการเงิน

เรื่องของรายได้และความมั่นคงทางการเงินก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ทางธนาคารมั่นใจ และยังตรวจสอบประวัติทางการเงินจาก Statement และเครดิตบูโร เพราะฉะนั้นหากกำลังวางแผน กู้ซื้อคอนโด หรือบ้านควรสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงินด้วยการเดินบัญชีเงินฝากและเหลือเงินในบัญชีเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ

• เปรียบเทียบสินเชื่อบ้านจากหลาย ๆ ธนาคาร

ก่อนตัดสินใจเลือกสินเชื่อบ้านแนะนำว่าควรเปรียบเทียบรายละเอียดและเงื่อนไขของธนาคารอย่างละเอียด โดยเฉพาะข้อมูลวงเงินสูงสุด ระยะเวลาในการผ่อนชำระ ค่าธรรมเนียม ข้อเสนอการทำประกันชีวิต ประกันคุ้มครองสินเชื่อ คุณสมบัติของผู้ขอ กู้บ้าน และอัตราดอกเบี้ย เพื่อนำค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาคำนวณค่าใช้จ่ายและอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา

• เตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอสินเชื่อ

เพิ่ความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยการเตรียมเอกสารให้พร้อม เพราะไม่ว่าจะยื่นจำนองบ้าน สินเชื่อบ้านแลกเงิน กรุงไทยแนะนำให้เตรียมเอกสารตามธนาคารระบุไว้อย่างครบถ้วนก็จะทำให้การพิจารณารวดเร็วขึ้น สำหรับเอกสารหลัก ๆ ที่ต้องเตรียมคือ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารทางการเงิน และสัญญาจองบ้าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร

• เก็บเงินบ้างส่วนเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่าย

ในการขอ กู้เงินซื้อบ้าน หรือคอนโดมิเนียมไม่ได้จบเพียงแค่ยื่นเอกสารเท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าสินเชื่อบ้านส่วนใหญ่จะปล่อย กู้บ้าน จำนองบ้าน แบบ 100% ของราคาประเมิน แต่ถึงอย่างนั้นผู้ขอก็ควรเตรียมเงินอย่างน้อย 20% ของราคาบ้านสำหรับใช้เป็นเงินดาวน์ รวมทั้งค่าจดจำนอง ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าธรรมเนียมในการประเมิน ค่าอาการแสตมป์ และค่าเบี้ยประกัน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเมื่อผ่านการพิจารณาสินเชื่อ

ถือว่าทั้ง 5 ข้อนี้เป็นสิ่งที่ทำให้สามารถผ่านการยื่นกู้ ไม่ว่าจะยื่นกู้ร่วม หรือแบบไหนก็ตาม ซึ่งรับประกันเลยว่าถ้าเตรียมเอกสารและประวัติทางการเงิน กู้ร่วมให้พร้อมจะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อรวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามแนะนำว่าควรยื่นขอกู้อย่างน้อย 2 - 3 ธนาคาร จะทำให้มีโอกาสผ่านมากขึ้น