ยางกินใน ปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการขับรถที่มองข้ามไม่ได้
หลายคนต่างทราบกันดีว่าปัญหายางนั้นไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เพราะยางเป็นพาร์ทที่จะนำพาเราไปสู่ที่หมาย ยางกินในเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้การขับขี่นั้นอันตรายเป็นอย่างมากเพราะการทำงานของระบบเบรก และระบบกันสะเทือนของช่วงล่างของรถยนต์ มีผลต่อประสิทธิภาพของ ยางรถยนต์ของคุณ เพราะหน้าสัมผัสของยางรถยนต์ได้รับการออกแบบให้สัมพันธ์กับขนาดและน้ำหนักของรถของคุณ เมื่อเกิดปัญหายางกินใน หรือหน้ายางด้านในสึกหรอนั้นจะทำให้หน้าสัมผัสดอก ยางรถ ที่สัมผัสกับพื้นถนนจะลดลง ทำให้การควบคุมพวงมาลัยยากขึ้นและยังมีระยะเบรกที่ไกลขึ้นอีกด้วย
โดยการป้องกันอันตรายจากการขับขี่รถยนต์ที่มีปัญหายางกินในหรือหน้ายางสึกหรอไม่สม่ำเสมอได้เพียงแค่ดูแลและเช็คยางอย่างสม่ำเสมอ
- สาเหุตของอาการยางกินขอบใน
ส่วนใหญ่มักจะเกิดมาจากการตั้งศูนย์ล้อที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดมุมล้อที่ดึงไปด้านใดด้านหนึ่งผิดปกติ และทำให้เกิดการสึกหรอ สาเหตุถัดมาก็จะมักจะมาจากชิ้นส่วนของระบบกันสะเทือนสึกหรอ หรือโค้งงอผิดปกติ หรือมาจากการเกิดสนิมสะสมระหว่างโรเตอร์เบรคดิสก์ และดุมล้อ มาจากล้อคดงอเสียหายหรือแบริ่งล้อแตก มาจากล้อดุมล้อสึกหรอ ทำให้มุมแคมเบอร์ของล้อ ผิดปกติและเกิดการสึกหรอของยางรถผิดปกติ
- การป้องกันการเกิดยางกินใน
แนะนำว่าผู้ขับขี่ควรจะเข้าทำการตั้งศูนย์ล้อโดยเฉพาะศูนย์บริการมาตรฐานอย่างน้อยปีละครั้ง และอาจจะสลับยางทุก ๆ 8,000 กิโลเมตร และหลีกเลี่ยงนิสัยการขับรถ เบรกที่กระชากรุนแรง และจะต้องคอยสังเกตการสั่นสะเทือนของรถ ในขณะที่รถวิ่งในระดับความเร็วปานกลางบนท้องถนนเป็นระยะ ๆ เพื่อสังเกตและตรวจจับความผิดปกติ รวมถึงตรวจสอบ ล้อและยางอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน และหากยางของเรานั้นใช้การมานานแล้วแนะนำให้เปลี่ยนยางรถยนต์ดดยเลือกราคายางรถยนต์ที่เหมาะสมกับเรา
ทั้งนี้การเช็คยางนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ร่วมใช้เส้นทางด้วยกัน และที่สำคัญยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย อย่าลืมว่าปัญหา ยางกินใน นั้น ในที่สุดแล้วก็จะทำให้เกิดความไม่สมดุลและแก้ม ยางรถยนต์ โค้งงอ ซึ่งจะนำไปสู่การระเบิดได้ และจะกลายเป็นปัญหาที่เป็นอันตรายสร้างความเสียหายอย่างใหญ่ เพราะฉะนั้นหมั่นตรวจสอบไว้จะดีที่สุด
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้