ศาลสหรัฐกล่าวว่าการไต่สวนคดีอาญาของทรัมป์สามารถกลับมาทบทวนบันทึกที่จัดประเภทได้

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สามารถกลับมาตรวจสอบบันทึกลับที่ FBI ยึดได้จากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่รอการอุทธรณ์ที่บ้านของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางที่มีคำตัดสินเมื่อวันพุธ ส่งผลให้มีการสอบสวนทางอาญาว่าบันทึกดังกล่าวมีการจัดการอย่างไม่ถูกต้องหรือถูกบุกรุกหรือไม่

ศาลอุทธรณ์ศาลสหรัฐฯ ครั้งที่ 11 ซึ่งตั้งอยู่ในแอตแลนต้า ได้รับคำขอจากอัยการสหพันธรัฐให้ปิดกั้นการเข้าพักของ Aileen Cannon ผู้พิพากษาเขตของสหรัฐฯ โดยห้ามไม่ให้พวกเขาใช้เอกสารลับในการสอบสวน จนกว่าอนุญาโตตุลาการอิสระที่เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญพิเศษ จะตรวจสอบวัสดุเพื่อกำจัด ใด ๆ ที่ถือว่ามีสิทธิพิเศษและระงับจากผู้สอบสวน

ศาลอุทธรณ์ยังระบุด้วยว่า จะตกลงที่จะยกเลิกคำสั่งศาลล่างส่วนหนึ่งซึ่งกำหนดให้รัฐบาลต้องมอบบันทึกที่มีเครื่องหมายการจัดประเภทสำหรับการพิจารณาของอาจารย์พิเศษ

“เราสรุปได้ว่าสหรัฐอเมริกาจะได้รับอันตรายที่ไม่สามารถแก้ไขได้จากข้อจำกัดของศาลแขวงในการเข้าถึงชุดวัสดุที่แคบและอาจสำคัญยิ่งนี้ เช่นเดียวกับข้อกำหนดของศาลที่สหรัฐฯ ให้ส่งบันทึกที่เป็นความลับไปยังผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ทบทวน” คณะกรรมการทั้งสามคนเขียน

คณะผู้พิจารณากล่าวเสริมว่าการตัดสินใจนั้น “มีลักษณะที่จำกัด” เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมได้ขอให้มีการอุทธรณ์เพียงบางส่วนเท่านั้น และคณะผู้ตัดสินไม่สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับข้อดีของคดีได้

คำขอของแผนกต่อศาลไม่ได้ขอให้ยกเลิกคำสั่งของ Cannon เอง และมันก็ไม่ชัดเจนว่าอัยการอาจแยกอุทธรณ์เพื่ออุทธรณ์ส่วนอื่นๆ ของคำตัดสินของ Cannon เกี่ยวกับการแต่งตั้งอาจารย์พิเศษพิเศษหรือไม่

สมาชิกใหม่ Lucabet ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

“เราตัดสินเฉพาะการพิจารณาอย่างเท่าเทียมตามธรรมเนียมดั้งเดิม ซึ่งรวมถึงว่าสหรัฐฯ ได้แสดงความเป็นไปได้อย่างมากที่จะได้รับผลประโยชน์หรือไม่ อันตรายที่แต่ละฝ่ายอาจได้รับจากการเข้าพัก และผลประโยชน์สาธารณะอยู่ที่ใด” ศาลอุทธรณ์กล่าว

ผู้พิพากษาสามคนที่เป็นผู้ตัดสิน ได้แก่ โรบิน โรเซนบอม ผู้ได้รับการแต่งตั้งจากอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งพรรคเดโมแครต และบริตต์ แกรนท์ และแอนดรูว์ บราเชอร์ ซึ่งทั้งคู่ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์

ทนายของทรัมป์อาจขอให้ศาลฎีกาสหรัฐ ซึ่งเสียงข้างมากในเชิงอนุรักษ์นิยม 6-3 คน รวมผู้พิพากษาสามคนที่เขาแต่งตั้งให้เข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้

ในการยื่นฟ้องเมื่อวันอังคาร ทนายความของทรัมป์ได้เรียกร้องให้ศาลรักษาสถานที่และอนุญาตให้พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์พิเศษ ผู้พิพากษาเรย์มอนด์ เดียรี เพื่อตรวจสอบเอกสารที่ยึดได้ทั้งหมด รวมถึงวัสดุที่มีการทำเครื่องหมายว่าเป็นความลับ

โฆษกกระทรวงยุติธรรมไม่มีความคิดเห็นในทันที ไม่สามารถติดต่อทนายความของทรัมป์เพื่อขอความคิดเห็นได้ทันที

เอฟบีไอได้ดำเนินการค้นหาที่ศาลอนุมัติเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่บ้านของทรัมป์ที่คฤหาสน์ Mar-a-Lago ในปาล์มบีช โดยยึดเอกสารมากกว่า 11,000 ฉบับ รวมถึงอีกประมาณ 100 ฉบับที่ระบุว่าเป็นความลับ

การค้นหานี้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนของรัฐบาลกลางว่าทรัมป์ลบเอกสารออกจากทำเนียบขาวอย่างผิดกฎหมายหรือไม่เมื่อเขาออกจากตำแหน่งในเดือนมกราคม 2564 หลังจากล้มเหลวในการเลือกตั้งปี 2563 และทรัมป์พยายามขัดขวางการสอบสวนหรือไม่

Cannon ซึ่งเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งจาก Trump ได้แต่งตั้ง Dearie ให้ทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในคดีนี้ตามคำขอของ Trump กระทรวงยุติธรรมได้คัดค้านการแต่งตั้งอาจารย์พิเศษ

Cannon มอบหมายให้ Dearie ตรวจทานเอกสารทั้งหมด รวมทั้งเอกสารลับ เพื่อที่เขาจะได้แยกสิ่งที่อาจอยู่ภายใต้สิทธิ์ของทนายความ-ลูกค้าหรือสิทธิ์ของผู้บริหาร ซึ่งเป็นหลักคำสอนทางกฎหมายที่ปกป้องการสื่อสารบางอย่างของทำเนียบขาวจากการเปิดเผย

ในฐานะหนึ่งในการป้องกันของเขา ทรัมป์อ้างสิทธิ์ในโพสต์โซเชียลมีเดียโดยไม่มีหลักฐานว่าเขาได้จำแนกบันทึกดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทนายความของเขาไม่ได้อ้างสิทธิ์ดังกล่าวในเอกสารที่ยื่นฟ้อง และในระหว่างการพิจารณาคดีก่อนเดียรีเมื่อวันอังคาร พวกเขาขัดขืนคำขอของเขาในการให้หลักฐานว่าทรัมป์ได้ยกเลิกการจัดประเภทบันทึกใดๆ

แม้ว่าศาลอุทธรณ์จะเน้นว่าคำตัดสินของศาลมีขอบเขตที่แคบ แต่ดูเหมือนว่าจะตำหนิการตัดสินของแคนนอนอย่างรุนแรงจากบนลงล่างและข้อโต้แย้งทางกฎหมายของทรัมป์หลายข้อ

“ [ทรัมป์] ไม่ได้พยายามที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาจำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่มีอยู่ในเอกสารลับ” ผู้พิพากษาเขียน “และเขาไม่ได้ยอมรับว่ารัฐบาลปัจจุบันได้ละเว้นข้อกำหนดดังกล่าวสำหรับเอกสารเหล่านี้”

ก่อนหน้านี้กระทรวงยุติธรรมได้คัดค้านอย่างหนักต่อข้อเรียกร้องของแคนนอนที่สั่งให้ Dearie ตรวจสอบบันทึกที่ยึดสำหรับเอกสารที่อาจครอบคลุมโดยสิทธิพิเศษของผู้บริหาร โดยสังเกตว่าทรัมป์เป็นอดีตประธานาธิบดีและบันทึกไม่ได้เป็นของเขา

แม้ว่าจะแสดงความไม่เห็นด้วย แต่กระทรวงยุติธรรมไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งของแคนนอนส่วนนั้น