เรื่องอื้อฉาว, การจัดการ Covid ที่ผิดพลาด, การตัดไม้ทำลายป่า: สรุปตำแหน่งประธานาธิบดีของ 'Trump of Tropics' Bolsonaro

Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีฝ่ายขวาจัดคนแรกของบราซิล ซึ่งได้รับฉายาว่า “ทรัมป์แห่งเขตร้อน” ถูกกล่าวหาว่าปล่อยให้ Covid-19 ลุกลามจนควบคุมไม่ได้ และปล่อยให้อเมซอนเผาไหม้ในช่วงสี่ปีแรกที่เขาเป็นที่ถกเถียงกัน

นี่คือบทสรุปของช่วงเวลาที่กำหนดตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาจนถึงตอนนี้:

ประธานาธิบดีขวาจัดคนแรก

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2018 บราซิลเลือกโบลโซนาโรมากกว่าสามทศวรรษหลังจากการสิ้นสุดการปกครองแบบเผด็จการทหารของประเทศ ซึ่งโบลโซนาโรซึ่งเป็นอดีตกัปตันกองทัพบกแสดงความคิดถึงอย่างเปิดเผย

ในวันปีใหม่ปี 2019 โบลโซนาโรเข้ารับตำแหน่งโดยสาบานที่จะ “ฟื้นฟูระเบียบ” และเริ่มรณรงค์ต่อต้านอาชญากรรม การทุจริต และ “อุดมการณ์ฝ่ายซ้าย”

บิลปืนโปร

โบลโซนาโรเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อผ่อนคลายกฎหมายปืนในประเทศที่มีความรุนแรงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และขยายคำจำกัดความของการป้องกันตัวให้กว้างขึ้นอย่างมาก

ศาลฎีกาได้รับการขอให้วินิจฉัยว่าพระราชกฤษฎีกาบางส่วนของเขาเป็นรัฐธรรมนูญหรือไม่

กฏของโรงพยาบาล

โบลโซนาโร ซึ่งถูกแทงบนเส้นทางการหาเสียงในปี 2561 เข้ารับการผ่าตัดช่องท้องในเดือนมกราคม 2562

ระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสองสัปดาห์ เขายังคงบริหารประเทศจากเตียงของเขา เขาเข้ารับการรักษาใหม่ในช่วงกลางปี ​​2564 เพื่อรักษาผลที่ตามมาของการโจมตี ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดมากขึ้น เขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสองครั้งในปี 2565

มาเป็นครอบครัวเดียวกับเรา​ Lucabet​ ดูแลคุณอย่างครอบครัว

อเมซอนไหม้

ในช่วงกลางปี ​​2019 ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าทำให้ป่าฝนอเมซอนแผดเผาทั้งพื้นที่ กระตุ้นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของโบลโซนาโรจากทั่วโลก

ภายใต้การนำของโบลโซนาโร การทำลายพื้นที่ป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลกของบราซิลได้เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับทศวรรษที่ผ่านมา

โบลโซนาโรถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการบ่อนทำลายอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแลในแอมะซอน และเพื่อสนับสนุนการขุดและเกษตรกรรมในพื้นที่คุ้มครอง

ในเดือนมกราคม ปี 2021 Raoni Metuktire หัวหน้าชนเผ่าพื้นเมืองและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ยื่นฟ้องต่อ Bolsonaro ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยกล่าวหาว่าเขากลั่นแกล้งกลุ่มชนพื้นเมือง

เงินบำนาญและการแปรรูป

โบลโซนาโรในปี 2019 เพิ่มอายุเกษียณโดยเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนความเข้มงวด และเริ่มขายทรัพย์สินของรัฐ ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการไฟฟ้า บริษัทน้ำในรีโอเดจาเนโร ท่าเรือและสนามบินประมาณ 20 แห่ง

ปฏิเสธโควิด

ในการเคลื่อนไหวโต้เถียงที่จุดชนวนให้เกิดการประท้วง Bolsonaro ปฏิเสธcoronavirusในเดือนมีนาคม 2020 ว่าเป็น "ไข้หวัดเล็กน้อย" ฝ่าฝืน คำแนะนำของ องค์การอนามัยโลกและประณามสิ่งที่เขาเรียกว่ามาตรการล็อคและหน้ากาก "โลกที่ไหม้เกรียม"

บราซิลมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงเป็นอันดับสองของโลก โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 680,000 รายภายในปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565

ปัจจุบัน โบลโซนาโรเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขคนที่ 4 ของการระบาดใหญ่

นอกจากนี้ Bolsonaro ยังถูกสอบสวนโดยพนักงานอัยการในข้อหาไม่ดำเนินการตามคำแนะนำเกี่ยวกับการยักยอกเงินเกี่ยวกับการซื้อวัคซีนต้านไวรัสโคโรน่า

คณะกรรมการวุฒิสภาของบราซิลได้ขอให้เขาถูกตั้งข้อหา 9 คดีเกี่ยวกับการจัดการการระบาดใหญ่ของ Covid-19 ซึ่งรวมถึง “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”

ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนเดินขบวนตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้โบลโซนาโรฟ้องร้องเพื่อจัดการกับวิกฤตสุขภาพของเขา

เรื่องอื้อฉาวคอร์รัปชั่น

ในเดือนพฤศจิกายน 2020 อัยการริโอเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับฟลาวิโอ โบลโซนาโร วุฒิสมาชิกและลูกชายคนโตของประธานาธิบดี ฐานยักยอกเงินและฟอกเงิน คดีนี้ถูกศาลยกฟ้องในภายหลัง

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 ริคาร์โด ซัลเลส รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมลาออก โดยต้องสงสัยว่าสนับสนุนการส่งออกไม้อะเมซอนอย่างผิดกฎหมาย

ไม่นานมานี้ เป็นช่วงเปลี่ยนของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มิลตัน ริเบโร ผู้ซึ่งล้มลงบนดาบของเขาในข้อกล่าวหาเรื่องอิทธิพลเร่ขายตามคำสั่งของโบลโซนาโร

โจมตีระบบเลือกตั้ง

ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 ศาลการเลือกตั้งระดับสูงได้ตัดสินใจสอบสวนโบลโซนาโรถึงการโจมตีอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับการพิสูจน์ของเขาต่อความชอบธรรมของระบบการลงคะแนนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539

ศาลฎีกาในขณะเดียวกันก็มีคำสั่งให้สอบสวนโบลโซนาโรและผู้ติดตามของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ

วิกฤตเปโตรบราส

ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2022 โบลโซนาโรไล่ประธานบริษัทน้ำมันสาธารณะ Petrobras สองคนออก เช่นเดียวกับรัฐมนตรีพลังงานของเขา เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น

ในวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งน้อยกว่าสามเดือนหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี รัฐสภาอนุมัติแผนของรัฐบาลในการแจกเงินเพื่อคนยากจนข้นแค้น