อิ๊กซี่ ICSI ตอบโจทย์ผู้มีบุตรยาก
การทำ ICSI หนึ่งในทางเลือกในปัจจุบันนอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือก็คือมีประชากรที่อายุมากกว่า 60 เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด จากข้อมูลนี้แสดงให้เรารู้ว่าอัตราการเกิดของประชากรในประเทศนั้นๆ ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งปัญหาที่คู่รักในปัจจุบันตัดสินใจที่จะไม่มีลูกมีด้วยหลายสาเหตุด้วยกัน
ด้วยปัจจัยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ซบเซา ยังไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น ค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน โรคโควิด-19 ที่กำลังระบาด ล้วนถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้คู่รักที่มีรายได้น้อย จึงตัดสินใจที่จะไม่มีลูก หรืออาจจะมีในช่วงเวลาที่ตนพร้อมกว่านี้ นั้นจึงเป็นสาเหตุให้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว
สำหรับคู่รักที่มีรายได้ในระดับปานกลางขึ้นไป ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยข้างต้น และพร้อมที่จะมีทายาทอยู่ตลอดเวลา บางคนกลับมีสุขภาพ หรือโรคต่างๆ ที่ทำให้ท่านไม่สามารถมีลูกได้ หรืออาจะมีโอกาสมีลูกต่ำมาก ก็ถือเป็นอีกสาเหตุเช่นกัน แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการมีลูกด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น IUI (การคัดอสุจิมาผสมเทียม), IVF (การทำเด็กหลอดแก้ว), และสุดท้าย ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) การทำอิ๊กซี่ ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้
อิ๊กซี่ ICSI คือ
ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) เป็นกระบวนการที่มีอัตราการปฏิสนธิสำเร็จมากที่สุด โดยวิธีการทำอิ๊กซี่ มีขั้นตอนการทำอิ๊กซี่ ดังต่อไปนี้โดยฝ่ายหญิงจะเริ่มจาก ฉีดยากระตุ้นตกไข่ ทุกวันประมาณ 9-12 วัน ซึ่งจะมีการนัดทำอัลตราซาวด์ 2-3 ครั้ง เมื่อไข่โตสมบูรณ์แล้ว ทำการนำไข่ออกปฏิสนธิภายนอก ฝ่ายผู้ชายเราจะให้เก็บน้ำอสุจิในวันเดียวกัน จากนั้นจึงนำไปเพาะเลี้ยงตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการ เมื่อทั้งสองปฏิสนธิกันเรียบร้อยก็จะได้ตัวอ่อนขึ้นมา
อิ๊กซี่ (ICSI) ต่างจาก IVF อย่างไร
icsi และ ivf ต่างเป็นวิธีปฏิสนธิภายนอกก่อนจะนำตัวอ่อนหลังปฏิสนธิแล้วเข้าไปในโพรงมดลูกเหมือนกันเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ดังต่อไปนี้
- IVF เป็นการนำไข่และอสุจิจำนวนมาก เอามาผสมกันในจานเพาะเลี้ยง แล้วจึงคัดเลือกไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิที่ดีที่สุด แล้วจึงนำกลับไปที่โพรงมดลูก
- ICSI เป็นคัดน้ำเชื้ออสุจิตัวที่แข็งแรงที่สุดเพียงตัวเดียว ฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงในไข่ที่สมบูรณ์ที่สุดใบเดียว แล้วจึงนำกลับไปที่โพรงมดลูก
นอกจากนั้น ICSI ยังถือเป็นวิธีเดียวที่เป็นการช่วยปฏิสนธิโดยสมบูรณ์ แตกต่างจาก IVF ที่ยังคงต้องใหวิธีการผสมกันเองแบบธรรมชาติ จึงทำให้ การทำอิ๊กซี่ จึงมีอัตราการปฏิสนธสำเร็จมากที่สุด
ทำไมถึงต้องทำ ICSI
การทำอิ๊กซี่ โดยมากแล้วจะเป็นคู่รักที่มีปัญหาด้านสุขภาพ อันได้แก่ ฝ่ายชายที่บางคนมีปริมาณอสุจิค่อนข้างน้อย ไม่สมบูรณ์ หรือบางคนที่เป็นหมัน ก็ยังมีโอกาสมีลูกได้ ส่วนผู้หญิงอาจจะมีเปลือกไข่ที่หนา ทำให้อสุจิของฝ่ายชายไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิได้โดยธรรมชาติ หรืออาจจะเป็นโรคต่างๆ ได้แก่โรคเนื้องอกในโพรงมดลูก เป็นต้นเป็นโรค
โอกาสสำเร็จมากแค่ไหนสำหรับ ICSI
ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความละเอียดสูง การคัดน้ำเชื้ออสุจิตัวที่สมบูรณ์ที่สุดเพียงตัวเดียวเพื่อฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง ทำให้อัตราความสำเร็จของวิธี icsi นั้นสูงกว่าวิธีอื่นๆ เพราะได้มีการปฏิสนธิไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 85 เปอร์เซ็นต์ เพราะแม้ว่าจะมีการปฏิสนธิไปแล้ว แต่ตัวอ่อนนั้นอาจไม่สมบูรณ์ได้ แต่ถึงกระนั้น การทำอิ๊กซี่ ก็ยังมีอัตราความสำเร็จมากกว่าวิธีอื่นๆ
การเตรียมตัวสำหรับการทำ ICSI
สำหรับคู่รักที่สนใจการทำอิ๊กซี่จำเป็นจะต้องเตรียมตัว และค่อยระวังดังต่อไปนี้
การเตรียมตัว
ฝ่ายหญิง : ควรเข้าไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพร่างกายตั้งแต่มีประจำเดือนใน 2-3 วันแรก เพื่อตรวจวัดปริมาณฮอร์โมน ตรวจมดลูก เพื่อสังเกตอาการว่าพร้อมที่จะได้รับการผสมเทียมหรือไม่ หากมีโรคประจำตัว ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบอีกด้วย นอกจากนั้นยังต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ อีกทั้งยังหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ฝ่ายชาย : ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ อีกทั้งยังหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้จิตใจสงบ มีความสุข ไม่มีความเครียด เพราะมันจะส่งผลต่อน้ำเชื้ออสุจิจะมีคุณภาพดีตามไปด้วย
ข้อควรหลีกเลี่ยง
คู่รักทั้งคู่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ รวมถึงห้ามดื่มสุรา แอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ก่อนการทำอิ๊กซี่อย่างน้อย 3 เดือน นอกจากนี้สำหรับฝ่ายชายยังต้องไม่หลั่งอสุจิ 5-7 วันก่อนพบแพทย์ ไม่สวมใส่กางเกง หรือกางเกงในที่แน่นเกินไป รวมถึงการแช่น้ำอุ่น หรือการซาวน่า เพราะจะส่งผลให้คุณภาพของน้ำเชื้ออสุจิลดลง
ขั้นตอนการทำ ICSI
- Ovulation Induction (การกระตุ้นการตกไข่)
- Egg Retrival (การดึงไข่)
- การเก็บ Sperm
- Fertilization (ปฏิสนธิ)
- Embryo Transfer (การย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก)
Ovulation Induction (OI)
สำหรับคู่รักที่มีลูกยาก ปัจจัยหนึ่งมาจากความผิดปกติของการตกไข่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยกระบวนการแรกของการทำอิ๊กซี่ แพทย์จะทำการรักษาโดยกระตุ้นการตกไข่ด้วยยากระตุ้นการเกิดไข่ โดยการให้ยากระตุ้นมีด้วยกัน 2 แบบ คือแบบเม็ด และแบบฉีด ซึ่งทางแพทย์จะเริ่มทดลองใช้ยาเม็ดก่อน ถ้ายังไม่ได้ผล จึงจะใช้ยากฉีด
Egg Retrival
เมื่อฝ่ายหญิงได้รับการกระตุ้นการตกไข่แล้ว จนได้ไข่ออกมาแล้ว แพทย์จะทำการเจาะเอาไข่ออกมาจากช่องคลอด เพื่อนำไข่ไปใช้ในการปฏิสนธิในห้องเพาะเลี้ยงต่อไป
การเก็บ Sperm
เมื่อฝ่ายหญิงได้ทำการเจาะดูดเอาไข่ออกมาจากช่องคลอดแล้ว จึงจะทำการเก็บน้ำเชื้ออสุจิจากฝ่ายชาย โดยแพทย์จะคัดเลือกอสุจิตัวที่แข็งแรง สมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่า เมื่อนำไปปฏิสนธิแล้วจะมีโอกาสในการประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
Fertilization
เมื่อแพทย์ได้เก็บไข่จากการเจาะดูดไข่จากฝ่ายหญิง รวมถึงการเก็บน้ำเชื้ออสุจิจากฝ่ายชายแล้ว จึงนำอสุจินั้นไปขัดเลือกตัวที่แข็งแรง สมบูรณ์ที่สุด เพียงตัวเดียว แล้วจึงใช้เครื่องมือที่ทันสมัยฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง เพื่อทำให้เกิดกระบวนการปฏิสนธิขึ้น
Embryo Transfer
เมื่อแพทย์ได้ทำการฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าไปในไข่เพื่อให้เกิดกระบวนการปฏิสนธิแล้ว เมื่อปฏิสนธิได้ตัวอ่อนในระยะ 5-6 วัน แพทย์จะทำการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือการย้ายตัวอ่อนรอบสด (Fresh Embryo Transfer) คือสามารถย้ายได้ทันทีหลังได้ตัวอ่อน กับการย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง (Frozen-thawed Embryo Transfer) คือการย้ายตัวอ่อนที่ผ่านการแช่แข็ง
ข้อดีของการทำ ICSI
การทำอิ๊กซี่ ถือเป็นวิธีการผสมเทียมที่มีโอกาสสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบัน ที่มีโอกาสถึง 85 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาทางสุขภาพได้หลากหลายปัญหามากกว่า นอกจากนั้นยังไม่ต้องผ่าหน้าท้อง แม้แต่ผู้หญิงที่ทำหมันแล้ว หรือผู้ชายที่มีอสุจิต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานก็สามารถทำได้ แถมยังสามารถตรวจสอบโครโมโซมของตัวอ่อนได้อีกด้วย ลดโอกาสที่เด็กออกมาจะมีอาการผิดปกติได้อีกด้วย
ข้อจำกัดการทำ ICSI
ด้วยการทำอิ๊กซี่เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีอัตราความสำเร็จในการผสมเทียมที่สูง และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการทำอิ๊กซี่จึงมีค่าใช้จ่ายที่สูง ทั้งยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อนละเอียดอ่อน แถมยังใช้เวลารักษาค่อนข้างหลายวัน จึงถือเป็นอุปสรรคกับผู้มีรายได้น้อยเป็นอย่างมาก
ค่าใช้จ่าย
การทำ ICSI มีราคาสูงกว่าวิธีการผสมเทียมอื่นๆ เพราะมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ทั้งยังใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จึงทำให้การทำอิ๊กซี่ในแต่ละครั้งมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 200,000 ถึง 500,000 บาท แต่ถือว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าวิธีอื่นๆ ทั้งยังลดโอกาสที่เด็กที่ออกมาจะมีอาการผิดปกติลงได้อีกด้วย
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้