รู้หรือไม่? พ่อแม่สามารถใช้กีฬาเป็นเครื่องมือ สอนลูกให้สู้คน ได้ วิธีง่าย ๆ ที่ได้ผล

สภาพสังคมปัจจุบันส่งผลให้พ่อแม่หลายครอบครัวพยายามหา วิธีสอนลูก แบบใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ลูก ๆ เพื่อให้เลูกสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง แต่เชื่อหรือไม่ว่า วิธีสอนลูก ให้มีทักษะความใจสู้นั้นทำได้ไม่ยากแค่อาศัยกีฬามาเป็นเครื่องมือ ประกอบกับความเข้าใจและทักษะความใจสู้ที่พ่อแม่มีอยู่ในตัว 

หลักการ สอนลูกให้สู้คน โดยใช้กีฬาเป็นเครื่องมือ 

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “สู้คน” ใไม่ได้หมายถึงการใช้กำลังในการต่อสู้ แต่หมายถึง “ความใจสู้” ไม่หวั่นไหวต่อคำพูดสบประมาทจากผู้อื่น และไม่คิดท้อถอยล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ เชื่อว่าสังคมในกลุ่มเพื่อนอาจมีเด็กในวัยเดียวกันหรือแม้แต่ผู้ใหญ่รอบข้างบางคนมีนิสัยชอบพูดจาดูถูกดูหมิ่น แกล้งเด็กคนอื่น ซึ่งหากลูกต้องประสบพบเจอกับคนเหล่านี้พ่อแม่ควรแนะนำวิธีการรับมือที่ถูกต้องให้กับลูก เพื่อให้ลูกรับมือกับการกระทำเหห่านั้นได้ โดยที่จริงแล้วกีฬาเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก

• กีฬาช่วย สอนลูก ให้รู้แพ้ ชนะ อภัย และให้เกียรติผู้อื่น 

ธรรมชาติของกีฬามีแพ้ชนะเป็นปกติซึ่งการเล่นกีฬาช่วยให้ลูกได้มีประสบการณ์ความผิดหวังจากการพ่ายแพ้และประสบการณ์ความยินดีจากการเป็นผู้ชนะ หากเราเป็นผู้ชนะก็ควรให้เกียรติกับผู้แพ้ด้วยใจจริงเช่นเดียวกัน เมื่อลูกได้เรียนรู้การจัดการอารมณ์ที่ถูกต้องและได้รับการปลูกฝังชุดความคิดที่ดีเขาจะให้ความสำคัญกับตนเองและผู้อื่นเสมอกัน ให้เกียรติผู้อื่น

• การสอนลูก ให้มีวิสัยทัศน์ที่ดีด้วยกีฬา 

สอนลูกให้สู้คนไม่เพียงแค่ส่งเสริมให้ลูกได้เล่นกีฬาที่ตนเองชื่นชอบเท่านั้น แต่การกระตุ้นให้ลูกสามารถตั้งเป้าหมายด้วยตนเองได้คือสิ่งที่พ่อแม่ควรทำ ตัวอย่างเช่น ลูกตั้งเป้าหมายว่าอยากโหนบาร์ได้นานเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ พ่อแม่อาจชักชวนให้เขาตั้งเป้าหมายน้อย ๆ ก่อน เช่นวันนี้โหนได้แค่ 3 วินาที แต่หากฝึกโหนบาร์ทุกวันก็น่าจะสามารถโหนบาร์ได้นานต่อเนื่อง 10 วินาทีได้ เมื่อลูกตั้งเป้าหมายของตนเองแล้วเขาจะใช้ความพยายามเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น หลังจากทำสำเร็จเขาจะมีความภาคภูมิใจในตนเองและพ่อแม่ควรชื่นชมกับความสำเร็จของเขาด้วย เขาจะได้เรียนรู้ว่าแรก ๆ อาจต้องประสบกับความล้มเหลวบ้าง แต่หากไม่ย่อท้อและใช้ความพยายามจะทำสำเร็จได้ ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถนำมาใช้รับมือกับอุปสรรคปัญหาอื่น ๆ ในชีวิตได้เป็นอย่างดี 

วิธีสอนลูกจำเป็นต้องใช้องค์ประกอบร่วมกันหลายส่วน โดยสรุปได้ว่าพ่อแม่ควรมีทักษะความใจสู้อยู่กับตัวโดยอาจฝึกทักษะการสอนลูกนี้ไปพร้อมกับลูกเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพวกเขา ต่อมาคือการปล่อยให้ลูกได้เจอกับความผิดหวัง ความพ่ายแพ้ และความไม่ได้ดั่งใจดูบ้าง เพื่อให้พวกเขามีประสบการณ์การรับมือกับความรู้สึกเหล่านั้น ซึ่งตรงจุดนี้พ่อแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกรู้สึกว่าตนเองต้องสู้อยู่คนเดียวหรือพวกเขากำลังพ่ายแพ้อย่างโดดเดี่ยว พ่อแม่ควรทำหน้าที่แนะนำและอยู่เคียงข้างลูกเสมอ เมื่อลูกกลับมามีแรงฮึดสู้อีกครั้งพ่อแม่ควรเป็นกำลังใจให้การสนับสนุนสอนลูกจนกว่าลูกจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้