วิกฤตในศรีลังกา: จากเหตุฉุกเฉินชั่วคราวไปจนถึงการระงับการประท้วงจนถึงบ้านของ Prez ที่ถูกโจมตี | ไทม์ไลน์

ศรีลังกา ซึ่งกำลังต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษ เห็นประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา หลบหนีออกจากที่พักอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ ก่อนการประท้วงในวันเสาร์ที่ผู้ก่อความไม่สงบบุกเข้าไปในบ้านของเขาและเรียกร้องให้เขาลาออก

ประเทศที่เป็นเกาะซึ่งมีประชากร 22 ล้านคน ประสบกับภาวะไฟฟ้าดับเป็นเวลานานหลายเดือน การขาดแคลนอาหารและเชื้อเพลิงอย่างเฉียบพลัน และภาวะเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงขึ้นท่ามกลางการล่มสลายทางเศรษฐกิจที่เจ็บปวดที่สุด

1 เมษายน: สถานการณ์ฉุกเฉิน

ราชปักษาประกาศภาวะฉุกเฉินชั่วคราว โดยให้อำนาจตำรวจของประเทศในการจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยด้วยเจตจำนงเสรี หลังจากการประท้วงหลายครั้ง

3 เมษายน: คณะรัฐมนตรีลาออก

รัฐมนตรีเกือบทั้งหมดตัดสินใจลาออกในการประชุมช่วงดึก ทำให้ราชปักษาและมหินดาน้องชายของเขา ซึ่งตอนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่โดดเดี่ยว

มองย้อนกลับไปว่าวิกฤตได้คลี่คลายอย่างไร:

ผู้ว่าการธนาคารกลางซึ่งงดเว้นจากการขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศลาออกในอีกหนึ่งวันต่อมา – 4 เมษายน

5 เมษายน: ประธานาธิบดีสูญเสียเสียงข้างมาก

วิกฤตการณ์ของประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อนายอาลี ซาบรี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังลาออกหลังจากเขาได้รับแต่งตั้งหนึ่งวัน ประธานาธิบดีที่ต่อสู้ดิ้นรนยังสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภาเนื่องจากอดีตพันธมิตรเรียกร้องให้เขาลาออก จากนั้นจึงยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

10 เมษายน: การขาดแคลนยา

แพทย์ของศรีลังกากล่าวว่าประเทศนี้เกือบจะไม่มียารักษาชีวิตแล้ว และเตือนว่าวิกฤตนี้อาจจบลงด้วยการคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าการระบาดของโควิด-19

12 เมษายน: หนี้ต่างประเทศผิดนัด

19 เมษายน: ผู้เสียชีวิตรายแรก

ตำรวจสังหารผู้ประท้วง ผู้เสียชีวิตรายแรกจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเป็นเวลาหลายสัปดาห์ วันรุ่งขึ้นไอเอ็มเอฟกล่าวว่าได้ขอให้ศรีลังกาปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศจำนวนมหาศาลก่อนที่จะตกลงกันได้

9 พฤษภาคม: วันแห่งความรุนแรง

กลุ่มผู้จงรักภักดีของรัฐบาลที่เดินทางมาจากชนบทโจมตีผู้ประท้วงอย่างสันติซึ่งตั้งค่ายอยู่นอกสำนักงานริมทะเลของประธานาธิบดีในโคลัมโบ

สนุกกับ Lucabet ฝาก-ถอนไม่มีขั้นต่ำ

มีผู้เสียชีวิต 9 คนและบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนในการโจมตีตอบโต้ที่ตามมา โดยฝูงชนมุ่งเป้าไปที่ผู้ที่รับผิดชอบต่อความรุนแรงและจุดไฟเผาบ้านของสมาชิกสภานิติบัญญัติ

มหินทรา ราชปักษา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และต้องได้รับการช่วยเหลือจากทหาร หลังผู้ประท้วงหลายพันคนบุกโจมตีบ้านพักของเขาในกรุงโคลัมโบ

เขาถูกแทนที่โดย Ranil Wickremesinghe ทหารผ่านศึกทางการเมืองที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลายสมัยแล้ว

10 พฤษภาคม: คำสั่งยิงเพื่อฆ่า

กระทรวงกลาโหมสั่งให้ทหารยิงทันทีที่เห็นใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการปล้นสะดมหรือ "ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต" แต่ผู้ประท้วงต่อต้านเคอร์ฟิวของรัฐบาลใหม่ซึ่งจะถูกยกเลิกในปลายสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงในโคลัมโบถูกทำร้ายและของเขา รถถูกจุดไฟ

10 มิถุนายน: 'เหตุฉุกเฉินด้านมนุษยธรรม'

องค์การสหประชาชาติเตือนว่าศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้าย โดยมีคนหลายล้านคนต้องการความช่วยเหลือแล้ว

สหประชาชาติกล่าวว่าประชากรมากกว่าสามในสี่ลดการบริโภคอาหารลงเนื่องจากการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงของประเทศ

27 มิถุนายน: ระงับการขายน้ำมันเชื้อเพลิง

รัฐบาลกล่าวว่าศรีลังกาใกล้จะหมดเชื้อเพลิงแล้ว และยุติการขายน้ำมันทั้งหมด ยกเว้นบริการที่จำเป็น

1 กรกฎาคม: สถิติเงินเฟ้อใหม่

รัฐบาลเผยแพร่ข้อมูลที่ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน หนึ่งวันหลังจากไอเอ็มเอฟขอให้ศรีลังกาควบคุมราคาที่สูงและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น

9 กรกฎาคม: บุกบ้านประธานาธิบดี

ประธานาธิบดีราชปักษาหลบหนีจากที่พักอย่างเป็นทางการในกรุงโคลัมโบด้วยความช่วยเหลือของกองทหาร ไม่นานก่อนที่ผู้ประท้วงจะบุกโจมตีบริเวณดังกล่าว และเขาถูกนำตัวไปยังสถานที่ที่ไม่เปิดเผย ภาพจากภายในที่พักเผยให้เห็นผู้ประท้วงที่กระโดดลงไปในสระน้ำและสำรวจห้องนอนอันโอ่อ่า

รัฐบาลประกาศว่าผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศจำนวน 51 พันล้านดอลลาร์ในฐานะ "ทางเลือกสุดท้าย" หลังจากไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อนำเข้าสินค้าที่จำเป็นอย่างยิ่ง