สิว (Acne) หนึ่งในปัญหาผิวที่มีคนเป็นมากที่สุด

     สิว เป็นสิ่งที่วัยหนุ่มสาว ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย บนใบหน้า เพราะมันทำให้เสียความมั่นใจ ยิ่งสาวๆ ด้วยแล้ว การเป็นสิวคือปัญหาใหญ่มาก สิวมักจะมาในวันที่ไม่อยากให้มามากที่สุด เช่น วันสำคัญที่ต้องเจอผู้คนมากมายหรือต้องออกงาน ปัญหาของสิว เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น จากพฤติกรรมของเรา จากความสะอาด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ จากฮอร์โมนในร่างกาย จากพันธุกรรม ความเครียด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราอาจจะควบคุมได้ยาก สิวส่วนใหญ่พอเป็นแล้วก็มักจะทิ้งรอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดง ไว้บนหน้า การรักษาสิวจึงสำคัญ ถ้าเรารู้จักประเภทของสิว การเกิดของสิว หรือปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว เช่น บางคนใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดสิว ก็อาจจะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ตัวนั้นไป เป็นการลดปัญหาการเกิดสิวได้   

     จากที่ได้เกริ่นมาข้างต้นแล้วว่า สิว เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งปัจจัยต่างๆ แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เคยสังเกตมั้ยว่า บางคนใช้แค่น้ำเปล่าล้างหน้า แต่หน้าดูเนียนใส มากกว่าคนที่ใช้โฟมหรือคลีนเซอร์ราคาแพง นั่นอาจเป็นเพราะกรรมพันธุ์ก็เป็นได้ ถ้าเรารู้จักร่างกายของเรา รู้ว่าสิวแต่ละประเภทเกิดจากอะไร ก็อาจจะได้วิธีรักษาสิวที่ราคาถูกโดยไม่ต้องไปคลินิกแพงๆ รู้วิธีลดสิวที่ถูกต้อง จากหน้าสิวก็จะกลายเป็นหน้าใสได้โดยไม่ต้องพึ่งหมอ ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับสิวกันดีกว่า

สิว คืออะไร

     สิว คือ การอุดตันที่เกิดขึ้นจากระบบต่อมไขมันในรูขุมขน ผิวหนังของคนเราจะมีต่อมน้ำมันอยู่ใต้ผิวหนังอยู่แล้ว ซึ่งทำหน้าที่สร้างไขมันและน้ำมัน จากนั้นไขมันและน้ำมันจะถูกขับออกมาทางท่อน้ำมันที่มีรูเปิดเดียวกับรูขุมขน เมื่อถูกการกระตุ้นต่อมไขมันก็จะถูกสร้างมากขึ้น หากระบายออกมาไม่ทันก็จะมีการสะสมค้างอยู่ในรูขุมขน ทำให้น้ำมันและไขมันสร้างเคราตินมากขึ้น สารตัวนี้แหละจะจับตัวกันแน่นกับน้ำมันและไขมัน ทำให้เกิดสิวอุดตัน โดยปกติ สิวมักจะขึ้นบริเวณใบหน้า หน้าอก หลังช่วงบน และไหล่ ซึ่งเป็นบริเวณที่ต่อมไขมันทำงานมากที่สุด

สิวเกิดจากอะไร? สาเหตุหลักมาจากอะไร

     สิว เป็นสิ่งที่ไม่ใครชอบและไม่มีใครอยากให้เกิด ถ้าเป็นไปได้คงอยากให้โลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสิว สาเหตุการเกิดสิว บางครั้งเรารู้ว่าสิวเกิดจากอะไร ก็ยังไม่สามารถยับยั้งการเกิดของสิวได้ ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดสิว แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ดังนี้ 

     ปัจจัยภายใน คือ ระดับฮอร์โมนในร่างกาย ความเครียด กรรมพันธุ์ ผิวพรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแอนโดรเจนจะมีระดับสูงขึ้นโดยเฉพาะในวัยรุ่นชาย ซึ่งมีมากกว่าช่วงอายุอื่น ฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นต่อมไขมันทำให้มีการสร้างไขมันออกมามากขึ้น สิวอาจเกิดได้ในระหว่างการตั้งครรภ์ ระหว่างมีประจำเดือนของเพศหญิง เป็นเพราะระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น 

     ปัจจัยภายนอก คือ การรักษาความสะอาดของผิวพรรณ การใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ทาผิว สภาพแวดล้อม แสงแดด อาหารการกิน สิ่งเรานี้เป็นสิ่งที่เรายับยั้งและควบคุมได้ การที่เอามือไม่สะอาดมาจับใบหน้า ก็เป็นสิ่งที่ควรระวัง หลายคนชอบลืมตัว การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมสารที่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนทำให้เกิดสิวได้ง่าย หลีกเลี่ยงแสงแดด อาหารการกิน จำพวก ของหวาน ของมัน ของทอด เป็นต้น

วิธีรักษาสิว

     การรักษาสิว มีด้วยกันหลากหลายวิธี ทั้งวิธีที่ถูกและแพงปนกันไป การักษาสิวด้วยตัวเองและการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ วิธีการรักษาเมื่อหน้าเป็นสิวก็รักษากันไปตามสาเหตุของการเกิดสิวและความรุนแรงของสิว ซึ่งวิธีการรักษาก็มีดังต่อไปนี้

การรักษาด้วยยา

     การรักษาด้วยยา แบ่งออกเป็น ยาทา และ ยารับประทาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ชนิดและความรุนแรงของสิวด้วย ยาทาที่มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิก (Saliylic Acid) จะช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิว ทำความสะอาดรูขุมขนและช่วยสลายสิวหัวขาวและสิวหัวดำได้ เป็นกรดที่ไม่มีผลต่อการผลิตเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ซึ่งความเข้มข้นในการใช้ยาตัวนี้จะอยู่ที่ประมาณ 0.5 – 2% ยาทาที่มีส่วนผสมของเบนซอยล์เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) เป็นสารที่ทำให้สิวที่เกิดขึ้นแล้วแห้งได้ มีความเข้มข้นตั้งแต่ 2.5 – 10% แต่ระดับความเข้มข้นต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ สารตัวนี้สามารถรักษาสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ ได้ด้วย

     ยารับประทาน ควรทานติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 3 เดือนเพราะหากหยุดยาเร็วจะทำให้กลับมาเป็นสิวง่ายกว่าเดิม ยาที่มักนิยมใช้กินรักษาสิวแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ ยากลุ่มปฏิชีวนะ ยากลุ่มฮอร์โมน และยากลุ่มเรตินอยด์

การกดสิว

     การกดสิว เป็นการรักษาที่ทำให้หัวสิวอุดตันออกเร็วขึ้น เพราะหากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดการอักเสบได้ การกดสิวควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญและใช้เครื่องมือที่สะอาดปลอดเชื้อเพราะการกดสิวเสี่ยงทำให้สิ่งสกปรกและแบคทีเรียจากของเหลวในสิวอาจกระเด็นไปติดส่วนอื่นบนใบหน้า ทำให้บริเวณนั้นเกิดสิวขึ้นได้ การกดสิวเป็นการรักษาที่รวดเร็วแต่ก็เสี่ยงเช่นกัน หากกดสิวไม่ถูกวิธีและไม่รักษาความสะอาดให้ดีก็จะทำให้เกิดรอยแผลเป็น อาจติดเชื้อจนเกิดการอักเสบจากสิวได้

การเลเซอร์สิว  

     การเลเซอร์สิวเป็นอีกวิธีที่ทำให้สิวหายเร็ว อีกทั้งยังทำให้รอยสิวจากหายเร็วขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้การรักษาด้วยวิธีนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งใครที่อยากสิวหายเร็วๆ วิธีนี้ก็ตอบโจทย์การรักษาสิวแบบเร่งรัดได้

ปรึกษาแพทย์

     ทั้งนี้ทั้งนั้น การรักษาสิวที่กล่าวมาทั้งหมด หากว่าสิวยังเห่ออยู่หรือไม่มีท่าทีดีขึ้นเลย ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำและหาวิธีการรักษา ซึ่งวิธีที่บอกมาข้างต้น เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้ การปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำอาจเป็นทางที่ดีที่สุดและเป็นวิธีแรกของการรักษาสิว เพราะผู้เชี่ยวชาญจะสามารถบอกได้ว่าสิวแต่ละประเภทควรรักษาอย่างไร

สิวมีกี่ประเภท

ลักษณะของสิว แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ คือ

สิวที่ไม่มีการอักเสบ (non-inflammatory acne)        

     สิวอุดตัน (กดไม่เจ็บ) คือ สิวที่ไม่เกิดการอักเสบ เป็นลักษณะที่เป็นตุ่มนูนจากการจับตัวของสิ่งตกค้างที่อยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการอุดตัน

     สิวไม่มีหัว มีลักษณะ เป็นสิวขนาดเล็กที่เกิดการอุดตันในรูขุมขน พบได้มากบริเวณคางและหน้าผาก

     สิวหัวดำ บางครั้งก็เรียกสิวหัวเปิด เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขนมันถูกดันขึ้นมาบนผิวและทำปฏิกิริยากับอากาศทำให้สารอุดตันกลายเป็นสีดำ 

     สิวผด มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ ไม่มีหัว บางคนอาจเกิดอาการคันและมีรอยแดงร่วมด้วย สิวผดอาจเกิดจากอาการแพ้ของผิวหนังบริเวณที่อับชื้นหรือเหงื่อออก เช่น ไรผม หน้าผาก เป็นต้น 

     สิวหิน มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็กหรือสีเหลือง มักเกิดบริเวณรอบตา มีมากน้อยขึ้นอยู่กับบุคคลและกรรมพันธุ์ แต่จำนวนจะเพิ่มขึ้นตามอายุ 

     สิวไต คือสิวไม่มีหัว จับดูจะเป็นแข็งๆ มองไม่เห็นหัวสิว เป็นสิวอุดตันชนิดหนึ่งที่หัวสิวอยู่ลึกเพราะผิวชั้นบนหนาทำให้หัวสิวไม่สามารถโผล่ขึ้นมาได้

สิวที่มีการอักเสบ  (inflammatory acne)

     สิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดงๆ และปวด ข้างบนตุ่มมีหนองสีเหลือง เกิดจากการติดเชื้อของแบคทีเรียทำให้สิวอักเสบจนเป็นหนอง 

     สิวหัวช้างเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่ หากใช้นิ้วกดจะรู้จักเจ็บมาก เป็นสิวที่รักษายาก และมักจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้          

     มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง คล้ายตุ่มพุพอง เกิดจากการใช้เครื่องสำอางที่ผสมสารสเตียรอยด์ที่เข้มข้นสูง  

เกิดจากซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังมีความแข็งเล็กน้อยและมีของเหลวอยู่ภายใน มักเกิดได้บ่อยบริเวณใบหน้า คอ และลำตัว

บริเวณที่มักเกิดสิว

ส่วนใหญ่เกิดบริเวณที่มีการผลิตต่อมไขมันมาก ๆ เช่น คาง หน้าผาก จมูก แก้ม ปาก คอ และหลัง 

สิวที่คาง  

     สิวที่คาง เกิดขึ้นได้จากฮอร์โมน กรรมพันธุ์ และมลภาวะสภาพแวดล้อม ฝุ่น การใส่หน้ากากอนามัยซ้ำ ก็ยิ่งทำให้มีสิ่งสกปรกสะสมอยู่ที่คางมากขึ้น หากล้างหน้าไม่สะอาดก็อาจทำให้เกิดการอุดตันได้

สิวที่หน้าผาก

     สิวที่หน้าผาก เป็นบริเวณที่เกิดสิวบ่อยที่สุด  เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ การใช้ผลิตภัณฑ์สระผมที่ไม่อ่อนโยน การเล่นกีฬาหรือกิจกรรมกลางแจ้งแล้วเหงื่อออก
การสวมหมวกทำให้เกิดความอับชื้น  การที่ชอบใช้มือปัดผมหรือเสยผม สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเหตุที่ทำให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบได้

สิวที่จมูก 

     สิวที่จมูกเป็นตำแหน่งที่ไม่อยากให้ขึ้นที่สุด เพราะมันเจ็บมาก สิวจะเป็นเม็ดสีแดงๆ นูนๆ เนื่องจากจมูกมีรูขุมขนค่อนข้างกว้าง จึงง่ายต่อการอุดตัน คนผิวมันจะเป็นสิวที่จมูกบ่อย เพราะจมูกเป็นโซนที่มีต่อมไขมันเยอะที่สุด ทำให้เกิดสิวอักเสบได้ง่าย

สิวที่แก้ม     

สิวที่แก้ม เกิดจากพฤติกรรมของเราที่ไปกระตุ้นจนทำให้เกิดสิวโดยไม่รู้ตัว เกิดได้จาก การแพ้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ ปลอกหมอนที่เราใช้หนุนนอนทุกวัน ก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคทั้งน้ำมันบนเส้นผมและคราบน้ำลาย แปรงแต่งหน้า ฟองน้ำ หากไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ ก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคทำให้เกิดสิวได้

สิวที่ปาก  

สิวที่ปากหรือสิวรอบปาก มักจะขึ้นโดยเฉพาะตอนที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ ซึ่งบางทีเราจามหรือไอใส่หน้ากาก ทำให้เกิดเชื้อโรคได้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความมันจากการกินอาหาร หากล้างไม่สะอาด ก็จะทำให้อุดตันจนเกิดสิวได้

สิวที่คอ    

สิวที่คอเกิดจากการที่มีต่อมไขมันบริเวณนั้นมากเป็นพิเศษ ทำให้อุดตันและอักเสบขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นอีก เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การรักษาความสะอาดไม่มากพอ และความอับชื้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว กลายเป็นสิวผดได้

สิวที่หลัง    

     สิวที่หลังเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยแบคทีเรีย ความมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้ารวมกับเหงื่อ ซึ่งเกิดได้ทุกเพศทุกวัย และสามารถรักษาหายได้ สิวที่หลังมีทั้งสิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวอักเสบแบบนูนแดง แบบหัวหนอง สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ การดูแลรักษาควรพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิว

สิวฮอร์โมน รักษา

     สำหรับวิธีการรักษาสิวฮอร์โมน ก็เริ่มต้นจากการล้างหน้าให้สะอาด หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีน้ำมันและซิลิโคน งดสัมผัส แกะ หรือเกาบริเวณที่เป็นสิว ลดความเครียดลง และเลือกรับประทานอาหารจำพวกผักผลไม้ เพื่อช่วยเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน

สิวเห่อเต็มหน้า

     หากใครที่มีสิวเห่อเต็มหน้าควรไปพบแพทย์ด้านผิวหนังเพื่อขอคำแนะนำและรีบหาวิธีการรักษาสิวให้เกิดผลที่สุด

ผิวไม่แข็งแรง เป็นสิวง่าย   

     ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นและรุนแรง อาจจะเปลี่ยนมาล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าที่สะอาดหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนที่สุดสำหรับผิวแพ้ง่าย