Green Revolution 2.0: การปฏิเสธพลาสติกเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม การค้นหาตัวเลือกไม่ได้ พูดอุตสาหกรรมต่างๆ ก่อนการแบนแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
การเตรียมการกำลังอยู่ในภาวะสงครามในขณะที่อินเดียเตรียมที่จะห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่ได้รับแจ้ง ในขณะที่มีการออกคำสั่งไปยังทุกรัฐเพื่อควบคุมอุปทานสิ่งของต้องห้ามแล้ว คณะกรรมการควบคุมมลพิษกลาง (CPCB) ยังได้ขอให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีหยุดการจัดหาวัตถุดิบพลาสติกแก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการผลิตสิ่งของต้องห้ามโดยเริ่ม 1 กรกฎาคม
ในขณะที่อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนชิ้นส่วนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ช้อนส้อมและแท่งไอศครีมไปแล้ว แต่การขาดแคลนหลอดกระดาษทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบอย่างมาก Mother Diary เพียงอย่างเดียวใช้หลอดไฟฟ้ามากกว่า 20 ล้านหลอดต่อปี เป็นหนึ่งในหลายองค์กรที่ได้เขียนจดหมายถึงหน่วยงานรัฐบาล รวมทั้ง CPCB ให้เลื่อนการสั่งห้ามออกไปอีกหกเดือนถึงอย่างน้อยหนึ่งปี “เรายังไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ เราทำได้แค่รอดู แต่เราจะพยายามจัดการให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” เขากล่าวเสริม“เรากำลังเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้” มัณฑนากร Manish Bandlish กล่าวกับ News18 “ความท้าทายคือเราไม่มีผู้ขายในท้องถิ่นที่สามารถช่วยให้เราตอบสนองความต้องการนี้ได้ เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ ส่วนใหญ่ เราต้องนำเข้าหลอดกระดาษ ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญด้วยต้นทุนที่สูงกว่ามาก เราได้วางคำสั่งซื้อแล้ว แต่มีข้อจำกัดด้านลอจิสติกส์เนื่องจากซัพพลายเออร์รายเดียวกันกำลังจัดหาฟางให้กับผู้เล่นหลายคน”
ไม่มีมาตรฐาน
สำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ความท้าทายก็คือการค้นหาทางเลือกโดยตรงแทนฟิล์ม BOPP (โพรพิลีน) ที่มีจำหน่ายในท้องถิ่น ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ เนื่องจากช่วยป้องกันความชื้นและสามารถรับน้ำหนักได้ดีกว่าแผ่นกระดาษแก้ว รายการสิ่งของต้องห้ามที่ได้รับแจ้งยังรวมถึงบรรจุภัณฑ์/ห่อฟิล์มพลาสติกสำหรับกล่องหวาน ซองบุหรี่ และการ์ดเชิญ
การเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบาก
สำหรับอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดเล็ก การเปลี่ยนไปใช้แท่งกระดาษสำหรับเอียร์บัดที่ทำจากผ้าฝ้ายนั้นยังเต็มไปด้วยความยากลำบาก ในกรณีที่ไม่มีผู้ขายในท้องถิ่น หน่วย MSME ที่นำเข้ากระดาษจากประเทศต่างๆ เช่น ฟินแลนด์และสวีเดน คร่ำครวญว่ากำลังสร้างภาระทางการเงินให้กับพวกเขา ร้านขายขนมยักษ์ใหญ่อย่าง Perfetti Van Melle India ที่ขึ้นชื่อเรื่องลูกกวาดและอมยิ้มกำลังนำเข้าแท่งกระดาษจากยุโรป
การค้นหาทางเลือกอื่นทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำรวจผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยพลาสติกที่ย่อยสลายได้/ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ โพลิเมอร์ชีวภาพ ไม้ไผ่ กระดาษ หรือแม้แต่เหล็กกล้า แต่ต่างจากพลาสติกที่ให้ความทนทาน ความสะดวก และข้อได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ฉนวนจากเชื้อโรคในอากาศ ทางเลือกอื่นๆ ไม่ได้สร้างความมั่นใจมากนัก ไม้/ไม้ไผ่สามารถแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและไวต่อการเติบโตของโรคราน้ำค้างเนื่องจากสามารถดูดซับความชื้นได้ ในขณะที่กระดาษจะเปียกก่อนดื่มเสร็จ “อุตสาหกรรมไม่ได้ต่อต้านการห้าม แต่เป็นเพียงวิธีการดำเนินการ แม้ว่าอุตสาหกรรมจะต้องคิดหาทางเลือกอื่น แต่ก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับความพร้อมของวัตถุดิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ MSMEs ที่รัฐบาลต้องรับมือเพื่อทำการเปลี่ยนแปลง” Sandip Chhetri ซีอีโอของ TradeIndia.com กล่าว
เล่นได้หรือเสีย Lucabet จ่ายให้ทันที
เวลาในการจัดการ
Deepak Ballani ผู้อำนวยการสมาคม All India Plastics Manufacturers' Association กล่าวว่า จุดเน้นควรอยู่ที่การเร่งดำเนินการในการจัดการขยะพลาสติกอย่างเหมาะสม ซึ่งเขามองว่าเป็นความท้าทายที่ใหญ่กว่าการไหลของรายการ SUP “เรายังต้องการ Clean India และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ทำไมไม่เน้นที่รากของปัญหา – ขยะพลาสติก เราจำเป็นต้องปรับปรุงการแยกขยะในระดับแหล่งที่มา และเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานในการรีไซเคิลของเรา” เขากล่าว
“แน่นอนว่าในที่สุดโลกจะเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกที่ปลอดพลาสติกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเราจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปรับตัว ทำไมไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย”
“วิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดขยะพลาสติกคือบางทีอาจเปลี่ยนไปใช้การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไป ซึ่งสามารถขจัดความจำเป็นสำหรับรายการนั้นได้ รายการ SUP ทั้งหมดนี้มีการระบุโดยอิงจาก "ประโยชน์ใช้สอยต่ำ" ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอุตสาหกรรมที่จะคิดค้นและทดลองกับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบบางอย่าง ถ้ามันใช้งานได้ ก็สามารถช่วยให้พวกเขารับมือกับปัญหาการพึ่งพาการนำเข้าได้” Siddharth Singh ผู้จัดการโครงการ (ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและการจัดการของเสีย) ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมในเดลีกล่าว
ในขณะที่อุตสาหกรรมดิ้นรนเพื่อจัดหาทางเลือกอื่นในปริมาณที่เพียงพอ ในขณะที่ยังคงหวังให้มีการชะลอการสั่งห้ามอย่างน้อยหนึ่งปี ผู้เชี่ยวชาญเน้นว่าต้องเปลี่ยนความสนใจไปที่แนวคิดอื่น ๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจทำได้อีกครั้ง การออกแบบบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์
แม้ว่าบางหน่วยกำลังอยู่ในขั้นตอนการแปลง/สอบเทียบเครื่องจักรระดับไฮเอนด์เพื่อใช้แท่งที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพสำหรับทำสำลีก้าน Kumar กล่าวว่า เครื่องจักรจำนวนมากไม่สามารถแก้ไขได้ “การห้ามเซจนถึงมกราคม 2023 จะทำให้เรามีเวลาในการรักษาเสถียรภาพ และค้นหาตัวเลือกสำหรับแหล่งต้นทุนต่ำที่สุดในขณะที่ยังคงแข่งขันได้” เขาอ้อนวอนรัฐบาล
ตัวแทนในอุตสาหกรรมระบุว่า เครื่องจักรผลิตกระดาษแท่งขนาดประมาณ 3.50 ล้านรูปีได้ถูกนำเข้าโดยองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่เป็นส่วนใหญ่ และคาดว่าจะถึงเครื่องจักรอย่างน้อย 2 สิบล้านรูปีภายในเดือนกันยายน ข้อจำกัดที่เกิดจากการระบาดใหญ่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาทำให้กระบวนการล่าช้าออกไปอีก “บางหน่วยที่พยายามซื้อและนำเข้าเครื่องจักรใหม่จบลงด้วยสิ่งกีดขวางบนถนนหลังจากที่จีนสั่งห้าม” Vinod Kumar ประธานของ India SME Forum กล่าวกับ News18 “ต่างจากบริษัทใหญ่ๆ หน่วยเล็กๆ ไม่สามารถนำเข้าเครื่องจักรและรายการทางเลือก/วัตถุดิบในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการได้”
ในการแสวงหาทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นไปได้ ความท้าทายอีกประการหนึ่งที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญอยู่คือการขาดมาตรฐาน อุตสาหกรรมเข้าใจผิดว่าสำนักมาตรฐานอินเดีย (BIS) ยังไม่ได้สรุปมาตรฐานคุณภาพสำหรับทางเลือกอื่น ความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพ กระบวนการผลิต ตลอดจนการจัดการของเสียของทางเลือกอื่น เช่น โพลิเมอร์ชีวภาพ/พลาสติกชีวภาพ “กระบวนการปกติสำหรับการทดสอบความสามารถในการย่อยสลายของโมเลกุลทางเลือกใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือน และยังดำเนินการไม่เสร็จ ไม่มีมาตรฐานหรือการตรวจสอบคุณภาพสำหรับทางเลือกเหล่านี้จำนวนมาก โดยที่อุตสาหกรรมนี้ไม่สามารถใช้มันได้เนื่องจากปริมาณที่ต้องการนั้นมีมาก” rues Dr Praveen Aggarwal ซีอีโอของ Action Alliance for Recycling Beverage Cartons (AARC) กล่าว ซึ่งยังขอเวลาเพิ่มอีก 18 เดือน
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้